บทที่ 65 เริ่มแผนการ
กลับมาถึงวิลล่าของเขาที่เชียงใหม่นั้น คีรินก็โทรหา คุณหมอที่รักษาเขาอยู่เป็นประจำทันที เพื่อให้คุณหมอมา ตรวจเช็คแผลของเธอ ว่าแผลที่แขนนั้นเปิดออกหรือไม่
ไม่นานคุณหมอก็มาถึง หลังจากที่ตรวจดูแผลของ ญาดาแล้วนั้น ก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไร แผลยังคงสมานดี
โปรเจคบ้านกลางอากาศของคีรินนั้น จะเริ่มต้น ทำการก่อสร้างในวันจันทร์หน้า และต้องมีการร่วม ออกแบบของสถาปนิกมากมาย ญาดาหวังว่าคีรินจะให้ เธอเข้าร่วมงานดีด้วย เพราะถ้าเธอสามารถเข้าร่วมได้แล้ว เธอก็จะมีโอกาสได้ข้อมูลที่มากขึ้น
เหมือนคำโบราณที่ว่ารู้เขารู้เรา รบสิบครั้งชนะสิบครั้ง
ช่วงนี้คีรินยุ่งมาก เขามักลงไปดูงานด้วยตนเอง และ ตรวจดูการออกแบบทุกอย่าง แม้ว่าจะมีแผนธุรกิจเรียบร้อย แล้ว แต่การออกแบบที่สถาปนิกส่งให้เขาดูนั้น เขากลับ ไม่พอใจ แม้แต่ของโจเซฟซึ่งเป็นสถาปนิกระดับต้นๆของ ประเทศ
หลงจากที่ญาดากลับมาจากอังกฤษ คีรินก็ไม่พูดถึง เรื่องให้ญาดากลับไปทำงานอีกเลย
แม้ว่าตอนนี้เธอจะเหมือนเป็นนางบำเรอของเขาแล้วที่ไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องหาเงิน ก็มีเขาคอยเลี้ยงดู ได้อยู่ ในบ้านหลังใหญ่ แต่งหน้าแต่งตัวไปวันๆ
แต่เธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น เธออยากทำงานและ อยากเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจคบ้านกลางอากาศด้วย
รพีภัทรเคยบอกกับเธอ ว่าคีรินทำธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์มานานหลายปี เพื่อที่จะประหยัดค่าใช้ จ่ายและได้กำไรที่มากขึ้นนั้น มีวัสดุหลายอย่างที่เขาใช้ ของปลอม
แต่เพราะว่าคีรินสนิทกับเหล่าข้าราชการ ทำให้หลาย ครั้งที่ประชาชนมาฟ้องร้องเรื่องนี้ ทางรัฐบาลกลับเอาหู ไปนาเอาตาไปไร่
ญาดาเองก็ไม่มั่นใจว่าสิ่งที่รพีภัทรพูดนั้นเป็นความ จริงหรือไม่
ดังนั้นเธอจึงต้องเข้าร่วมโปรเจคนี้ เพื่อตรวจดูว่าคีริน ทําผิดจริงหรือเปล่า
โปรเจคนี้มีผู้ร่วมลงทุนกว่าหลายหมื่นล้าน รพีภัทร จึงเชื่อว่าคีรินคงจะยักยอกเงินจากโปรเจคนี้ไม่ต่ำกว่าพัน ล้านแน่นอน
โปรเจคของคีรินนั้น มีภาครัฐเข้ามาสนับสนุนหลาย
พันล้าน
ดังนั้นถ้าเขาใช้งบจริงน้อยกว่าที่รายงานไปนั้น เขาก็ ยังสามารถเอาเงินเข้ากระเป๋าได้อีกหลายพันล้าน
ตัวเลขจำนวนมหาศาลนี้ ถ้าถูกเผยแพร่ออกไป เขา ต้องติดคุกหลายปีแน่นอน
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เลือดแค้นของญาดาก็กลับมานึก มอีกครั้ง
เธอจะต้องเข้าร่วมโปรเจคนี้ให้ได้
ตั้งแต่กลับมา คีรินก็เข้าไปที่ห้องหนังสือของเขา และไม่ออกมาอีกเลย ญาดาเห็นแม่บ้านยกกาแฟจะเข้าไป เสริฟ เธอจึงบอกกับแม่บ้าน “เดี๋ยวญาเอาไปให้คุณคีริน เองค่ะ ป้าไปทำงานเถอะ !
ญาดาเคาะประตูห้อง เสียงของคีรินดังออกมาจากใน ห้อง “เข้ามา ! ”
ญาดาผลักประตูเข้าไป เขาหันมามองด้วยความ แปลกใจ “ทําไมไม่นอนพัก ! ”
“ฉันนอนมาทั้งวันแล้วค่ะ นอนจนตัวเปื่อยหมดแล้ว
ด้วย”
เธอยกกาแฟไปวางให้เขา
คีรินรับกาแฟมา จากนั้นก็วางไว้บนโต๊ะ แล้วดูภาพ ออกแบบต่างๆที่วางเรียงร่ายอยู่เต็มโต๊ะ ญาดากวาดตาม อง
นี่คงเป็นการออกแบบใหม่ล่าสุดของโจเซฟ ญาดา เห็นคีรินขมวดคิ้วเหมือนไม่พอใจกับการออกแบบเท่าไหร่ แต่ญาดากลับรู้สึกว่างานออกแบบของโจเซนั้นสวยมาก ดู เรียบหรู เป็นแนวลัคซูรี่ เหมือนแนวที่เขาทำมาโดยตลอด
โปรเจคบ้านกลางอากาศนั้น สามารถออกแบบให้ เป็นคอนโดไฮไรซ์ซึ่งเป้าหมายของพวกเขานั้นคือสร้าง คอนโดที่สูงกว่าตึกใบหยก แต่ด้วยเม็ดเงินที่ของโครงการ นี้อาจจะทำให้คีรินรู้สึกว่าการออกแบบของโจเซฟยังไม่ ตอบโจทย์มากพอ เขาอยากให้มันดูเป็นโครงการที่หรูหรา อลังการที่สุด เพราะการที่คอนโดนี้สูงที่สุดในประเทศและ อลังการที่สุดในภาคเหนือ จึงอยากได้อะไรที่มากกว่านี้
ซึ่งโปรเจคนี้จะแบ่งเป็นสามส่วน ส่วนแรกนั้นคือส่วน ที่สร้างมาเพื่อเป็นที่คอนโด ห้างสรรพสินค้ากลางใจกลาง หมู่บ้าน ส่วนที่สองนั้นคือการขุดทางให้กลายเป็นแม่น้ำและส่วนสุดท้ายนั้นคือการสร้างโรงเรียนนานาชาติ โดย ห้างสรรพสินค้าจะอยู่บนชั้นลอยฟ้า ถือเป็นการเปิดประสบ การณ์ช้อปปิ้งที่มีก้อนเมฆเป็นทิวทัศน์ และเรียนนานาชาติ นั้น จะถูกสร้างขึ้นในคอนโดเช่นเดียวกัน โดยจะมีอาจารย์ จากต่างประเทศเป็นผู้สอน และผู้ที่มีสิทธิเรียนนั้นต้องเป็น คนที่อาศัยอยู่ในคอนโด
แต่การออกแบบของโจเซฟนั้นดูหรูหราอลังการ เพียงอย่างเดียว หากเดินงานตามการออกแบบของเขา นั้น จะทำให้โปรเจคนี้กลายเป็นโปรเจคลัคชูรี่เพียงอย่าง เดียว ซึ่งมันเหมือนจะขาดบางอย่างไป
แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่คีรินต้องการ เขาต้องการทุกอย่างให้ ดูหรูหราอลังการ
คีรินเงยหน้าขึ้นมาแล้วมองหน้าญาดา
เขายิ้ม “คุณมาช่วยผมดูงานออกแบบพวกนี้หน่อย
ตั้งแต่เกิดเรื่องคีรินก็ยิ้มให้เธอบ่อยมากขึ้น ถ้าเทียบ กลับเมื่อก่อนแล้วนั้น สามารถพูดได้ว่าผลิกจากหน้ามือ เป็นหลังมือได้เลย ในตอนแรกญาดาเองก็ไม่ชินเท่าไหร่ แต่หลังๆเธอก็เริ่มจะชินขึ้นมา
“นี่คืองานออกแบบของคุณโจเซฟหรอคะ?” ญาดา ถามทั้งๆที่รู้คําตอบ
คีรินยกกาแฟขึ้นดื่ม แล้วพูดกับญาดา “หลายปีที่ ผ่านมาการออกแบบของโจเซฟนั้น ไม่สามารถตอบโจทย์ ที่ผมต้องการได้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน แต่งาน ออกแบบของเขามันดูไม่มีชีวิต !
ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป คีรินอาจจะจ้างสถาปนิกจากที่ อื่นมาออกแบบแทน
เขาไม่มีเวลามากพอให้โจเซฟแก้งานมาส่งใหม่ หลายๆรอบ
“น่าจะเป็นเพราะโปรเจคนี้ ไม่ใช่สไตล์ของคุณโจ เซฟนะคะ เพราะงานออกแบบของคุณโจเซฟก่อนหน้า นี้ ฉันเคยเห็นมาบ้าง ซึ่งส่วนมากจะไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งก็เป็นงานออกแบบที่เรียบหรู” ญาดาบอกกับคีริน แล้ว พูดต่อ “ฉันคิดว่าถ้ามีการเพิ่มความหรูหรา ทำให้ลูกค้า รู้สึกว่าตนเองนั้นพักอยู่ในโปรเจคที่เป็นอันดับหนึ่งของ เชียงใหม่ เราควรออกแบบให้หรูหราอลังการมากกว่านี้
คีรินฟังความคิดเห็นของเธอ แต่เขาก็ยังคงขมวดคิ้ว
“ความคิดของคุณก็ดีเหมือนกัน แต่…” คีรินครุ่นคิดสักพัก
“ผมคิดว่ามันยังไม่พอ เราควรจะเพิ่มสิ่งอำนวยความ สะดวกต่างๆเข้ามา เช่นการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อให้กลายเป็นสมาร์ทโฮม
เมื่อเขาพูดจบ ญาดาก็เห็นด้วยกับเขา เพราะความ คิดของเขานั้นเป็นไอเดียที่ดีจริงๆ ซึ่งการนำเทคโนโลยี เข้ามาช่วยนั้น เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่มากยิ่ง ขึ้น
“ฉันอยู่เชียงใหม่มาหลายปี ฉันคิดว่าถ้าเรามองใน มุมของคนที่นี่ สิ่งที่พวกเขาต้องการคือให้ทุกอย่างสะดวก สบายที่สุด มีห้างสรรพสินค้าอยู่ภายในคอนโด แต่เราต้อง ไม่ลืมที่จะมองการเติบโตของเศรษฐกินในเชียงใหม่ด้วย ซึ่งตอนนี้มีแนวโน้มสูงมากขึ้น และในอีกสิบปีข้างหน้านั้น เศรษฐกิจที่นี่ก็มีแนวโน้มจะดีเพิ่มขึ้นอีกด้วย ฉันจึงคิดว่า มันมีความเป็นไปได้ ที่โครงการนี้จะตอบโจทย์คนที่นี่ค่ะ”
ญาดาพูดจบ เธอก็ยืนมองเขาตาปริบๆ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ