เล่ห์รักนายซาตาน

บทที่ 162 ให้ความเป็นอิสระ



บทที่ 162 ให้ความเป็นอิสระ

เส้นชัยจึงทำสีหน้าที่นึกไม่ถึงว่าทำไมเธอต้องถาม แบบนี้

“ครั้งแรกที่เจอหน้ากัน? นั่นไม่ใช่ครั้งแรกของเรา แล้ว ก่อนหน้านี้ผมได้เจอหน้าคุณไปหลายครั้ง แล้ว ทำไมผมต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้จักคุณ เพราะว่าผมอยากจะ ลองใจคุณ”

“ลองใจ?” ญาดาถามขึ้น

“หลายด้าน” เส้นชัยพูดขึ้น

ถ้าจะถามต่อไปก็คงไม่มีประโยค เธอเลยไม่ถามขึ้น

ต่อ

“คุณสนใจอยากจะมาทำงานบริษัทผมไหม?” เส้น ชัยจิบกาแฟแล้วถามขึ้น

“หา? อะไรนะ?” เธอไปทำงานบริษัทของเส้นชัย ทำไม? และอีกอย่างคีรินคงไม่มียอมแน่นอน

“มาทำงานที่ผม วันหนึ่งผมจะทำงานคุณยืนอยู่ระดับ เดียวกับคีรินให้ได้” เส้นชัยพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่จริงจังและ เคร่งขรึมมาก
มือของเธอจับแก้วกาแฟไว้ พูดตามความจริงว่าเธอ รู้สึกหวั่นไหวในใจ เพราะเธอมีชีวิตมานานขนาดนี้ เธอ อยากจะรู้จักการใช้ชีวิตที่คนชั้นสูงนั้นเป็นยังไง!

“เริ่มสนใจแล้วใช่ไหมล่ะ?” เส้นชัยเดาใจเธอออก

“ใช่ ฉันสนใจจริงๆ แต่ว่า…….”

เธอยังไม่ทันพูดจบ เส้นชัยก็พูดแทรกขึ้น “แต่ว่า ทำไม กลัวคีรินจะไม่ยอม?”

ญาดาพยักหน้า

“เขาก็คงไม่ยอมให้คุณแก้แค้น? งั้นคุณก็จะไม่แก้ แค้นแล้วหรือไง?” เส้นชัยพูดขึ้น

“ให้เวลาฉันหน่อยได้ไหม? ฉันจะจัดการด้วยตัวเอง” เธอพูดขึ้น

เส้นชัยพูดขึ้น “ให้เวลาคุณแค่หนึ่งวัน พรุ่งนี้เวลานี้ ให้คำตอบผมด้วย ถ้าแค่นี้คุณก็ยังทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาคุย เรื่องแก้แค้นกับผม มันเปล่าประโยชน์!”

เส้นชัยพูดถูก ตอนที่เธอกลับมาอยู่กับคีรินอีกครั้งมา นานขนาดนี้ เธอเหมือนจะทำการใหญ่อะไรไม่ขึ้นเลย ก็แค่ขโมยเอกสารงานวิจัยของเขา ส่วนเรื่องอื่นเธอก็ไม่ได้ ทำจริงๆ

เธอเลยพยักหน้าให้เขา

หลังจากที่เส้นชัยจากไป เธอก็ยืนอยู่ตรงระเบียงทาง เดินและมองคนเห็นไปเดินมาในห้าง

คีรินจึงได้เข้ามาตบข้างหลังเธอ “ดูอะไรอยู่?”

เธอหันไปมองเขาพลางพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉย “ฉันกำลังดูคนข้างล่าง เหมือนทุกคนมีเรื่องที่ตัวเองอยาก ” ทำ!

คีรินก็หันไปมองในระดับสายตาที่เธอมองไป “คน ข้างล่างเหมือนแค่กำลังกินข้าว ซื้อของ ไม่ถือว่าทำเรื่อง อะไรหนิ?”

คีรินไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูด

เธอเลยส่ายหน้า “ฉันไม่ได้หมายถึงแบบนี้ คุณ เข้าใจผิดแล้ว!”

คีรินจึงพูดขึ้นอย่างทนไม่ไหว “มีอะไรก็พูดออกมา ตรงๆ ไม่จำเป็นต้องพูดอย่างอ้อมค้อมแบบนี้”
“ไม่มีอะไร เดินห้างเป็นเพื่อนฉันหน่อย! มาที่นี่ไม่ใช่ ว่ามากินมาซื้อของหรอ วันนี้เรากินข้าวซื้อของกันเถอะ” เธอเข้าไปควงแขนของคีรินแล้วพูดขึ้น

คีรินเห็นว่าเธอเข้าไปควงแขนของเขา สีหน้าเลยดี ขึ้นเยอะ

“ไหนบอกว่าจะมาซื้อรองเท้าส้นสูงหรอ? ไหน รองเท้า?” เขาถามขึ้น

“ฉันเห็นว่ารองเท้าที่นี่แพงเกินไปจริงๆ ทุกคู่ชั้นต่ำก็ ราคาเป็นแสน ฉันเลยหาไม่เจอจริงๆ และไม่รู้ว่าของราคา แพงขนาดนี้จะมีคนมาซื้อหรอ? ในเมืองนี้ คนที่มีเงินก็มีแค่ ไม่กี่คน ดูๆแล้วห้างแบบนี้ก็คงจะเน้นราคาขายแต่ไม่แน่น ปริมาณ เพราะคนมีเงินมาซื้อแค่สองสามชิ้นก็อยู่รอดได้ เป็นเดือนๆ”

“คุณอยู่กับผมมานาน ผมเคยตำหนิคุณตั้งแต่ตอน ไหนว่าคุณใช้เงินฟุ่มเฟือย อีกอย่างเงินของผมคุณใช้ หมดหรอ?”

อยู่กับเขา เขาไม่เคยขี้เหนียวกับเธอเรื่องเงินจริงๆ แต่น่าเสียดาย เธอไม่ได้ต้องการแค่เงินอย่างเดียว

เธอเลยมองไปร้านพวกนั้น “ดูสิ นี่แหละเป็นเรื่องโง่ๆที่ผู้ชายอย่างคุณชอบทำ คุณไม่เคยได้ยินคำว่าหญิงแต่ง งามเพราะคนที่ตัวเองรัก ฉันซื้อรองเท้าก็เพื่อทำให้คุณ ชอบ”

“ผู้หญิงแต่งตัวตัวงามเพื่อคนที่รัก?” คีรินมองเธอ อย่างแปลกใจ เขาไม่เชื่อคำพูดของเธอ

เธอเลยพูดขึ้นอย่างทำอะไรไม่ได้ หรือว่ามันเป็น ไปไม่ได้? เราก็ใกล้จะแต่งงานกันแล้วไม่ใช่หรือไง? คุณ เป็นสามีของฉัน ฉันเป็นภรรยาคุณ ภรรยาแต่งตัวให้สามีดู ไม่ใช่หรือไง?”

คีรินพูดขึ้น “ใช่”

แค่เขาพูดขึ้นไปสักพักแล้วหยุดชะงักไป จากนั้นก็รีบ พูดขึ้น “คำพูดของคุณไม่แปลกหรือก แต่คุณน่ะสิแปลก”

เธอเบะปากเล็กน้อย “เหอะๆ! ไม่พูดอะไรให้คุณดีใจ หน่อย เดี๋ยวคุณก็หาว่าฉันไม่ทำหน้าตาภรรยาที่ดี พอพูด คําพูดเสนาะหูหน่อย คุณก็หาว่าฉันมีปัญหา จะให้ฉันทำ ยังไงคุณถึงจะสบายใจ?”

“พูดอะไรจะพันลิ้นตัวเองแล้ว” คีรินจึงยกมือขึ้นและ ตบหัวของเธอเบาๆ
“ถ้าคุณอยากจะทำให้คุณสบายใจ ก็สื่อออกมาจาก การกระทำ ไม่ใช่พูดจาทำให้ผมดีใจแบบนี้ก็พอแล้ว”

คนอย่างคีรินถ้าทำดีกับเขาหน่อยๆ เขาก็จะขอ มากกว่านั้น

“ถ้าคุณทำให้ฉันเป็นอิสระ ฉันก็จะทำดีกับคุณเอง!”

คำพูดของเธอ ก็คือหมายถึงถ้าคุณไม่ทำดีกับฉัน ทำไมฉันต้องทำดีกับคุณ

“คุณอยากจะพูดอะไรกันแน่ อย่าพูดจาอ้อมค้อม?” คีรินจับตัวเธอไว้ ทั้งสองได้ยืนอยู่ตรงหน้าร้านรองเท้าร้าน หนึ่ง และกำลังมองตากันอยู่

“อ่อ ไม่มีอะไร ฉันก็แค่รู้สึกเบื่อ อยากจะไปทำงาน” เธอพูดขึ้นด้วยเสียงเรียบเฉย

คีรินจึงขมวดคิ้วขึ้นและพูดขึ้น “ผมได้ตกลงกับคุณ ไปแล้วว่าให้คุณมาทำงานกับผม คุณอยากได้อะไรอีก?”

“อยู่เคียงข้างคุณ เรียกว่าทำไมหรอ? ทำงานวันแรก ก็ต้องถอดเสื้อผ้าเปลือยกาย และถูกกดตัวอยู่บนเตียง นี่ คงเป็นการทำงานที่แตกต่างจากคนอื่นมากๆสินะ” เธอพูด ตำหนิขึ้น
คีรินจึงใช้สองมือกดไหล่เธอไว้ “ญา คุณไม่ได้รู้สึก ว่าตัวเองขอมากไปหน่อนหรอ?”

เธอส่ายหน้า “ไม่รู้สึก ฉันก็แค่ตัวคนเดียว ฉันมีสิทธิ์ และศักดิ์ศรีของตัวเอง ตอนนี้คุณกักขังฉัน ฉันไม่มีความ อิสระเป็นของตัวเอง ยังบอกว่าฉันขอมาก อย่ามาหาว่าฉัน ไม่ดีกับคุณ เพราะว่าคุณก็ไม่ได้ดีกับฉัน หาคนใช้มาดูแล ฉัน ทำให้ฉันมีชีวิตที่กินดีอยู่ดี นี่หรอดีกับฉัน? ขอโทษที นะ ฉันไม่ได้รู้สึกแบบนั้น”

เขาจึงเอามือออกจากไหล่เธอ แล้วถอนหายใจอย่าง จําใจ “ผมก็อยากจะให้ความเป็นอิสระกับคุณ แต่คุณ เหมาะสมไหม? เอาแต่จะหนีผมทั้งวัน ผมจะกล้าให้คุณ เป็นอิสระหรือไง?”

พูดถึงคำว่าหนี เธอก็ต้องพูดอะไรเพื่อตัวเองหน่อย เธอไม่เข้าใจจริงๆว่าเขาจะรู้สึกไม่ปลอดภัยได้ยังไง ใน เมื่อพาสป็อต และเอกสารต่างๆของเธอโดนเขายึดไว้ ตอนนี้แม้แต่เงินสักบาทเธอยังไม่มี จะหนีไปไหนได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ