ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 244 ตอนจบ



ตอนที่ 244 ตอนจบ

ชายทั้ง2คนยังคงเงียบ เธอจึงคิดว่าคำพูดของตัวเองนั้น ได้ผล พูดต่ออีก “ตอนนี้ทัตดาก็เหมือนแมลงวันที่ถูกบีบ บังคับให้เข้าไปอยู่ในขวดแก้ว ไร้อนาคต ไม่มีทางออก หากพวกคุณยังอยู่กับเธอก็เหมือนรอวันตายเท่านั้น พวก คุณต่างก็มีครอบครัว คุณไม่เคยคิดเลยหรือว่า บางที ภรรยาของพวกคุณอาจจะสูญเสียคุณไปเพราะการกระ ทำที่ไร้สติของพวกคุณเอง ลูกก็ขาดพ่อ พ่อแม่ที่ต้องสูญ เสียลูกชายไป?”

“ฉันเชื่อว่าพวกคุณแค่ตัดสินใจผิดไปชั่วขณะ ถ้าตอน นี้คุณจอดรถซะ ในกระเป๋าฉันมีบัตรกดเงินอยู่ 1 ใบ พวกคุณเอาไปได้เลย รับรองว่าเงินสดทั้งหมดที่มีอยู่ใน นั้นมากกว่าค่าจ้างลักพาตัวในตอนนี้เป็นไหนๆ พี่ชาย ขอร้องพวกคุณล่ะ จอดรถให้ฉันเถอะนะ?”

“หุบปากลงซะ”

ในที่สุดชายหนึ่งในสองคนนั้นก็เอ่ยขึ้น แต่สิ่งที่ผลิน กลับรู้สึกแปลกใจคือ เธอพูดออกไปตั้งเยอะแต่ชายทั้ง สองคนกลับไม่รู้สึกอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นยังบอกให้เธอ หยุดพูดอีก ดูเหมือนว่าคนที่จะถึงคาดคือตัวเธอเองจริงๆ แล้วไม่ใช่พวกเขา

ความสิ้นหวังค่อยๆคืบคลานเข้ามาในใจ พวกเขาทำ เหมือนไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

“เอาล่ะ ฉันไม่พูดแล้วก็ได้ พวกคุณอย่ามาแตะต้องตัว ฉันนะ”
ขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังถือเทปเพื่อปิดปากเข้ามาใกล้ เธอ เธอรู้งานจึงรีบบอกออกไปอย่างนั้น

รถหยุดลงแล้ว หยุดลงตรงหน้าประตูของตึกสูงแห่ง หนึ่ง ผลินถูกชายสองคนลากแขนเข้าไป ก่อนลงจากรถ ชายคนหนึ่งบอกกับเธอว่า : “ถ้าแกกล้าร้องตะโกนให้คน ช่วยล่ะก็ ระวังเด็กในท้องของแกไว้ให้ดี

สายตาของเขานั้นเกรี้ยวกราด แต่เหมือนไม่ได้ตั้งใจจะ ข่มขู่เธอ ผลินพยักหน้ารับด้วยสีหน้าขาวซีด สายตาจ้อง มองไปข้างหน้า ตัวอักษรโลหะสีทอง 4 ตัว “Tian Ma Ji Tuan” แสดงไว้อย่างชัดเจนว่าที่เธอเดาไม่มีผิด

ทัตดาที่แท้ก็แค่สุนัขจนตรอก

เธอถูกดึงตัวออกจากรถ เมื่อหันมองรอบตัวก็พบว่าที่ บริเวณใกล้ๆไม่มีใครอยู่ให้เธอขอความช่วยเหลือได้เลย แต่ถึงแม้จะมี เธอก็ไม่กล้าร้องตะโกนอยู่ดี เธอไม่กล้า เสี่ยงกับสถานการณ์ในตอนนี้

ขืนทำให้ผู้ร้ายสองคนนั่นไม่พอใจเข้าละก็ คนที่จะถูก ทำร้ายก็คือเด็กในท้องเธอเองนั่นแหละ

ชายทั้งสองคนพาเธอไปขึ้นลิฟท์ ลิฟท์มุ่งตรงขึ้นไปยัง ชั้นบนสุดในคราวเดียว เมื่อประตูลิฟท์เปิดออก เธอถูก นักเลงจับตัวไปไว้บนชั้นดาดฟ้า

ลมหนาวปะทะเข้ากับใบหน้าของเธอ ฉับพลันเธอจึง สั่นไปทั่วทั้งตัว เธอเห็นคนคนหนึ่งยืนอยู่ในมุมสลัวๆข้าง หน้า คนคนนั้นค่อยๆหันหน้ามา พร้อมสีหน้าอันร้ายกาจราวกับแม่มดในเทพนิยาย สายตาทั้งสองข้างแหลมคม จ้องมองมาพร้อมกับความเย็นชา

“ทัตดา คุณคงหมดสิ้นหนทางแล้วสินะ? คุณลักพาตัว ฉันมาที่นี่ทำไม? คดีเก่าที่มีอยู่ยังไม่มากพอใช่ไหม ยัง อยากได้คดีเพิ่มข้อหาลักพาตัวอีกหรือยังไง?”

ทัตดาหัวเราะเสียงดัง เสียงนั้นน่าสะพรึงกลัวไร้ที่ เปรียบ ชวนขนหัวลุก

“ก็เพราะว่ามีคดีมากมายแล้วนะสิ ดังนั้นจะขอเพิ่มอีก สักคดีสองคดีจะเป็นอะไรไปล่ะ”

เธอออกคำสั่งไปที่ผู้ชายสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังผลิน “พวกแกกลับไปได้แล้ว เอากุญแจล๊อคประตูด้านนอกชั้น ดาดฟ้าไว้ด้วย แม้แต่ยุงเพียงตัวเดียวก็อย่าให้มันหนีออก ไปได้!

ชายทั้งสองคนพยักหน้า เอากระเป๋าของผลินวางไว้ที่ มุมกำแพงด้านนอก หันหลังเดินจากไป ได้ยินเพียงเสียงล๊ อกประตูกระจกที่อยู่ด้านหลัง

“ตกลงคุณต้องการอะไรกันแน่?

ผลินตกใจที่เห็นว่าในมือของทัตดานั้นถือมีดเอาไว้เล่ม หนึ่ง และค่อยๆก้าวเข้ามาหาเธอ

เธอถอยหลังไปจนสุดทางแล้ว จนต้องเปลี่ยนทิศทาง ถอยหลังไปอีกด้านหนึ่ง “คุณป้าทัตดาคะ ใจเย็นๆก่อนนะ คะ มันก็แค่การล้มละลาย คุณไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้นี่คะ คุณช่วยใจเย็นๆหน่อยได้ไหมคะ เรามาตกลง กันดีดีดีกว่าค่ะ.…………..

“ล้มละลาย? อ้อ พูดง่ายดีนี่ ก็แค่ล้มละลาย แกลอง ให้ปยุตล้มละลายดูบ้างสิ แกคิดว่าการสร้างอาณาจักร ทางการค้าเป็นเรื่องง่ายขนาดนั้นหรือไงห้ะ?”

“ในเมื่อคุณก็รู้อยู่แล้วนี่ว่ามันไม่ง่าย ทำไมถึงไม่ทำให้ มันถูกต้องล่ะ กลับใช้วิธีฉวยโอกาสแบบนี้มาตลอด? นี่ เป็นความผิดของคุณเองทั้งหมด คุณทำให้ตัวเองต้องจน ตรอกเองนะ”

“ไม่ใช่ฉัน ปยุตต่างหากล่ะ ปยุตทำให้ฉันต้องเดินมาอยู่ ณ จุดนี้ ฉันเคยบอกเขาแล้วว่า อย่าทำให้คนอื่นต้องจน มุม แต่เขาไม่ฟังเอง ดีล่ะ ก็เขาอยากไม่เชื่อเอง ถ้างั้นวัน นี้เธออย่ามาหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน ถ้าจะโทษไปโทษ สามีของเธอที่เลือดเย็นโน่น โทษพ่อสามีของเธอโน่นที่ เป็นคนเริ่มก่อน พ่อของปยุตเป็นคนทำลายชีวิตฉัน ฉันจะ ให้พวกเขาได้ลิ้มรสความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียของรัก ของหวงไป!”

ปยุตรับสายของจันทรในทันที เขาขมวดคิ้วแน่น “ฮัล โหล?”

ปลายสายปรากฏเพียงความเงียบ เขาถามซ้ำอีกครั้ง ด้วยน้าเสียงราคาญ : “ฮัลโหล? ถ้าไม่พูดผมวางแล้วนะ!”

“พี่ปยุตคะ เรื่องที่พี่อยากให้ฉันช่วยยืนยัน ฉันกลับมา คิดดูแล้ว ฉันยินดีที่จะบอกความจริงกับพี่แล้วคะ”
ทันใดนั้นปยุตขึงขังขึ้นมาทันที : “พูดสิ รีบพูดมา?”

“ความจริงคืออย่างนี้ค่ะ..…..…….…..

จันทรค่อยๆเล่าเรื่องราวออกมาทางโทรศัพท์ เมื่อเธอ เล่าจบ เธอได้ยินเสียงที่ปลายสายถอนหายใจออกมา อย่างชัดเจน

“ทำไมจู่ๆถึงอยากจะมาสารภาพซะล่ะ?”

ปยุตนึกย้อนไปถึง2-3ครั้งก่อนหน้านี้ ไม่ว่าเขาจะใช้วิธี อะไร ก็ไม่สามารถทําให้เธอเปิดปากเล่าความจริงออกมา ได้ แต่ก็ช่างมันเถอะ

“คนทุกคนต่างก็มีช่วงเวลาที่รู้จักผิดชอบชั่วดี ฉันก็มี เหมือนกัน เพียงแต่ว่าอาจจะช้ากว่าคนอื่นนิดหน่อย พี่ป ยุต ฉันขอโทษ ที่ฉันทำให้คุณผิดหวัง ขอโทษจริงๆคะ ที่ จริงฉันรู้สึกเสียใจมานานแล้ว แต่ฉันไม่รู้ว่าควรจะกลับ ไปอย่างไร ตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน ตอนที่พี่พูดว่าชีวิตนี้ไม่ อยากเห็นหน้าฉันอีก ฉันก็รู้สึกเสียใจมาก ฉันอยากจะ กลับไปเป็นฉันคนเดิม จันทรคนนั้นที่พี่เชื่อมั่นและชื่นชม แต่ว่าเมื่อฉันหันกลับมา กลับพบแต่ความโศกเศร้า ฉันไม่ เหลือใครอีกเลย จำต้องก้าวต่อไปยังหนทางข้างหน้า เดิน ต่อไปบนถนนที่ไม่อาจเลี้ยวกลับได้ หนทางที่ฉันเดินมา นั้นลำบากมาก ฉันได้ทำในเรื่องที่ไม่น่าจะทำ เรื่องที่ทำ ไม่ได้ฉันก็ยังทำ ฉันนับวันยิ่งควบคุมตัวเองไม่ได้ ฉันหวัง ว่าจะมีคนที่สามารถหยุดฉันลงได้ แต่ว่าตอนนั้นฉันก็ยัง ไม่สำนึก จนข้างกายฉันไม่เหลือใครอีกแล้ว เพราะฉันไม่ ยอมหยุดจึงทำให้คุณต้องผิดหวัง ฉันทำให้ทุกคนที่รัก ฉันต้องผิดหวัง ฉันไม่เพียงแต่เดินไปบนเส้นทางที่ไม่มีวัน
“ทำไมจู่ๆถึงอยากจะมาสารภาพซะล่ะ?”

ปยุตนึกย้อนไปถึง2-3ครั้งก่อนหน้านี้ ไม่ว่าเขาจะ ใช้วิธีอะไร ก็ไม่สามารถทำให้เธอเปิดปากเล่าความ จริงออกมาได้ แต่ก็ช่างมันเถอะ

“คนทุกคนต่างก็มีช่วงเวลาที่รู้จักผิดชอบชั่วดี ฉัน ก็มีเหมือนกัน เพียงแต่ว่าอาจจะช้ากว่าคนอื่นนิด หน่อย พี่ปยุต ฉันขอโทษ ที่ฉันทำให้คุณผิดหวัง ขอ โทษจริงๆคะ ที่จริงฉันรู้สึกเสียใจมานานแล้ว แต่ฉัน ไม่รู้ว่าควรจะกลับไปอย่างไร ตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน ตอนที่พี่พูดว่าชีวิตนี้ไม่อยากเห็นหน้าฉันอีก ฉันก็ รู้สึกเสียใจมาก ฉันอยากจะกลับไปเป็นฉันคนเดิม จันทรคนนั้นที่พี่เชื่อมั่นและชื่นชม แต่ว่าเมื่อฉันหัน กลับมา กลับพบแต่ความโศกเศร้า ฉันไม่เหลือใคร อีกเลย จำต้องก้าวต่อไปยังหนทางข้างหน้า เดินต่อ ไปบนถนนที่ไม่อาจเลี้ยวกลับได้ หนทางที่ฉันเดินมา นั้นลำบากมาก ฉันได้ทำในเรื่องที่ไม่น่าจะทำ เรื่อง ที่ทำไม่ได้ฉันก็ยังทำ ฉันนับวันยิ่งควบคุมตัวเองไม่ ได้ ฉันหวังว่าจะมีคนที่สามารถหยุดฉันลงได้ แต่ว่า ตอนนั้นฉันก็ยังไม่สำนึก จนข้างกายฉันไม่เหลือใคร อีกแล้ว เพราะฉันไม่ยอมหยุดจึงทำให้คุณต้องผิด หวัง ฉันทำให้ทุกคนที่รักฉันต้องผิดหวัง ฉันไม่เพียง แต่เดินไปบนเส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับ แต่ยังทำให้ ตัวเองกลายเป็นผู้หญิงสำส่อน สองปีมานี้ฉันยังคง ทำตัวเสเพล กลางวันเอาแต่นอน กลางคืนดื่มเหล้า อย่างหนัก ต่อมาคบผู้ชายไม่เลือกหน้า หมกมุ่นอยู่ แต่กับอบายมุข อย่างไรก็ตามไม่มีใครเหลียวแลฉันเลย ไม่มีใครรู้สึกว่าชีวิตฉันต้องต่อสู้ดิ้นรนขนาด ไหน ดังนั้นฉันจึงเดินออกไปไกลอีก จนกระทั่งเมื่อ วาน ฉันไปที่ร้านบะหมี่พริกที่เมื่อก่อนเราเคยไป ด้วยกันบ่อยๆเพียงคนเดียว บนกำแพงเต็มไปด้วย ข้อความจากใจกองหนึ่ง เห็นข้อความที่พี่เขียนไว้ เมื่อหลายปีก่อน พี่เขียนใส่แผ่นกระดาษโน้ตแผ่น หนึ่งเอาไว้ว่า “จันทร คุณจะเป็นนางฟ้าที่สวยที่สุด ในใจของผมตลอดไป” น้ำตาของฉันไหลออกมา ในที่สุดฉันก็สำนึกได้แล้วว่าสิ่งที่ตัวเองทำผิดนั้นมี มากมายเหลือเกิน ตัวฉันเองไม่หลงเหลือความเป็น นางฟ้าใดๆอยู่เลย ฉันรู้สึกเสียดายมาก ทำไมฉัน ถึงไม่เห็นกระดาษแผ่นนั้นเร็วกว่านี้นะ บางทีถ้าฉัน เห็นมันก่อนหน้านี้ ฉันคงไม่ต้องเดินมาไกลถึงขนาด นี้ หลังจากออกจากร้านบะหมี่นั้นแล้ว ท่ามกลาง สายลมอันเยือกเย็นฉันยืนอยู่คนเดียวที่หัวมุมถนน เป็นเวลา 6 ชั่วโมง สูบบุหรี่ไป 2 ซอง นึกถึงตัวเอง ที่2-3ปีหลังมานี้ทำตัวเสเพล ค่อยๆคิดขึ้นมาได้อย่าง ชัดเจนว่า ไม่ว่ายังไงก็ตามข้อแก้ตัวของคนคนหนึ่ง ที่ฟังไม่ขึ้นก็ไม่มีค่าพอที่จะให้อภัยได้ ยิ่งไม่มีใครรัก มากเท่าไหร่ ยิ่งต้องรักตัวเองให้มากขึ้นเท่านั้น………….…..

ปยุตเมื่อฟังเธอพูดจบแล้ว ในใจรู้สึกเสียใจอย่าง มาก เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไปดี ควรจะว่า เธอรู้ตัวเมื่อสายไปแล้ว หรือชมว่าในที่สุดเธอก็กลับ ตัวกลับใจเสียที

“พี่ปยุตคะ ฉันขอโทษเป็นครั้งสุดท้าย ยังมีอีก เรื่องหนึ่งที่ต้องบอกพี่ ผลินถูกลักพาตัวไปค่ะ ต้องขอโทษจริงๆที่ฉันเพิ่งจะบอกพี่ เพราะฉันรู้ว่า ถ้า ฉันบอกพี่ก่อนเรื่องที่เธอถูกลักพาตัวไป พี่ก็จะไม่มี อารมณ์จะฟังฉันเล่าเรื่องเหล่านั้น”

ตู้ดตู้ด ปลายทางวางสายลงตามที่คาดไว้ ปยุต รีบโทรหาผลินในทันที แต่กลับไม่มีคนรับสาย เขา กังวลอย่างมากจึงโทรกลับไปหาจันทรอีกครั้ง ตะโกนใส่ไปในโทรศัพท์ว่า “ใคร? ใครเป็นคน ลักพาตัวเธอไป? ลักพาตัวไปที่ไหน? เธอปลอดภัยดี

“คุณไม่ต้องเป็นห่วง เธอเพิ่งถูกลักพาตัวไปเองค่ะ ที่บริษัทของทัตดา

โทรศัพท์ถูกตัดสายไปอีกครั้ง ปยุตรีบร้อนขับรถ ออกไป มุ่งหน้าไปยังบริษัทของทัตดา…….

ลมพัดยิ่งแรงขึ้นแรงขึ้น เกล็ดหิมะค่อยๆร่วงลงมา เป็นครั้งคราว ผลินถูกทัตดาบังคับให้ยืนที่ขอบตึก เธอหันหลังไปมองความว่างเปล่าที่อยู่ด้านหลัง คิด ทบทวนอยู่ในสมอง ระดับความสูงขนาดนี้ถ้าเกิด ตกลงไปละก็มีหวังไม่รอดแน่ ทำยังไงดี เธอควรจะ ทำยังไงดี……..

“ถอยอีกสิ ถอยอีก ถ้าไม่ถอยมีดของฉันจะแทง เข้าไปแล้วนะ ไม่รู้ว่ามีดของฉันจะแทงเข้าไปใน หัวใจของเธอก่อน หรือว่าจะแทงเข้าไปที่หัวใจของ ลูกเธอก่อนนะ?”
ผลินสั่นไปทั้งตัว เธอบอกกับตัวเองอย่างไม่มีทาง เลือก ใจเย็นไว้ ใจเย็นๆ ทัตดามันบ้าไปแล้ว เธอ จะต้องไม่ตื่นตระหนก เธอจะต้องรักษาอารมณ์ให้ มั่นคงไว้

โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าที่วางอยู่มุมกำแพง ส่งเสียงร้องไม่หยุด เธอรู้ว่าจะต้องเป็นปยุตโทร มาแน่ๆ สิ่งนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอที่ตกอยู่ใน สถานการณ์ที่สิ้นหวังแล้วเปลี่ยนไป ถ้าโทรศัพท์ดัง อยู่นานแล้วไม่มีคนรับสาย ปยุตจะต้องเข้าใจว่าเธอ กำลังตกอยู่ในอันตราย เธอจำต้องหาวิธีประวิงเวลา เอาไว้ เพื่อรอให้เขามาช่วยเธอ

ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เงียบสงัด เสียงโทรศัพท์ยังดัง ต่อเนื่อง ในที่สุดทัตดาก็ทนไม่ไหวเสียงดังหนวกหู นั้น เดินไปที่มุมกำแพง หยิบกระเป๋าสะพายของเธอ ขึ้นมาแล้วโยนมันลงไป ในเวลาเดียวกันนั้น ผลินที่ ยืนอยู่ข้างหลังเธอคว้ามีดของเธอมาได้แล้ว ขว้าง มันออกไปไกลแสนไกล

ทัตดาโมโหถึงขีดสุด ดึงผมของเธอเอาไว้ แล้ว ลากเธอไปที่ริมขอบตึกสูง

“แกคิดว่าโยนมีดของฉันทิ้งไปแล้ว แกจะไม่เป็นไร งั้นหรือ? ตอนนี้ฉันแค่ออกแรงเพียงเล็กน้อย แกและ ลูกของแกก็จะได้ตายพร้อมกันแล้ว!!”

หยดน้ำตาของผลินค่อยๆไหลออกมา เธอเริ่มจะกลัวเข้าจริงๆแล้วสิ กลัวว่าทัตดาจะคุมสติไม่ได้ ผลักเธอตกลงไปจริงๆ เธอไม่อยากตายอย่างไม่ เต็มใจแบบนี้ เธอยังไม่ได้เป็นแม่คนเลยสักวัน ลูก ของเธอยังคงเคลื่อนไหวไปมาอยู่ในท้อง พวกเขา ก็คงจะตกใจเช่นเดียวกัน เธอปาดน้ำตาซ้ำแล้วซ้ำ เล่า พูดในใจว่า : ลูกจำไม่ต้องกลัวนะ แม่จะปกป้อง ลูกทั้งสองเอง พ่อเขาก็จะปกป้องลูกด้วยเช่นกัน อีกเดี๋ยวเดียวพ่อก็จะมาแล้ว พวกเราไม่ต้องกลัว

เธอระงับความกลัวในหัวใจเอาไว้ เพื่อลูกๆแล้ว พูด อย่างใจเย็นว่า “ทัตดา คุณผลักฉันลงไปเลยก็ได้ นะ แต่ดีที่สุดคุณควรที่จะรู้ปัญหาที่สำคัญมากเรื่อง หนึ่งก่อน ถ้าคุณผลักฉันตกลงไปแล้วคุณเองก็ต้อง ชดใช้ด้วยชีวิต คุณตายไปแล้วก็คงไม่เป็นไร แต่ คุณเคยคิดถึงไวภพบ้างไหม? คุณทิ้งเขาไปตั้งแต่ อายุ 8 ขวบ 20 กว่าปีที่ผ่านมานี้ไม่เคยทำหน้าที่คน เป็นแม่เลยสักวันเดียว อีกทั้งตอนนี้เขารู้สึกกังวล กับสถานการณ์ที่คุณกำลังเผชิญอยู่ ก่อนหน้านี้ ประมาณ 1 ชั่วโมงฉันเพิ่งเจอหน้าลูกสะใภ้ของคุณ มา เธอบอกกับฉันว่าขอเพียงคุณยินดีเชื่อฟังคำพูด ของลูกชายคุณ กลับไปอยู่ที่ฝรั่งเศสเป็นการถาวร ซะ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นลูกชายของคุณจะสะสาง ให้เอง สามีเก่าของคุณก็ทำงานอยู่ในกระทรวง ความมั่นคง คดีของคุณก็แค่ปัญหาเรื่องเงินเท่านั้น ขอเพียงแก้ปัญหาเรื่องเงินได้ ทุกอย่างก็คลี่คลาย แล้ว คุณกลับตัวกลับใจซะตอนนี้ยังทันนะ สิ่งที่คุณ จะสูญเสียไปคือธุรกิจที่คุณสร้างมันมากับมือ แต่สิ่งที่คุณได้รับกลับมาคือช่วงเวลาที่จะแบ่งปันความ สุขในครอบครัวกับลูกชายและลูกสะใภ้ในบั้นปลาย ชีวิตของคุณ สำหรับคุณแล้วมันไม่ใช่ทางเลือกที่ ฉลาดหรอกหรือ? คุณฟังคำพูดของฉันให้ดีนะ อยู่ ใกล้ภูเขา ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีฟืนก่อไฟ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ