เล่ห์รักนายซาตาน

บทที่ 9 ตั้งใจ



บทที่ 9 ตั้งใจ

ปกติได้ทำโปรเจคสร้างวิลล่าขนาดใหญ่ ฉันยังไม่ เคยเห็นผู้จัดการเฉลิมดีใจขนาดนี้มาก่อน คิดว่าโปรเจค ครั้งหน้าน่าจะใหญ่จริงๆ

ในรถผู้จัดการก็ได้บอกกับฉัน บริษัทนี้ต้องการสร้าง โรงงานขนาดใหญ่ มันอาจจะเป็นโปรเจคที่ปกติเราไม่เคย ได้ทำ แต่โปรเจคใหญ่มากจริงๆ พวกเราต้องลอง

ดีไซด์โรงงานฉันไม่เคยทำแม้แต่ครั้งเดียว ปกติฉัน แค่เคยทำแต่โปรเจคดีไซด์วิลล่าและออฟฟิศเท่านั้น

ในใจของฉันจึงรู้สึกตื่นเต้นเบาๆ ผู้จัดการค่ะ ฉัน กลัวว่าฉันจะทำออกมาได้ไม่ดี ยังไงโปรเจคสร้างโรงงาน ดิฉันยังไม่เคยทำเลย! ถึงเวลาไม่รู้ว่าควรพูดยังไง”

ผู้จัดการเฉลิมตบไหล่ของฉันแล้วพูดขึ้น อย่ากังวล เลย เราไม่ได้เป็นคนควบคุมงานดีไซด์ทั้งหมด ทางบริษัท ของเขาก็มีกลุ่มดีไซด์อีกกลุ่มหนึ่งมาด้วย เราแค่ได้มี ส่วนร่วมในโปรเจคเล็กๆบ้าง ก็สามารถทำเงินได้มากมาย มหาศาลแล้ว”

รอได้เจอบริษัทที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ พอได้เห็นผู้ ที่จะมาร่วมโปรเจคนี้มีแต่บริษัทยักษ์ใหญ่ ทำให้ฉันรู้ว่า บริษัทนี้ต้องไม่ใช่บริษัทธรรมดา
ฉันจึงถามผู้จัดการ บริษัทนี้ชื่อว่าบริษัทอะไรค่ะ ดูๆ แล้วไม่ธรรมดาจริงๆ เห็นแค่สิ่งก่อสร้างก็ใช้ก็พรีเมี่ยม มากๆ”

เธอที่เรียนเกี่ยวกับการออกแบบบ้าน พอเห็นวัตถุ ก่อสร้างพวกนี้ก็รู้สึกคุ้นชินมากๆ

ผู้จัดการเฉลิมจึงพูดขึ้น แน่นอนสิ บริษัท QS ที่มีชื่อ เสียงที่สุดในกรุงเทพ ต่อให้เป็นแค่บริษัทลูก บริษัทธรรม ดาๆก็ไม่สามารถเทียบได้”

พอฉันได้ยินคำว่า บริษัทQsที่มีชื่อเสียงที่สุดใน กรุงเทพ ฉันจึงตกตลึงมาก ฟ้าสวรรค์รู้ว่าตอนนี้ฉันไม่ได้ จะเกี่ยวข้องด้วยที่สุดก็คือตระกูลสุขสำราญ

ทันใดนั้นท่าทีของฉันจึงเปลี่ยนไป ผู้จัดการค่ะ โปร เจคสร้างโรงงานฉันกลัวว่าจะฉันทำได้ไม่ดี คุณหาสถา ปนิกคนอื่นมาทำดีกว่า!

เฉลิมใช้สายตาที่แปลกประหลาดมองฉัน ญาดา เมื่อกี้ตอนอยู่ในบริษัทถึงไม่บอกว่าทำไมได้ตั้งแต่แรก ตอนนี้มาถึงที่นี่แล้ว เธอกลับบอกว่าทำไมได้ อีกอย่าง บริษัทเรานอกจากสถาปนิกรุ่นแก่แล้ว รุ่นใหม่ๆที่ไฟแรง เท่าเธอยังมีใครอีก”ฉันยังอยากจะปฏิเสธผู้จัดการเฉลิม แต่เขาไม่ให้ โอกาสฉันได้พูดเลย และพนักงานของบริษัทฝ่ายตรง ข้ามจึงเข้ามาถามพวกเขา พวกคุณทั้งสองคือมาจาก บริษัทFX Design ใช่ไหมคะ?”

ผู้จัดการเดินไปแล้วพยักหน้าให้พนักงานสาวสวยคน นั้น ใช่ครับ พวกผมมาจากบริษัทFX Design ผมเป็นผู้ จัดการฝ่ายออกแบบชื่อเฉลิมครับ”

เฉลิมชี้มาทางฉันแล้วแนะนำขึ้น นี่เป็นสถาปนิก ที่อายุน้อยที่สุดในบริษัทผมครับ ชื่อว่าญาดา เธอมี ประสบการณ์และทำโปรเจคมาเยอะครับ”

พนักงานสาวสวยคนนั้นจึงพยักหน้าใส่พวกเรา “บริษัทที่มาร่วมโปรเจคนี้ต้องขึ้นไปประชุมที่ชั้นสิบเอ็ดนะ คะ ทั้งสองท่านเชิญตามดิฉันมาค่ะ”

ฉันถูกผู้จัดการเฉลิมลากตัวและเดินตามพนักงานสาว สวยคนนั้นไปที่ชั้นสิบเอ็ด

สิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกโล่งอกก็คือไม่ได้เจอไอ้คนที่ฉัน เกลียด ในห้องประชุมมีคนนั่งเต็มไปหมด มีบางคนที่ ฉันรู้จัก เป็นทีมงานออกแบบที่ได้ประสิทธิภาพที่สุดใน เชียงในม่
บริษัทแม่ของQSส่งทีมงงานออกแบบพวกนี้มา พวก เขาอยากจะหาบริษัทออกแบบในท้องถิ่น เพื่อที่จะช่วยอีก

แรง

ถึงแม้งานที่ตกมาอยู่ในมือของพวกเขาจะไม่เยอะ แต่ บริษัทQS ก็ถือว่าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในแทบเอเซีย ยังไง แค่ได้รับงานเล็กๆจากบริษัทนี้มาทำ แต่รายได้ก็คงเยอะ กว่างานโปรเจคสร้างวิลล่าหลายโปรเจคอยู่แล้ว

ดังนั้น พอบริษัทQSอยากจะหาบริษัทออกแบบใน เชียงใหม่ หลายบริษัทออกแบบต่างก็มาแย่งงานนี้ทำกัน ใครไม่อยากจะร่วมงานกับบริษัทที่มีชื่อเสียงขนาดนี้

ฉันจึงนั่งฟังแต่บริษัทได้ทำการเสนอโปรเจคนี้ ผู้ จัดการเฉลิมได้แต่จดโน้ตไม่หยุด เพราะเดี๋ยวก็ตาบริษัท เราได้ทำเสนอ เขาเป็นคนให้ฉันเตรียม แต่ฉันกลับไม่ได้ จดอะไรไว้สักอย่าง นัยน์ตาดูอ้างว้างและตอนนี้ตัวเอง เหมือนกระดาษแผ่นเปล่าที่ไม่มีไอเดียอะไรเลย

เฉลิมจึงสะกิดไหล่ของฉันเบาๆ “ญาดา เธอกำลังคิด อะไรอยู่ รีบเขียนไอเดียของเธอเร็ว มาเอาไอเดียของฉัน ไปรวมกันด้วย เดี๋ยวจะได้นำเสนอแล้ว”

ฉันมองเฉลิมด้วยสีหน้าที่ไม่มีชีวิตชีวา “ดิฉันบอกแล้วว่าดิฉันไม่เคยทำงานออกแบบโรงงาน จะมีไอเดียมา จากไหน! !”

ท่าทีของฉันทำให้ผู้จัดการฉันไม่พอใจมากๆ เขาจึง พูดขึ้น นี่เธอกำลังจะทำให้ฉันเสียหน้า กลับไปฉันจะหัก โบนัสของเธอ

ฉันพยักหน้าอย่างไม่แคร์ “แล้วแต่คุณผู้จัดการ เลยค่ะ หักก็หักไปเลย โปรเจคนี่ดิฉันไม่อยากจะเข้าร่วม

จริงๆ”

ท่าทีที่ชัดเจนของฉัน ทำให้เฉลิมเอาฉันไม่อยู่จริงๆ ก่อนหน้านี้เธอทำสำเร็จไปหลายโปรเจค บริษัทบอกว่าจะ ให้ฉันได้พักร้อน แต่ฉันกลัวว่าพอฉันว่างฉันก็จะคิดอะไร ไปเรื่อยเปื่อย ดีเลยครั้งนี้จะได้พักผ่อนบ้าง จะได้ไม่ต้อง ร่วมทำงานโปรเจคนี้

ช่วงนี้ทำงานหนักเกินไปจริงๆ ทั้งร่างกายของเธอ เหนื่อยหน่ายมาทั้งวัน เหมือนไม่มีเรี่ยวแรงและไม่มีชีวิต ชีวา

ตอนเฉลิมลุกขึ้นมาพูดไอเดียของตัวเอง ห้องประชุม ได้ถูกคนเปิดออกจากข้างนอก ทันใดนั้น ทั้งห้องประชุม เต็มไปด้วยความชื่นชมยินดี ฉันและคนอื่นก็ได้หันไปมองตรงหน้าประตูทางเข้าห้องประชุม จึงเห็นคีรินที่สวมใส่ชุด สูทสีดำที่ดูเรียบหรู มือข้างหนึ่งได้สอดเข้าไปในกระเป๋า กางเกง ใบหน้าของเขาดูเด่นมาก ร่างของเขาสูงประมาณ 1.8 เมตร ทำให้เขาดูเหมือนท่านประธานที่บ้าอำนาจใน ละครน้ำเน่า

คนมากมายในห้องประชุมต่างก็ทำท่าทางแทบจะ

สยบในแทบเท้าของเขา

นิ้วมือของฉันได้จับฝ่ามือไว้แน่นๆ ทำไมฉันถึงได้ เฮงซวยแบบนี้ ยิ่งกลัวอะไรก็ยิ่งได้เจอ ฉันพยายามจะก้ม หน้าลงไม่ให้เขาเห็น และหวังว่าเขาจะไม่สังเกตเห็นตัว

เอง

สายตาของเธอจับจ้องไปยังที่นั่งหลักของคีริน ทันใด นั้นทุกคนก็เงียบลง แล้วก็ฟังผู้จัดการเฉลิมพูดขึ้นต่อ

การประชุมครั้งนี้เมื่อไหร่จะจบ ฉันรู้ เพราะว่าฉันนับ เวลาทุกนาทีและทุกวินาทีที่ผ่านไป ทำไมมันจึงผ่านไปช้า จัง ชีวิตนี้คนที่ฉันเกลียดที่สุด อยู่ใกล้ฉันไม่ถึงเมตร

พอการประชุมได้จบลง คีรินจึงลุกขึ้นและเดินออกมา ก่อน ช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาไม่ได้มองฉันแม่แต่แวบเดียว ระหว่างเราก็ควรเป็นแบบนี้ ทั้งสองคนที่ต่างฝ่ายก็เกลียดกัน ในใจมีความเกลียดที่ซ่อนอยู่ ตอนที่เจอหน้ากันใหม่ก็ ควรเป็นแบบนี้ ต่างฝ่ายก็ทำเป็นไม่รู้จักกัน

ฉันนึกว่าฉันกับคีรินคงจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก ถ้า หากได้เจอกันครั้งหน้า

แต่ผ่านไปไม่กี่วัน เฉลิมกลับบอกฉันว่า บริษัทQSเลือกบริษัทเราร่วมงาน

บริษัทQSก็เจาะจงมาว่าต้องให้ฉันเป็นรองหัวหน้า สถาปนิก พอเฉลิมบอกเรื่องนี้กับฉัน ฉันจึงรู้ว่าเรื่องนี้คีวิน ต้องเป็นคนบงการแน่นอน

ทำไมเขายังคงมายุ่งกับฉันแบบนี้ด้วย แต่ก่อนเขา เกลียดฉันขนาดไหน เกลียดจนไม่อยากจะเจอหน้าฉัน แต่ ทำไมวันนี้กลับเป็นแบบนี้

ฉันรู้ดีว่าคีรินโหดเหี้ยมต่อฉันมากๆ แน่นอนว่าเขา ตั้งใจชี้ตัวว่าฉันต้องเป็นรองหัวหน้าออกแบบโปรเจคครั้งนี้ เขาต้องสร้างกับดักนี้ไว้ให้ฉันแน่นอน

เฉลิมมองฉันด้วยสีหน้าที่คาดหวังมากๆ และรอคำ ตอบจากฉันอยู่ ฉันคงต้องทำให้เขาผิดหวังแล้วแหละ จึง พูดขึ้นว่า “ขอโทษนะคะผู้จัดการ ดิฉันไม่อยากทำโปรเจคนี้จริงๆ รบกวนคุณไปแจ้งทางโน่นหน่อยนะคะ ว่าส่ง สถาปนิกคนอื่นไปได้ไหม?”

เฉลิมได้ยินแบบนี้จึงทำหน้าบูดขึ้นมา จากนั้นก็โยน เอกสารเกี่ยวกับการวางแผนโปรเจคครั้งนี้ลงบนโต๊ะของ ฉัน จนเอกสารปลิวกระจายไปหมด “ญาดา เธอคิดว่า บริษัทเรามีแค่สถาปนิกที่ได้เรื่องนั้นมีแค่เธอคนเดียวใช่ ไหม นี่เธอกำลังต่อล้อต่อเถียงกับฉันอยู่ใช่ไหม?”

พอฉันสบตากับเฉลิม นัยน์ตาของเขาไม่ได้ดูโกรธ เคืองเหมือนครั้งก่อนๆ แต่ฉันกลับนิ่งเฉย “ผู้จัดการคะ ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยสบาย โปรเจคใหญ่เกินไป ดิฉันไม่ทำ แน่นอนค่ะ เพราะว่าร่างกายของฉันทนไม่ไหวกับแรง กดดันขนาดนี้ รบกวนคุณหาคนอื่นทำแทนฉันด้วยค่ะ!”

เฉลิมได้ยินจึงยิ้มเยาะขึ้นมา “ฉันว่าเธอตั้งใจจะมา เล่นลิ้นกับฉัน ตอนนี้เธอมีแค่สองทางเลือก หนึ่ง รับโปรเจ คนี้ไปทำ สองคือลาออก”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ