เล่ห์รักนายซาตาน

บทที่ 152 ฉันไม่ได้ทํา อย่ามาใส่ร้ายกัน (1)



บทที่ 152 ฉันไม่ได้ทํา อย่ามาใส่ร้ายกัน (1)

ใส่ใจยังเด็กมาก เธอคงไม่รู้ว่าแม่หมายความว่าอะไร เธอเห็นแค่พ่อของตัวเองหัวเราะอย่างมีความสุข

เด็กน้อยจึงหันไปหัวเราะและยิ้มให้พ่อของเขา

ญาดามองดูหน้าตาที่ใส่ชื่อของลูก ในใจของเธอเริ่ม รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

ชีวิตคนเราต่างมีการตัดสินใจที่ยากลำบาก ถ้าเธอไม่ เคยมีลูกมาก่อนจะดีแค่ไหนกัน

ญาดาบอกกับคีรินว่าเธอเบื่อที่ต้องอยู่บ้านแบบนี้

คีรินขมวดคิ้วแล้วหันมากถามเธอ “คุณอยากจะทำ

อะไร?”

“ฉันแค่รู้สึกเบื่อ อยากออกไปทำงาน ไม่อยากอยู่ บ้านทั้งวันแบบนี้”

“แต่ใส่ใจยังเด็กมาก คุณอยู่บ้านตัวแลตัวเองให้ดี มี ลูกให้ผมอีกสักคนรอลูกโตค่อยทำในสิ่งที่คุณอยากทำดี ไหม”

คีรินปฏิเสธเรื่องการขอไปทำงานของเธอ

ญาดาเองก็เตรียมใจกับเรื่องนี้แต่แรกอยู่แล้ว ไม่ได้คิดที่จะพูดต่อ

“ฉันแค่บอกคุณก็เท่านั้น ไม่ได้มาขอร้อง”

คีรินขมวดคิ้ว “ผมบอกว่าอย่าพึ่งไปไง เรากำลังจะ แต่งงานกันแล้ว คุณจะออกไปทํางานให้นําบากทําไมอีก อย่างข้างนอกก็อันตรายมากด้วย อยู่บ้านปลอดภัยที่สุด”

น่าเสียดายที่ตอนนี้ญาดาไม่ใช่เด็กน้อยที่เชื่อฟังอีก

“ฉันไม่สนใจ ฉันจะไปทํางานค่ะ”

คีรินถอนหายใจยาว แล้วพูดขึ้น “คุณจะออกไป ทำงานทำไม ไม่กลัวพวกคำนินทาของคนในสังคมหรอ?”

ญาดาปรายตามองเขา “กลัวแล้วจะทำยังไงได้ คะ จะให้ฉันขังตัวเองอยู่ในบ้านไปตลอดชีวิตก็คงไม่ถูก จริงไหม? ฉันไม่อยากเป็นนกที่อยู่ในกรงทองของคุณไป ตลอดชีวิต

คีรินขมวดคิ้ว เขาคงไม่คิดว่าเธอจะเปรียบเทียบบ้าน เขาเป็นกรงทอง

“คุณรู้ไหมว่ามีผู้หญิงมากมายแค่ไหนที่เฝ้าอิจฉาคุณคุณไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องทำความสะอาดบ้าน มีเงินให้ ใช้ตามต้องการ แต่ทำไมคุณยังไม่พอใจในสิ่งที่คุณมีอีก ต๊ะญาดา”

เขาคิดว่าทุกสิ่งที่เขาให้เธอนั้น คือสิ่งที่ดีที่สุด แต่ สําหรับญาดานั้นมันไม่ใช่ เขาไม่เคยถามมาก่อนว่าเธอ ต้องการอะไร ความสุขของเธอคืออะไร

แล้วจะให้เธอพอใจกับชีวิตแบบนี้ได้ยังไง?

“นั่นเป็นแค่ความคิดของคุณ ถ้าคุณไม่ยอมให้ฉัน ออกไปทํางาน ฉันจะอดข้าว ชีวิตที่ต้องถูกขังอยู่ในบ้าน แบบนี้หรือถ้าออกไปก็ต้องมีคนคอยเฝ้าจับตาดูอยู่ทุก วินาที คุณจะให้ฉันมีความสุขได้ยังไง”

ตอนนี้ญาดาทำตัวเหมือนเด็ก ถ้าไม่ได้ในสิ่งที่เธอ ต้องการ เธอก็จะอดอาหาร

“งั้นก็อดอาหารไปตามที่คุณต้องการแล้วกัน ผมเอง ก็อยากรู้ว่าคุณจะอดอาหารได้นานเท่าไหร่”

คีรินรู้ดีว่าญาดากลัวการหิวที่สุด

ตอนแรกญาดาคิดว่าคีรินจะยอมให้เธอออกไป ทำงาน แต่เธอคิดไม่ถึงว่าเขาจะยอมให้เธออดอาหารแทน
เช้าวันที่สอง ญาดาเริ่มต้นการอดอาหารเป็นมื้อแรก

เธอได้ยินแม่บ้านโทรหาคีริน “คุณผู้ชายคะ ดิฉันขึ้น ไปตามคุณผู้หญิงอยู่หลายครั้ง แต่คุณผู้หญิงไม่ยอมลง มากินอาหารเช้าเลยค่ะ ยกขึ้นไปเสริฟให้ คุณผู้หญิงก็ไม่ ยอมกิน ดิฉันกลัวว่าคณผู้หญิงจะล้มป่วยเอาได้นะคะ”

แม่บ้านคนนี้ไม่เหมือนแม่บ้านที่กรุงเทพ เพราะเธอ ไม่เพียงแต่ทำตามหน้าที่ของตัวเอง แต่เธอยังดูเป็นห่วง ญาดาและลูกมากด้วย

พูดตามตรง ญาดารู้สึกตื้นตันใจมาก สิ่งเล็กๆที่ใคร ทำให้เธอ เธอก็รู้สึกหวั่นไหวไปหมด

จนถึงมื้อเที่ยง ญาดาก็ยังคงกัดฟันไม่ยอมกินอะไร

ทั้งนั้น

แม่บ้านโทรไปหาคีรินอีกครั้ง แต่เขาก็ยังคงไม่กลับ

มา

จนใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว คีรินก็ยังคงไม่กลับมา ญาดา คิดว่าเขาคงไม่อยากกลับมาเห็นสภาพของเธอในตอนนี้

ญาดาหิวจนหน้ามืดไปหมด สุดท้ายก็เป็นลมล้มลง ไป เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว
ไร้ประโยชน์

คีรินนั่งอยู่ข้างๆเธอ เขาพูดเสียงเรียบ “สนุกพอ

ญาดาตอบ “ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้เล่น แต่ฉันเอาจริง”

คีรินหัวเราะในลำคอ “ถ้าอย่างนั้นคุณก็อดอาหารต่อ ไป ยังไงก็อยู่ที่โรงพยาบาล ไม่มีวันตายอยู่แล้ว”

“ค่ะ ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าตัวเองจะอดอาหาร ได้กี่วัน”

คีรินเงียบอยู่นานไม่ยอมพูดอะไร

สุดท้ายเขาก็แพ้ใจตัวเอง “ผมให้ได้มากที่สุดก็คือ การที่คุณมาทำงานกับผม ไม่อย่างนั้นผมก็จะให้หมอให้ อาหารคุณผ่านท่อ ยังไงผมก็มีวิธีทำให้คุณไม่ต้องตาย แต่ คุณใช้ชีวิตอยู่บนเตียงผู้ป่วยแบบนี้ ก็คงไม่ต่างอะไรกับ ตายทั้งเป็น”

ที่จริงการเข้าไปทำงานกับเขา คือเป้าหมายของเธอ แต่ญาดาไม่อยากให้คีรินรู้

เธอจึงบอกเขาไปว่าอยากออกไปทำงานข้างนอก
เธอแกล้งทำสีหน้าพอใจ นานครู่หนึ่งกว่าจะตอบ “ได้ค่ะ ถ้างั้นฉันไปทำงานกับคุณก็ได้”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ