เล่ห์รักนายซาตาน

บทที่ 102 ครั้งแรกที่เจอใส่ใจ



บทที่ 102 ครั้งแรกที่เจอใส่ใจ

คีรินเดินนำหน้าไป เธอเดินตามเขาอยู่ข้างหลัง และ กำลังเดินเข้าไปในสถานที่ที่เธอคุ้นเคยและเกลียดมาก ที่สุด ยังไม่ทันได้เข้าไปในวิลล่าก็มีหมาตัวหนึ่งวิ่งพุ่ง และ ดูๆแล้วคุ้นเคยมาก

คีรินก้มลงไปนั่งยองๆแล้วลูบหัวของหมาน้อย “มูมู่”

มูมู่เป็นชื่อที่เป็นหมาที่เธอเคยเลี้ยง เธอจำได้ว่าเธอ อุ้มมันกลับมา ตอนนั้นมันยังตัวเล็กอยู่ ตอนนั้นเธออยากจะ พาหมากลับเชียงใหม่ แต่เพราะคีรินแพ้ขนสุนัขเลยพาก ลับไปเลี้ยงไม่ได้

หลังจากนั้นเธอเลยแท้งลูกแล้วออกมาอยู่ต่างประ ทศ ผ่านไปเวลานานแล้ว ก็ไม่ได้เจอมอีก

มูมู่เห่าใส่เธอ ดูออกอย่างชัดเจนว่ามันจำเธอไม่ได้

แล้ว

คีรินเงยหน้าขึ้นแล้วถามเธอ สีหน้าเต็มไปด้วยความ หวัง “คุณยังจำหมาตัวนี้ได้ไหม? ที่คุณเคยเลี้ยง”

เธอพยักหน้าด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์ใดๆ และไม่ ได้มีความผูกพันกับหมาตัวนี้อีกต่อไป เธอแค่เลี้ยงมันไม่กี่ วัน ไม่ถือว่าเป็นเจ้าของของมัน คีรินพาเธอมาที่นี่เพื่อที่มา เจอหมาตัวนี้งั้นหรอ
“ไม่ใช่บอกว่าจะมาเจอคนๆหนึ่งรึไง? รีบๆสิ ฉันยังมี ธุระต่อ” เธอเร่งเขา

เขาจึงตบหัวของมูมู่เบาๆ เพื่อให้มันไปเล่นเองตาม ลำพัง พอหมาน้อยวิ่งเล่นไปที่ไกลๆแล้ว เขาจึงหันมาคุย กับเธอ “ไปกันเถอะ! ตามผมเข้ามา”

เธอเดินตามเขาไปชั้นบน ห้องนอนที่เธอเคยนอน เธอไม่เข้าใจทำไมต้องขึ้นไปห้องนอน เขาจะพาเธอไป เจอใครกันแน่

ในใจจึงต้องระแวงเบาๆ คนอย่างคีรินก็คิดแต่เรื่อง ชั่วๆ เธอไม่ไว้ใจเธอเลย

เธอไม่เดินต่ออีก จากนั้นก็หันหลังกำลังจะเดินลงไป ข้างล่าง คีรินจึงรีบมาจับแขนเธอไว้ “เป็นอะไรไป?”

เขาทำสีหน้าที่ไม่เข้าใจ เธอเลยสะบัดมือเขาออก และยังสะบัดยังไงก็สะบัดไม่ออก เธอมองเขาและทำหน้า บูด “คีริน ฉันต่างหากที่ต้องถามคุณว่าคุณจะทำอะไรกัน

“ผมไม่ได้คิดจะทำอะไรคุณ คุณเข้าใจผิดแล้ว” คีริน แกล้งทำหน้าชื่อได้เนียนจริงๆ
เธอเลยแสยะยิ้มออกมา “พอเถอะ พาฉันมาที่นี่มา ห้องนอนที่เคยนอน คนที่คุณต้องพามาเจอ ทำไมถึงต้อง มาถึงห้องนอน”

คีรินอยากทําอะไร ทำไมเธอถึงไม่รู้ เขาก็คงทำ เหมือนทุกครั้งที่เขาทำกับเธอ

เขาจึงขมวดคิ้วและอธิบายถึง “คุณเข้าใจผิดไปแล้ว ฉันไม่ทำอะไรคุณหรอก เพราะว่าตอนนี้เธอกำลังหลับอยู่ ผมแค่อยากจะให้คุณมองเธออย่างเงียบๆ เธอน่ารักมาก คุณต้องชอบเธอแน่ๆ”

คีรินพูดคำว่า “เธอ” จากนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างมีความ

สุข

ในใจของเธอรู้สึกไม่เข้าใจ และคิดว่าเขายังมีบาง อย่างที่ไม่ได้พูดออกมา

“ใครกันแน่?” เธอไม่สามารถเดินหน้าต่อ เพราะเธอ ไม่ไว้ใจเขาจริงๆ

“ไหนๆคุณก็มาถึงที่นี่แล้ว คุณก็ต้องเลือกที่จะเชื่อผม มีจะให้คุณเลือกว่าคุณจะเดินไปเอง หรือจะให้ผมอุ้มคุณ ไป” เขาเดาใจเธอออก และกำลังข่มขู่เธอ
มืออีกข้างหนึ่งของเธอได้จับราวบันไดไว้แน่นๆ คีริน มองเธอด้วยสีหน้าที่ดูหงุดหงิด เขาปล่อยมือออกจากแขน เธอ แล้วกำลังจะอุ้มเธอ แต่เธอก็วิ่งลงไปชั้นล่างโดยเร็ว เสียงของงคีรินจึงดังขึ้นมาข้างหลัง “ตรงประตูมีบอร์ดี้ การ์ดของผมกำลังเฝ้าอยู่ อย่าคิดจะหนีออกไป”

เธอเลยหยุดฝีเท้าลงแล้วหันมามองเขาอย่าง หงุดหงิด

“คุณรอผมที่ห้องรับแชก ผมจะรีบตามลงไป” เขา พูดไปแล้วไม่สนใจเธออีก แล้วก็หันหลังเดินไปตรงที่ห้อง นอน เธอเลยไปยืนอยู่ที่ห้องรับแขก ที่นี่ยังเหมือนเดิม เหมือนสองปีที่แล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย แม้แต่แจกัน ดอกกล้วยไม้ยังอยู่ที่เดิม

ไม่นาน ตรงบันไดมีเสียงๆหนึ่งดังขึ้น เขาอุ้มเด็กน้อย ที่ใส่ชุดกระโปรงสีชมพูแล้วเดินมา

เขาบอกว่าจะให้เธอเจอคนๆหนึ่ง หรือว่าเป็นเด็กน้อย ที่อยู่ในอ้อมกอดเขา? นี่เขากำลังคิดจะทำอะไร เด็กคนนี้ เป็นใคร ลูกสาวของเขาหรอ?

แล้วแม่ของเด็กน้อยคือใคร ริษาหรอ?

ตอนนี้เธอคิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าเด็กคนนี้จะมีความสัมพันธ์อะไรกับเธอ

แต่ว่าเธอมองออกว่าเขารักเด็กคนนี้มาก เขาอุ้มเด็ก ไว้อย่างระมัดระวัง กลัวว่าเด็กจะล้ม

เขาเดินหน้ามาหาเธอ จากนั้นก็มองเด็กน้อยที่อยู่ใน อ้อมกอดของเขา เด็กน้อยผิวพรรณผุดผ่องและอ่อนเยาว์ มาก แล้วกำลังหลับอยู่ ขนคิ้วดูยาวจริงๆ เด็กน้อยคนนี้โต มาคงจะเป็นผู้หญิงที่หน้าตาดี และเธอก็เห็นว่าคีรินมอง เด็กน้อยคนนี้ด้วยความรักใคร่มาก

คีรินยื่นเด็กมาให้เธอ “คุณจะลองอุ้มดูไหม?”

เธอเดินถอยหลังไม่กี่ก้าว “ฉันไม่ได้เป็นคนรักเด็ก และยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเด็กคนนั้นเป็นลูกของคุณ คุณจะให้ ฉันเจอเด็กคนนี้หรอ? คงจะเป็นเด็กของคุณกับริษาสินะ?”

เธอถามคําถามมากมาย

นัยน์ตาของคีรินดูหม่นหมองลง เมื่อเขาได้ยินคำถาม พวกนี้ของเธอ

เด็กในเขาอุ้มไว้เหมือนจะตกใจเพราะเสียงของเธอ เลยดูเหมือนจะตื่นขึ้นมา คีรินจึงตบหลังของเธอเบาๆแล้ว กล่อมเธอด้วยเสียงเบา “เป็นเด็กดีนะครับ ไม่มีอะไร หลับต่อเถอะลูกรัก”

สีหน้าของเขาตอนนี้ เหมือนสีหน้าของพ่อของเธอ ในความทรงจําที่เธอเคยเห็น ตอนเด็กๆที่บ้านเกิดของเธอ มียุงเยอะมาก ตอนนั้นเธอยังอายุสามสี่ขวบ แม่ก็ไม่ได้ อยู่ดูแลเธอ ทุกครั้งที่พ่อของเธออาบน้ำให้เธอเสร็จก็มัก จะอุ้มเธอไปนอนบนที่นอน จากนั้นก็เอาพัดมาพัดให้เธอ อย่างทะนุถนอม “ลูกรัก หลับเถอะ!”

ทีท่าแบบนี้ของคีรินเธอยังไม่เคยเห็น

“คีริน คุณจะให้ฉันแสดงความยินดีกับคุณที่คุณมี ลูกสาวที่น่ารักใช่ไหม?”

เขาอุ้มเด็กไปเข้าใกล้เธอ แต่เธอถอยหลังไม่หยุด เขายังคงเดินมาเข้าใกล้เธอ จนสุดท้ายเธอถอยจนชิด กําแพง และไม่มีทางให้ถอยต่อแล้ว

เขามองตาเธอและพูดขึ้นอย่างจริงจัง “คุณไม่ได้ รู้สึกว่าเด็กน้อยหน้าตาเหมือนคุณหรอ?”

เธอเบิกตากว้าง เป็นไปได้ยังไง

เธอเลยก้มหน้าลงแล้วมองเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมกอด ของเขา เธอดูยังไงก็ไม่ได้รู้สึกว่าเด็กน้อยเหมือนเธอ แต่กลับรู้สึกเหมือนคีริน

เธอบอกตัวเองว่าเด็กคนนี้ไม่เหมือนเธอเลยสักพัก และไม่มีความสัมพันธ์กับเธอ ยังไงตอนนั้นที่เธอเคยแท้ง ลูกเป็นเด็กผู้ชาย เด็กอายุครรภ์เจ็ดเดือนได้ตายไปแล้ว ตอนที่ผ่าคลอดออกมา เหมือนเธอได้ยินหมอบอกว่าเด็ก ตัวเขียวและไม่หายใจแล้ว

เป็นไปได้ยังไง……

คีรินกำลังคิดจะทำอะไรอยู่ เขากำลังจะมีแผนร้าย อะไรกันแน่?

“ถ้าเธอเป็นแค่ลูกของผม ผมไม่จำเป็นต้องเรียกคุณ มาหรอก” คีรินเผยสีหน้าที่ดูผิดหวังออกมา

“นี่คุณหมายความว่าอะไร??” เธอควบคุมอารมณ์ ของตัวเองไม่ได้อีกต่อไป เลยพูดขึ้นอย่างเสียงดัง

จู่ๆเด็กที่เขาอุ้มไว้ก็ร้องไห้เสียงดังขึ้นมา คีรินจึงมอง เธอด้วยความไม่พอใจ ที่เธอเป็นคนที่ทำให้เด็กต้องสะดุ้ง

เขาจึงรีบเดินไปเดินมา แล้วตบหลังของเด็กน้อยเพื่อ กล่อมเธอไม่ได้ร้องไห้
ตอนนี้ไม่รู้ว่าคนใช้เดินมาจากทางไหน จากนั้นก็เอา ขวดนมมา แล้วบอกกับเขา “คุณคีรินคะ คุณหนูน่าจะหิว นม เดี๋ยวดิฉันจะป้อนนมให้เองนะคะ!!

คีรินจึงอุ้มเด็กน้อยให้คนใช้ แล้วคนใช้ก็พาเด็กน้อย เข้าไปในห้องนอนชั้นหนึ่ง

เขาเดินมานั่งที่โซฟา และยังเห็นเธอยืนชิดผนังอยู่ เขาเลยชี้ไปยังโซฟาที่อยู่ตรงข้ามเขา “มานั่งสิ เราต้อง คุยเรื่องของเด็กเมื่อกี้”

ฝ่ามือของเธอเปียกเหงื่อ ใจของเธอก็ไม่นิ่ง เธอบอก ตัวเองว่าห้ามคิดไปเอง แต่ว่าคำพูดเมื่อกี้ของเขา ถ้าเด็ก คนนั้นเป็นลูกของเขาคนเดียว แล้วเขาก็คงไม่เรียกเธอมา

เขาความหมายความอะไร เขาอยากจะสื่อว่าเด็กไม่ ได้เป็นแค่ลูกของเขาคนเดียว แต่ไม่ใช่ลูกของคนอื่น

แต่เด็กนั้น เขาเป็นคนบอกเธอเองว่าเป็นผู้ชาย จริงๆ ตอนนั้นเธอแท้งลูก และลูกก็ตายไปแล้ว ทำไมตอนนี้เด็ก ยังมีชีวิตอยู่ แล้วยังกลายเป็นผู้หญิง เธอไม่อยากจะเชื่อ จริงๆ

“ผมตั้งชื่อให้ลูกว่าน้องใส่ใจ ลูกคลอดออกมาตอนเจ็ดเดือน ร่างกายไม่แข็งแรง เลยต้องเลี้ยงในตู้อบทารก ในโรงพยาบาลไปหลายเดือน และได้ทําการผ่าตัดมา ประมาณห้าครั้ง จนถึงเดือนที่แล้วผมถึงไปอุ้มลูกกลับจาก โรงพยาบาล หมอบอกว่าถ้าดูแลดีๆ เธอก็สามารถเติบโต เหมือนเด็กปกติ และสามารถใช้ชีวิตอย่างกับคนปกติ ตั้งแต่ลูกคลอดออกมาก็ต้องทุกข์ทรมานแบบนี้ ผมที่เป็น พ่อก็รู้สึกไม่สบายใจ ผมเลยจะสาบานว่า แค่ลูกสามารถ เติบโตได้อย่างแข็งแรง ลูกอยากได้อะไรผมให้ได้ทุก อย่าง”

คีรินลงจากโซฟาแล้วยืนขึ้น จากนั้นก็เดินมาหาเธอ สองตาของเขาจับจ้องเธอไว้ จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างชัดเจน “รวมไปถึงความรักจากแม่ที่ลูกไม่เคยได้รับ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ