เล่ห์รักนายซาตาน

บทที่ 23 เอาตัวเข้าแลก



บทที่ 23 เอาตัวเข้าแลก

สงกรานต์ช่างกล้าจริงๆที่กล้าเอ่ยปากขอเงินเป็น หนึ่งร้อยล้านกับเธอ มันจะเป็นไปได้ยังไง ยังหาหลักฐาน ให้เธอเอาผิดคีรินไม่ได้แล้วคิดจะขอเงินเยอะขนาดนี้?

“คุณวางใจเถอะ เงินฉันต้องให้คุณแน่นอน แต่ว่าคุณ ต้องให้ฉันเห็นหลักฐานก่อน หลักฐานที่คุณให้ฉันตอนนี้ เอาผิดคีรินไม่ได้ เห็นฉันเป็นคนโง่หรือไง?”

พูดจบญาดาก็ถือกระเป๋าตัวเองแล้วกำลังเดินออกมา แต่สงกรานต์ก็มาจับแขนเธอไว้

“ผมจะเชื่อคุณได้ยังไง! คุณไม่ได้คิดจะให้เงินผมอยู่ แล้ว ผมว่าคุณไม่มีเงินจะให้ผม!”

เขาพูดถูก เธอไม่มีเงินจริงๆ และคงจะหาเงินมาได้

ยาก

เธอจึงหัวเราะเยาะขึ้น “ถ้ามีหลักฐานจริง คุณจะ กลัวหรอว่าจะไม่ได้เงิน? คุณหาหลักฐานไม่ได้ต่างหาก เหอะๆ”

“ญาดา คุณหมายความว่าอะไร?”

สงกรานต์ไม่เข้าใจคำพูดของเธอ

เธอพดขึ้น “จิบก็คือบบพย์ดบหนึ่งที่คล้าตายเหมือนกัน ถ้าคุณมีหลักฐานจับคุมเขา ให้เขาตกนํา คุณ คิดว่าเงินแค่นี้เขาจะไม่ยอมให้คุณหรือไง? เขาไม่กลัวคำ ขู่ของคุณ ก็แสดงว่าคุณไม่มีหลักฐานที่จะจับกุมตัวเขาได้ ละสิ?”

สงกรานต์จึงสวนกลับโดนเร็ว “งั้นผมจะเอาหลักฐาน ไปหาคุณเดี๋ยวนี้ ผมยังต้องร่วมมือกับคุณไหม?”

ญาดาพูดขึ้น “แน่นอน ถ้าคุณเอาหลักฐานให้เขา แล้ว คุณไม่กลัวว่าเขาจะทำร้ายคุณหรอ ตอนนี้คุณกับเขา ก็เหมือนมดกับช้าง เขาสามารถฆ่าคุณได้ทุกเวลา ฉันรู้ดี เขามันชั่วกว่าที่คุณคิด ก่อนที่คุณยังหาหลักฐานสำคัญไม่ เจอ เราสองคนก็ต้องร่วมมือกันไปก่อน!”

เธอพูดจบก็แยกย้ายกับเขา เธอคิดว่าสงกรานต์ก็ไม่ น่าจะเป็นคนโง่ เขาคงเข้าใจในสิ่งที่เธอพูด

ตอนที่เธอกลับถึงวิลล่าของคีรินก็ประมาณสี่โมงเย็น วันนี้คีรินเลิกงานก่อนเวลา ถ้าเขาไม่มีธุระอะไรต่อ หกโมง เย็นก็คงจะถึงบ้าน ถ้ามีธุระต้องพบปะกับใครก็ประมาณสี่ ทุ่มถึงจะถึงบ้าน

เธอกับเขาเลยเจอกันที่หน้าประตูทางเข้าวิลล่า

เขาพึ่งลงจากรถแล้วกำลังเดินเข้ามาในบ้าน จู่ๆเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดขึ้น “ตอนบ่ายคุณไปไหนมา? ทำไมไม่เรียกคนขับไปส่ง?”

ตอนที่เธอเห็นหน้าเขา เธอก็คิดข้ออ้างไว้แล้ว จึงพูด ขึ้นอย่างร่าเริง “ไปนัดเจอกันเพื่อนสมัยเรียนมหาลัย คน ขับขับรถหรูไป ฉันว่ามันไม่ค่อยเหมาะสม………..ฉันไม่ อยากให้เพื่อนๆต้องรู้สึกแปลกใจ”

คีรินรู้ว่าเธอกำลังพูดอะไร เลยตอบกลับด้วยน้ำเสียง ที่ดูถูก “ไม่ใช่ว่าคุณเคยบอกว่าคุณจะไม่สนใจว่าคนอื่นจะ มองคุณยังไงหรอ?”

“บอกว่าไม่สนใจมันก็ใช่ แต่ว่าใครที่ไหนอยากจะให้ เพื่อนรู้ว่าตัวเองเป็นเมียเก็บแบบนี้ล่ะ?”

คีรินเลยมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชา แล้วไม่พูดไม่จา ใดๆ จากนั้นก็เดินมาเข้าไปห้องรับแขก จู่ๆเสียงมือถือของ เขาก็ดังขึ้น เขาพึ่งจะรับสายและยังคุยได้ไม่นาน สีหน้า ของเขาก็ดูเคร่งเครียดขึ้นมาทันที

ไม่นาน เธอก็ได้ยินเสียงตะคอกดังออกมาจาก ลำโพง “ที่บ้านมีคนใช้เยอะขนาดนี้ พวกเขาทำงานกัน ยังไง แค่คนแก่คนเดียวก็ยังดูแลไม่ดี! รีบพาย่าไปที่โรง พยาบาลแล้วหาหมอที่ดีที่สุดมารักษา เดี๋ยวผมจะรีบกลับ ไป!”
จากนั้นคีรินก็โทรไปที่สนามบิน เพื่อสั่งให้นักบินของ เขาเตรียมตัว

เธอเห็นเขาทําสีหน้าที่ตึงเครียด เลยไม่กล้าเข้าใกล้

เขา

เขาเห็นหันมามองเธอ และตะคอกใส่เธอ “ยังนิ่งเฉย อยู่ทำไม รีบเก็บของสิ กลับกรุงเทพกับผม!!

ในใจของเธอกำลังคิดว่าย่าของเขาเป็นอะไรไปหรือ

เปล่า

ไม่งั้นเขาคงไม่โมโหขนาดนี้ เพราะบนโลกใบนี้มี เพียงสองคนที่จะกระทบกับอารมณ์กับเขาได้ก็คือน้องชาย เขาและย่าของเขา

แค่ว่าย่าของเขาเกิดเรื่องอะไรแล้วมันเกี่ยวอะไรกับ เธอ ทำไมเธอต้องกลับไป? บ้านสุขสำราญเป็นที่ๆเธอไม่ อยากไปที่สุด

เธอยังยืนอยู่ที่เดิม ไม่ได้ขยับไปไหน คีรินจึงมองเธอ ด้วยสายตาที่โหดเหี้ยม “ไม่ได้ยินผมพูดหรือไง?”

เธอคิดๆดูแล้วจึงพูดขึ้น “ย่าคุณเป็นอะไรหรอ?”
เขาจึงสวนกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณอยากจะให้ ย่าผมเป็นอะไรหรอ?”

เวลานี้เขาคงคิดว่าฉันคงมีจิตใจที่อำมหิตที่แอบ วาสนาให้ย่าเขาเกิดเรื่อง เพราะว่าในสายตาของเขาเธอก็ ไม่เคยเป็นคนดีอยู่แล้ว

“ฉันไม่ได้ว่าอะไรเลย ทำไมคุณชอบเข้าใจฉันผิดอยู่ เรื่อย!” ญาดาพูดขึ้น

จู่ๆคีรินก็กระชากผมของเธอแล้วดึงตัวเธอเข้าไปใกล้ เขาออกแรงกระชากจนเธอรู้สึกหนังหัวของเธอแทบหลุด

“ญาดา คุณกับแม่คุณทำไมต้องมาที่บ้านผม พวก คุณสองแม่ลูกทำให้แม่ผมต้องตาย แล้วตอนนี้ก็คิดจะ ทําร้ายย่าผมอีกหรอ!!!

เขายังคงจับผมของเธอไว้ แล้วผลักเธอให้ล้มลงบน พื้น จนท้องน้อยของเธอไปกระแทกกับมุมของโซฟา เธอ รู้สึกเจ็บท้องมากๆ แต่ก็ยังต้องฝืนยิ้มอย่างขมขื่น “ฉันอยู่ ที่นี่ตลอด ย่าของคุณเกิดเรื่องขึ้น ทำไมคุณต้องมาโทษ ฉันด้วย ทําไมคุณต้องใจร้ายกับฉันตลอดเวลา ฉันทำผิด อะไร? ผิดที่ฉันเป็นลูกของแม่ฉันหรือไง?”

เขามองเธอนอนตัวขดอยู่บนพื้น สีหน้าดูทรมาน
เธอพูดขึ้นต่อ “ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็อยากจะมีชีวิต เหมือนว่าที่ภรรยาคุณ ที่มีพ่อแม่และคนรอบข้างคอยรัก และเป็นห่วง ไม่ต้องมามีชีวิตที่ทรมานแบบนี้”

“ญาดาคุณพอเถอะ คุณคิดว่าคุณพูดอะไรแบบนี้ ออกมาแล้วจะทําให้ผมสงสารคุณหรอ คนอย่างคุณมันไม่ สมควรได้รับความสงสารจากใคร!!

จากนั้นเขาก็สั่งให้คนขับเอาตัวเธอขึ้นไปบนรถ

เรานั่งเครื่องบินส่วนตัวของเขากลับกรุงเทพ บ้านสุข สำราญก็เหมือนฝันร้ายของเธอ ถ้าเป็นไปได้ ชาตินี้เธอคง ไม่อยากกลับไปเหยียบที่นั่นอีก

คีรินสั่งให้คนขับมารับเธอกลับไปที่บ้านสุขสำราญ โดยตรง ส่วนเขาก็ไปโรงพยาบาลก่อน เธอไม่รู้ว่ามาร์วิน จะกลับจากอเมริกาหรือเปล่า

ตอนที่เธอถึงบ้านสุขสำราญ ก็เห็นแม่ของเธอกำลัง ร้องห่มร้องไห้อยู่หน้าบ้าน ประตูใหญ่ของบ้านปิดไว้อย่าง สนิท ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าแม่ของเธอถูกไล่ออกมา

ในสายตาของเธอ ผู้หญิงที่ทำตัวแย่ที่สุดตั้งแต่ที่เธอ เคยเจอมาก็คือแม่ของเธอ ใช้ชีวิตที่บ้านสุขสำราญมากว่า ยี่สิบปี สุดท้ายก็ถูกคนที่บ้านเขาไล่ออกมาอย่างกับหมูอย่างกับหมา

ตั้งแต่ที่เธอจำความได้แม่ของเธอหย่ากับพ่อตอน เธอสามขวบ ตอนนั้นพ่อเธอบอกเธอว่าแม่มาทำงานที่ กรุงเทพ แล้วจะหาเงินซื้อเสื้อผ้าสวยๆให้เธอใส่ เธอยัง เชื่อคำพูดโง่ๆพวกนั้น หลังจากนั้นพ่อก็ล้มป่วยจนตาย แม่ เธอไม่เคยคิดจะกลับมา จากนั้นเธอถึงจะรู้ว่าแม่ของเธอไม่ ได้มาทำงานที่กรุงเทพเพื่อหาเลี้ยงเธอ แต่แม่เธอทิ้งพ่อ เธอไป

แต่หลังจากนั้น ปู่กับย่าของเธอไม่ยอมเลี้ยงดูเธอ แม่ ของเธอก็กลับมารับเธอไปอยู่ด้วย ถึงแม้ตอนที่เธอใช้ชีวิต อยู่ในบ้านสุขสำราญจะเป็นชีวิตที่ทรมาน แต่ยังไงก็ยังมี ข้าวที่เหลือจากหมาที่เลี้ยงดูเธอจนเติบโต และสามารถ หาเลี้ยงตัวเองได้

สำหรับแม่ของเธอ ต่อให้เธอจะเกลียดแค่ไหน แต่ก็ เกลียดไม่ได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ