เล่ห์รักนายซาตาน

บทที่ 153 ฉันไม่ได้มา อย่ามาใส่ร้ายกัน (2)



บทที่ 153 ฉันไม่ได้มา อย่ามาใส่ร้ายกัน (2)

ในที่สุดเธอก็ได้ไปทำงานในบริษัทของเขา

คีรินพูดขึ้น “คุณคงเสียใจมากสินะ ที่ต้องมาทำงาน กับผมแทนที่จะได้ไปทำงานที่อื่น”

ญาดาตอบกลับ “ใช่ค่ะ ไม่แค่เรื่องงาน ฉันเสียใจ ตั้งแต่วันที่แม่พาฉันไปอยู่ในครอบครัวของพวกคุณ ตั้งแต่ วันนั้นชีวิตของฉันก็ไม่เคยมีความสุขอีกเลย”

“แต่อย่างน้อยครอบครัวของผมก็ทำให้คุณไม่ต้อง อดตาย คุณควรจะสำนึกบุญคุณสิ ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไม คุณถึงคิดว่าพวกผมติดค้างคุณ ถ้าตอนนั้นพวกเราไม่รับ คุณเข้ามาอยู่ในบ้าน คุณคิดว่าจะมีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวัน นี้หรอ?”

ห์ ญาดาหัวเราะในลำคอ

นี่มันเรื่องตลกที่สุดที่เธอเคยได้ยิน เขาหาว่าเธอลืม บุญคุณครอบครัวเขางั้นหรอ?

ความทรมานและลำบากตลอดสิบกว่าปีในครอบครัว นั้น ถูกเรียกว่าบุญคุณงั้นหรอ?

“คุณคีริน ฉันจำได้ว่าตอนที่ฉันกลับมา คุณไม่ได้พูด แบบนี้หนิคะ คุณบอกให้ฉันลืมอดีตและเริ่มต้นใหม่ บอกกับฉันว่าคุณและครอบครัวเป็นคนที่ติดค้างฉัน คุณบอกว่า จะชดใช้ให้ฉันทุกอย่าง ทำไมตอนนี้ถึงเปลี่ยนจากหน้ามือ เป็นหลังมือได้”

ทั้งๆที่เขาเป็นคนทำลายชีวิตเธอ ครอบครัวเขา ทําลายวัยเด็กของเธอ แต่ทําไมสุดท้ายเขากลับบอกว่า เธอติดหนี้บุญคุณพวกเขา

“ผมก็แค่โกหกคุณเท่านั้น เพราะผมรู้ดีว่าผู้หญิง อย่างคุณ ต่อให้ผมทำดีด้วยเท่าไหร่ ก็ไม่มีวันรู้ตัวหรอก ถ้าไม่เห็นแก่ลูกผมคงจะฆ่าคุณตายไปนานแล้ว”

วันนี้คีรินดูแปลกไป ปกติเวลาที่เธอเป็นแบบนี้เขา จะเปลี่ยนมาใช้น้ำเสียงที่ดีกับเธอ ปลอบโยนเธอ ให้เธอ คล้อยตามเขา

เธอพึ่งรู้ว่าทุกอย่างที่เขาบอกเธอ เป็นแค่คำโกหก

ญาดาคิดว่าเขาคงรู้บางอย่างแล้วแน่ๆ ไม่อย่างนั้นก็ คงไม่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้

ญาดากลับไปที่บ้าน ก็เข้าใจว่าทำไมวันนั้นคีรินถึงทำ แบบนั้นกับเธอ

ญาดานั่งกินข้าวกับเขาบนโต๊ะอาหาร คีรินเปิดทีวีดูข่าว นักประกาศข่าวสาวพูดชื่นชมถึงความสำเร็จในการ วิจัยเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อมของบริษัทของรพีภัทร

สีหน้าของคีรินในตอนนี้ดูไม่สบอารมณ์

แสดงว่าตัวเลขการวิจัยที่เธอขโมยไปในวันนั้นเป็น ของจริง และรพีภัทรก็เปิดตัวก่อนบริษัทของคีริน

ญาดาก้มหน้ากินข้าวโดยทำเป็นไม่สนใจ คีรินวาง ช้อนส้อมในมือลงแล้วพูดขึ้น

“ตอนนี้คุณคงมีความสุขมากใช่ไหม”

คีรินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ญาดายังคงตีหน้าซื่อ เงยหน้าขึ้นมามองเขา “ฉัน ไม่รู้ว่าคุณพูดถึงเรื่องอะไร

ถ้าเธอไม่ยอมรับ เขาจะทำอะไรได้

คีรินมองเธอด้วยแววตาที่เย็นยะเยือก “ช่วงเช้าผม ไม่ต้องไปทำงาน ผมมีเวลามากพอที่จะคุยกับคุณเกี่ยวกับ รหัสตู้เซฟ มาร์วินเคยบอกผมมาก่อนว่าคุณเป็นผู้หญิงที่ ฉลาด แต่ผมไม่เชื่อ ผมตั้งรหัสที่ยากแบบนั้นแต่คุณกลับ ถอดรหัสได้ ผมคงดูถูกคุณมากไป”
ญาดาอยากจะบอกเขาเหลือเกินว่ารหัสที่เขาตั้งนั้น ถอดง่ายแค่ไหน

แต่เธอก็ต้องแกล้งตบตาเขาด้วยหน้าตาใสซื่อ “คุณ พูดถึงรหัสอะไรคะ ฉันไม่เข้าใจ

คีรินพูดเสียงเรียบ “ยังไม่ยอมรับผิดอีกหรอ?”

เขาลุกขึ้น แล้วเดินมาคว้าข้อมือเธอเอาไว้ “คุณจะ ทำอะไรของคุณ?”

“ผมจะพาคุณไปดูกล้องวงจรปิดในห้องทำงานยังไง

ละ !”

คีรินพูดแล้วลากเธอขึ้นไปชั้นบน ตอนนั้นญาดากลัว มาก เธอเห็นกับตาว่าเขาบอกให้คนเอากล้องวงจรปิดออก ไปแล้ว

แต่ทำไมถึงได้มีกล้องวงจรปิดในห้องทำงานเขาได้

ละ?

แสดงว่าเขาโกหกเธอสินะ

“ผมจะให้โอกาสคุณ จะยอมรับมาดีๆหรือจะให้ผม เอาหลักฐานมามัดตัวคุณ”
เขาลากเธอขึ้นไปชั้นบน

คีรินยังคงข่มขู่เธอ “ถ้าคุณยอมรับผิด ผมจะเห็นแก่ ลูกแล้วจะให้อภัยคุณ แต่ถ้าคุณยังปากแข็ง ผมคงต้องแจ้ง ความแล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ”

คุกคือสิ่งที่ชีวิตนี้ญาดาไม่อยากเข้าไปเหยียบอีก

ญาดาเกือบจะยอมรับสารภาพ แต่เธอคิดว่าคนอย่าง คีรินคงต้องเช็คกล้องวงจรปิดทุกวัน ถ้าเขารู้ตั้งแต่แรกก็ คงไปหาเรื่องเธอที่โรงพยาบาลแล้ว

ญาดาคิดว่าเขาคงไม่มีหลักฐานอย่างแน่นอน เขาแค่ ข่มขู่เธอก็เท่านั้น

“ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไร แต่ฉันไม่ได้ทำ อะไรทั้งนั้น ถ้าคุณมีหลักฐานก็จับฉันส่งตำรวจเถอะค่ะ เหมือนกับตอนนั้นที่ฉันไม่ได้ผลักคุณย่าของคุณ แต่พวก คุณก็ส่งฉันไปให้ตำรวจ ครอบครัวพวกคุณคงจะชอบใส่ ร้ายคนอื่นมากเลยใช่ไหมคะ?”

สายตาที่คีรินมองมานั้นยังคงไม่เชื่อในสิ่งที่ญาดาพูด แต่คงเพราะไม่มีหลักฐานเขาก็เลยทำอะไรเธอไม่ได้

คีรินกำหมัดแน่น แล้วชกไปที่กำแพงผ่านหน้าเธอไปเล็กน้อย

เลือดไหลออกมาจากมือของเขา “ญาดา คุณรู้ไหม ว่ามาร์วินวิจัยงานนี้มากี่ปี คุณรักมาร์วินไม่ใช่หรอ นี่คือ ความรักที่คุณทำให้เขา?”

เป็นอย่างที่เธอคิด คีรินไม่มีหลักฐานจริงๆด้วย

ญาดารู้สึกสะใจ แต่ในส่วนลึกๆของหัวใจ ก็เจ็บ

หน่วงๆ

จะทำอะไรได้ล้ะ พวกเขาเป็นคนบีบบังคับให้เธอต้อง ทำแบบนี้

“คุณคีริน คุณกำลังใส่ร้ายฉันนะคะ ฉันยังไม่ได้ทำ อะไรทั้งนั้น ถ้าคุณมีหลักฐานก็เรียกตำรวจมาจับฉันสิ”

ในเมื่อความแค้นมันมากกว่าความรัก ความทรงจำเลว ร้ายมากกว่าความทรงจำดีๆ

ก็อย่าหาว่าเธอเป็นคนเลือดเย็นเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ