เล่ห์รักนายซาตาน

บทที่ 118 ขอร้องให้คุณรักใสใจหน่อยเถอะ



บทที่ 118 ขอร้องให้คุณรักใสใจหน่อยเถอะ

ญาดา ดลุกขึ้นอย่างรุนแรงจนเสียงเก้าอี้ดังลั่นเลย ทําให้เด็กตกใจจนร้องไห้

คีรินจึงรีบปลอบเด็กน้อยแล้วมองเธออย่างโมโห

ถ้าขืนพวกเขายังอายุอยู่ในบ้านเดียวกันก็จะเกิดเรื่อง แบบนี้ทุกวัน

เด็กร้องไห้จนหน้าแดงก่ำ ตอนนี้แม่บ้านเลยออก มา “คุณคีรินค่ะ คุณหนูไม่ควรร้องไห้มากกว่านี้ เดี๋ยวโรค หอบก๋าเริบนะคะ”

แม่บ้านเลยอุ้มเด็กไปกล่อม

“ตอนนี้ใส่ใจยังฟังไม่รู้เรื่อง ถ้าค่อยๆโตขึ้นก็ยัง ฟังได้ วันหลังห้ามพูดอะไรแบบนี้อีก ยังไงลูกก็เกิดมาแล้ว คุณเป็นแม่ของลูก ต่อให้ไม่อยากยอมรับก็ทำอะไรไม่ได้”

สักพักเขาจึงขึ้นมาข้างบน ตอนนี้เขาดูเสียใจและเจีย

ปวดมาก

เธอนั่งอยู่ตรงโซฟา ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรเอเชีย ตอน นี้เขาคงจะกลับถึงเยอรมันแล้ว เธอต้องโทรหาเขา เพื่อ แน่ใจว่าเขาปลอดภัย

มือถืออยู่ในกระเป๋าและอยู่ที่น้องบอบ ตอบเธอกำลังเข้าห้องนอนไป ประตูไม่ได้ล็อคไว้ เธอคิดว่าคีรินคงจะอยู่ ห้องทำงานของเขา

เธอเข้าไปแล้วเห็นคีรินกําลังใส่กางเกงแล้วไม่ได้ใส่ เสื้อไว้ เธอจําได้ว่าแต่ก่อนเขาชอบออกกําลังกาย แต่ตอน นี้ดูผอมซูบลงเยอะมาก กล้ามเนื้อของเขาหายไปหมด

จริงๆเขามีห้องแต่งตัว ทำไมต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าตรง เตียง เธอสุดคําบรรยายจริงๆ

พอเขาได้ยินเสียงเลยหันมามองเธอ จากนั้นก็เปลี่ยน เสื้อต่อ เขาใส่เสื้อยืดแล้วเสื้อเชิ้ตไว้ข้างนอก ดูเหมือน หนุ่มอายุยี่สิบ

เขาโตกว่าเธอเก้าปี ตอนนี้เขาคงจะ 34 ปีแล้ว

เธอทําเป็นมองไม่เห็นเขาแล้วเดินไปเอากระเป๋าและ คันมือถือ แล้วออกจากห้องนอน จากนั้นก็รีบโทรหาเอเชีย แต่มือถือกลับแบตหมด

เธอไม่มีสายชาร์จอีกด้วย เพราะเธอทิ้งไว้ที่โรงแรม ทั้งหมด

เธอเลยลงไปยืมกับคนใช้ แต่กลับไม่เจอคนใช้สักคน
คีรินจึงเดินตามลงมา “มือถือแบตหมดหรอ!” เธอพยักหน้า “ยืมสายชาร์จให้หน่อยได้ไหม?”

เขามองมือถือของเธอ “มือถือของผมสั่งผลิตเอง ใช้ ร่วมกันไม่ได้ มือถือเครื่องนี้ก็เก่าแล้ว เดี๋ยวผมจะซื้อใหม่ ให้”

เธอพูดขึ้น “ไม่ต้อง คนใช้น่าจะมี คุณสั่งให้คนใช้ให้ ฉันยืมหน่อย”

เขาเลยมองไปที่นาฬิกาข้อมือ “เวลานี้คนใช้พาลูก ไปเดินเล่นแล้ว”

“วันนี้ไม่ไปตรวจ DNA หรอ?”

เขาให้คนใช้พาเด็กออกไปเดินเล่น ก็คงไม่อยากไป ตรวจ เหมือนเขากำลังหลีกเลี่ยง หรือเด็กคนนี้ไม่ใช่ของ

เธอ

“ผมเอาไปตรวจตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ผมเอาผมของ คุณและเลือดของผมไปตรวจ อีกไม่กี่วันผลก็จะออกมา”

เขาพูดจบเธอก็รีบถามขึ้น “ฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่า คุณไม่ได้ทำอะไรอยู่ลับๆ”
เขามองเธออย่างสงสัย “ญา ผมไม่ได้โกหกคุณ จริงๆ ตอนนั้นที่คุณไป ที่นี่มีเรื่องวุ่นๆต้องเคลียร์ให้หมด ก่อน อีกอย่างใส่ใจก็ยังอยู่ต้องเข้ารักษาตัว ผมเลยคิดถึง แต่เรื่องของลูก เลยไม่ได้บอกลาคุณ ครั้งก่อนที่ผมไป เดนมาร์กไม่ใช่ว่าผมบังเอิญไปทำธุระหรืออะไร ผมตั้งใจ ไปหาคุณ ตอนนี้ใส่ใจต้องเข้ารับการผ่าตัดครั้งที่ใหญ่ ที่สุด ผมรู้สึกใจผมไม่นิ่ง เลยอยากจะไปหาคุณ ผมคิดว่า คุณจะช่วยให้ผมสบายใจขึ้นได้ แต่พอผมเห็นคุณอยู่กับ เขา ผมเห็นคุณยิ้มอย่างร่าเริงและมีความสุขมาก

“ถ้าเกิดตอนนั้นใส่ใจเสียไปจริงๆ ผมคงจะปล่อยคุณ ไปจริงๆ แต่ตอนนี้ผมปล่อยคุณไม่ได้ ผมได้สัญญากับ ใส่ใจว่าไว้แล้วจะให้ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบกับลูก คุณไม่ รักผมก็ได้ แต่คุณไม่รักใส่ใจไม่ได้ ลูกต้องผ่านการผ่าตัด มาห้าครั้ง ผมขอเถอะ ทำดีต่อลูกหน่อยได้ไหม?”

คีรินทำท่าทีที่ดูน่าสงสารมากๆ นึกไม่ถึงเลยว่าคีริน จะร้องขอเธอแบบนี้ มาขอร้องเธอให้ทำดีกับลูกสาวของ

เธอ

“ถ้าคุณคิดว่าผมจะแอบทำอะไรลับๆ คุณเอาเลือด และผมของใส่ใจไปตรวจได้เลย”

พูดตามตรงเธอไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไรกับเด็กคนนั้น เลย ถึงแม้เธอจะไม่เห็นรูปตอนเด็กๆของตัวเอง และไม่รู้ว่าเธอกับเด็กน้อยหน้าตาเหมือนกันไหม

แต่พอสังเกตดูเด็กดีๆ ก็รู้สึกเหมือนเธออยู่หน่อยๆ และเด็กน้อยก็เหมือนคีรินด้วย และพอเห็นดูจากประวัติผู้ ป่วย และตอนที่ใส่ใจเกิด รวมไปถึงเลือดกรุ๊บrh เธอกับคี รินมีกรุ๊ปเลือดเดียวกัน เธอปฏิเสธได้ยากมากว่าเด็กไม่ใช่ ของเธอ

ทำไมเธอยังจะขอตรวจ DNA ใหม่อีก จริงๆในใจ ของเธอก็ได้ตายใจไปแล้ว เธอไม่ควรเพ้อฝันอะไรอีก ตอนนี้เธอต้องเผชิญกับความจริง

พอเธอครุ่นคิดไปสักพัก เธอก็ทำใจว่าต้องทนอยู่กับ คีรินแล้ว จากนั้นเธอจึงพูดกับเขาโดยตรง

“งั้นฉันขอชาร์จโทรศัพท์หน่อยสิ ขอให้ฉันได้โทร แค่สายนี้ ถ้าฉันได้ยินว่าเอเชียไม่เป็นอะไรอีก ฉันก็จะไม่ ติดต่อเขาไปอีก และยังจะย้ายเบอร์โทรเก่าๆ ไลน์ และวี แชทไปด้วย”

เธอยื่นมือถือไปให้เขา แล้วถามเขาอย่างแปลกใจ “ทำไมไม่พูดไม่จา

คีรินพูดขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ “แค่นี้เองหรอ?”
เธอจึงถามอย่างประชดประชัน “ไม่งั้นคุณจะให้ ฉันร้องไห้ใส่เขา แล้วบอกเขาว่าฉันใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่าง ทรมานมาก บอกให้เขามาช่วยฉันงั้นหรอ?”

จากนั้นเขาจึงเก็บมือถือของเธอ แล้วไปหาที่ชาร์จให้

เธอ

เธอจึงเดินออกไปข้างนอก แต่ตรงประตูก็ยังมีบอร์ดี้ การ์ดของเขาคอยเฝ้าอยู่ คีรินกลัวว่าเธอจะหนีไป เลยให้ คนเฝ้าประตูไว้ตลอดเวลา

“คีรินคุณบอกให้ลูกน้องของคุณหลีกทางไป ฉันแค่ จะออกไปตรงสวนข้างนอก ไม่ได้จะหนีไปไหน”

เธอผลักประตูห้องทำงานออก เพื่อเข้าไปหาเขา เขา กำลังจับดินสอแท่งหนึ่งไว้แล้วนั่งอยู่บนโต๊ะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ