เล่ห์รักนายซาตาน

บทที่ 17 ศัตรูคนเดียวกัน (1)



บทที่ 17 ศัตรูคนเดียวกัน (1)

สีหน้าของคีรินในตอนนี้ดูโกรธมาก เขาคงคิดไม่ ถึงว่าเธอจะพูดจาร้ายกาจแบบนี้

เขาปลายตามองไปที่เธอ แล้วเดินออกจากโต๊ะ ทำงาน ตอนนี้ญาดารู้สึกโล่งใจมาก

ท้องของเธอเริ่มหิว ทำให้ไม่มีกระจิตกระใจทำงาน จึงเดินอกไปกินแฮมเบอร์เกอร์ตรงร้านฝั่งตรงข้ามบริษัท

เธอกินไปด้วยแล้วเล่นเฟสบุ๊คไปด้วย

เมื่อล็อกอินเข้าไป ก็มีข้อความสุขสันต์วันเกิดส่งมา เธอพึ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของตนเอง

เมื่อก่อนตอนที่มาร์วินยังไม่แต่งงาน เขาจะเป็นคน ที่โทรมาสุขสันต์วันเกิดเธอทุกครั้ง หรือไม่บางครั้งก็จะ แอบบินกลับมาโดยไม่ให้คนในครอบครัวรู้เพื่อฉลองวัน เกิดกับเธอ

แต่ตอนนี้เขากลายเป็นสามีของคนอื่นไปแล้ว คง ไม่มีข้อความและการฉลองวันเกิดแบบนั้นเกิดขึ้นอีก

การอยู่คนเดียวมันดูไม่มีความหมายอะไรเลย ญาดา เป็นเด็กที่พูดน้อยตั้งแต่เด็ก ทำให้ไม่ค่อยมีเพื่อน เธอเคยคิดว่าชีวิตของเธอมีแค่มาร์วินคนเดียวก็พอแล้ว

แต่ตอนนี้เขาก็คทิ้งเธอไป

หลังจากกินเสร็จ ญาดากลับไปที่บริษัท เธอมองดู เวลาก็ใกล้จะเลิกงานแล้ว จึงบอกกับผู้ชายของคีรินว่า

ขอตัวกลับก่อน

ซาร่ามองมาที่ญาดาด้วยความหนักใจ “ญาดาเธอ เข้าไปบอกกับท่านประธานด้วยตัวเองดีกว่านะ ฉันไม่มี สิทธิตัดสินใจ”

เธอเคาะประตูแล้ว เสียงจากด้านในดังขึ้น “เข้ามา”

“มีอะไร?”

“วันนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายค่ะท่านประธาน ฉันขอก ลับก่อนได้ไหมคะ?”

คีรินมองดูนาฬิกาข้อมือ แล้วเงยหน้าขึ้น “เหลืออีก แค่ครึ่งชั่วโมงก็เลิกงานแล้ว รีบขนาดนั้นเลยหรอ?”

“ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายค่ะท่านประธาน” ฉันพูดอีก

รอบ
เขาลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน แล้วเดินเข้ามาหาฉัน “ไป กับผมที่หนึ่งสิ”

“ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายค่ะท่านประธาน”

คงเพราะฉันพูดซ้ำคำเดิมหลายรอบ ทำให้คีรินคงจะ เริ่มรำคาญ “ผมไม่ได้หูหนวก ผมเป็นบอสคุณนะ”

“ไปกันเถอะ! )

รถคันหรูเคลื่อนตัวออกไปจากบริษัท

“นี่ไม่ใช่ทางไปโรงงานหนิคะ” ญาดาพูดขึ้น

“ผมบอกหรอว่าเราจะไปโรงงานกัน ?” คีรินตอบ

“แล้วเราจะไปที่ไหนคะ?”

“เดี่ยวไปถึงคุณก็จะรู้เอง”

เมื่อเขาพูดแบบนี้แล้ว ฉันเองก็ไม่อยากจะถามอะไร

“ญาดา คุณเป็นของเล่นที่มีความหมายมากเลยรู้ตัว

ไหม
คำว่าของเล่นของเขา มันทำให้ญาดารู้สึกไร้ค่ามาก

“ทำไมคุณนิ่งจังเลย ไม่กลัวว่าผมจะเอาคุณไปขาย หรอ?” คีรินหันมามองญาดา

เธอยิ้มอ่อนๆ “ไม่หรอกค่ะ เพราะฉันไม่มีค่ามากมาย

ขนาดนั้น”

“รู้ตัวดีหนิ”

ญาดาถอนหายใจ “ใช่ค่ะ ฉันรู้ตัวดี ฉันรู้ว่าที่ของ คนอย่างฉันคือที่ไหน”

น้ำเสียงของฉันเคล้าความเสียใจเล็กน้อย

คีรินเงียบแล้วไม่ได้พูดอะไรต่อ

รถเคลื่อนตัวมาถึงร้านเสื้อผ้าราคาแพง ญาดาจึง ถามขึ้น “คุณจะทำอะไร?”

เขาลงมาจากรถ แล้วมองมาที่ฉัน “คืนนี้มีงานเลี้ยง พาคุณมาแต่งตัว สภาพคุณตอนนี้ถ้าเอาไปออกงานด้วย อายเขาตาย
ฉันอยากจะเถียง แต่สิ่งที่เขาพูดมันคือความจริง

คีรินเดินเข้าไปในร้าน แล้วบอกกับพนักงาน “ช่วย เลือกชุดให้เธอหน่อย”

พนักงานสองคนเดินมาพาตัวฉันไป พนักงานเลือก เดรสสีดำตัวสั้นให้กับฉัน เข้าชุดกับรองเท้าส้นสูง

จากนั้นก็มีช่างแต่งหน้าผู้ชายเดินเข้ามาแต่งหน้าให้ เขาทาครีมรองพื้นมาที่หน้าของญาดา เธอรู้สึกไม่ชินเท่า

ไหร่

คีรินนั่งจ้องญาดาไม่วางตา ไม่รู้ว่าเขาจะมองอะไร

นักหนา

“ที่ร้านไม่มีช่างแต่งหน้าผู้หญิงหรือไง?” คีรินถาม

ขึ้น

ทำให้ช่างแต่งหน้าตกใจ คิดว่าตนเองแต่งหน้าได้ไม่ ดี พนักงานที่อยู่ข้างๆจึงอธิบาย “นี่คือช่างแต่งหน้าที่ดี ที่สุดของทางร้านค่ะ”

คีรินขมวดคิ้ว “เปลี่ยนช่างแต่งหน้าที่เป็นผู้หญิงมา”
ญาดาจึงรีบพูดขึ้น “ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวฉันแต่งเอง!

เธอเองก็เป็นผู้หญิงที่รักสวยรักงาม ทำให้การแต่ง หน้าไม่ใช่เรื่องยากอะไรมากนัก

“แต่งเองเป็นทำไมไม่พูด ยอมให้ช่างแต่งหน้าผู้ชาย มาแต่งหน้าให้อีก ไม่รู้หรือไงว่าชุดที่ใส่มันโป๊มาก? จะ มองเห็นหมดทั้งตัวแล้ว”

คีรินพูดแปลกๆ ญาดามองเขาด้วยความตกใจ เธอมี ความคิดบางอย่าง แต่ก็บอกกับตนเองว่าคงคิดมากไป

หลังจากที่แต่งหน้าเสร็จแล้วนั้น เธอจึงหันไปถามคี ริน “แบบนี้โอเคไหมคะ?”

“ก็พอไปวัดไปวาได้”

ตอนที่คีรินเอาแบล็คการ์ดออกมารูดบัตรนั้น เธอก็ แอบเห็นว่าราคาเดรสกับรองเท้า รวมกันก็เกือบแสน เงิน มากขนาดนี้ เธอทำงานสองปีไม่รู้จะเก็บเงินได้มากแบบนี้ หรือเปล่า

ชีวิตคนมีเงินกับคนจนมันไม่เหมือนกัน สำหรับเขา เงินพวกนี้ก็คงไม่ต่างจากเงินร้อยสองร้อยของเธอ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ