ตอนที่ 229 ช่วยคนอื่นตามหาลูกชาย
“เรื่องที่ขาของเขาไม่มีไฝแดงนั่นนะสิ
“ไม่มีก็ไม่มีสิครับ ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย เมื่อวานผม ก็บอกคุณแล้วนี่ครับ คุณไม่เชื่อผมเอง ยังจะไปถามกับ ปาณีอีก”
“ไม่จริงคะ ฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้มันดูแปลกๆ ลางสังหรณ์ ของฉันไม่น่าผิดนี่นา มันจะต้องมีอะไรสักอย่าง”
“คุณพอได้แล้ว ขืนพูดเรื่องชนัยอีกละก็ ผมจะต้อง จัดการขั้นเด็ดขาดกับคุณแล้วล่ะ”
เช้าวันต่อมาปยุตไปส่งผลินที่สนามบิน เพื่อขึ้นเครื่อง บินเที่ยวแรกไปยังเมือง Fหลังลงจากเครื่องแล้ว มอง เห็นคุณลุงคุณป้ารีบวิ่งเข้ามาหาเธอแต่ไกล เธอดีใจที่ ได้เจอท่านทั้งสองอย่างมาก ถามด้วยความสงสัย “คุณ ลุงคะ ทำไมพวกคุณรู้ละคะว่าหนูจะมาเมือง F
“อ้อ ปยุตโทรบอกพวกเราน่ะ เขากลัวว่าหนูจะเกิด เรื่องอะไรขึ้นอีก เลยให้พวกเรามารับหนูที่สนามบินจะ
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ผลินอมยิ้ม รับรู้ได้ถึงความ ห่วงใยและรอบคอบที่ปยุตมีต่อเธอ
“คุณป้าดีขึ้นหรือยังคะ?”
“อ้อ ดีขึ้นมากแล้วจ้ะ หลังจากที่ได้ยินข่าวว่าหนูตั้ง ท้อง ป้าก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทุกๆวันเลยล่ะ หนูผลินจ้ะ ใน ที่สุดหนูก็ทำให้ความฝันที่ป่ารอคอยมานานแสนนาน เป็นจริงเสียทีนะ……
ผลินควงแขนคุณป้า เธอเข้าใจดีว่าหล่อนรู้สึกเสียใจที่ ชีวิตนี้ไม่สามารถมีลูกสักคนหนึ่งให้กับคุณลุงได้
ทุกคนกลับบ้านอย่างเบิกบานใจ ตอนบ่ายผลินโทรหา นภนต์ แจ้งให้เขาทราบว่าเธอมาถึงเมือง F แล้ว นภนต์ ทั้งประหลาดใจและดีใจมาก ทั้งสองนัดกันทานข้าวใน ตอนเย็น
“คุณป้าคะ เย็นนี้หนูขอไม่ทานข้าวที่บ้านนะคะ
“คืนดีกับนภนต์แล้วหรือจ้ะ?”
“ได้จ้ะ ตอนนี้พวกเธอเป็นอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ไม่ ได้เป็นคนรัก ก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ หายากนะแบบนี้
“ใช่ค่ะ” ผลินยิ้มรับ
เธอรู้สึกว่าหลังจากที่สองปีก่อนออกจากบ้านตระกูลทรัพยสานมา โชคชะตาก็พลิกผัน ก่อนอื่นให้ได้มา เจอกับสุภาพบุรุษที่ซ่อนภนต์ ต่อมาก็ได้กลับมาอยู่กับ ปยุตอีกครั้ง จนกระทั่งถึงวันนี้ตั้งท้องลูกแฝดสอง แถ มนภนต์ยังกลายเป็นเพื่อนสนิทของเธออีกด้วย คิดๆดู แล้ว ชีวิตของเธอก็แทบจะสมบูรณ์แบบแล้ว
หกโมงตรง เธอนั่งคอยนานต์อยู่ในร้านอาหารชื่อดัง แห่งหนึ่งในเมือง F สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจคือ นภนต์ไม่ได้มาคนเดียว เขาพาผู้หญิงคนหนึ่งมาด้วย
“ผลิน ผมคิดถึงคุณแทบตาย มาให้กอดเร็วๆเข้า”
นภนต์ยังคงขี้แกล้งเหมือนเดิม ผลินขำไปพลางว่าเขา ไปกอดเกิดอะไรกัน” สายตาของเธอเหลือบมองไป ทางผู้หญิงที่มาด้วยกับเขา”คนนี้คือ?”
“ผมขอแนะนำให้พวกคุณรู้จักกันก่อน
นภนต์ชี้มือไปทางผู้หญิงที่ยืนข้างๆเขาคนนี้คือคนรัก ใหม่ของผม เธอชื่อ จิราพร”
แล้วชี้นิ้วย้อนกลับไปทางผลิน ส่วนคนนี้คือคนรักเดิม ของผม เธอชื่อ เวทิดา”
“พูดเพ้อเจ้ออะไรหะ” ผลินไม่สบอารมณ์ย้อนเขาใน ทันที ใครเป็นคนรักเก่าของคุณไม่ทราบ
เธออมยิ้มรีบอธิบายกับจิราพร”คุณอย่าไปฟังคำพูดไร้ สาระของเขาเลยนะ พวกเราเป็นแค่เพื่อนกันเฉยๆนะ
“คุณเวทิดาคะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เขาก็เป็นคนแบบนี้ แหละ ฉันชินแล้วค่ะ”
จิราพรยิ้มกว้าง เผยให้เห็นลักยิ้มทั้งสองข้างบนแก้ม เธอ ผลินคิดว่าท่าทางของเธอดูไม่เลวทีเดียว เป็นผู้ หญิงที่ดูสุภาพเรียบร้อยหน้าตาน่ารักไม่เบา
“ที่จริงนภนต์เคยเล่าเรื่องคุณให้ฉันฟังบ้างแล้วค่ะ ฉัน รู้ว่าเขาตามจีบคุณอยู่นานถึงสองปี แต่ว่าคุณมีผู้ชายที่ ชอบอยู่ในใจแล้ว ดังนั้นเขาจึงปล่อยพวกคุณไป
ผลินรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย พยักหน้ารับอย่างเสีย มิได้“คะ เขาเคยตามจีบฉันก็จริงอยู่ แต่คุณอย่าคิดมาก ไปนะคะ ตอนนั้นเขาไม่ได้จริงจังอะไรหรอก”
“ใครบอกว่าผมไม่ได้จริงจัง ผมทั้งจริงจังและจริงใจ มาตลอดเลยไม่ใช่หรือครับ?” นภนต์เถียงคอเป็นเอ็น
“ฉันไม่ได้ติดใจอะไรหรอกค่ะ ผู้ชายที่ไหนจะไม่มีผู้ หญิงที่ชอบอยู่สัก2-3คนบ้าง เรื่องในอดีตฉันไม่อยาก ย่ง ขอเพียงปัจจุบันและอนาคตมีฉันเพียงคนเดียวก็ เพียงพอแล้วค่ะ”
จิราพรลุกขึ้นยืน ฉันขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ พวกคุณนานๆเจอกันที คุณกันตามสบายเลยคะ”
ผลินจ้องมองเบื้องหลังของเธอพลางถอนหายใจ นี่ นภนต์ แฟนคุณนี่เป็นผู้หญิงที่ดีทีเดียวนะ
“นั่นสิครับ ถ้าไม่ดีจริงผมก็ไม่เอาหรอก”
เธอส่งสายตาหมั่นไส้เขา”ปากดีจริงๆ เมื่อไหร่คุณจะ เปลี่ยนนิสัยขี้โม้โอ้อวดของคุณเสียทีนะ”
“จะเปลี่ยนทำไมละครับ ในเมื่อจิราพรเขาก็บอกอยู่ว่า ชอบผมที่เป็นผมแบบนี้นะ
“เชอะ ช่างคุณเถอะ ยังไงซะนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉัน
เห็นคุณคุยโวคาโตซะหน่อย”
ผลินกลับเข้าเรื่องประวัติครอบครัว “นี่คุณ ฉันขอถาม อะไรหน่อย คุณเป็นลูกแท้ๆของพ่อแม่คุณหรือเปล่า?”
อัยยะ นภนต์เกือบสำลักน้ำเปล่าที่เขากำลังดื่มอยู่ ผม ไม่ใช่ลูกที่เกิดจากพ่อและแม่ครับ ผมตกลงมาจาก สวรรค์?”
“ปีนี้คุณอายุ29ปีใช่หรือไม่?”
“ใช่ครับ”
“ถ้างั้นที่ต้นขาขวาของคุณมีไฟสีแดงขนาดเท่าเล็บมือ บ้างไหม?”
นภนต์รู้สึกสับสน ลดเสียงลงฉับพลัน กวักมือ เรียกเข้ามาใกล้ๆหน่อย
ผลินจึงเข้าไปใกล้ๆเขา เขาพูดหยอกเย้าว่า“คืนนี้เปิด ห้องกันสักคืนหนึ่งไหม ผมจะได้ถอดกางเกงให้คุณดู ชัดๆ?”
“ตาบ้า!” เธอถลึงตามองเขา “ฉันพูดกับคุณจริงจังนะ ตกลงคุณมีหรือเปล่า?”
“ถ้าให้พูดจริงๆละก็……ไม่มีหรอกครับ
เมื่อนภนต์พูดจบลง จิราพรก็เดินกลับมาพอดี ดังนั้น บทสนทนาเรื่องนี้จำต้องหยุดลงแค่นั้น
“เราสั่งอาหารกันเถอะค่ะ หิวจะแย่แล้ว”
ผลินเอามือลูบๆท้อง นภนต์พยักหน้าได้เลยครับ”
อาหารมื้อเย็นใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ปยุตโทรเข้า มาพอดี ผลินรับกดสายอย่างเปิดเผย“ฮัลโหล?”
“คุณทำอะไรอยู่? ”
“ทานข้าวสิคะ”
“คนเดียวหรือเปล่า?”
ผลินยิ้มอย่างรู้ทันว่าทำไมปยุตจึงถามเธอเช่นนั้น
“เปล่าค่ะ ทานกับนภนต์ค่ะ”
เป็นไปตามคาด ปยุตพูดอย่างเคืองๆ ความรู้สึกของ พวกคุณยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ไม่ใช่หรือ ไหงพอไปถึง เมือง F แล้วยังติดต่อกันอีกล่ะ”
“ใช่ค่ะ นภนต์อยากให้ฉันรู้จักกับแฟนของเขา”
“นภนต์มีแฟนใหม่แล้ว?”
“ค่ะ” ผลินเหลือบตามองฝั่งตรงข้ามเป็นผู้หญิงที่สวย และอ่อนโยนคนหนึ่งเลยล่ะค่ะ”
“ดีแล้วล่ะ ถ้างั้นผมก็สบายใจได้แล้วครับ
เธออดขำไม่ได้ พูดอย่างนี้ไม่กลัวคนจะหัวเราะเยาะ เอาหรือคะ อีกเดี๋ยวก็จะเป็นพ่อคนอยู่แล้วน่ะ
ทั้งสองคุยกันอยู่ครู่หนึ่งจึงวางสายไป นภนต์ถามจากใจจริงว่า”เวทิดา คุณท้องหรือยังครับ?”
“อึมคะ คุณยังไม่รู้เรื่องนี้หรือ?”
“ก็ไม่เห็นมีใครบอกผมนี่ครับ”
“ขอโทษคะ ฉันลืมสนิทเลย ฉันท้องแล้วคะ ท้องแฝด ด้วย”
ก็ไม่น่าแปลกใจอะไร ในเมื่อเธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ตลอด นภนต์จึงไม่ทันสังเกตเลยว่าท้องของเธอยื่นออกมา
“เด็กสองคน? ท้องแฝดเลยหรือ?”
“ค่ะ”
เธอยิ้มกว้างอย่างมีความสุข
“สวรรค์ทรงโปรด ลูกปวดร้าวแสนสาหัส หัวใจแตก สลาย สิ้นหวังแล้ว” นภนต์ตะโกนเรียกพนักงานพลาง โอเวอร์แอ๊คติ้ง เอาเบียร์มาสิบขวด ผมจะดื่มให้ตายคา ที่ไปเลย
วันที่ 4 ที่ผลินไปที่เมือง F ชนัยเข้ามาหาปยุตที่ห้อง ทํางาน รายงานต่อหน้าปยุต ท่านประธานครับ แผนที่เราวางเอาไว้ไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่ครับ ชุดาคนนี้ไม่รู้ ว่าตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจกันแน่ คอยขัดขวางเราตลอด เวลา พอเราจะซื้อหุ้นตัวไหน หล่อนก็จะปั่นราคาให้สูง ตลอด แผนของเราตอนนี้ถูกเธอทำให้ปั่นป่วนไปหมด คิดว่าคงจะต้องหยุดเอาไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นบริษัทคงจะ ล้มละลายแน่ครับ
สายตาอันหม่นหมองของปยุตจ้องมองออกไปอย่าง เยือกเย็น กัดฟันพูดว่า “นังผู้หญิงคนนี้มันสมควรตาย นัก!”
“ยังมีข่าวร้ายอีกเรื่องหนึ่งครับ”
ชนัยรายงานต่อ”หัวหน้าฝ่ายบริหารของบริษัทใน เครือที่ชื่อเวทัสได้ลาออกจากตำแหน่งไปวันนี้ คาดว่า น่าจะถูกทัตดาชิงตัวไป ผมเพิ่งได้คุยกับเขาเมื่อเช้า นี้ แต่เขายืนยันว่ายังไงก็จะไปครับ เขาไปคนเดียวไม่ พอ ยังเอาลูกน้องคนสำคัญติดไปด้วยอีก2-3คน ตอน นี้ธุรกิจหลายอย่างที่พวกเขาติดต่ออยู่ก็พลอยถูกระงับ ความร่วมมือชั่วคราวไปโดยปริยาย”
เพล้ง ปยุตปัดแก้วกาแฟบนโต๊ะตกลงไปที่พื้น สองวัน นี้เขามัวแต่ยุ่งอยู่กับเรื่องอื่น เลยปล่อยให้ทัตดามีเวลา มาถอนหงอกเขาได้
“ขอโทษครับ ท่านประธาน เพราะผมเองที่ไม่ได้จับตา ดูพวกเขาอย่างใกล้ชิด”
ชนัยรู้สึกผิดมาก ตั้งแต่คุณท่านเวทนจากไป ปยุต เลื่อนตำแหน่งของเขาขึ้นมาเป็นรองประธานของบริษัท โดยทั่วไปเรื่องทั้งหมดภายในบริษัทล้วนอยู่ภายใต้ อำนาจของเขาคนเดียว มีเพียงเรื่องสำคัญบางเรื่อง เท่านั้นที่ต้องให้ปยุตเป็นคนตัดสินใจ จนกระทั่งวันนี้ได้ สูญเสียคนที่มีความสามารถไปอีก 2-3 คน ในใจของ เขาจึงรู้สึกเสียใจอยู่ไม่น้อยเลย
“ผมไม่ได้โทษคุณ ช่วงนี้ผมให้คุณติดตามแผนซ้อน ซื้อหุ้นอยู่ตลอด เป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่อาจแยกร่าง ออกมาดูแลทุกอย่างได้อย่างทั่วถึง พวกเขาอยากไป ก็ปล่อยให้พวกเขาไปเถอะ คนที่ไม่มีความรับผิดชอบ ปล่อยให้อยู่ในบริษัทก็เปล่าประโยชน์!
ผลินอยู่ที่เมือง F ได้เพียง 4 วันเท่านั้น เธอรู้สึกเป็น ห่วงปยุต จึงขอกลับมาที่เมือง B โดยไม่ได้บอกกล่าว
ตอนเย็นปยุตกลับมาถึงบ้าน เห็นผลินเข้าก็รู้สึก ประหลาดใจอย่างมาก เอ่ยปากพูดด้วยความเคือง “คุณ จะกลับมาทำไมถึงไม่บอกผมซักคำ?”
“จะบอกคุณทําไมคะ? คุณยุ่งซะขนาดนั้น ฉันก็กลับมา ถึงแล้วนี่ไง”
“ถ้าคุณบอกผมสักคำ ผมจะได้ไปรับคุณที่สนามบิน แล้วนี่คุณกลับมายังไงล่ะ?”
“ให้คนขับรถที่บ้านไปรับค่ะ ฉันเห็นว่าเป็นเรื่องเล็ก น้อยจึงไม่อยากรบกวนคุณน่ะค่ะ”
“รบกงรบกวนอะไรกัน? คราวหน้าอย่าปรากฏตัวให้ผม เห็นแบบนี้อีกนะ”
ผลินพยักหน้าอมยิ้ม”ค่ะ เชื่อฟังแล้วค่ะ คุณผู้ชาย”
“ให้ตายสิ คุณนี่ช่างเป็นภรรยาที่ดื้อรั้นที่สุดในโลกเลย จริงๆ”
ผลินช่วยเขาถอดเสื้อคลุมออก พูดอย่างไม่ ยอมรับ“คุณยังไม่เคยเจอแบบที่ว่าไม่เชื่อฟังจริงๆหรือ คะ? เดือนที่แล้วชื่นใจอยากจะไปเที่ยวทิเบตกับเพื่อน สมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน ไวภพไม่อนุญาต เธอก็ รับปากแล้วว่าจะไม่ไป ผลสุดท้ายเช้าวันต่อมาไวภพตื่น ขึ้นมาไม่เจอเธอ เธอเขียนข้อความสั้นๆทิ้งไว้ที่บ้าน ไว ภพโมโหแทบตาย
“ถ้าคุณไม่ได้ตั้งท้องอยู่ละก็ คงจะไปเหมือนกันใช่ ไหมล่ะ?”
ผลินยิ้มอย่างบอกไม่ถูก อะไรคะ ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น ซักหน่อย”
ปากพูดออกไปแบบนั้น แต่ใจกลับคิดอีกอย่าง ป ยุตเกือบจะกลายเป็นพยาธิเข้าไปอยู่ในท้องของเธอแล้ว
“ฉันไม่อยู่สองสามวันนี้มีเรื่องอะไรอีกไหมคะ? แผนที่ วางไว้เป็นอย่างไรบ้างคะ?”
“อืม ดี ทุกอย่างราบรื่น”
ท่ามกลางสายตาอันหมองหม่นของปยุต เขาไม่กล้า เอ่ยปากเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่บริษัทแม้แต่คำเดียว เขายึด ตัวบิดขี้เกียจพลางกล่าววันนี้ผมมีประชุมทั้งวัน เหนื่อย จะตายอยู่แล้ว ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ”
“ค่ะ คุณไปเถอะ”
ปยุตเข้าไปในห้องอาบน้ำ ผลินเห็นว่าเขาเข้าไปนาน แล้วยังไม่ยอมออกมาสักที จึงค่อยๆผลักประตูห้องน้ำ เข้าไปแอบดู เห็นเขานอนหลับตาครุ่นคิดแช่อยู่ในอ่าง คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันแน่น จึงรู้ได้ทันทีว่าเขา มีเรื่องกังวลอยู่ในใจ ต้องเป็นเรื่องแผนการที่วางไว้ไม่ ราบรื่นแน่ ปยุตคงกลัวว่าเธอจะไม่สบายใจ ดังนั้นจึงไม่ กล้าเอ่ยปากบอกเธอ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ