เล่ห์รักนายซาตาน

บทที่ 292 ความสุขของการมีลูก



บทที่ 292 ความสุขของการมีลูก

ตั้งแต่ที่มีน้องหนึ่งเดียว เธอก็รู้สึกว่าเขาไม่ค่อย ยอมไปทํางาน ผลกําไรของบริษัทที่ผ่านไปครึ่งเดือนก็ ตกลงเยอะ เธอเลยพูดกับเขาอย่างจริงจัง “คีริน คุณไป ทำงาน ถ้าไม่ไหวจริงๆฉันจะลาออกจากงานแล้วเลี้ยง ลูกเอง”

ตอนที่น้องหนึ่งเดียวมีอายุสามเดือน เธอก็ไป ทํางานอย่างอดใจไม่ไหวแล้ว คีรินเห็นเธอไปทํางาน เขาเลยไม่ยอมไปทํางานเลยสักวัน

จากนั้นย่าของเขาเลยมาว่าเธอ เธอยั่วยวนให้ดี รินหลงเธอจนไม่ยอมไปทำงาน จริงๆเป็นน้องหนึ่งเดียว หรือเปล่า นี่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอเลย

คีรินพูดขึ้น “วางใจเถอะ ต่อให้ชาตินี้ผมไม่ไป ทำงาน ก็มีเงินมากพอให้สองพี่ลูกใช้แน่นอน”

“คุณไปทำงานเถอะ ฉันไม่ไปทำแล้ว ฉันจะเลี้ยง ลูกที่บ้าน รอให้ครบเดือนแล้วค่อยออกไปทำงานนะ”

เขากลับพูดขึ้น “นี่ไม่เกี่ยวกับว่าคุณจะไปทำหรือ ไม่ไปทำงาน ผมแค่อยากใช้เวลาดีๆกับลูกเท่านั้น”

“ให้ตายเถอะ คีรินคุณต้องไปทำงาน คุณยังมี พนักงานอีกหลายพันคนต้องเลี้ยงดู คุณมีภาระหนัก ต้องแบกรับ ฉันไม่ไปทำงานแล้ว ถ้าไม่ได้จริงๆฉันจะอุ้ม หนึ่งเดียวไปที่ทำงานคุณ แล้วพาไปเล่นกับทุกวัน”
คีรินถามขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ “จะดีหรอ?”

เธอเลยใช้มือตบหัวเขาเบาๆ “หรือคุณเห็นว่าฉัน ทำไม่ดีกับคุณขนาดนั้นเลยหรือไง รอให้เด็กคนโตขึ้น ทุกอย่างก็คงจะดีขึ้นเอง”

พอเธอตกลงทำแบบนี้ เขาก็รู้สึกดีใจมาก พอเขา ตกลงด้วยเธอก็รู้สึกว่าตัวเองติดกับดักของเขา เขาใช้ กำไรบริษัทมาบังคับให้เธอไม่ต้องไปทำงาน

จากนั้นไปเธอก็อุ้มลูกไปบริษัทกับเขาทุกวัน ใน ห้องทำงานเขามีโต๊ะทำงานเธอ และเตียงของลูกเพิ่ม ขึ้น บนโต๊ะทำงานเขามีแต่ขวดนมกับผ้าอ้อมหนึ่งเดียว

พอรอให้เด็กหลับ เธอก็นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเธอแล้ว เขียนแบบ บางครั้งคีรินก็โยนงานให้เธอทำ แถมยังให้ เงินเดือนเดือนละแสนกับเธอ ถือว่าเป็นคุณค่าทางจิตใจ

จากนั้นเธอก็เอาเงินซื้อของให้เขากับลูก เธอช่าง น่าสงสารจริงๆ ทำงานให้เขายังต้องใช้เงินตัวเองซื้อ ของให้เขาอีก

และหนึ่งเดียวไม่ชอบดื่มนมแม่ ต่อให้บีบลงขวดนม ก็ไม่ยอมดื่ม จึงได้ลูกดื่มนมผงแทน

หนึ่งเดียวที่มีอายุแค่ครึ่งขวบก็อยากจะกินข้าวแล้ว ทุกครั้งที่พวกเขากินข้าว เธอก็จะร้องงอแง
เลยทำให้เพียงให้เธอลิ้มรสหน่อยๆ แล้วป้อนพวก ฟักทองปั่น ไปั่นให้เธอบ้าง

ตอนกินเที่ยง เธอก็รู้สึกง่วงนอน เลยพาหนึ่งเดียว ไปนอนด้วย

จู่ๆหนึ่งเดียวก็ร้องไห้ เธอเลยรีบตื่นขึ้นมากล่อม คื รินเลยพุ่งเข้ามาข้างใน

“เป็นอะไรไป?” คีรินรีบมาแย่งลูกไป เธอได้กลิ่น เหม็น เลยพูดขึ้น “อาจจะเพราะว่าอึ”

คีรินจึงวางหนึ่งเดียวไว้บนเตียง แล้วเปิดประโปรง พลางเปิดผ้าอ้อม “ทำไมอีอีกแล้ว นี่ท้องเสียหรือเปล่า เนี่ย”

เขาจึงถามเธอ “คุณให้ลูกกินอะไรหรือเปล่า”

“ฉันป้อนซุปกระดูกให้ลูก พอชิมแล้วมันจืดดี เลย คิดว่าไม่เป็นไร”

ตอนนี้พวกเขาคุยกับ หนึ่งเดียวเลยเอาท่าทางเบ่ง อึอีกครั้งตอนที่คีริน

เขาจึงมองเธอด้วยความเย็นชา “ผมบอกคุณกี่ครั้ง แล้วว่าอย่าให้กินอะไรมั่วๆ ทำไมไม่ฟังอีก คุณเก็บของ ให้เร็ว”
เขาขึ้นเสียงใส่เธอ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาดุใส่เธอ

เธอเลยรู้สึกเสียใจเล็กน้อย แต่จริงๆมันก็คือปัญหา

ของเธอเอง

จากนั้นพวกเขาก็พาหนึ่งเดียวไปโรงพยาบาล

พอออกจากโรงพยาล คีรินก็ตำหนิเธออีกครั้ง บอก ว่าห้ามป้อนหนึ่งเดียวมั่วๆอีก ไม่งั้นจะไม่ให้เธอเลี้ยงอีก

ไม่เลี้ยงก็ไม่เลี้ยงสิ เธอก็ไม่อยากเลี้ยงอยู่แล้ว

เขาพูดเหมือนเธอเป็นแม่เลี้ยง พูดเหมือนเธอไม่รัก

หนึ่งเดียว

แค่เธอไม่ได้รักเท่าเขาเท่านั้น เขานี่สิรักเกินไป

เด็กอายุเท่านั้น แต่มีห้องแต่งตัวของตัวเองแล้ว

เสื้อผ้าของหนึ่งเดียวมีเป็นสิบๆตู้ ถามยังไม่ใช่ เสื้อผ้าที่ถูกๆอีกด้วย

เพราะว่าหนึ่งเดียวดื่มยาแก้ท้องเสียไป ทำให้น้ำตา เธอร่วงไปไม่กี่หยด คีรินจึงรู้สึกเจ็บปวดใจ เลยอุ้มหนึ่ง เดียวกลับบ้าน ไม่ไปทำงานอีกแล้ว

จริงๆเขายังมีงานประชุมที่สำคัญ
เด็กที่อายุเท่านี้กลับรู้เรื่องทุกอย่าง พอรู้ว่าพ่อ เอาใจนางเก่ง ก็หอมแก้มพ่อบ่อยๆ กลับไม่ยอมเข้าใกล้ แม่ เพราะบางคนแม่ชอบดุใส่

ตอนที่หนึ่งเดียวอายุครบขวบ ก็จัดงานวันเกิดซะ

ใหญ่ แม้แต่มาร์วินที่อยู่ต่างประเทศยังกลับมา หนึ่งวันก่อนวันเกิดหนึ่งเดียว เขาพาลูกและเธอไป

ศูนย์เด็กกำพร้า เขาบอกจะรับเลี้ยงลูกบุญธรรม

ทีแรกเธอนึกว่าเขาจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว แต่นี่ผ่าน ไปไม่นานก็มีความคิดแบบนี้ผุดขึ้นอีก

หนึ่งเดียวเป็นเด็กที่กินจุกจิกและกินดีมาก จนตอน นี้กลายเป็นเด็กอ้วนที่ชอบกิน เธอรู้สึกหนึ่งเดียวควรคุม อาหาร และเขาก็รู้สึกแบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ความเห็น พวกเขาตรงกัน

พอถึงศูนย์เด็กกำพร้า เขาก็อุ้มลูกลงแล้วไม่สนใจ เธอเลย ตอนนี้พอคลอดลูกแล้ว เธอก็กลายเป็นคนไม่ สำคัญเลย

จากนั้นเขาจึงพูดขึ้น “นี่คุณก็เป็นแม่คนแล้วนะ ทําตัวเป็นเจ้าหญิงน้อยไปได้ ยังจะให้ผมเอาใจอยู่ได้”

เธอจึงรู้สึกอึดอัดใจเบาๆ
ผอทางศูนย์เด็กกำพร้าก็ได้บอกเด็กมาหลายๆ คน แล้วคุยกับคีริน “เด็กพวกนี้ไม่เลว หน้าตาดี ฉลาด ร่างกายแข็งแรง คนที่สูงหน่อยๆอายุเก้าขวบ นี่เจ็ดขวบ นี่หก นี่สามขวบ”

คีรินวางถามหนึ่งเดียวลงบนพื้น “คุณชอบคน ไหน?”

เธอเลยชี้ไปยังคนที่สูงที่สุด คีรินกลับพูดขึ้น “คน นั้นอายุเยอะเกินไป ไม่ได้ คนที่โตกว่าลูกแปดปี ผมจะ ไม่พิจารณา”

พอเธอนึกถึงบางคนที่โตกว่าเธอสิบปี เลยพูด ประชดขึ้น “ฉันจำได้ว่าบางคนโตกว่าฉันตั้งสิบปี ”

เขาเลยมองบนด้วยความไม่พอใจ “เก้าปีเองหรือ

เปล่า”

เธอจึงเบะปาก “ก็เยอะกว่าแค่ปีเดียว”

“คุณคือคุณ ลูกคือลูก มาเทียบกันได้ยังไง?”

“เชอะ”

สุดท้ายเขาก็เลือกเด็กที่อายุหกขวบ

และคนอื่นๆ เขาจะส่งเงินเลี้ยงดูจนถึงอายุยี่สิบ
พอพาเด็กกลับบ้าน คีรินก็ได้ตั้งชื่อให้เขา ชื่อว่า ตะวัน จะได้ส่องแสงและให้ความอบอุ่นกับหนึ่งเดียว

พอหนึ่งเดียวมีพี่ชาย ก็เหมือนจะมีความสุขมาก ตอนนี้ไม่เอาพ่อแล้ว ติดแต่พี่ชาย ตะวันก็ได้มีน้ำใจและ มีความอดทนกับน้องมาก

อีกไม่นานเขาก็ส่งตะวันไปโรงเรียนนานาชาติที่มี ค่าเทอมเป็นล้าน

ตั้งแต่ที่ตะวันมาอยู่ที่บ้าน เขาทำอะไรก็มักจะ ระมัดระวัง และเป็นเด็กที่รู้จักกาลเทศะ คีรินเองก็ถือว่า มองคนเก่ง

จนตอนนี้ตะวันก็เห็นว่าเราเป็นพ่อแม่ของเขาแล้ว ไหนๆเธอคิดจะเลี้ยงดูเขา ก็ต้องทำดีกับเขาเหมือนลูก แท้ๆ และไม่เคยลำเอียงรักลูกตัวเองมากกว่า เธอทำได้ แต่คีรินไม่เคยทําได้

อย่างเช่นตอนที่ไปเที่ยวทะเลด้วยกัน คีรินอุ้มหนึ่ง เดียวใส่ตรงไหล่ แล้วให้ลูกขี่คอ

ญาดาดูออกว่าตะวันรู้สึกอิจฉา เธอเลยคุยเรื่องนี้ กับคีริน เขาเลยให้ตะวันขี่คอเป็นบางครั้ง เขากลับพูด ขึ้นว่าถ้าตะวันทำดีกับลูกสาวเธอ เขาก็จะเป็นลูกเขย ที่ดี แต่ถ้าเขาไม่ดีกับลูกสาว คีรินก็จะทำลายชีวิตของ เขา
เขาเลี้ยงดูลูกคนนี้แต่ให้ความรู้สึกไม่เหมือนกัน เธอเห็นตะวันเป็นลูก แต่เขากลับเห็นตะวันเป็นลูกเขย

ถ้าเขาเป็นลูกเขยไม่ได้ ก็ไม่ได้มีประโยชน์กับคีริน

อีกต่อไป

พอตะวันโตขึ้น คีรินก็ส่งเขาไปเรียนการต่อสู้ เพื่อ ที่จะปกป้องหนึ่งเดียวได้

ส่วนหนึ่งเดียว ก็กลายเป็นคุณหนูเอาแต่ใจที่ถูกคื รินเลี้ยงดูอย่างตามใจ เธอเลยทะเลาะกับเขาไปหลาย ครั้งเกี่ยวกับเรื่องนี้

และเขาก็ได้ตกลงว่าจะให้หนึ่งเดือนไปเรียก อนุบาลตอนอายุสามขวบ ทีแรกเขายังคิดว่าจะให้หนึ่ง เดียวเรียนตอนอายุห้าขวบ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ