ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 208 อมนุษย์กลับคืนร่าง



ตอนที่ 208 อมนุษย์กลับคืนร่าง

“คุณพูดเรื่องอะไรน่ะ” ผลินก็เริ่มจะโมโหแล้วเช่นกัน “ฉันเป็นห่วงความก้าวหน้าของบริษัทคุณ ทำไมคุณไม่รู้สึก อะไรบ้างเลยว่าฉันน่ะเป็นห่วงคุณมากจริงๆ ดี งั้นฉันจะไม่ สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว”

“ใครอยากให้เธอมาสนใจล่ะ”

ปยุตเห็นท่าทีที่เธอสอดรู้ทำเป็นห่วงใยเขา เขาหยิบ แฟ้มเอกสารที่กำลังจะต้องใช้เข้าประชุมแล้วเดินเข้าไปใน ห้องทำงานในทันที

สองวันต่อมาทั้งคู่เข้าสู่สงครามเย็นอย่างเป็นทางการ ป ยุตไม่สนใจผลิน ผลินก็รู้สึกว่าตัวเองอึดอัดใจ เห็นได้ชัดว่า เธอมีผลกับการงานของเขาจริงๆ ท่าไมเขาจะไม่สนใจเธอ ยิ่งคิดก็ยิ่งหดหู่ ในที่สุด เขาก็ตัดสินใจไม่จัดการทำอะไรต่อ กับผลิตภัณฑ์ใหม่อีกต่อไป

ไม่ว่ามันจะได้เข้าตลาดไหม ไม่ว่าคู่สัญญาจะต่อสัญญา หรือไม่ เขาก็ไม่ยินดียินร้ายอะไรทั้งนั้น ผู้ชายเฮงซวย!

สิ่งที่ผลินไม่คาดคิดเลยก็คือ แค่วันที่สามที่เธอกลับมา ถึงเมืองB นภนต์ก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน เมื่อเขาได้รับโทรศัพท์ ผลินก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เธอรู้สึกอึดอัดเป็นที่สุด

คิดว่าวันมะรืนนี้ผลิตภัณฑ์ใหม่ก็จะออกสู่ตลาด ขณะนี้ นภนต์มาที่นี่แล้ว ทำให้เธอยิ่งรู้สึกลำบากใจขึ้นไปอีก
ถ้าหากเธอไม่ไปต้อนรับ นานต์ก็ต้องถามเหตุผล แต่ถ้า หากเธอไปต้อนรับ เรื่องบาดหมางภายในครอบครัวก็จะยิ่ง ปานปลายเข้าไปอีก

ถึงแม้เธอตัดสินใจที่จะไม่ยุ่งกับผลิตภัณฑ์ใหม่อีกต่อไป แล้ว แต่ช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ ยิ่งได้มองเห็นเพื่อนร่วมงาน ที่ตั้งใจทํางานกันอย่างหนัก เธอก็ตัดใจที่จะไม่สนใจใยดีไม่ ได้

นภนต์ต้องการที่จะมารับเธอทันทีที่เลิกงาน เธอไม่ ได้พูดอะไร สิ่งที่น่าตกใจก็คือ ชายคนนั้นปรากฏตัวอย่าง เต็มยศ หากมาแต่ตัวก็คงจะไม่เป็นไร แต่ยังจัดดอกกุหลาบ แดงมาด้วยเต็มคันรถเก้าร้อยเก้าสิบเก้าดอก…

เก้าร้อยเก้าสิบเก้าดอก ปยุตไม่โรแมนติกเช่นนี้

ผลินกลัวว่าปยุตจะมาเห็นเข้า เธอจึงรีบกระโจนเข้าไป ในรถโดยเร็วและบอกให้นมนต์รีบไปทันที

แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ตรงนั้น ปยุตก็ยังสามารถทราบเรื่องนี้ ได้ คนทั้งบริษัทกำลังซุบซิบนินทากันใหญ่ เขาจึงได้ยินมัน กับหู เขาคิดว่าคราวนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นอีกต่อไปแล้ว เรื่องนี้ จริงจังมาก

นภนต์พาผลินไปทานอาหารค่ำ ผลินบอกว่าเธอรู้สึกไม่ ค่อยสบายต้องการกลับไปพักผ่อน เขาปฏิเสธและนำตั๋ว หนังออกมาจากกระเป๋าเสื้อสองใบ “ผมจองออนไลน์เอาไว้ แล้ว หนังเรื่องใหม่ ได้ยินว่าสนุกมาก
นภนต์ยืนกรานว่าเธอสบายดีและต้องไปดูหนังกับเขา

นําแล้ว ปยุตเห็นว่าผลินยังไม่กลับมา เขาอดไม่ได้ที่จะ อารมณ์เสีย เขาต้องการที่จะโทรหาเธอแต่ก็ต้องการรักษา หน้าตัวเองไว้ ในหัวเขาสับสนไปหมด ในที่สุดเขาจึงเดินไป ถึงห้องของน้องสาว

“ปาณี โทรหาพี่สะใภ้ให้พี่หน่อย ถามทีว่าเธออยู่ไหน แล้ว ทําไมดึกดื่นแล้วยังไม่กลับ

ปาณีสังเกตเห็นอากับกิริยาของปยุตในช่วงสองสาม วันที่ผ่านมา เธอก็รู้แล้วว่าพี่ชายของเธอและพี่สะใภ้กำลัง มึนตึงใส่กันอยู่ เธอไม่ได้พูดอะไรและยกหูโทรศัพท์ขึ้น กด ไปที่เบอร์ของผลิ

“ฮัลโหล พี่สะใภ้หรือคะ พี่อยู่ไหนแล้วคะ” ผลินตอบด้วยเสียงทุ้มต่ำ “กำลังดูหนังค่ะ”

“พี่ พี่สะใภ้บอกว่ากำลังดูหนังอยู่”

“ถามสิว่าเขาไปดูกับใคร!”

ปยุตคิ้วขมวด เขาแทบทนไม่ได้ อยากจะไปที่โรงหนัง แล้วยกเลิกหนังรอบนั้นเสีย

“พี่สะใภ้ พี่ไปกับใครคะ”
“เพื่อน”

“พี่ พี่สะใภ้บอกว่าไปกับเพื่อน”

ทุกคำถามที่ปาณีถามเสร็จเธอต้องหันกลับมารายงานให้ พี่ชายเธอฟังตลอด

“ถามเธอว่าดูเรื่องอะไร

สายตาของปยุตเดือดดาลราวกับไฟลุก

“พี่สะใภ้ดูเรื่องอะไรคะ”

“พี่ พี่สะใภ้ดูเรื่อง ”

“ความรักของคนงั้นน่ะสิ!”

ปยุตโมโหไม่เป็นท่า เดินออกจากห้องกระแทกประตูดัง

ปัง

ปาณีวางสายจากผลิน และพึมพำอย่างอารมณ์เสีย “โมโหก็โมโหไปสิ มากระแทกประตูห้องฉันทำไม…

ภาพยนตร์จบตอนสี่ทุ่มครึ่ง ผลินและนภนต์ออกจากโรง ภาพยนตร์ เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก “นภนต์ เรากลับ กันเถอะ คุณก็รีบกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมได้แล้ว”
“ผมไปส่ง”

“ไม่ต้อง ฉันเรียกรถสะดวกกว่า”

ผลินพูดไปพลาง เดินไปริมฟุตบาตพลาง ด้วยความเร่ง รีบ เธอจึงชนกับคนที่ขับรถไฟฟ้าที่กำลังผ่านมา เธอกรีด ร้องและถูกชนล้มลงไปกับพื้น

“เวทิตา….”

นภนต์อุทานรีบวิ่งไปพยุงเธอไว้และถาม “เจ็บตรงไหน ครับ ไหนขอผมดูหน่อย”

เธอเบือนหน้าหนีและส่ายหัว “ไม่เป็นไร

คนที่ขับรถไฟฟ้าก็ตกใจร้อง เขาถามเธอว่า “คุณผู้หญิง เป็นอะไรรึเปล่าครับ ไปโรงพยาบาลไหมครับ”

“ไม่ต้อง ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ

นภนต์เงยหน้าขึ้นลงตรวจดูอย่างระมัดระวัง เขาพูด อย่างหัวเสีย “ยังจะบอกว่าไม่เป็นไร ตรงนี้เป็นแผลหมด แล้ว”

“แค่เป็นแผล กลับไปทายาเอาก็ได้ค่ะ”

นภนต์จะวางใจปล่อยให้เธอกลับบ้านไปคนเดียวได้ อย่างไร เขาไม่รอช้าเก็บข้าวของของเธอใส่ในรถของเขา
ปยุตรอจนถึงห้าทุ่ม ผลินก็ยังไม่มา หัวใจเขาเหมือนลอย เคว้งอยู่ในอากาศ ยิ่งคิดถึงตอนทีนคนต่เอาดอกไม้มามอบ ให้เก้าร้อยเก้าสิบเก้าดอกถึงที่บริษัท ยิ่งรู้สึกว่าคืนนี้เขาจะ วางใจเด็กคนนี้ไม่ได้แล้ว

เขามาที่ห้องน้องสาวอีกครั้ง “ปาณี โทรหาพี่สะใภ้ด้วย บอกให้เธอรับกลับมาซะ”

ครั้งนี้ปาณีไม่ให้ความร่วมมือ เธอพูดอย่างหงุดหงิดว่า “ฉันไม่โทร พี่อยากโทรก็โทรเอง คุยกันจบแล้วจะได้ไม่ต้อง มากระแทกประตูใส่ฉันอีก”

*โทรศัพท์ฉันแบตหมดแล้ว” เขาหาข้ออ้าง

“แบตหมดก็เอาโทรศัพท์ฉันไปโทร

ปาณีถอดใจไม่ยอมช่วยเขาแล้ว เขาหมดหนทาง หยิบ โทรศัพท์ของน้องสาวไปแล้วเดินออกจากห้อง

ผู้ชายที่ต่อให้ตายก็ต้องรักษาหน้าตัวเองเอาไว้โดย ปกติก็จะไม่มีทางยอมเสียหน้า เขาใช้โทรศัพท์ของปาณีส่ง ข้อความไปหาผลิน หลังจากนั้นครู่หนึ่งเธอจึงตอบกลับมา “คืนนี้พี่ไม่กลับบ้านนะ

พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ เมื่อเห็นข้อความนั้น ปยุตโกรธราวกับ เปลวเพลิง เขารีบร้อนหยิบกุญแจรถออกจากประตู และขับ รถไปที่หอพักของลูกค้า
รถของเขาจอดซ่อนอยู่ อยู่ในมุมหอพักของลูกค้าใน ส่วนจอดรถที่มืดมิด หัวใจของเขาชาไปครึ่งซีก เขาคิดว่า ผลินกําลังจะไปที่โรงแรมกับนกน

ในขณะนี้ รถของนภนต์เข้าจอดที่ประตูหน้าหอพัก เขา รู้สึกโล่งอก แต่ในทันใดเขาก็เห็นนภนต์แบกผลินเข้าทาง ประตูหน้าหอพักนั้น

หัวใจที่เพิ่งจะโล่งไปก็กลับมาแน่นอีกครั้ง

หลังจากที่นภนต์ส่งผลินถึงห้องแล้วเขาก็ถามขึ้น “กล่องยาอยู่ที่ไหน

ผลินบอกเขาว่าอยู่ไหนแล้วเขาก็ไปหาจนพบ เขา ทําความสะอาดรอยฟกช่าบนแขนของเธอ

หลังจากที่ทําแผลเสร็จแล้ว ผลินก็รีบกล่าวขึ้น “ขอบคุณ ค่ะ รบกวนคุณจริงๆ คุณกลับไปโรงแรมเถอะค่ะ ไม่มีเรื่อง อะไรแล้ว”

“ทำไมคุณต้องรีบร้อนไล่ผมไปขนาดนั้น

นภนต์เลิกคิ้วและลุกขึ้นเดินไปที่ตู้เย็น “ผมหิว คุณทำ อะไรให้ผมกินหน่อยสิ กินเสร็จแล้วผมจะไป

ผลินรู้สึกว่าบางครั้งเขาก็ดื้อรั้นเหมือนเด็กๆ ไม่สำเร็จ ก็ไม่ยอมแพ้ เพื่อที่จะทำให้เขากลับไปเร็วที่สุดเธอจึงต้อง ตกลงทำตามที่เขาสั่ง
ปยุตรออยู่ครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่เห็นนภนต์ก็กลับออกมา เขาสตาร์ทเครื่องยนต์ โกรธและขับออกไป

หลังจากกินบะหมี่ชามใหญ่ไปสองชาม นภนต์ก็กลับ ออกจากหอพักของผลินอย่างพึงพอใจ ผลินเดินไปส่งเขา ที่ประตู เธอมองดูรถของเขาหายไปเหมือนจุดสีดำ เธอถอน หายใจด้วยความโล่งอก มีความรู้สึกว่าในที่สุดก็สามารถ กําจัดเขาไปจนได้

คราวนี้ผ่านไปแล้ว เมื่อผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดอย่าง เป็นทางการเขาก็คงไม่มาอีกแล้ว เมื่อนั้นเธอก็จะสามารถ สารภาพกับเขาได้อย่างตรงไปตรงมา

แม้ว่าเธอจะรู้สึกเสียใจ แต่เธอก็เชื่อในสายตาของตัวเอง

เมื่อไปถึงที่ทำงานในเช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งวันเธอไม่เห็น หน้าปยุตเลย เธอโทรหาน้องสะใภ้ ถึงได้รู้ว่าปยุตหึงอย่าง รุนแรงจนร่างกายเจ็บป่วยนอนอยู่บนเตียงลุกไม่ขึ้น

เธอรีบกลับบ้านในตอนเย็น และเดินมาที่ห้องปยุตอย่าง เงียบๆ เมื่อเปิดประตูออกก็เห็นว่าเขาไม่ได้ป่วยนอนอยู่บน เตียง แต่กลับนั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา เธอจึงเดินเข้าไป ด้วยความอุ่นใจ “ทำไมคุณไม่ไปทำงานวันนี้คะ” เธอถาม

ปยุตมองเธออย่างไร้อารมณ์ “ไปไกลไกลผมหน่อย”

เธอเอ่ยขึ้น “ยังโกรธฉันอยู่หรือคะ” เธอจงใจนั่งลงถัด

จากเขา
“ฉันบอกให้เธอไปอยู่ไกลๆ ไม่ได้ยินหรือยังไง”

“คณโมโหอะไรเนี่ย

ผลินเริ่มโมโห

“คุณไปอยู่กับผู้ชายคนนั้นมาทั้งคืน กลับมายังจะมาถาม ว่าผมโมโหอะไรอีกอย่างนั้น คุณบอกมาสิว่าผมโมโหอะไร”

“ใครอยู่กับผู้ชายทั้งคืน คุณเห็นกับตารีว่าฉันอยู่กับ ผู้ชายทั้งคืน”

“ผมเห็นเต็มทั้งสองตา! นภนต์เข้าไปในหอพัก ผมรออยู่ ครึ่งชั่วโมงกว่าแล้วเขาก็ยังไม่กลับออกมา

ผลินอมยิ้ม “เรื่องนี้นี่เอง ฉันจะบอกคุณให้ คุณเข้าใจผิด เต็มๆ ฉันถูกรถไฟฟ้าชนหกล้ม เขายืนกรานที่จะพาไปทำ แผล หลังจากทําแผลเสร็จเขาก็บอกว่าเขาหิว ฉันเลยทำ บะหมี่ให้เขาทานสองชาม หลังจากเขาทานเสร็จเขาก็กลับ ไป”

“คุณคิดว่าผมจะเชื่อเรื่องโกหกของคุณ”

คราวก่อนถ่านไฟเก่ายังไม่ทันดับ คราวนี้เลยเติมเชื้อ เพลิงให้เขาหน่อย ใจจริงคงไม่อยากให้ไฟของเขามอดไป

“ที่ฉันพูดทั้งหมดเป็นความจริง ถ้าคุณไม่เชื่อก็ไปถา มนภนต์ดู”
“ที่แท้คิดแผนการณ์เอาไว้หมดแล้ว ผมจะถามหรือไม่ ถามผลออกมาก็เหมือนกัน ช่างเถอะ ผมไม่อยากทะเลาะ กับคุณ ถ้าคุณรักเขาขนาดนั้น คุณก็ไปอยู่กับเขาแล้วกัน ผม ยอมหลีกทางให้

“คุณพูดจริงรึเปล่า

ผลินถามด้วยใบหน้าซีดขาว

“พูดจริง คุณไปเถอะ”

ป้ง ผลินคว้าหมอนข้างที่วางอยู่บนโซฟาแล้วเดินไปที่ ข้างปยุต “ไปก็ไปหรอ ฉันอุตส่าห์เป็นห่วงบริษัทของคุณทั้ง วัน ตอนเย็นก็ทําธุระให้คุณด้วยความร้อนใจ คุณจะต้องเป็น เหมือนคุณปู่ให้ได้ ส่วนคุณย่าฉันคงไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนให้ แล้วล่ะ!!”

นี่เป็นการสบถครั้งแรกของผลิน เธอไม่ได้โกรธปยุต จริงๆ เธอหันหลังและวิ่งออกไป ปยุตเห็นว่าเธอต้องการไป จริงๆ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก เขาก้าวไปข้างหน้า และดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขน เขากดเธอไปที่ฝาผนังและ บรรจงจูบอย่างร้อนแรง

ณ ตอนนี้ ท้องฟ้าเปิดทางให้ แต่ก็ยังคงดำมืด ความรู้สึก เหมือนกำลังกลับไปหาสัตว์ร้าย…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ