ตอนที่194 ลึกล้ำดั่งมหาสมุทร
เธอไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนจู้จี้จุกจิก แต่คนเหล่านี้ต่อต้าน เธองั้นเหรอ เธอทานทุกอย่างยกเว้นเนื้อสุนัขและเนื้อแกะ แต่สิ่งที่พวกเขาสั่งคือเนื้อสองตัวที่เธอไม่ทาน
กลุ่มคนล้อมรอบเนื้อสุนัขและเนื้อแกะหม้อไฟต่างทาน กันอย่างเอร็ดอร่อย มีเพียงผลินที่ไม่สามารถถือตะเกียบได้ หัวหน้าทีมวิจัยและพัฒนาถามด้วยความประหลาดใจ “อ้าว ทำไมคุณเวทิดาไม่ทานล่ะครับ ไม่อยากทานเหรอ”
“ไม่ใช่ค่ะ ฉันไม่หิวน่ะ
เธอตอบอย่างฝืนใจ
“หลังจากทำงานจนดึกคุณยังไม่หิวอีกเหรอ ไม่แปลกใจ เลยที่คุณผอม คุณไม่อยากทานใช่ไหม”
หนึ่งในเพื่อนร่วมงานสอบถามอย่างห่วงใย
“ไม่ใช่ค่ะ เมื่อตอนเย็นฉันทานเยอะไปหน่อยน่ะ
“โอ้ มันน่าอายนะที่คุณนั่งมองพวกเราทานกัน
“ไม่เป็นไรหรอก พวกคุณทานตามสบายเลยไม่ต้องสนใจ ฉันค่ะ”
ผลินยิ้มเล็กน้อย
แล้วโทรศัพท์ของปยุตก็ดังขึ้น เขาใช้สายตามองดูที่ ตัวเลข จากนั้นจึงลุกขึ้นและออกไปรับโทรศัพท์
ผลินจ้องไปที่ด้านหลังของเขา หัวใจรู้สึกอึดอัด คนที่โทร หาเขาดึกขนาดนี้ จะเป็นใครได้นอกจากภรรยาของเขา
เมื่อคิดว่าจันทรได้ยึดพื้นที่ของเธอ หัวใจเธอก็เต็มไปด้วย ความไม่เต็มใจ
ปยุตกลับมาหลังจากรับโทรศัพท์ ในตอนนั้นโทรศัพท์ มือถือของผลินเองก็ดังขึ้น เธอเห็นว่ามันคือนภนต์ ด้วย จิตวิทยาของการแก้แค้น เธอไม่ได้ออกไป แต่กดรับต่อหน้า ปยุตและทุกคน “ฮัลโหล? ”
“หลับแล้วหรือยังครับ”
“ยังค่ะ ทำงานเพิ่งเสร็จ แล้วก็ออกมาทานข้าวกับเพื่อน ร่วมงานน่ะ”
นภนต์ได้ยินว่าเธอทำงานเพิ่งเสร็จ จึงพูดอย่างปวดใจว่า “ทำงานดึกขนาดนี้ได้ยังไง เหนื่อยแย่เลยสิ
เธอตอบพร้อมรอยยิ้ม “ไม่เหนื่อย คุณก็ยังไม่นอนเหมือน กันเหรอ”
“คิดถึงคุณจนนอนไม่หลับ
นภนต์หยอกล้อเธอ
“บอกว่าคิดถึงฉันแล้วทำไมถึงทิ้งฉันไว้ที่นี่ล่ะ ให้คนอื่นมา แทนแล้วย้ายฉันกลับไปไม่ได้เหรอ”
“ถ้าคุณทํางานหนักมากไป ผมคงต้องคิดเรื่องการ เปลี่ยนแปลงเพื่อคูณแล้ว”
“งั้นคุณคิดไป ฉันจะรอข่าวดี”
ทั้งสองพูดคุยกันอย่างสนิทสนมอยู่นาน ผลินไม่อยากวาง สายโทรศัพท์ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่าเพื่อนร่วมงานกำลัง มองเธออยู่ สายตานั่นดูคลุมเครือบอกไม่ถูก หัวหน้าทีม R &D เป็นคนมีอารมณ์ขัน เขาพูดว่า “คุณเวทิดา แฟนโทรมา เหรอครับ”
เธอแกล้งทําเป็นอายและสั่นศีรษะ “ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ”
“โธ่ ยังจะปฏิเสธอีก ถ้าไม่ใช่แฟน แล้วใครจะโทรหาคุณ ตอนเที่ยงคืน”
นอกจากปยุตที่นิ่งเงียบ ทุกคนก็เริ่มพูดคุยกัน “แฟนของ คุณเวทิดาไม่ใช่ว่าจะเป็นคู่ค้าของเรา ประธานนภนต์ที่มา เยี่ยมชมบริษัทครั้งล่าสุดนี้หรอกเหรอ”
“พูดไร้สาระ แน่นอนว่าต้องเป็นเขา คุณไม่ได้ยินเหรอ คุณ เวทิดาพูดว่า คิดถึงฉันแล้วทำไมถึงทิ้งฉันไว้ที่นี่นั่นไง”
“นั่นสิ นั่นสิ คุณเวทิดาเป็นผู้ช่วยพิเศษของประธานนภนต์ ถ้าไม่ใช่คู่รัก แล้วทำไมถึงไว้ใจให้เธออยู่ที่นี่เพื่อติดต่อกับ การฝ่ายวิจัยและพัฒนา…….
ผลินฟังสิ่งที่พวกเขาพูด ไม่ยอมรับหรือปฏิเสธ หัวใจเธอ
เจ็บปวด เธอต้องการให้ปยุตรู้สึกเจ็บปวดเหมือนกันกับเธอ
“โอ้ สร้อยข้อมือที่คุณเวทิดาใส่อยู่นี่ไม่ใช่ว่าประธาน นภนต์ให้มาหรอกเหรอคะ”
เพื่อนร่วมงานหญิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ผลินจ้องมองด้วยความ ประหลาดใจ ทุกสายตาหันมามองเป็นตาเดียว
เธอส่ายหน้า “ไม่ใช่ค่ะ”
“นี่ก็พอกัน สร้อยข้อมือ ขายตามแผงทั่วไป ถ้าประธาน นภนต์ให้สร้อยข้อมือนี้มันก็ต่ำต้อยเกินไปแล้ว”
“อาจจะจริง สร้อยข้อมือ ฉันใส่มานานแล้ว เป็นคนใน ความทรงจำให้ฉันมา ถึงแม้จะไร้ค่าแต่ฉันก็ไม่อยากทิ้ง ไม่ เหมือนบางคน ที่ไม่มีความทรงจำในชีวิตเลย
ปญฺตรู้ดี ว่าสิ่งที่ผลินพูดนั้นพูดกับเขา เขาดื่มไวน์อย่าง สงบ ทําเหมือนไม่ได้ยิน
หลังจากดื่มไวน์ ปยุตไปที่เคาน์เตอร์เพื่อเช็กบิล ผลินเห็น เขากระซิบอะไรบางอย่างกับเจ้าของร้าน หลังจากจ่ายเงิน แล้วก็เดินกลับมา
“ประธานยุตครับ ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อค่ำ พวกเรา ทานกันอย่างมีความสุขมาก
“ใช่ สิ่งที่มีความสุขที่สุดคือการได้ทานหม้อไฟเนื้อสุนัข เนื้อแกะในฤดูหนาว ฮ่า ๆ”
กว่าสิบคนออกจากร้านอาหาร ร่ำลากันก่อนจะเดินออกไป ในทิศทางที่แตกต่าง ผลินก็เตรียมที่จะไป ปยุตจับแขนของ เธอไว้ “เดี๋ยวผมไปส่งคุณ
ปยุตบอกหัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับงานบาง อย่างสำหรับวันพรุ่งนี้ จากนั้นเขาก็กลับไปที่ร้านอาหาร และ ออกมาพร้อมถุงพลาสติก
เขาเปิดประตูรถ เมื่อผลินเข้าไปนั่ง ก็เริ่มสตาร์ต เครื่องยนต์ รถมุ่งหน้าไปยังอพาร์ตเมนต์ที่ผลินอาศัยอยู่
ตลอดทาง ทั้งคู่ไม่ได้คุยกันเลย หลังจากไปถึง อพาร์ตเมนต์ ผลินขอบคุณเสียงเบา แล้วลงจากรถไปอย่าง ไม่แยแส
“รับนี่ไป”
ปยุตยัดถุงพลาสติกใส่มือของเธอ โดยไม่รอคำตอบจาก ผลิต เขาก็ขับรถออกไปด้วยเสียงกระหึ่ม
เธอเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ กดเปิดไฟในห้องนั่งเล่น เปิด ถุงพลาสติกออกดู มันเป็นกล่องอาหาร กล่องหนึ่งเป็นเนื้อว้วผัดพริก อีกกล่องหนึ่งเป็นปลาตุ๋นน้ำแดง ทั้งสองจานเป็น อาหารที่เธอชอบ หัวใจของเธอเหมือนขวดแก้วที่ถูกทุบให้ แตกจนไม่มีความรู้สึกใด ๆ เลย
งานยุ่งจนผ่านไปอีกสามวัน ผลิตภัณฑ์ใหม่เริ่มเป็นรูปเป็น ร่างขึ้นแล้ว ดังนั้น จึงมีงานเลี้ยงอาหารค่ำเป็นครั้งที่สอง ที่ จริงแล้วเรียกได้ว่ามันควรเป็นงานฉลอง
หลังจากมื้ออาหารเย็นที่โรงแรมระดับห้าดาวในเมือง ทุก คนเสนอให้ไปร้องคาราโอเกะ ปยุตพยักหน้าตกลง พาพวก เขาไปที่ไนต์คลับที่ดีที่สุดของเมือง
นั่งอยู่ในห้องขนาดใหญ่ ได้ยินเสียงเพื่อนร่วมงานร้อง เพลง ผลินก็ค่อย ๆ ลืมความสัมพันธ์ที่อึดอัดระหว่างปยุต และฝังตัวเองไปกับบรรยากาศที่สนุกสนาน
“คุณเวทิดา คุณอยากร้องเพลงไหม”
จู่ ๆ ผลินก็ถูกชวน รีบส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว “ฉันร้องเพลง ไม่ได้ ไม่ดีกว่าค่ะ…..
“โธ่ วันนี้มีใครที่ร้องเพลงได้บ้าง อย่าถ่อมตัวเลยค่ะ รีบไป ร้องเพลงเถอะ”
เพื่อนร่วมงานหญิงข้าง ๆ ผลักเธอออกไป แต่เธอปฏิเสธ ที่จะรับไมโครโฟน “ฉันร้องไม่ได้จริง ๆ ค่ะ ฉันมีเสียงที่ไม่ สมบูรณ์ พวกคุณปล่อยฉันไปเถอะ”
เธอจะไม่ร้องเพลง พวกเขาจึงเปลี่ยนเป้าหมาย เล็งเป้า หมายไปที่ปยุต
“ประธานยุต จะมาร้องเพลงให้พวกเราฟังสักเพลงได้ไหม
ปยุตชะงักไป หัวหน้าทีมวิจัยและพัฒนารีบรับทันที “ใช่ ครับ ประธานยุต ร้องสักเพลงสิ ถ้าคุณร้องเพลง พวกเราจะ ทํางานให้หนักขึ้นอีก”
เมื่อเผชิญหน้ากับความคาดหวังของดวงตาทุกคู่ ปยุตจึง รับเอาไมโครโฟนมา “งั้นก็ได้”
แปะแปะ……
ปยุตยังไม่เริ่มร้องเพลง ก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นทั่วทุกที่ ผลินพึมพำเสียดสี “ขายหน้าแน่นอน
เขาเลือกเพลงภาษาอังกฤษ OceanDeep (ลึกล้ำดัง มหาสมุทร) เพลงเศร้าบรรเลงช้า ๆ เมื่อห้องทั้งห้องเงียบลง เสียงแหบทุ้มในแบบผู้ชายก็เริ่มขึ้น
love, can’t you see i’m alone
can’t you give this fool a chance
A little love is all i ask
A little kindness in the night
Please don’t leave me behind no, don’t tell me love is blind
A little love is all i ask
นี่เป็นครั้งแรกที่ผลินได้ยินเสียงปยุตร้องเพลง เธออยู่ใน ความรู้สึกที่สับสน มองไปที่แผ่นหลังของเขา ฟังกระแส เสียงที่ไม่คงที่ของเขา ดวงตาของเธอต่างปกคลุมไปด้วย ม่านหมอกของน้ำตา
ทุกคนฟังอย่างตั้งใจ เพื่อนร่วมงานหญิงข้าง ๆ ผลินอดไม่ ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าประธานยุคที่เย็น ชาเหมือนน้ำแข็งของพวกเราจะมีด้านที่อบอุ่นแบบนี้ หัวใจ ดวงน้อยของฉันแทบจะกระโดดโลดเต้นออกมาแล้ว”
เธอปิดหน้าอกตัวเองอย่างเกินจริง มองไปยังแววตา ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของผลินอย่างสนใจ แล้วอุทานว่า “แม้แต่คุณเวทิดายังถูกครอบคลุมด้วยสเน่ห์ของประธานยุต ของเราเลย ถ้าประธานยุตแต่งงานผู้หญิงคนนั้นจะมีความ สุขมากขนาดไหนกันนะ…..”
จู่ ๆ ผลินก็ได้สติตื่นจากภวังค์ และหันไปถาม “คุณเพิ่งพูด ว่าอะไรนะคะ”
“ฉันบอกว่าประธานยุตของพวกเราร้องเพลงได้ดี นอกจากนี้ยังมีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูด นอกเหนือจากการใช้ชีวิตเสเพล อย่างอื่นก็สมบูรณ์แบบหมดค่ะ”
“ไม่ใช่ประโยคนี้ค่ะ”
ผลินหายใจเข้าลึกๆ “คุณบอกว่าผู้หญิงที่ได้แต่งงานกับ ประธานยุตของพวกคุณคงมีความสุข ประธานยุตของพวก คณไม่ได้แต่งงานแล้วเหรอคะ”
เพื่อนร่วมงานหญิงเบิกตากว้าง “ใครบอกคะ บริษัทของ เราก่อตั้งขึ้นเพียงสองปี ฉันเป็นพนักงานกลุ่มแรก ทำไมฉัน ไม่เคยได้ยินว่าเขาแต่งงานแล้ว”
“บางทีคุณอาจจะไม่รู้
“ไม่นะคะ ถ้าประธานยุตแต่งงาน ฉันแน่ใจว่าเราต้องมีงาน เลี้ยงฉลอง ถ้าไม่มีงานเลี้ยงฉลองก็แสดงว่ามันเป็นแค่ข่าว ลือ แต่จนถึงตอนนี้ ฉันยังไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับข่าวลือ การแต่งงานของเขาเลย!”
ผลินตกอยู่ในความเงียบ สมองของเธอเริ่มสับสน ไม่แน่ใจ ว่าเรื่องจริงคืออะไรกันแน่
เวลาห้าทุ่ม ในที่สุดทั้งหมดก็สนุกกันจนพอใจ ออกจาก ไนต์คลับ ผลินมีสติก้าวขึ้นรถของปยุต เมื่อเขาร่ำลากับ พนักงานเสร็จแล้ว ในจิตใต้สํานึกของเธอ เขาไม่ได้พูด อะไร หมุนรถกลับ และพวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังอพาร์ตเมนต์ ของผลิน
เพียงครึ่งชั่วโมงก็ถึงอพาร์ตเมนต์ ปยุตนั่งนิ่งอยู่ในรถ ตอนนี้ระหว่างทั้งสองคน มันไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดที่ จะลงไปเปิดประตูรถให้กับเธอ
ปยตนั่งนิ่ง ผลินก็ยังนั่งนิ่ง จนเขาต้องเตือนด้วยความ ประหลาดใจ “ไม่ลงจากรถเหรอ”
“คุณกับจันทรเป็นยังไงบ้าง แต่งงานแล้วหรือยัง”
ทันใดนั้นสีหน้าปยุตก็แข็งเกร็ง แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นท่าที เหยียดหยามดูถูก เขาปลดเข็มขัดนิรภัย แล้วโน้มตัวเข้าหา เธอ พูดหยอกล้อ “ทําไมคุณถึงถามว่าพวกเราเป็นยังไง ถ้า ผมบอกว่าพวกเราไม่เป็นยังไง คุณยังอยากอยู่กับผมไหม ล่ะ”
เขาพูดจบก็จะเข้ามาจูบเธอ ผลินเอื้อมมือไปหยุดร่างกาย ของเขาไว้ “ใครอยากจะอยู่กับคุณ น่ารังเกียจ!”
เธอแกะเข็มขัดนิรภัยด้วยความโกรธและเตรียมที่จะลงจาก รถ แต่ถูกปยุตจับข้อมือ “ที่จริงแล้วถ้าคุณอยากให้ผมอยู่ กับคุณ ผมก็เต็มใจนะ เพราะผมแทบจะไม่มีภูมิคุ้มกันต่อคำ เชิญชวนของผู้หญิงเลย”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ