เล่ห์รักนายซาตาน

บทที่ 5 กลั่นแกล้ง



บทที่ 5 กลั่นแกล้ง

กลางดึกคืนนั้นฉันฝันร้าย ในฝันฉันเห็นหน้าผู้ชายคน หนึ่งแต่มันไม่ชัดเจน เขากดทับมาบนตัวของฉัน คนตรง หน้าเหมือนซาตาน เขากระชากเสื้อของฉันจนฉีกขาด ฉัน กลัวมาก แล้วร้องเรียกหามาร์วินอย่างสุดเสียง ร้องบอก ให้เขามาช่วย

ผู้ชายคนนั้นแรงเยอะมาก เขาทับร่างของฉันจนแทบ หายใจไม่ออก ปากของฉันถูกเขากัดเอาไว้ เขากัดมา อย่างแรง จนทำให้ได้กลิ่นคาวของเลือด

ความฝันนั้นเหมือนเรื่องจริงมาก เพราะฉันรู้สึกเจ็บที่ ปาก อีกทั้งความร้อนในตัวของผู้ชายในฝันคนนั้นก็แผ่มา ทั่วตัวของฉัน ความร้อนแผ่ไปทั่วเรือนร่าง

ตอนนี้ฉันรู้สึกตัวเองตัวเบาหวิว ลอยล่องอยู่บน

อากาศ

มือหนาของชายหนุ่มเลื้อยเข้ามาในชุดนอนของฉัน ทำให้ฉันพึ่งรู้ตัวว่านี่ไม่ใช่ความฝัน ฉันตื่นขึ้นมาด้วยความ ตกใจ แสงไฟจากด้านนอก สาดส่องเข้ามาภายในห้อง ฉัน เห็นหน้าของชายหนุ่ม เขามีความคล้ายกับมาร์วิน หรือ บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าพึ่งตื่น ฉันจึงคิดว่าเขาคือมาร์วิน ฉันตอบรับรสจูบที่เขาส่งมาให้ แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า “คุณมาร์วิน เป็นคุณใช่ไหม? ฉันรู้อยู่แล้ว ว่าคุณไม่ อยากเสียฉันไป ฉันรักคุณค่ะ”

ขณะที่เธอกำลังจูบกับเขาอย่างดูดดื่มนั้น จู่ๆมาร์วินก็ หยุดลง เขาผลักตัวฉันออก แล้วผ้าห่มผืนใหญ่ก็คลุมหน้า ของฉันเอาไว้จากนั้นก็ได้ยินเสียงปิดประตูดังขึ้น

ฉันร้องเรียกมาร์วินด้วยเสียงแหบพร่า แต่เขากลับไม่

เดินกลับมา

การที่เขาจูบฉันแบบนี้ ทำให้หัวใจของฉันสับสนและ

วุ่นวาย เขาต้องการอะไรกันแน่ !

เช้าวันที่สอง แม่ปลุกฉันขึ้นมากินอาหารเช้า แต่ฉัน ไม่อยากเจอทั้งมาร์วินและคีริน ฉันจึงบอกแม่ไปว่าไม่ สบาย ไม่อยากตื่น

แต่แม่ก็ยังคงพูดเหมือนทุกคนว่าถ้าฉันทำแบบนี้คุณ ลุงสุชาติจะไม่ชอบใจ

อันที่จริงฉันไม่ชอบผู้หญิงแบบแม่เพื่อความรักแล้ว เธอยอมเสียศักดิ์ศรี แต่สุดท้ายตอนนี้ฉันกับแม่เรากลับไม่ ต่างกัน ถ้ามาร์วินยอมแต่งงานกับฉัน บางที่ชีวิตของฉันอาจจะน่าสงสารกว่าแม่ก็ได้

พรุ่งนี้ก็ถึงวันแต่งงานของมาร์วินแล้ว บนโต๊ะอาหาร คุณลุงสุชาติกับคีรินกำลังปรึกษาเรื่องงานวันพรุ่งนี้กัน ตระกูลสุขสำราญเป็นตระกูลของไฮโซ แน่นอนว่างาน แต่งงานต้องมีนักข่าวมาทำข่าวมากมาย

พิมพิชานั่งอยู่ข้างๆมาร์วิน ฉันเห็นแล้วเสียสายตา

มาก

“ญาดา เมื่อคืนนอนไม่พอรึเปล่า ทำไมตาบวมจัง” %3D พิมพิชาแสร้งทำเป็นห่วง

ฉันพยายามฝืนยิ้มแล้วตอบกลับไป “เมื่อคืนฉัน ทำงานทั้งคืน เลยนอนดึกค่ะ”

อันที่จริงเมื่อคืนฉันร้องไห้ทั้งคืน ตั้งแต่วันที่มาร์วิน ทั้งฉันแล้วเลือกผู้หญิงคนนี้ ฉันก็ร้องไห้ไม่หยุด

งานของฉันเป็นงานที่หนักมาก ฉันเป็นนักออกแบบ บ้าน ต่อให้วันหยุดฉันก็ไม่เคยได้หยุดงาน

“กรุงเทพเป็นเมืองใหญ่ มีงานให้เลือกทำตั้ง

มากมาย ทำไมลกต้องไปทำงานถึงเชียงใหม่ด้วย ยิ่งเวลางานยุ่งลูกก็ทำจนไม่กินข้าวกินปลา ญาดาหนูอย่าไป ทำงานไกลบ้านเลย ทำงานที่กรุงเทพนี่แหละดีแล้ว คุณ สุชาติคะ คุณว่าให้ญาดากลับมาทำงานที่กรุงเทพดีไหม คะ?”

แม่ถามคุณลุงสุชาติ ฉันรู้ว่าแม่กำลังคิดอะไรอยู่ คีริน เปิดบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ และเขายัง มีบริษัทในเครือสำหรับออกแบบบ้านอีกด้วย สาเหตุที่แม่ อยากให้ฉันไปทำงานในบริษัทของเขา ก็เพราะอยากให้ ฉันมีโอกาสได้ทำความรู้จักกับพวกคนมีเงิน อนาคตจะได้ แต่งงานกับคนรวยๆ ความคิดของแม่ฉันจะอ่านไม่ออกได้

ยังไง

คุณลุงสุชาติหันไปมองหน้าคีริน “คีริน ญาดาเองก็

เรียนจบในมหาวิทยาลัยดีๆ พ่อว่าให้ญาดาไปทำงานที่ YF concept แกว่าดีไหม ! )

คีรินเกลียดฉัน เขาจะยอมให้ฉันไปทำงานที่บริษัทได้

ยังไง

ฉันไม่ได้พูดอะไร เพราะคิดว่ายังไงคีรินก็คงไม่ยอม

“ได้ครับ ตอนนี้ที่YF concept ก็กำลังรับสมัครนักออกแบบ

ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างเหนือความคาดหมาย เขากลายเป็นคนใจดีแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

“ญาดา ยังไม่รีบขอบคุณพี่เขาอีก ! ”

แม่ดีใจเป็นอย่างมาก เธอบอกให้ฉันขอบคุณคีริน

ฉันครุ่นคิดอยู่สักพัก “ขอบคุณค่ะพี่คีริน แต่ว่างานที่ ญาดาทำอยู่ตอนนี้ทุกอย่างก็เรียบร้อยดี ญาดายังไม่คิดจะ

เปลี่ยนงาน”

“ญาดา พูดอะไรของลูก? บริษัทของพี่คีรินเป็นชั้น นำของโลก อยู่ที่นี่หนูจะมีอนาคตมากกว่าไม่ใช่หรอ?”

แม่ของฉันเมื่อได้ยินสิ่งที่ฉันพูด ก็โมโหขึ้นมา

“ญาดาไม่อยากไปก็อย่าบังคับเธอเลย ผมรู้ว่าเธอ พยายามมาโดยตลอด คงไม่อยากให้ใครมองว่าใช้เส้น สายในการเข้าไปทำงานที่YF concept วรรณคุณก็อย่า ไปยุ่งกับเรื่องงานของญาดาเลย”

คำพูดของคุณลุงสุชาติ เหมือนกำลังเหน็บแนมเธอคนในครอบครัวนี้คงไม่มีใครชอบฉันสักคน รวมถึงคุณลุง สุชาติก็เหมือนกัน

การที่ฉันไปทำงานไกลบ้าน จะได้ไม่อยู่ให้รำคาญ สายตาของใครๆ

“แม่ค่ะ คุณลุงสุชาติพูดถูก แม่อย่ามาวุ่นวายกับหนู เลยค่ะ หนูโตแล้ว..”

ฉันยังพูดไม่จบ คีรินก็ลุกออกจากโต๊ะอาหารแล้วพูด เสียงเรียบ “ไม่เจียมตัว ! ”

ฉันไม่เข้าใจว่าเขาเป็นบ้าอะไร

พรุ่งนี้เป็นงานแต่งงานของมาร์วินกับพิมพิชา ทำให้ คืนนี้เธอต้องไปนอนที่โรงแรม

พรุ่งนี้ครอบครัวของมาร์วินต้องไปรับเธอจากโรงแรม กลับมาทำพิธียกน้ำชาตอนเช้า

ผู้ชายที่ฉันรักที่สุดกำลังจะแต่งงานแล้ว แต่ฉันยัง ไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรให้เขาเลย ฉันมองดูตัวเองใน กระจก แล้วก็มีความคิดบ้าๆขึ้นมา ผู้ชายที่ฉันรักกำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น ส่วนฉันยังคงเป็นหญิงพรมจรรย์ ฉันไม่ยอมเสียครั้งแรกที่ล้ำค่านี้ให้กับใคร

ฉันคงบ้าไปแล้ว ฉันอยากมอบครั้งแรกของตนเองให้

กับมาร์วิน

ฉันส่งข้อความไปหามาร์วิน แล้วชวนเขาไปโรงแรมที่ เขาเคยจัดงานวันเกิดให้ฉัน เมื่อนานมาแล้ว

เหตุผลที่ฉันรักเขามาก คงเป็นเพราะบนโลกใบนี้เขา คือคนเดียวที่ทำให้ฉันรู้สึกถูกรัก
ในตอนนั้นฉันอายุแค่สิบเจ็ดปี มาร์วินใช้เงินเก็บของ ตัวเองไปซื้อเสื้อผ้ากับรองเท้าเป็นของขวัญวันเกิดให้กับ ฉัน

ตอนที่ฉันอายุสิบเจ็ด คีรินก็อายุยี่สิบห้าแล้ว ตอน นั้นเขาเป็นคนดูแลบ้านและเขาก็ไม่ให้ค่าเรียนกับค่าขนม กับฉัน เรื่องนี้คุณลุงสุชาติก็รู้ดี แต่เขาแกล้งทำเป็นไม่รู้ก็ เท่านั้น

ฉันจึงต้องไปทำงานพาร์ไทม์เพื่อหาเงินมาเรียนและ ใช้จ่าย แต่พอคีรินรู้ว่าน้องชายของตนเองเอาเงินมาช่วย ฉัน เขาก็หักเงินค่าขนมของน้องชายด้วย ทั้งๆที่ตอนนั้น มาร์วินไปเรียนต่างประเทศแล้ว เขาต้องใช้จ่ายจำนวนมาก แต่มาร์วินก็ยังประหยัดเงิน แล้วโอนมาให้เธอใช้ทุกเดินอ
เหตุผลที่ฉันรักเขามาก คงเป็นเพราะบนโลกใบนี้เขา คือคนเดียวที่ทำให้ฉันรู้สึกถูกรัก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ