บทที่ 215 จิตวิญญาณ
ระหว่างเธอกับคีรินนั้นต่างก็พูดทุกอย่างจนชัดเจน
สําหรับพวกเธอ ไม่มีใครกลับไปรักใครได้อีก
บัญชีชีวิตของพวกเธอได้จบลงแล้ว แต่ทุกอย่าง ยังคงเป็นบาดแผลที่ฝังลึกอยู่ในใจ
ที่หากวันหนึ่ง มีใครสักคนเปิดมันขึ้นมา มันก็จะ เป็นความเจ็บปวดที่ไม่อาจทนได้
คีรินรู้ดี เธอเองก็รู้ดีเช่นเดียวกัน
รินดามองมาที่เธอแล้วถามขึ้นอย่างจริงจัง “ญาดา แกคิดแบบนั้นจริงๆหรอ?”
เธอพยักหน้า “อั้ม ฉันมีความสุขกับชีวตตอนนี้ ดี ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยหรือบางครั้งจะรู้สึกเหงา หรือต้อง ลำบากเพราะความจน แต่ฉันก็มีความสุขกับชีวิตตอนนี้ ดี มีความสุขกับชีวิตที่ไม่มีคีริน”
“ชีวิตที่ไม่มีคุณคีริน?” รินดาพูดทวน
เธอพยักหน้า “อั้ม”
รินดาคลายยิ้ม “ได้ยินแกพูดแบบนี้ ฉันเองก็รู้แล้วว่าควรจะทำยังไง”
ญาดาตบไหลรินดาเบาๆ “ขอให้แกโชคดีนะ! หลังจากที่รินดากลับไปนั้น เธอก็ปิดประตูลง ตอนนี้หัวใจของเธอรู้สึกว่างเปล่าอย่างบอกไม่ถูก เหมือนในส่วนลึกของหัวใจ ต้องการบางอย่างเข้า
มาเติมเต็ม
เธอเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ที่อดทน และทำงานทุกอย่าง เพื่อหวังว่าสักวันความขยันและ พยายามของเธอจะทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น
ตอนที่เจ้านายในบริษัทเข้ามาจีบเธอ เขาเป็นคน ที่อายุไล่เลี่ยกับเธอ มีความสามารถจนเปิดบริษัทเป็น ของตัวเองได้ทั้งๆที่อายุยังน้อย หัวใจของญาดารู้สึก ว้าวุ่น
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ชอบเขา แต่เธอก็อยากลอง สักครั้ง ตลอดยี่สิบหกที่เธอมีชีวิตอยู่นั้น
เธอเคยรักผู้ชายคนหนึ่ง และเคยหวั่นไหวกับ ผู้ชายที่อายุน้อยกว่าเธอถึงสามปี
แต่เธอไม่เคยคบกับพวกเขาอย่างเป็นจริงเป็นจัง สักครั้ง
เธออยากจะลองคบกับใครสักคนจากนั้นก็แต่งงาน กับเขา มีลูกที่น่ารักด้วยกัน ใช้ชีวิตเหมือนที่คนธรรมดา ทั่วไปใช้
นั่นคือสิ่งที่เธอต้องการ
ถึงแม้ว่าเธอจะเตรียมใจแล้วว่า ชีวิตนี้อาจจะต้อง โดดเดี่ยวไปตลอดชีวิต
แต่อีกทางหนึ่ง เธอกลับกลัวเหลือเกินว่าความเหงา จะกัดกินหัวใจของเธอ
คืนนั้นหลังจากที่เลิกงาน ญาดามองไปรอบๆ มีแสง ไฟสลัวๆอยู่เต็มท้องถนน ทันใดนั้นเองเสียงของพ่อก็ดัง ก้องอยู่ในหูของเธอ
“ญาดา การที่เราเกิดมาบนโลกใบนี้ เราควรทำ หรือเหลืออะไรไว้กับโลกใบนี้บ้าง” คำพูดที่ดังก้องนั้น ทำให้ญาดาครุ่นคิด “คนเราจะเหลืออะไรไว้ให้กับโลก ได้บ้าง แล้วคำตอบนั้นก็คือคำว่าลูก จู่ๆญาดาก็เข้าใจ แล้วว่าทำไมคีรินถึงอยากมีลูก ทั้งๆที่เขาไม่ใช่ผู้ชาย ที่รักเด็ก แต่เขากลับอยากมีลูก ไม่ใช่เพียงเพราะเป็นผู้ สืบทอด แต่เป็นเพราะถ้าหากวันหนึ่งที่เขาจากโลกใบ นี้ไปแล้ว อย่างน้อยก็ยังมีลูกที่คอยใช้ชีวิตอยู่บนโลก แทนเขา”
การที่เราไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงบนโลกใบนี้
หากมองในแง่ดีคงจะน่าอิจฉา
แต่หากมองในมุมกลับกัน กลับรู้สึกเวทนา เพราะ ไม่มีสิ่งใดให้ห่วงเราจึงไม่ต่างจากร่างกายที่ไร้ซึ่งจิต วิญญาณ
ตอนนี้ญาดารู้สึกเหมือนเธอเป็นเพียงร่างที่ไร้ วิญญาณ เธอมีลมหายใจแต่กลับไม่รู้สึกถึงจิตวิญญาณ ของตนเอง
เธอไม่มีญาติหลงเหลืออยู่บนโลกใบนี้ ไม่มีสิ่งใด
ทั้งนั้น
เวลาที่เธอทุกข์ใจก็ไม่มีใคร เธอไม่สามารถบอก เล่าเรื่องราวเหล่านั้นให้กับใครฟังได้
จู่ๆเธอก็คิดถึงเอเชียขึ้นมา เขาทำให้ชีวิตของเธอ ตอนอยู่ที่เยอรมันไม่รู้สึกโดดเดี่ยวแม้แต่น้อย
ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นยังไงบ้าง ยังสบายดีไหม? เธอไม่ได้ติดต่อเขานานแล้ว ระหว่างเธอกับเขายังไม่ เคยคบกันจริงๆจังมาก่อน มีเพียงความรักและความเป็น ห่วงซึ่งไม่เคยพูดกันอย่างชัดเจนก็เท่านั้น
สิ่งที่ญาดาต้องการในตอนนี้……
คือการเริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับใครสักคน ที่ สามารถแต่งงานและสร้างครอบครัวไปด้วยกัน
เย็นวันนั้นหลังจากที่เลิกงาน ดนัยซึ่งก็คือเจ้านาย ของเธอ เดินมาตรงหน้าญาดาแล้วพูดขึ้น
“ญาดา คืนนี้ออกไปกินข้าวด้วยกันไหม คุณมา ทำงานที่บริษัทตั้งนานแล้ว ผมที่เป็นบอสของคุณยังไม่ เคยได้เลี้ยงข้าวคุณเลย”
ญาดาคลายยิ้ม “จะเลี้ยงข้าวฉันแค่คนเดียวหรอ คะ แล้วพนักงานมาใหม่คนอื่นๆล้ะ เดี๋ยวจะถูกเอาไป นินทาได้นะคะ”
ดนัยหัวเราะ “แล้วคุณกลัวไหม?”
ญาดายักไหล่ “ทำไมฉันต้องกลัวด้วยค่ะ?” ดนัยยิ้ม แล้วหยิบเสื้อคลุมมาพาดไว้ที่ไหล่ เธอกับเขาเดินไปที่รถ รถของเขาเป็นรถธรรมดา ราคาล้านต้นๆ
ญาดาครุ่นคิด บางทีเขาอาจจะเป็นผู้ชายที่เหมาะ กับเธอก็ได้ เขาไม่จำเป็นต้องมีเงินทองมากมายเหมือน คีริน ขณะที่เธอมีความคิดนี้ขึ้นมาในหัวนั้น
ญาดาเองก็ตกใจ เธอไม่รู้ว่าตัวเองมีความคิดแบบนี้
ได้ยังไง
เธอไม่ได้คิดว่าตัวเองชอบเขาหรือเปล่า แต่กับให้ ความสำคัญว่าเขานั้นเหมาะสมกับตนหรือไม่
คงเป็นเพราะเธอไม่อยากให้ชีวิตของตนเองต้อง จมอยู่กับความรักที่เจ็บปวด
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ