เล่ห์รักนายซาตาน

บทที่ 13 เคยชิน



บทที่ 13 เคยชิน

ญาตานอนอยู่บนเตียงผ่าตัด สองขาของเธออ้าออก มีเครื่องผ่าตัดกำลังสอดเข้าไป ในช่องคลอดของเธอ เหมือนเธอจะได้ยินเสียงของเด็ก

หมอบอกว่าครรภ์อายุสามเดือนมีรูปมีร่างแล้ว

พอหมอบอกว่าเสร็จแล้ว น้ำตาของเธอจึงไหลริน

“ตอนนี้อาการของคุณไม่ต่างกับคนคลอดลูก กลับไปก็บารุงร่างกายหน่อย อย่าได้

ทำให้ร่างกายโดนความเย็น แล้วพักผ่อนสักครึ่งเดือน ถ้าช่วงอยู่เดือนไม่ดูแลร่างกายดีๆ ก็ คงจะมีผลตอนแก่” หมอพูดขึ้นด้วยเสียงเรียบ

แต่ว่าสำหรับเธอแล้วหมอกำลังเป็นห่วงเธอ เธอเลยรู้สึกซาบซึ้ง “ขอบคุณคะหมอ”

หลังจากนั้นก็พักผ่อนที่บ้านไม่กี่วัน เลขาของคีรินโทรหาเธออีก คิรินกลับมาแล้ว แล้ว สั่งให้เธอไปบริษัท ทำแท้งก็ต้องอยู่เดือน ไม่ต้องบอกว่าอยู่เดือนเป็นเดือน อย่างน้อยก็ ต้องพักสักอาทิตย์ แต่เธออยู่ได้แค่สามวันก็ต้องไปทำงาน

และคนที่สั่งให้เธอไปทำงานก็คือพ่อของเด็กที่เธอพึ่งไปเอาออก ทำไมชีวิตถึงได้แย่

ขนาดนี้

แค่เธอไม่แน่ใจว่าเพราะเธอทำแท้งเลยทำให้ร่างกายเธออาการไม่ดี หรือเป็นเพราะคี

รินทรมานเธอมาหลายวัน?

ก่อนออกจากบ้าน เธอจึงแต่งหน้าบางๆ เพื่อกลบสีหน้าขาวซีดของตัวเอง

พึ่งจะถึงบริษัท เลขาผู้หญิงชื่อซาร่าดึงแขนของเธอ แล้วพูดอย่างใจร้อน ญาดา ทำไมคุณชักช้าขนาดนี้ ท่านประธานและคุณโจเซฟและหลายๆคนกำลังรอคุณประชุมอยู่ ไม่รู้หรอ? คุณสายมากแล้ว ท่านประธานโกรธคุณมาก”

ครั้งแรกที่ฉันได้ยินว่าท่านประธานรอพนักงานคนหนึ่งประชุม

เธอเลยรีบตามเลขาซาร่าเข้าไป จากนั้นก็ผลักประตูเข้าไป ก็เห็นนัยน์ตาที่ไม่เป็น

ของคีริน

เขาบอกเลขาซาร่า “ไปบอกแผนกบัญชี เงินเดือนเดือนนี้ของญาดา หักออกให้

หมด”

สิริพูดขึ้น แล้วสถาปนิกแต่ละคนก็มองเธออย่างไม่เข้าใจ พวกเราที่ทำงานสถาปนิก โดยเฉพาะคนที่เป็นมือใหม่ ในมือไม่มีเงินใช้หรอก เงิน เดือนเดือนแรกของพวกเขาถือเป็นเงินก้อนโต คีรินบอกว่าจะหักก็หักหมดเลยหรือไง

ญาดาจึงมองเขาและพูดด้วยน้ำเสียงเป็นซา “ฉันป่วย ก็ได้ลาป่วยกับเลขาคุณแล้ว”

พูดจบเธอก็หาที่นั่งที่นั่งใกล้เขาที่สุด และไม่มองเขาอีก

“ทำไมไม่พอใจหรือไง มาทำงานที่นี่ไม่กี่วัน มาประชุมก็สาย แล้วยังให้คนอื่นรอ ญา

ดาคุณมันช่างกล้าจริงๆ คิดว่าบริษัทเป็นของคุณหรอ อยากมาก็มาอยากไปก็ไป” เขาพูด ขึ้นและตุบปากกาลงตรงหน้าเธอแรงๆ จนเปิดปากกากระเด็นใส่หน้าเธอ เธอยื่นมือไปนวดหัวของตัวเอง จากนั้นก็เงยหน้ามองเขาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

จากนั้นก็เก็บฝาปากกา แล้วยืนให้เขา “คราวหน้าจะไม่สายอีก ขอโทษค่ะ”

เธอไม่อยากจะสร้างเรื่องวุ่นวายกลางห้องประชุม เลยขอโทษไป จากนั้นก็พลิก เอกสารขึ้นดู

จากนั้นคีรินจึงอ่อนข้อลง แล้วไม่ได้หาเรื่องเธออีก

การประชุมเริ่มขึ้น ท่านประธานพูดถึงการเปลี่ยนแปลงการผลิตของบริษัท จะ เป็นการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าแทน เขาจึงต้องสร้างโรงงานขึ้นมาใหม่

โจเซฟเป็นหัวหน้าสถาปนิก และมีญาดาคอยช่วยเหลือ งานนี้สำคัญมากๆ จริงๆแล้ว เธอไม่เหมาะสมเลยที่ได้ทำงานนี้ เธอก็แค่มือใหม่ ก็คงรับผิดชอบงานใหญ่ขนาดนี้ไม่ไหว แต่คีรันก็จ้องจะใช้เธอ

เซ็นท์ของผู้หญิงบอกเธอว่า เรื่องนี้ต้องมีอะไรแปลกๆแน่นอน ถ้างานก่อสร้างก็เกิด ปัญหาเพราะเธอ เธอก็คงจะถูกคีรีนทำให้เธอเข้าคุก ไม่ใช่เพราะว่าเธอขี้ระแวง แต่คีริน เป็นคนที่ร้ายกาจมากจนเธอไม่อาจบรรยายออกมาได้

พอการประชุมลุล่วงไปแล้ว ทุกคนก็ออกจากห้องประชุม เธอกับคีรินก็กลับห้อง ทำงาน และเดินตามกันไป เธอเดินตามหลังเขา พวกเขาห่างกันไม่ถึงเมตร

ตอนที่เข้าไปในห้องทำงาน เธอกำลังจะเดินไปที่โต๊ะของตัวเอง แต่ก็ถูกเขาเรียกชื่อ

เธอเลยหันไปถามเขา “ท่านประธาน เรียกติฉันหรอค่ะ?”

เขาพยักหน้า และพูดขึ้นเสียงต่ำ “มาห้องทำงานของผม”

150 เธอเดินตามเขาเข้าไป จากนั้นก็มองซาร่าที่อยู่ข้างนอกแล้วคลี่ยิ้มให้เธอ

คีรินนั่งลงตรงโต๊ะ ไม่พูดไม่จาใดๆ เธอก็ไม่กล้านั่งไปมั่ว เลยยืนซื่ออยู่อย่างนั้น

สายตาของคีรินมองเธออย่างโหดเหี้ยม จนเธอรู้สึกเกร็งไปหมด

“เลขาบอกว่าคุณหนักหรอ?” พูดขึ้นแล้วเอาบุหรี่ขึ้นมาจากจากนั้นก็ กำลังจะจุดไฟสู

ท่าทางแบบนี้ทำให้เขาดูเป็นคนเลวมากขึ้น

เธอพยักหน้า “ไม่ค่อยสบาย เลยพักไปหลายวัน

เขาฟังแล้วก็โบกมือให้เธอ เพื่อสื่อให้เธอขยับไปใกล้เขา เธอจึงเดินไปอย่างเชื่อฟัง จากนั้นก็ชี้ไปยังไฟแช็คที่อยู่บนโต๊ะ “จุดไฟให้ผมหน่อย”

เธอจึงก้มลงไปจุดไฟให้เขา

เขาสูบและพ่นควันใส่หน้าเธอ จึงทำให้เธอไออย่างรุนแรง

เธอเป็นโรคหลอดลมอักเสบตั้งแต่เด็ก ดมพวกควันพวกเกสรดอกไม่ได้ นี่เขาเองก็รู้ดี ดังนั้นเขาเลยตั้งใจให้คนใช้ที่บ้านวางดอกไม้สดที่มีกลิ่นแรงมากๆ

จนวันหนึ่งเธอเกือบหายใจไม่ออกแล้วเกือบจะตาย

พอคีรินเห็นเธอไอจนน้ำตาไหล นัยน์ตาเลยเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แล้วอีกครั้ง จากนั้นก็ดับไฟลง

เขายื่นมือมาจับคางของเธอ “ป่วยใช่ไหม? ดูอ่อนแอลงเยอะหนิ ป่วยเป็นอะไร?

เธอของเขาออก จากนั้นก็จับโต๊ะของเขาไว้ แล้วไอต่อ เมื่อควัน ทำให้

เธอหายใจลำบากมาก

โต๊ะ

ผมว่าป่วยเป็นโรคคิดถึงหรือเปล่า!ลงไปตรงเก้าอี้ จากนั้นก็ยกเท้าขึ้นบน

เธอไม่อยากจะสนใจเขา ตอนที่กำลังจะปล่อยมือจากโต๊ะ ก็เห็นเอกสารโปรเจคบ้า

นกลางอากาศ โปรเจคนี้ที่ใหญ่ที่สุดในปีนี้ของกรุงเทพ ตอนนี้กำลังจะเตรียมการ ที่ดีนนั้นมีมูลค่า เป็นหมื่นล้าน ถ้ามีการเปิดโครงการนี้ก็คงทะลุเป้าเป็นเงินแสนล้าน

ไม่เพียงแต่บริษัทอสังหริมทรัพย์ในเชียงใหม่แย่งกันจะทำโปรเจคนี้ แม้แต่จังหวัด อื่นๆยังจะมาแย่งด้วย และคีรินก็คือคู่แข่งที่ใหญ่ที่สุด

ญาดาไม่กล้าจ้องเอกสารนั้นนาน กลัวว่าเขาจะสังเกตเห็น เลยรีบลุกขึ้น และจ้อง หน้าเขาแล้วพูดขึ้น “ฉันถูกหมากัด ไปโรงพยาบาลทำแผลหน่อย เดี๋ยวเป็นโรคพิษสุนัข

หมาบ้า”

คำๆนี้ คิดว่ามีเธอคนเดียวที่เข้าใจ

ดั่งที่คาด เขาไม่เข้าใจจริงๆ ” โดนหมากัดจริงๆหรอ?”

เธอตอบกลับ “ใช่”

ตอนบ่าย ญาดากับเขาไปดูโรงงานด้วยกัน จะได้เปลี่ยนแก้ไขโครงสร้างงานก่อสร้าง โรงงานใหม่ รูปแบบได้แก้แล้วแก้อีก แก้ไปหลายรอบมาก

ต้องแก้จนไม่มีจุดบกพร่องจึงจะผ่าน

โจเซฟขับรถไป คงจะเห็นเธอสีหน้าขาวซีด เลยขับรถช้าลง

เธอพิงอยู่บนเบาะ แล้วหลับตาลงเพื่อพักผ่อน

ญาดา ผมขอถามคุณอะไรบางอย่างได้ไหม?” โจเซฟเอ่ยปาก

เธอลืมตาขึ้นแล้วมองเขาและอมยิ้มขึ้น “ว่ามาสิ”

เขาเลยพูดขึ้น คุณกับท่านประธานเป็นอะไรกัน ทำไมผมรู้สึกเขามักจะจ้องทำร้าย

คุณบ่อย”

เธอได้ยินจึงหัวเราะ “ไม่ได้จ้องจะหรอก เขาเคยชินแบบนี้ไปแล้วต่างหาก”

เขาถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ “อะไรเคยชิน?”

เธอจึงพูด คุณสงสัยไหมว่าสถาปนิกมือใหม่อย่างฉัน จู่ๆทำไมถึงได้มาทำโปรเจค ใหญ่ และได้มาอยู่บริษัทนี้ และยังมีห้องทำงานที่ติดกับคีริน” เขาได้ยินจึงพยักหน้าอย่างเกรงใจ แค่รู้สึกแปลกใจ รู้สึกว่าคุณกับท่านประธาน

รู้จักกันมาหลายปี”

เธอยิ้มขึ้น “ถูกคุณมองออกจนได้ ฉันกับเขาเป็นศัตรูกัน! เล่าแล้วมันยาวยังไงก็

ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด”

เธอไม่อยากจะพูดต่อ เลยเขาก็ไม่กล้าถามขึ้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ