เล่ห์รักนายซาตาน

บทที่ 211 เขาต้องการกลั่นแกล้งเธอชัดๆ



บทที่ 211 เขาต้องการกลั่นแกล้งเธอชัดๆ

พอรินดาแนะนำเธอแบบนี้ เธอเลยตัดสินใจจะ เข้าไปสมัครงานบริษัทQS เธออยากมีบ้านอยากมีรถ ตอนนี้ญาดากับคีรินก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันอีก การก ระทำของเขาในวันนั้น ก็ไม่บอกก็รู้ว่าเขาคงไม่ยุ่งเกี่ยว กับเธออีก ต่อจากนี้ก็คงทำเป็นไม่รู้จักกัน

เธอไม่ได้กังวลว่าเขาจะมายุ่งเกี่ยวกับตัวเองอีก ไม่ สิ ต้องบอกว่าคีรินคงไม่ต้องกังวลว่าเธอจะไปยุ่งกับเขา อีก!

แค่นึกถึงฐานเงินเดือนและผลตอบแทนพนักงาน ในบริษัทคีริน เธอก็รู้สึกตื่นเต้นมากแล้ว ทำไมเธอถึง รู้สึกแค่ทำงานในบริษัท QSเพียงแค่หนึ่งปีก็สามารถซื้อ บ้านซื้อรถได้แล้ว คนเราก็มักจะฝันลมๆแล้งๆ เหมือน ตอนนั้นที่เธอชอบมาร์วิน ก็มักจะฝันว่าจะได้แต่งงานกับ เขา

พอกลางคืนพอเธอส่ง Resume ไปให้บริษัทQS วันที่สองทางบริษัทก็ติดต่อให้ไปสัมภาษณ์ บริษัทของ เธอสมัครไปไม่ได้อยู่ในบริษัทแม่ และเป็นหนึ่งบริษัท ย่อย แต่ออฟฟิศห่างจากบริษัทแม่ไม่ไกล ก็แค่ห่างกัน แค่ซอยเดียว

วันที่จะสัมภาษณ์ เธอตื่นตั้งแต่เช้า และได้ใส่ชุด สูททำงานที่รินดาให้เธอ ตัวเธอไม่ได้สูงมากนัก เลย ต้องใส่ส้นสูงประมาณแปดมิล จริงๆเธอก็สูงประมาณ 165 แล้ว แต่แค่ตอนไปสัมภาษณ์ก็ต้องดูสง่าและโดดเดียวกว่าคนอื่นหน่อย

รินดาก็ตื่นขึ้นมาแต่งตัวให้เธอด้วย “แกแต่งหน้า แล้วหรอ?”

ญาดาพนักหน้า “อืม มันดูเข้มไปหรอ”

เธอก็รู้สึกว่าตัวเองแต่งหน้าเข้มกว่าปกติ

รินดาจึงพูดขึ้น “ยังดี แค่รู้สึกสวยเกินหน้าเกิน ตา เหมือนกำลังจะไปนัดบอรด แต่ถ้าทำงานด้านดีไซน์ การแต่งตัวแบบนี้ถือว่าดี จะได้ดึงดูดลูกค้าได้ แก คงจะได้คะแนนเพิ่มขึ้นจากส่วนนี้ เพราะแกสามารถใช้ หน้าตาของตัวเองไปดึงลูกค้าในอนาคต ถ้าพวกเขารับ แกทำงาน”

เธอข้องเกี่ยวกับคีรินมาสองสามปี และทำงานใน ด้านนี้มานานพอสมควร เธอก็รู้ดีว่าสถาปนิกสามารถ ใช้หน้าตาในการดึงดูดลูกค้าที่ต้องการออกแบบอาคาร เรือน เธอเลยตั้งใจแต่งหน้าแบบนี้

เธอได้คิวสัมภาษณ์เป็นคนที่ห้า ถึงแม้เธอจะมี ประสบการณ์ด้านนี้บ้าง การศึกษาก็ถือว่าใช้ได้ เพราะ เธอก็เคยไปเรียนออกแบบที่เยอรมันมา แต่เพราะไม่ ได้ทำงานมานาน อีกอย่างตอนนี้เธออายุ26แล้ว แต่ยัง ไม่แต่งงานและยังไม่มีลูก ก็คงจะเป็นจุดเด่นของเธอ ปัญหาพวกนี้ทางบริษัทก็คงจะคำนึงถึง
ตอนนี้ญาดารู้สึกมั่นใจได้ตัวเองมาก แต่พอถึง สถานที่สัมภาษณ์ เธอเห็นสถาปนิกมาสัมภาษณ์ที่มี ตั้งแต่อายุยี่สิบต้นๆ และจนถึงอายุสามสี่สิบ ดูทุกคนก็ มากประสบการณ์ ความเชื่อมั่นในตัวเองจึงน้อยลง

เธออาจจะไม่ได้เข้าไปทำงานในบริษัทนี้ก็ได้

ตอนที่ใกล้ถึงเธอเข้าสัมภาษณ์ เธอกลับได้เจอ หน้าของคนที่ไม่อยากเจอมากที่สุด นั่นก็คือคีริน

ทำไมเธอถึงโชคดีได้ขนาดนี้ มาสัมภาษณ์ใน บริษัทย่อย กลับสามารถเจอท่านประธานใหญ่ เขาเดิน ผ่านเธอไป ไม่แม้แต่จะมองเธอเลยสักนิด

จะมองหรือไม่มองเธอก็ไม่ได้สำคัญกับเธออะไร เขาไม่ได้มาทำงานที่นี่สักหน่อย ยังไงเธอก็คงไม่ได้เจอ หน้าเขาทุกวันหรอก

พอนึกถึงแบบนี้เธอก็รู้สึกโล่งอกไปมาก

หลังจากที่คีรินและคนอื่นๆเดินผ่านเธอไป จากนั้น ก็มีผู้เข้าสัมภาษณ์คนอื่นๆต่างก็ซุบซิบขึ้น “เมื่อกี้เป็น ท่านประธานบริษัทQSใช่ไหม ฉันว่าใช่นะ ตัวจริงเขาดู หล่อกว่าในรูปอีก”

สาวสวยอีกคนเลยพูดขึ้น “ใช่ ตอนนี้ยังโสดและ หย่าไปแล้วด้วย ไม่รู้ว่าผู้ชายแบบนี้จะชอบผู้หญิงแบบไหนกัน เห้อ ผู้หญิงคนนั้นต้องโชคดีมากๆแน่

โชคดี?? เธอเคยถูกเขาชอบ ไม่เห็นรู้สึกว่าตัวเอง โชคดีตรงไหนเลย

ยังดีตอนนี้เขาไม่ชอบตัวเองแล้ว

ผู้หญิงที่อายุประมาณวัยกลางคนก็พูดขึ้น “ได้ ข่าวว่าท่านประธานมีลูกสาว ไม่รู้ว่าเป็นของอดีตภรรยา หรือของเมียน้อยกันแน่”

และหญิงสาวอีกคนก็พูดขึ้นอย่างไม่พอใจ “ทาง บริษัทได้รายงานข่าวมาแล้ว เด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกสาว ของคุณคีริน เป็นลูกสาวของเพื่อนคุณคีริน คุณคีริน ชอบเด็กคนนั้นเลยอุ้มตลอด เขาเป็นคนรักเด็ก ทุกปี ก็ต้องบริจาคเงินจำนวนมหาศาลให้มูลนิธิ เขาใจกว้าง มาก”

ดูเหมือนมีแต่คนคอยชื่นชมคีริน

ตอนที่เธอเข้าไปสัมภาษณ์ ผู้สัมภาษณ์ดูประวัติ ส่วนตัวของญาดา แล้วถามขึ้น “26แล้วหรอ?

ญาดาพยักหน้า “ใช่ค่ะ พึ่งจะยั่งเข้า 26 ไม่นานมา

นี่ค่ะ”

เธอตอบคำถามอย่างกับคนโง่ ผู้สัมภาษณ์ดวันเกิดก็รู้แล้ว

“ยังไม่แต่งงาน ไม่มีลูก

เธอพยักหน้าอีกครั้ง “ใช่ค่ะ ห้าปีหลังจากนี้ยังไม่มี แพลนที่จะแต่งงานมีลูกค่ะ”

เธอคิดว่าเธอตอบแบบนี้ จะทำให้ผู้สัมภาษณ์ได้ คลายความสงสัย แต่เด็กจบใหม่ก็สามารถพูดได้ว่ายัง ไม่มีแพลนแต่งงานในห้าปีหลังจากนี้!

ผู้สัมภาษณ์จึงพูดขึ้น “คุณญาดาห้ามพูดอะไร เรื่อยเปื่อยแบบนี้ ความรักมันไม่เข้าไกลออกใคร ถ้าถึง เวลาที่มันจะมา มันก็มาเอง จะห้ามให้ไม่แต่งงานยังไงก็ ห้ามไม่อยู่”

ดูเหมือนผู้สัมภาษณ์จะสนใจเรื่องนี้มาก จะห้าม ให้ไม่แต่งงานยังไงก็ห้ามไม่อยู่ นั่นมันคนอื่น ไม่ใช่เธอ แน่นอน ชาตินี้ทั้งชาติเธอคงไม่อยากมีความรักอีก

ได้ตายใจไปแล้ว

ผู้สัมภาษณ์พูดขึ้น “ทางบริษัทไม่ได้ต้องการ พนักงานที่อยู่ในช่วงอายุแบบนี้ ที่ยังไม่ได้แต่งงานมีลูก ครับ”

เธอรู้สึกโกรธมาก ทางบริษัทกลับไม่ได้จะรับผู้หญิงที่อายุวัยประมาณนี้ แต่ยังไม่แต่งงาน แล้วทำไมถึง โทรมาเชิญเธอเข้ารับสัมภาษณ์ ทำให้เธอเสียเวลามาที่ นี่

“บริษัทของคุณไม่ได้เขียนไว้ว่าไม่เอาพนักงาน วัยประมาณดิฉัน ที่ยังไม่ได้แต่งงานมีลูกเข้าทำงาน หรือพูดง่ายๆก็คือ ทางบริษัทได้ดูประวัติส่วนตัวของ ดิฉันก่อนหน้านี้แล้ว ถึงจะตามตัวดิฉันมาสัมภาษณ์ ทำไมค่ะ จู่ๆตอนนี้ก็มาแจ้งว่าไม่รับคนประเภทดิฉันเข้า ทำงาน ทำไมทางบริษัทถึงได้ทำเรื่องแย่ๆแบบนี้ออก มา”

น้ำเสียงที่พูดขึ้นของผู้สัมภาษณ์ไม่ได้เป็นมิตรอีก ต่อไป แต่ก็ยังมีท่าทีที่ดี “จริงๆคุณสมบัติของคุณครบ ตามที่เราต้องการ คุณมากประสบการณ์และมากความ สามารถ และยังทำโปรเจคใหญ่ด้วยตัวคนเดียว ถ้าคุณ มาสัมภาษณพนักงานที่เรารับเมื่อวาน ทางเราคงจะเข้า รับคุณทำงาน”

เธอจึงตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด “แล้ว ทำไมถึงสัมภาษณ์วันนี้ไม่ได้หรอค่ะ หรือว่าทางบริษัท รับพนักงานครบแล้ว? ถ้ารับครบแล้วทำไมยังต้องโทร เรียกดิฉันมาสัมภาษณ์ ให้ดิฉันมาเสียเวลาแบบนี้ไป ทำไม?”

ผู้สัมภาษณ์จึงอธิบายขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็น “พนักงานยังรับสมัครไม่ครบครับ แต่วันนี้ไม่รู้ว่าทำไมท่านประธานถึงมาเยือนที่นี่ ปกติท่านประธานไม่เคยมา ยุ่งเกี่ยวกับระบบการจัดการการทำงานของบริษัทย่อย แต่วันนี้ พอท่านประธานดูResumeของผู้ที่มาเข้ารับ การสัมภาษณ์ ท่านให้กำชับว่าอย่างเด็ดขาดว่าไม่รับผู้ หญิงที่มีอายุช่วงวัย 25-30 ที่ยังไม่ได้แต่งงานมีลูกเข้า มาเป็นพนักงานของบริษัท ต้องขอโทษด้วยนะครับ”

ท่านประธาน เหอะ ๆก็ คือคีรินไม่ใช่หรือ

ไง?

ผู้หญิงที่มีอายุช่วงวัย 25-30 ที่ยังไม่ได้แต่งงานมี ลูก นี่เขาต้องการกลั่นแกล้งเธอชัดๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ