ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 169 แกะที่หลงทางไม่เคยกลับมา (2)



ตอนที่ 169 แกะที่หลงทางไม่เคยกลับมา (2)

เมื่อออกจากโรงพยาบาล ปยุตตำหนิเธอด้วยความโกรธ “คิดว่าหัวตัวเองทำจากเหล็กงั้นเหรอ ใครบอกให้เธอมารับ ขวดแทนฉัน ในช่วงอันตรายแบบนั้น เธอควรอยู่เฉย ๆ ไม่ ต้องขยับ”

“คุณมาออกรับแทนฉัน ฉันจะทนดูคุณตกอยู่ในอันตราย ได้ยังไง ยังไงก็ตาม ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะ”

ปยุตโบกมือ “ด้วยความยินดี แม้ว่าจะเป็นคนแปลกหน้า ฉันก็ทนดูคนจะตายแล้วไม่ช่วยไม่ได้”

ดวงตาของจันทรมีร่องรอยของความเศร้าโศก เพราะป ยุตบอกเธอทางอ้อม ว่าเขาไม่มีเจตนาอื่นใดที่ช่วยชีวิตเธอ มันเป็นแค่สัญชาตญาณของความกล้าหาญและชอบธรรม

“ฉันจะคืนเงินยี่สิบล้านให้คุณค่ะ”

“ไม่ต้องคืน ถือว่าเป็นค่าหลักฐานที่เธอให้ฉัน

“ฉันจะจ่ายคืนให้แน่นอน ฉันให้หลักฐานกับคุณเพราะ ฉันรักคุณ และคุณจ่ายให้ฉันยี่สิบล้านแต่ไม่ใช่ด้วยเหตุผล เดียวกัน ถ้าคุณยังคงมีความรักให้ฉันสักครึ่งหนึ่งล่ะก็ฉันจะ ไม่คืนมัน”

นอกเหนือจากความรัก ส่วนที่เหลือควรคำนวณให้

ชัดเจน
ปยุตยักไหล่ “ก็แล้วแต่เธอ”

เขาไม่ได้ต้องการให้จันทรคืนเงินยี่สิบล้าน และหัวใจ เท็จก็บอกว่าเขายังมีเธออยู่ในหัวใจ “ขึ้นรถเถอะ ฉันจะไป ส่งเธอ”

ครั้งนี้จันทรไม่ปฏิเสธ เข้าไปนั่งในรถเขาเงียบ ๆ ระหว่าง ทางมีการพูดคุยเล็กน้อยระหว่างคนสองคน จนเมื่อรถจอด ในอพาร์ตเมนต์ เธอลงจากรถแล้วถามเขาว่า “คุณอยาก เข้าไปนั่งข้างในก่อนไหมคะ”

ปยุตส่ายหน้า “ไม่ล่ะ มันดึกแล้ว”

“งั้นก็ระวังตัวด้วยนะคะ”

“อืม ระวังแผลของเธอด้วย”

เขาสตาร์ตรถ ขับรถออกจากพื้นที่นั้น ผ่านไปไม่ถึงห้า นาที เขาก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์แปลก ๆ จึงก้มลงมองด้วย ความสงสัย เหลือบไปเห็นว่าโทรศัพท์มือถือของจันทรตก อยู่ในรถของเขา

หน้าจอโทรศัพท์มือถือบอกว่าเป็นป้า ปยุตรู้ว่าจันทรมีป้า เขาเคยเห็นมาก่อน แต่ลังเลที่จะกดตอบรับ คิดว่าตอนนี้เขา และจันทรเลิกกันไปแล้ว มันคงแปลกที่จะรับโทรศัพท์ของ เธออีก จึงวางโทรศัพท์มือถือลง และหมุนวนรถขับกลับไป อีกครั้ง
กลับไปที่อพาร์ตเมนต์ของจันทร เขาเคาะที่ประตูพร้อม กับโทรศัพท์มือถือของเธอ หลังจากเคาะอยู่นานก็ไม่มีใคร ตอบ เห็นประตูเปิดและมีช่องว่างอยู่ เขาจึงเอื้อมมือไปผลัก ประตูเปิด ร้องเรียกเบา ๆ “จันทร เธออยู่ที่นี่หรือเปล่า”

ยังคงไม่มีใครตอบ เขาลังเลเพียงไม่กี่วินาที แล้วตรง เข้าไปข้างใน และวางโทรศัพท์มือถือของเธอลงบนโต๊ะ

หันหลังแล้วเดินออกไป แต่ชนเข้ากับจันทร จันทรถาม ด้วยความประหลาดใจ “พี่ยุต คุณยังไม่ไปอีกเหรอคะ”

เขาชี้นิ้วไปข้างหลัง “โทรศัพท์มือถือของเธอตกอยู่ใน รถของฉัน ป้าของเธอเพิ่งโทรหาเธอ ฉันกลัวว่าจะมีเรื่อง ด่วนเกิดขึ้น ดังนั้นก็เลยเอามันกลับมาให้เธอ

จันทรตบที่หน้าผาก “ดูเหมือนว่าสมองฉันจะเบลอแล้ว ไม่เคยเป็นคนขี้หลงขี้ลืมแบบนี้มาก่อนเลย”

เธอยิ้มอย่างเขินอาย ชี้ไปที่โซฟา “ไหนไหนก็มาแล้ว ดื่มก่อนค่อยไปเถอะค่ะ”

“ไม่ต้อง เธอพักผ่อนเถอะ”

ปยุตกำลังจะเดินออกไป แต่ถูกจันทรลากไปนั่งบนโซฟา อย่างไม่มีเหตุผล “ถึงคุณจะต้องการอยู่ห่างจากฉันขนาด ไหน ก็ไม่ต้องแสดงมันออกมามากนักก็ได้ค่ะ”

เธอเดินไปที่ตู้เย็น เทน้ำผลไม้และพูดว่า “ฉันเพิ่งไปทิ้งขยะ ตอนที่กลับมาก็สงสัยว่าทำไมถึงมีรถที่เหมือนของคุณ จอดอยู่ที่ประตูบ้านฉัน

ปยุครับน้าผลไม้จากมือของเธอและดื่มมัน หลังจากการ ต่อสู้และไปโรงพยาบาล จึงค่อนข้างกระหายน้ำ

“ช่วงนี้ธรรศไปไหน ทำไมไม่เห็นเขา

จันทรตอบอย่างรวดเร็ว “ไปแสดงต่างจังหวัดน่ะค่ะ”

“เธอไม่มีแผนจะรับความรู้สึกของเขาเหรอ เขาเหมาะกับ เธอมากกว่าฉัน”

“ความรักไม่ใช่ว่าเหมาะสมก็สามารถเป็นไปได้ ปราศจากความรู้สึกถึงเหมาะสมก็เปล่าประโยชน์”

เขาพยักหน้า “ถ้าเป็นอย่างนั้นก็อย่าไปยุ่งกับเขาอีก รีบ ปล่อยเขาไปได้แล้ว เขาจะได้ไปไล่ตามความสุขของตัวเอง ลุงของฉันมีเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียว”

“อืม เข้าใจแล้วค่ะ”

ปยุตวางแก้วลง ลุกขึ้นและพูดขึ้นว่า “ดูแลตัวเองด้วย ฉันไปล่ะ”

เขาเพิ่งก้าวออกไปไม่กี่ก้าว จันทรก็กอดเขาแน่นจาก ด้านหลัง สะอื้นและพูดว่า “พี่ยุตคะ คืนนี้ค้างคืนที่นี่ไม่ได้เห รอ”
ปยุต ร่างกายแข็งทื่อ เอามือของเธอออกจากรอบเอว ทันที และพูดด้วยเสียงต่ำว่า “ฉันเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว กรุณารักนวลสงวนตัวด้วย”

“แค่คืนเดียว แค่ให้ฉันคืนนี้ จากนั้นฉันจะนำความทรงจำ ที่ดีทั้งหมดของคุณไปกับฉัน และหายไปจากโลกของคุณ”

จันทรโอบกอดเขาอีกครั้ง ปยุตนั้นหมดความอดทนแล้ว ใช้มือข้างหนึ่งผลักเธอออกไป ตวาดออกมาด้วยความโกรธ ว่า “อย่าให้ฉันต้องดูถูกเธอ”

การตวาดของเขาทําให้เขารู้สึกเวียนศีรษะ จึงสะบัด ศีรษะอย่างแรง ดวงตามองเห็นแต่ภาพเบลอสั่น จันทรเดิน มาหาเขา ช่วยพยุงเขาและเอ่ยถาม “พี่ยุตคะ เกิดอะไรขึ้น กับคุณเหรอคะ”

ร่างกายเริ่มอ่อนแรงและเริ่มมืดดับ ในจิตใต้สํานึกอัน น้อยนิดที่เหลืออยู่ เขารู้สึกว่าตัวเองถูกจันทรพาตัวเอง เข้าไปในห้องนอน และถูกวางลงบนเตียง จากนั้นใบหน้า ของเธอก็เข้ามาใกล้เขา ในที่สุดดวงตาของเขาก็หลายเป็น สีดำมืด สูญเสียสติสัมปชัญญะโดยสมบูรณ์…

ในคืนนั้น มีเสียงร้องคราญครางดังออกมานอกหน้าต่าง อย่างดุเดือด

หลังจากตื่นขึ้นมา มันเป็นเวลาแปดโมงเช้า ปยุต พยายามจับต้นชนปลาย พลันระลึกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทันใดนั้นเขาก็เลิกผ้าห่มขึ้น หลังจากเห็นร่างกายตัวเองเปลือยเปล่า เส้นเลือดก็ระเบิด…

เขาหยิบกางเกงบนพื้นขึ้นมาใส่ เดินไปเตะเปิดประตู ห้องน้ำ ดวงตาของเขาเป็นสีแดงก่ำ คว้าจันทรที่ยืนอยู่ใต้ ฝักบัว และกดเธอเข้ากระแทกกับผนัง เอ่ยคำรามตะเบ็ง เสียง “เมื่อคืนเธอทําอะไรกับฉัน!”

ใบหน้าของจันทรซีดเซียวเหยเก แต่ก็ให้คําตอบที่ตรง ไปตรงมา “ทําเหมือนเมื่อสามปีก่อน ที่พวกเรามักจะทำกัน บ่อย ๆ ไงคะ”

“เธอตายซะเถอะ!!”

ปยุตโกรธมาก ความรู้สึกทั้งหมดหลุดจากการควบคุม เขาเพิ่มแรงของมือ หน้าเหยเกของจันทรเปลี่ยนเป็นสีซีด ขาวและกลายสีเขียว และเปลี่ยนจากสีเขียวกลายเป็นสีม่วง แผลที่หน้าผากก็กระแทกกับผนังจนฉีกขาด เลือดสีแดงสด ไหลลงแก้มและเลยไปยังกระดูกไหปลาร้า มันไหลเข้าไป ในที่ที่มีชื่อของป

“ฉัน…..รัก…..คุณ

จันทรกำลังจะตาย แต่ยังคงพยายามดึงพลังเฮือก สุดท้าย เปล่งเสียงออกมาสามคำรอดไรฟัน ปยุตเหลือบ มองอย่างเย็นชาไปที่ตัวอักษรคำว่าปยุตบนหน้าอกที่กลาย เป็นสีเลือดของเธอ ทันใดนั้นก็ยิ้มเยาะ

เขาคลายมือของเขาซึ่งอาจทำให้จันทรตายได้ถ้าเขายังคงลงแรงต่อในอีกเพียงนาที พูดด้วยดวงตาเย็นชาและสิ้น หวัง “เธอทําให้ฉันรู้สึกแย่มาก

สี่ปีแห่งความรัก สามปีแห่งการรอคอย ในที่สุดในตอน นี้ก็กลายเป็นควันลอยหายไป ปยุตไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน รู้สึกเสียใจที่รักจันทร

จันทรคุกเข่าต่อหน้าเขา ร้องไห้อย่างอ่อนแอ “พี่ยุตคะ พวกเราไม่ใช่ไม่เคยอยู่ด้วยกันมาก่อน ทำไมคุณถึงทำแบบ กับฉัน”

ปยุตมองดูผู้หญิงที่นอนอยู่แทบเท้าของเขา จนถึงตอน นี้เขาไม่มีทางคิดว่าเธอกำลังนั่งอยู่ในร้านก๋วยเตี๋ยว ซึ่งเป็น หญิงสาวที่ยิ้มได้อย่างบริสุทธิ์ไร้เดียงสาราวกับนางฟ้า เขา ผิดหวังในตัวเธออย่างไม่มีชิ้นดี

“ตั้งแต่นี้ต่อไป ฉันไม่อยากเห็นเธออีก…!”

ปยตหันกลับไป ก้าวไปทีละก้าวจนหายไปจากครรลอง สายตาของจันทร คิดว่าเวลาสามปีจะเปลี่ยนแค่ความคิด ต่อกัน แต่ไม่คิดว่าจะกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ซับซ้อน มากกว่าที่คิด

หัวใจของเขาเจ็บปวด แต่ไม่ใช่เพราะการเปลี่ยนแปลง ของจันทร ที่เจ็บปวดเพราะภรรยาของเขา เขาจะสู้หน้าเธอ ได้อย่างไร

มีละอองความหนักหน่วงเศร้าโศกภายในคฤหาสน์นภา ปยุตกลับบ้านมาแล้ว ผลินถามเขาอย่างร้อนรน กระวนกระวาย “เมื่อคืนคุณไปไหนมา”

เขามองดูเธอที่เป็นภรรยา หัวใจถูกแทงด้วยมีดคม เพราะคิดว่าจะซื่อสัตย์กับเธอไปจนวันตาย เขาไม่มีความ กล้าที่จะสารภาพกับเธอ พูดด้วยเสียงแหบแห้งและเหนื่อย ล้า “เมื่อคืนไปดื่มกับเพื่อน เลยนอนที่บาร์

มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นที่บ้าน ดังนั้นผลินจึงไม่ได้ค้นหา ความจริงเท็จในสิ่งที่เขาพูด แต่รีบก้าวเข้าไปหาและพูดว่า “น้องณีไปแล้ว…

เขามึนงงชะงักไป “ไปไหน…”

“คุณดูนี่”

ยื่นโน้ตของน้องสามีที่พบเมื่อเช้านี้ พ่อแม่สามีออกไป ตามหาข้างนอก มีแต่เธอที่อยู่บ้านเฝ้าโทรศัพท์ เผื่อว่าน้อง สามีอาจจะโทรมา

ปยุตย้ายสายตาไปที่กระดาษโน้ตด้วยอาการตัวสั่นเทา “คุณพ่อ คุณแม่ พี่ชาย พี่สะใภ้ หนูไปแล้วนะคะ ขอโทษ ด้วยค่ะที่จากไปโดยไม่ลา หลังจากก้าวข้ามผ่านความเป็น ตายของชีวิต หนูเริ่มที่จะคิดเกี่ยวกับชีวิตตัวเองอีกครั้งว่า อุดมคติของหนูคืออะไร อะไรที่หนูควรแสวงหา ตำแหน่งใน ชีวิตของหนูอยู่ตรงไหน อย่าพยายามตามหาหนูเลยนะคะ หนูจะไปในที่ที่ไม่มีใครรู้จักปาณี ทรัพยสาน เริ่มต้นชีวิตใหม่ อีกครั้ง และใช้ชีวิตในแบบนั้นโดยที่ไม่มีพ่อแม่เป็นเกราะกำบัง ไม่มีความรักของพี่ชายและพี่สะใภ้ ไม่มีพี่ชนัย เมื่อ ฉันกลายเป็นคนที่อยู่ได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องพึ่งพาพวก คุณ ถึงแม้ต้องสูญเสียความรักก็ยังเป็นปาณี ทรัพยสานที่ใช้ ชีวิตได้อย่างภาคภูมิใจ บางทีอาจจะสามปี หรืออาจจะห้าปี จนเมื่อถึงเวลานั้น หนูจะกลับมาค่ะ”

ปยุตหลับตาลงอย่างเจ็บปวด จดหมายในมือร่วงหล่นลง สู่พื้น เขาก้าวไปข้างหน้าสองก้าว ค่อย ๆ โอบกอดผลินเอา ไว้ในอ้อมแขน

ใบหน้าฝังลงกับผมของเธอ ร่างกายของเขาสั่นเทา จน ผลินรู้สึกได้ พยายามที่จะขืนตัวออกและถามว่าเขาเป็นอะไร แต่ปยุตกลับกอดเธอแน่นขึ้น

“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ให้ผมกอดสักพักนะ”

ในตอนนี้ เขาเจ็บปวดมากจริง ๆ สำหรับน้องสาว สำหรับ ตัวเอง สำหรับลิน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ