เล่ห์รักนายซาตาน

บทที่ 15 ไม่ดูสารรูปตัวเอง



บทที่ 15 ไม่ดูสารรูปตัวเอง

เขาบอกเธอว่าไม่ดูสารรูปของตัวเอง

เหอะๆ

ตั้งแต่ตอนอายุห้าขวบที่เธอได้เข้าไปเหยียบในบ้านสุขสำราญ คีรินก็บอกให้เธอรู้ตัว ว่าตัวเองมีฐานะอะไรอย่าได้คิดว่าตัวเองเป็นคุณหนูสูงส่ง หลายปีที่ผ่านมานี้ เขาก็ยังคง ซ้ำและเดือนเธอมาตลอด จนเธอฟังจนเบื่อแล้ว

เธอจำได้ตอนที่เธอพึ่งถึงบ้านสุขสำราญ คีรินอายุแค่ 13 ขวบ มาร์วินอายุ 8 ขวบ เธอ เชื่อฟังคำพูดของแม่ คือเอาเอาใจผู้ชายสองคนนี้ให้มากๆ ถึงแม้ตอนนั้นเธออายุห้าขวบ แต่ทำที่และวาจาของเธอโตเป็นผู้ใหญ่มากๆ เธอรู้ดี ถ้าอยากจะอยู่บ้านสุขสำราญ ก็ควรที่ จะเอาใจใส่ทุกคนในบ้าน

และคนในบ้านของตระกูลสุขสำราญ ก็มีแต่มาร์วินที่ชอบให้เธอสามารถญาติดีด้วย

จริงๆข้างๆมา พอมาคิดๆดูแล้ว ทำไมมาร์วินกึงไมเกล็ดยเธอเหมือนคีริน มาร์วินและ คีรินไม่เหมือนกันเลยสักนิด มาร์วินเป็นผู้ชายที่ดีและอบอุ่น ไม่เคยคิดว่าตัวเองสูงส่งเลย และต่อให้คนอื่นจะต่ำต้อยแค่ไหน เขาก็ไม่เคยดูถูก แต่ลุงสุชาติและแม่ของลุงสุชาติ แล้ว ก็คีรินก็มักจะใฝ่สูงและคิดว่าตัวเองสูงศักดิ์

หลังจากที่คีรินด่าเธอเสร็จ เขายังคงยืนอยู่ข้างเต็บงผู้ป่วย และไม่มีที่ท่าว่าจะไปไหน เธอก็ไม่เข้าเหมือนทำไมเขาต้องอยู่ที่นี่ ดูถูกเหยียดหยามคนอื่นไปแล้วยังคงนิ่งเฉย

เธอก็ไม่ได้ต่อล้อต่อกับเขา หรือว่าเขาจะทำร้ายเธอ

เธอทนไม่ได้ที่เขายังคงอยู่ข้างกายเธอแล้วคอยทรมานเธอแบบนี้ “คีรินไหนๆคุณก็ ไม่ชอบฉัน ทำไมถึงมายุ่งกับฉัน ฉันยังไงก็คิดไม่ออก คนอื่นมักจะบอกว่าให้ด่าและตี คนที่รัก ถึงจะเรียกว่ารัก คุณว่าใช่ไหม?

เขาฟังแล้วก็เหมือนคำพูดที่ตลกที่สุดในโลก จากนั้นก็หัวเราะอย่างสะใจ แค่เขา หัวเราะแบบนั้น ก็ทำให้เธอขนลุกแล้ว เขาพูดขึ้น ญาตา คุณมั่นใจมาจากไหน คุณคิดว่าคนชั้นต่ำอย่างคุณจะเข้าตาผม

หรือยังไง?

มองเธอเห็นสีหน้าอันเลือดเย็นของเขา น้ำเสียงของเธอได้อ่อนลง ไหนๆก็ไม่เข้าตา แล้ว ท่านประธานก็อย่าได้ยืนอยู่ตรงนี้ ออกจากที่นี่ได้ไหม?

คุณเขาพูดอะไรไม่ออกโดยทันที “คุณคิดว่าผมอยากจะอยู่ที่นี่หรอ แค่มองคุณอีกวินาทีเดียว ผมก็ยังรู้สึกว่ามันเสีย สายตาเลย” พูดขึ้นอย่างโมโห

เธอจึงพูดขึ้น งั้นก็รีบออกไป จะได้ไม่ต้องเสียสายตาคุณ”

เขาจึงหันหลัง แล้วเดินออกไป จากนั้นก็ปิดประตูอย่างเต็มแรง

พอเธอได้ยิน เธอจึงจับท้องน้อยของตัวเองไว้ แล้วค่อยๆหลับตาแล้วมุดเข้าไปใต้ ผ้าห่มและร้องไห้ขึ้น

จากนั้นก็ค่อยๆหลับไหลไป แล้วเหมือนมีคนกำลังมาลูบท้องน้อยของตัวเองอยู่

เธอนอนอยู่ที่โรงพยาบาลไปสองวัน จากนั้นก็กลับไปทำงาน แล้วกลับไปทำงานอย่าง หนัก ตอนช่วงพักเที่ยงเธอได้ยินพนักงานหญิงในบริษัทกำลังซุบซิบเรื่องของคีรินอยู่

จริงๆเธอไม่มีกะจิตกะใจฟังเรื่องไร้สาระพวกนี้ แต่ตอนที่พวกเธอพูดถึงโปรเจคบ้านก

ลางอากาศ เธอก็เงี่ยหูแอบฟัง เลยได้ยินมาว่า ปีนี้คงต้องมาที่นี่ๆแล้ว เพราะยังไง

เขาก็ต้องได้รับโปรเจคบ้านกลางมาทำให้ได้

ตอนนั้นที่เธอกลับกรุงเทพไปร่วมงานแต่งของมาร์วิน เธอก็รู้แล้วว่าคีรินต้องสนใจ โปรเจคบ้านกลางอากาศแน่นอน

แต่ตอนนั้นเธอก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะมันไม่เกี่ยวข้องกับเธออยู่แล้ว

แต่หลังๆมา คีรินคิดจะมาหาเรื่องเธอเอง เธอเลยสนใจโปรเจคนี้ขึ้นมา เธอคิดว่าเธอ ต้องทำเรื่องใหญ่ๆเรื่องหนึ่ง จะได้ให้ความเป็นธรรมกับชีวิตที่แสนเศร้าของเธอ

ในวงการนักธุรกิจ ไม่มีใครที่บริสุทธิ์ใจหรอก ทุกคนก็มักจะยัดเงินก้อนให้รัฐบาล เพื่อที่จะสร้างโปรเจคที่สนใจขึ้นมา และคีรินเองก็สามารถทำให้บริษัท QS พัฒนาขึ้นมา เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในเอเชียเพียงแค่ใช้เวลา 7-8 ปีเท่านั้น ยังไงเขาก็ต้องทำเรื่องสก ปรกๆแน่นอน

เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองควรทำอะไร ในใจของเธอแค่คิดไว้ว่า รอให้ถึงเวลาก่อน

ตอนที่เธอกำลังครุ่นคิด ก็คนที่อยู่ต่อหน้าเธอเรียกขึ้น สวัสดีค่ะ ท่าน

ประธาน”

พอเธอเงยหน้าขึ้นก็เห็นคีรินยกถาดอาหารเข้ามา เธอจึงรู้สึกแปลกใจเบาๆ นี่เขา

กำลังจะมากินข้าวที่โรงอาหารของพนักงานหรอ พอเธอเพียงไปแค่พริบตาเดียวก็ก้มหน้ากินข้าวต่อ จากนั้นเขาจึงมานั่งอยู่ตรงโต๊ะที่ อยู่ตรงข้ามเธอ

ไม่นานตรงโต๊ะที่พวกเขานั่งก็มีซาร่ามานั่งหันหลังให้เธอ แบบนี้เธอจะได้ไม่ต้องเห็น

หน้าคีริน

เธอได้ยินคีรินบอกซาร่า “ซาร่าคุณไปตักน้ำซุปมาให้ผมหน่อย”

ซาร่าตอบกลับด้วยเสียงอ่อนโยน ได้ค่ะท่านประธาน

พอชาร่าเดินออกจากโต๊ะ เธอกับเขาเลยไม่มีอะไรขวางสายตากันอีก

เธอไม่อยากมองเขา และไม่อยากจะเปลี่ยนโต๊ะด้วย จากนั้นเลือกที่จะไม่นั่งกินต่อ เธอแค่กินข้าวไปไม่กี่คำ ขนาดกับข้าวยังไม่ทันได้แตะ ยังไงก็ไม่ได้อยากอาหารอยู่แล้ว

เธอเลยยกถามขึ้นแล้วกำลังจะออกจากโต๊ะ จู่ๆคีรินเงยหน้าและเอยปากพูดขึ้นเสียง ต่ำ “ทำไม เห็นหน้าผมถึงกับไม่อยากอาหารเลยหรอ”

เธอจึงพูดขึ้นอย่างเย็นชา “ฉันก็กลัวว่าจะทำให้ท่านประธานต้องเสียสายตาอีก ท่าน ประธานไม่ได้บอกว่าให้ดิฉันส่องดูสารรูปของตัวเองไม่ใช่หรอ?”

เธอตั้งใจพูดประชดประชันเขา ตอนที่เขากินข้าวอยู่แบบนี้ จากนั้นเขาจึงกลอกตาม องบนแล้วไม่ได้พูดจาดูถูกเธออีก

เธอพึ่งจะออกจากโรงอาหาร ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของผู้ชายที่สวมรองเท้าหนัง เดิน ตามเธอมาตลอด พอเธอหันกลับไปมอง ก็เห็นว่าเป็นคีริน ทำไมกินข้าวเสร็จเร็วขนาดนี้ หรือว่าเจอคำพูดของเธอแบบนั้นแล้วเลยกินไม่ลง

เธอเดินอยู่ข้างหน้าเขา แต่มาคิดๆดูแล้ว เขาคือบอส เธอคือพนักงานตัวน้อยๆ จะเดิน

นำหน้าเขาได้ยังไง มันไม่สมเหตุสมผลเลยหรือเปล่า?

จากนั้นเธอเลยยืนซิตอยู่ข้างทาง แล้วรอให้เขาเดินนำหน้าไปก่อน เขามองเธอแค่ แวบเดียวด้วยนัยน์ตาที่ไม่สบอารมณ์ใดๆแล้วเดินผ่านไป

พอเห็นเขาเดินไปไกลๆแล้ว เธอจึงพึ่งจะสาวเท้าแล้วเดินต่อ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ