เล่ห์รักนายซาตาน

บทที่ 172 ฉันฉีกสัญญาบ้าๆนั้นแล้ว



บทที่ 172 ฉันฉีกสัญญาบ้าๆนั้นแล้ว

ญาดารู้ว่าป้าจางเคยแต่งงาน แต่ตอนที่ยังเป็นหนุ่ม เป็นสาว นิสัยของทั้งสองวันไม่ดี เลยต้องหย่ากัน และ ไม่มีลูกกันด้วย เลยอยู่เป็นคนรับใช้ในบ้านสุขสำราญ ไม่แต่งงานกับใครอีก

นี่ถือว่าเป็นการใช้ประสบการณ์ที่เธอมีมาเป็นแบบ

อย่าง!

ยังไงเธอก็หวังว่าเธอกับคีรินจะดีกัน เธอเลยพยัก หน้า “รู้แล้วน่ะ ป้าก็อายุเยอะแล้ว รีบไปหลับเถอะ”

ป้าเลยพูดขึ้น “คนอายุเยอมักจะไม่ง่วงนอน เดี่ยว ป้าจะรอที่ห้องรับแขกเองนะคะ”

เธอพยักหน้าแล้วไม่ได้พูดอะไรอีก

เธอสั่งให้คนขับขับเร็วๆหน่อย หวังว่าจะตาม คีรินทัน ระหว่างทางไม่เจอรถของเขาเลย และไป ผับWTBก็ไม่เจอตัวเขา เธอโทรหาเขาก็ไม่รับสาย เธอ พึ่งจะนึกได้ตอนที่เขากลับมา เขาได้เอามือถือออกจาก กระเป๋ากางเกงแล้วโยนลงบนเตียงแล้ว

เธอโทรหาที่บ้าน ป้าจางเลยบอกว่า คีรินน่าจะ ไปัขับรถที่เรียบทางด่วยหรือเปล่า เพราะทุกคืนเขา มักจะไปซิ่งรถที่นั่น ก่อนหน้านี้เขาก็ไปที่นั่นหลายครั้ง ตอนที่เขาประสบอุบัติเหตุก็อยู่ที่นั่น
เธอเลยสั่งให้คนขับขับไปเรียบทางด่วย เป็นครั้ง แรกที่เธอพึ่งจะสังเกตเห็นว่าตัวเองไม่ได้รู้จักคีรินเลย เธอนึกมาตลอดว่าเธอรู้จักเขาดี

ตอนนี้กลับไม่ใช่ เขาโกรธเลยออกจากบ้าน เธอก็ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะไปไหนได้ เพื่อนของเขาเป็นใคร เธอกับเขาก็ถือว่ารู้จักกันมายี่สิบเอ็ดปีแล้ว และได้เข้า มาพัวพันกันมาสามสี่ปี แต่เธอกลับรู้จักเขาน้อยมาก

จริงๆความสัมพันธ์ของเขาและเธอ มีแค่เขาที่ยอม เสียสละทุกอย่าง เขาจะรู้สึกไม่เป็นธรรมไหม?

แต่เธอมักจะคิดว่าเขาไม่ดีกับเธอ จริงๆแล้วชีวิต การแต่งงานต้องมีใครคนใดคนหนึ่งเสียสละก็เป็นเรื่อง ที่สมควร เขาควรทำแบบนี้ เขาพูดเอง แล้วเขาก็ติดค้าง เธอด้วย เขาบอกเขาจะใช้คืน

เขาพูดจริง เธอก็คิดจริง จริงๆเขาไม่ได้อยากให้ เรื่องที่ผ่านมามาทำให้พวกเขามีปัญหากันอีก เขาแค่ อยากจะใช้ชีวิตกับเธอไปดีๆ

ดังนั้นเขาเลยยอมทำทุกอย่างเพื่อประคับประคอง ความสัมพันธ์ครั้งนี้ของเรา นี่อาจจะไม่ยุติธรรมต่อเขา จริงๆ! เธอคิดว่าเธอควรโตเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ ไม่ใช่ ว่าเอะอะอะไรก็จะหย่า ต่อให้ผู้ชายที่รักเธอมาก ยังไงก็ ทนต้องมีสักวันที่ทนไม่ไหว
เธอกับคนขับเลยขับไปที่ถนนเรียบทางด่วน คีริน ไม่ได้ซิ่งรถ แต่เขาพิงอยู่ตรงรถไมบัคสีดำแล้วสูบบุหรี่ ลงปลายเท้าของเขามีก้นบุหรี่ทิ้งไว้เต็มไปหมด

เธอเอาเสื้อกันหนาวของเขาไว้ จากนั้นก็เขย่งเท้า เอาเสื้อคลุมข้างหลังให้เขา คีรินจึงหันมามองเธอด้วย สายตาที่ไม่น่าเชื่อ เขาคงนึกไม่ถึงว่าเธอจะไปหาเขา

“ฉันกลัวว่าคุณจะเมาแล้วขับรถซิ่ง ยังดีที่ไม่ได้ เป็นแบบนั้น คุณยังจะมาว่าฉันอีก อายุของคุณก็ 36 แล้ว ทำไมยังทำตัวเหมือนเด็กอนุบาล ดึกๆดื่นๆก็หนี ออกมาแบบนี้ คุณไม่รู้หรือไงว่าคุณมีภรรยา เธอคงจะ เป็นห่วงคุณ”

คีรินจึงทิ้งบุหรี่ลงบนพื้น แล้วยื่นเท้าไปเหยียบให้ ไฟดับ “ผมดื่มเหล้า ผมมีภรรยาแล้ว มีไม่มีทางซิ่งรถ แน่นอน ผมเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ ผมยังอยากจะ ใช้ชีวิตอยู่ดีๆบนโลกใบนี้ วางใจเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วง ผม”

เธอเดินไปข้างหน้าเขาแล้วเงยหน้ามองเขา อยาก พูดอะไรบางอย่างออกมาแต่ก็พูดไม่ออก

จึงได้แต่มองเขาอยู่อย่างนี้ เขาเห็นเธอทำแบบนี้ เลยรู้สึกเบื่อ จึงเอ่ยพูดขึ้นก่อน “ผมคิดว่าผมอารมณ์ เสียใส่คุณอีกครั้ง แล้วคุณกำลังคิดถึงเรื่องหย่าซะอีก นึกไม่ถึงว่าคุณจะมาหาผม ผมเข้าใจผิดไหมที่ว่าคุณไม่ได้โกรธผมแล้ว?”

“ศิรินจริงๆฉันก็มีส่วนผิด ฉันไม่ควรเอาเรื่องหย่า มาข่มขู่คุณ ระหว่างคู่สามีภรรยา การอภัยให้กันเป็นสิ่ง ที่สําคัญ เรายังเป็นคู่รักใหม่ๆ ไม่รู้ว่าชีวิตการแต่งงาน เป็นยังไง วันข้างหลังเราค่อยๆเรียนรู้ ค่อยๆพัฒนากัน ไป ข้างนอกอากาศเย็น ฉันไม่สบาย เรากลับกันเถอะ!”

คีรินได้ยินเธอบอกว่าไม่สบายเลยรีบเอาเสื้อกัน หนาวที่คลุมไว้ให้เธอ แต่เขาเองก็ใส่แค่เสื้อเชิ้ตตัวบาง เท่านั้น

เธอเลยรีบบอกเขาว่าไม่ต้อง แค่เขาก็ยัดเหยียดให้ เธอ “ผมเป็นผู้ชายไม่หนาว

จริงๆเขาเป็นคนกลัวหนาวที่สุด เขาเป็นคุณชายที่

ไม่เคยเจอความลำบาก เธอกลับแกร่งกว่าเขาเยอะ

เขาเลยกดไหล่ของเธอไว้ “คุณไปขึ้นรถรอผม ก่อน ผมอยากตากลมเย็นข้างนอก”

ญาดาพูดขึ้น “คุณอยากตาก ฉันจะอยู่เป็นเพื่อน คุณเอง”

เธอกอดเธอไว้แน่นๆ “คุณรู้ไหม ตอนผมอยู่นี่ผม คิดอะไรอยู่?”
เธอถามขึ้น “คิดอะไร?”

เขาพูดขึ้น “คิดว่าจะกลับไปขอโทษคุณยังไง ทำ ยังไงให้คุณไม่โกรธ แล้วทำยังไงคุณถึงไม่หย่ากับผม จริงๆผมก็รู้สึกว่าผมควรไปพบจิตแพทย์ รู้สึกสมอง ตัวเองไม่ปกติ ผมไม่ควรอารมณ์เสียใส่คุณ ขอโทษ นะญา”

เธอจึงยิ้มขึ้น “คุณน่ะเป็นแบบนี้ตลอด แต่ยังไงฉัน ก็ผิดเองแหละ ฉันไม่ควรให้คุณเขียนสัญญาอะไรบ้าๆ นั่น”

เขาก้มหัวลงแล้วจูบซอกคอของเธอ “งั้นคุณฉีก มันทิ้งไปหรือยัง?”

เธอหยุดชะงักไป ยังดีที่เธออยู่ในอ้อมกอดเขาเลย

ทำให้เขาไม่เห็นสีหน้าตอนนี้ของเธอ

“จริงๆฉันก็แค่อยากจะลองใจคุณเท่านั้น สัญญา นั่น..……….ฉันฉีกมันแล้วทิ้งเข้าไปในชักโครกแล้ว ระหว่างเราจะได้มีความเชื่อใจกัน”

เธอโกหก

เขาจึงดึงเธอออกจากอ้อมกอดของเขา ถึงแม้ฟ้า จะมืดแต่เพราะมีไฟตามท้องถนน แต่ก็ไม่ทำให้เห็นถึง สีหน้าที่แท้จริงของพวกเขา ก่อนหน้านี้เธอโกหกทีไรมักจะหน้าแดง ตอนนี้หน้ากลับไม่แดง แต่ยังไงสีหน้าก็ คงดูไม่ธรรมชาติ

“คุณฉีกทิ้งไปแล้วจริงๆหรอ? วันข้างหน้าอย่าให้ ผมเขียนอะไรแบบนั้นอีกนะ” คีรินถามขึ้นอย่างไม่น่า เชื่อ

เธอพยักหน้า “ฉีกทิ้งลงในชักโครกแล้ว ฉันไม่ได้ โกหกคุณ!

เธอคิดว่าคีรินโกหกเธอไปหลายครั้ง นี่คงเป็นครั้ง แรกที่เธอโกหกเขามั้ง ถ้าระหว่างพวกเขาไปด้วยกัน อย่างดี และไม่มีวันบอกเลิกบอกให้หย่ากัน เธอก็คงไม่มี ทางเอาหนังสือนี้ออกมา

คีรินจึงกอดเธออีกครั้ง จากนั้นก็ใช้มือใหญ่ๆลูบ หลังเธอ “ญา ขอบคุณนะที่ยอมเชื่อผม”

เขาพูดแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกละอายใจมาก

“กลับบ้านเถอะ คุณใส่เสื้อบาง ครั้งนี้เป็นโรค ปอดบวมยังไม่รู้อีกหรอ ยังบอกว่าเป็นหัวหน้าครอบครัว ก็ต้องเห็นความสำคัญของสุขภาพตัวเองก่อน เข้าใจ ไหม?”

เธอไม่อยากคุยเรื่องนั้นต่อให้ เพราะรู้สึกละอายใจ จึงรีบเปลี่ยนเรื่องคย เขาจึงตอบกลับ “อั้ม กลับบ้าน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ