บทที่ 134 กลับบ้านสุขสําราญ
คีรินจึงเข้ามากอดเอวญาดา “ตอนนี้กลับบ้านสุข สําราญกับผม ตอนเที่ยงเราจะไปกินข้าวที่นั่น คุณย่าอยาก เจอคุณ”
เหอะ…….
แม่เฒ่าคนนั้นอยากเจอหน้าเธอ
เธอไม่อยากจะเชื่อ
คีรินกำลังคิดจะทำบ้าอะไร
“หลานสะใภ้ยังไงก็ต้องเจอยายสามี”
เขาพูดไปก็ก้มหน้าลงมาประกบจูบเธอ “ผมรู้ว่าคุณ ไม่ชอบที่นั่น ลำบากคุณหน่อยนะ แค่กลับไปกินข้าวเป็น บางครั้ง ยังไงครอบครัวเราก็พักอาศัยอยู่ที่นี่อยู่แล้ว ไม่มี ใครทำให้คุณลำบากใจแน่นอน”
เธอพยักหน้า “แล้วแต่คุณจะตัดสินใจ”
คีรินจึงลูบหน้าเธอ “ทำไมวันนี้เชื่อฟังขนาดนี้” เธอแสยะยิ้ม “ฉันยังกล้าไม่เชื่อฟังคุณอีกหรอ?”
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป “นี่คุณ!”
เธอดึงมือเขาออก “รอฉันหน่อย ขอไปล้างหน้าล้าง ตาก่อน”
เธอพูดไปก็เข้าห้องไป แล้วเดินไปห้องน้ำตรงชั้น หนึ่ง จากนั้นก็ใช้น้ำเย็นล้างหน้า แล้วมองตัวเองในกระจก ใบหน้าที่งดงามของตัวเอง ไม่ได้ดูมีชีวิตชีวาอีกต่อไป สีหน้าดูเหมือนคนไร้วิญญาณ
ในบ้านสุขสําราญมีพ่อ ย่าและน้องชายเขาอยู่ มีแต่ คนที่เธอไม่อยากเห็นหน้า แต่ว่าเธอก็ต้องไปเผชิญอยู่ดี
เธอเลยเอาหน้ามุดลงไปในน้ำเย็นๆ แล้วค้างไว้จน กลั้นหายใจไม่อยู่ จึงจะเงยหน้าขึ้นแล้วฝึกยิ้มตรงหน้า กระจก
ผู้หญิงที่ยิ้มอย่างขมขื่น สี่ห้าปีก่อน มีผู้ชายคนหนึ่ง เคยบอกว่าตอนเธอยิ้ม เขาแทบจะใจละลาย ตอนนี้เธอ อยากจะรื้อฟื้นความทรงจำให้เขาอีกครั้ง
จู่ๆคีรินก็เดินเข้ามา แล้วมองเธอ “ทำไมล้างหน้านาน ขนาดนี้”
เธอจึงพยายามฝืนยิ้มใส่เขา “สีหน้าของฉันไม่ค่อย ดีต่อแต่งหน้าหน่อยๆ ทีแรกย่าคุณก็ไม่ชอบฉันอยู่แล้ว ยัง ไงฉันก็ต้องรักษารูปลักษณ์ของตัวเองหน่อย”
พูดถึงแม่เฒ่าคนนั้น เขาเหมือนมีอะไรจะพูด เลย ครุ่นคิดไปสักพักแล้วพูด “คุณย่าอายุเยอะแล้ว ท่านต้อง ไม่ทําให้คุณต้องลําบากใจแน่นอน คุณแค่อดทนหน่อย อย่าได้สนใจท่านเลย คนแก่ทนรับความทุกข์ไม่ได้”
เธอพยักหน้า “อืม ฉันรู้ ฉันจะไปเรียกร้องอะไรจาก คนแก่ได้ยังไง?”
เขาจึงลูบหัวเธออย่างไว้ใจ “ถ้าทำดี กลับมาผมจะให้ รางวัลคุณ”
เธอจึงพูดขึ้นโดยเร็ว “วางตัวดี จะได้รางวัลอะไร? ปล่อยฉันไปหรอ?”
สีหน้าของคีรินจึงหน้าบูดขึ้นทันที
เธอเลยรีบคลี่ยิ้ม “แค่ล้อเล่นน่ะ เรามีลูกด้วยกันแล้ว ฉันจะไปไหนได้?”
เขาจึงทำหน้าตาสงสัย “คุณคิดแบบนี้จริงหรอ?”
เธอเลยพูดขึ้น “ไม่งั้นฉันจะทำยังไงได้ ฉันจะสู้คุณ ไหวได้ยังไง?”
เธอพูดตามความจริง ถ้าเธอหนีไปได้ เธอคงหนีตั้งนานแล้ว ไม่อยู่ตรงหน้าเขาตรงนี้หรอก
เธอไม่จําเป็นต้องทําเป็นชอบเขาเหมือนแต่ก่อน เพราะเธอแสดงละครได้แย่มาก เขามองออกว่าเธอกำลัง เสแสร้ง
“ต่อไปคำพูดพวกนี้ก็อย่าพูดอีก เวลาจะเป็นเครื่อง พิสูจน์ว่าคุณอยู่กับผม คุณต้องมีความสุขอย่างแน่นอน ตอนนี้คุณต่อต้านผม ผมเข้าใจดี”
เขาจึงโอบเอวเธอไว้แล้วพาเธอเดินไปข้างนอก
เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์?? เธอต้องมีความสุขที่ได้ใช้ ชีวิตกับเขา เหอะๆ……..กลัวว่าชีวิตนี้เธอคงต้องผ่านไป อย่างทรมานมากกว่า
เขาขับรถไปเอง วันนี้เป็นเรื่องน่าแปลกที่ไม่มีบอร์ดี้ การ์ดไปด้วย เขาไม่กลัวหรอว่ามีคนจะลักพาตัวเขา
เขาเปิดลิ้นชักในรถแล้วเธอก็เห็นปืนสีดำ คีรินกลับ พกปืน ถ้าตามกฎหมายแล้ว บุคคลธรรมดาไม่สามารถพก ปีนได้
เขาสังเกตเห็นสีหน้าของเธอ เขาเลยควักปืนออกมา แล้วโยนใส่ตักเธอ เธอสะดุ้งตกใจ
“ดูสิทำให้คุณตกใจเลยสิท่า คนอย่างผม พกปืนก็ เป็นเรื่องธรรมดา ผมซื้อมาอย่างถูกกฎหมาย ไหนๆคนที่จะ ทําร้ายผมก็ไม่น้อย ถ้าผมตายไป GDPของประเทศก็คง ลดลงไม่น้อย รัฐบาลจึงทำดีกับคนอย่างผม เข้าใจไหม?”
เธอมักจะรู้สึกว่าคีรินตั้งใจพูดแบบนี้กับเธอ
เธอเลยจับปืนขึ้น ปืนเป็นปืนกระบอกเล็ก ที่ใช้ในการ ป้องกันตัว ยังไงปืนก็เก่งกว่ามีดอยู่แล้ว
“มีกระสุนไหม? ” ญาดาถาม
เขาเลยมองเธอ แล้วกระตุกยิ้มขึ้น “มีสิ ไม่เชื่อคุณก็
ลองดู”
พูดจบเขาก็กระตุกคิ้วมองเธอ
เธอมองปืนในมือ แล้วเล็งไปยังคีรินทันที
เขาทำเป็นไม่กลัวและขับรถไปโดยที่ทำเหมือนไม่มี คนนั่งข้างเขา สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ ทำเหมือน ปืนนี้เป็นปืนของเล่น
“นี่เป็นปืนจริงหรอ? มีกระสุนจริงหรอ?” เธอถามขึ้น อย่างไม่น่าเชื่อ เขาไม่กลัวเลยหรือไงว่าเธอจะขาดสติแล้วฆ่าเขา
คีรินจึงหันข้างมองเธอ “คุณลองดูสิ?”
“คุณไม่กลัวจริงๆหรอ? ว่าฉันจะฆ่าคุณ?”
คีรินพูดขึ้นด้วยเสียงผ่อนคลาย “ทำไมต้องกลัว คุณ เอาปืนเล็งผม ผมก็ต้องกลัว? ผมนอนข้างคุณมาจนนับไม่ ถ้วน ถ้าคุณอยากฆ่าผม คุณทำไปนานแล้ว”
คีรินพูดเรื่องจริง เธออยากจะตายไปพร้อมเขา เธอ สามารถป้ายยาพิษตามตัวเธอได้ ตอนที่เขานอนกับเธอ จะ ได้จัดการเขาเลยทีเดียว
แต่ว่าเธอไม่อยากตาย ถ้าเธอตายไปกับเขา ใส่ใจจะ
ทำยังไง
และที่สำคัญที่สุด เธอกับเขารู้ดีการตายไม่ได้เป็นสิ่ง ที่ทรมานคนได้ดีที่สุด เหมือนเขาทำตอนนี้ เขาไม่อยากให้ เธอตาย
เธอจึงโยนปืนใส่เขา “วันข้างหน้าอย่าให้ฉันจับเล่นๆ อีก ฉันกลัวว่าวันหนึ่งฉันจะทนไม่ได้แล้วฆ่าคุณ”
เขาจึงใส่มันในลิ้นชัก “ถ้าตายด้วยน้ำมือคุณ ผมจะไม่เสียใจเลยสักนิด”
พูดไปเขาก็ยื่นมือมาจับหน้าเธอ
เธอสะบัดมือเขาออก แล้วพูดขึ้นอย่างเบื่อหน่าย “ขับรถไปดีๆ เดี๋ยวเราจะได้ตายไปด้วยกันเพราะรถคว่ำ”
เขาเลยพูดต่อ “งั้นก็ไม่เลว ตายไปด้วยกันนั้นโรแมน ติกจะตาย”
โรแมนติกอะไร ใครอยากตายไปกับเขา
พอถึงบ้านสุขสำราญ แม่บ้านจึงเรียกขึ้นอย่างมีความ สุข “คุณชายใหญ่กลับมาแล้ว”
เขาพยักหน้าแล้วชี้ไปที่ญาดา “วันข้างหน้าก็เรียก เธอว่าคุณผู้หญิง”
แม่บ้านจึงมองเธอด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
คีรินจ้องหน้าแม่บ้านแล้วสื่อให้เธอเรียกญาดา “คุณ
ผู้หญิง”
เขาเลยดึงเธอเข้าห้องรับแขกอย่างพอใจ
เพราะว่าเป็นมื้อเที่ยง ทุกคนก็อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา แม้กระทั่งมาร์วินก็อยู่ที่บ้านด้วย
มาร์วินกลับกรุงเทพตั้งนานแล้ว เขาเปิดศูนย์แลปให้ น้องชายสุดที่รักของเขา ใส่อุปกรณ์ที่ดีที่สุด และจ้างผู้ ช่วยที่เก่งที่สุด และให้มาร์วินได้ทำตามความชอบของเขา
คีรินจึงทักทายผู้ใหญ่ “สวัสดีครับ คุณย่า คุณพ่อ คุณน้า คุณอา”
เขาโอบเอวเธอไว้ และให้เธอเรียกตามเขาอย่างเชื่อ ฟัง เธอจึงต้องทำสีหน้าที่ไม่พอใจพูดขึ้น
พวกเขาทุกคนต่างก็มองเห็น
ย่าของคีรินเลยใช้ไม้เท้ากระแทกพื้นแรงๆ “เหอะ! นางผู้หญิงชั้นต่ำ ไม่รู้จักกลับตัวกลับใจ!”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ