ตอนที่ 163 เรือสำราญหรูหรา (1)
ปยุคสั่นศีรษะ ไม่มีอะไร
ผลินไม่เชื่อ”เป็นไปไม่ได้ ถ้าคุณถามแบบนั้นนั่นแสดงว่ามี บางอย่างระหว่างคุณสองคน พูดเร็ว มีอะไรที่ฉันไม่รู้อีก”
เขายิ้มอย่างไร้อารมณ์”คุณรู้อะไรระหว่างเราบ้าง”ดู เหมือนว่าเธอจะรู้เรื่องราวของเขามาก
“ฉันรู้มากกว่านั้น”
“งั้นคุณพูดมา ว่าคุณรู้อะไรบ้าง”
“พวกคุณเคยนอนด้วยกัน พวกคุณสักชื่อของกันและกัน บนร่างกายตัวเอง พวกคุณชอบไปทานบะหมี่เผ็ดร้านที่อยู่ ใกล้ ๆ มหาวิทยาลัยปรานต์ด้วยกัน…
โอ้โห ปยุตแกล้งทำเป็นประหลาดใจ “รู้ไม่น้อยนะเนี่ย”
ใจของผลินรู้สึกแย่ เทียบกับสิ่งที่เขาทำกันจันทร นอกจากนอนด้วยกันแล้ว เธอไม่ได้ทำอย่างอื่นด้วยเลย
“พวกเราเคยเรียนกับอาจารย์เฉลิมพลด้วยกัน พวกเราเคย ไปเล่นสกีที่สวิตเซอร์แลนด์ด้วยกัน พวกเราเคยไปญี่ปุ่น เพื่อดูดอกซากุระด้วยกัน เรื่องพวกนี้ คุณไม่รู้หรอ”
แต่เดิมหัวใจก็รู้สึกไม่ดีอยู่แล้ว หลังจากฟังคำพูดของปยุตก็ยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม คิ้วของเธอขมวดเล็กน้อย ถามด้วย ความโกรธ “คุณต้องการยั่วฉันงั้นเหรอ”
ปยุตหัวเราะเสียงดัง เอื้อมไปดึงเธอมาไว้ในอ้อมแขน “เอาล่ะ ไม่จําเป็นต้องอิจฉาคนเก่า ผมสามารถพูดคุยกับคุณ เรื่องความรักครั้งแรกของผมได้เพื่อแสดงให้เห็นถึงความ รู้สึกนั้น ว่ามันเป็นเรื่องจริงที่ผ่านไปแล้ว….
ผลินดูตกใจ ที่เคยอึดอัดก็พลันโล่งอก ความรู้สึกแย่ กระจัดกระจายไป ใช่ เธอไม่ควรอิจฉา เมื่อก่อนในใจของป ยุตยังคงมีจันทร จึงไม่เคยพูดถึงความรักครั้งแรกเลย และ ตอนนี้สามารถพูดกับเธอตรง ๆ นั่นบอกได้แค่ว่า เขาโล่งใจ แล้ว ไม่มีความรักครั้งแรกอยู่ในหัวใจอีกต่อไปแล้ว
เมื่อคิดได้แบบนั้น ก็รู้สึกสดชื่นขึ้น กอดเอวของเขาและ ถามว่า “แล้วคุณจะตั้งชื่อเด็ก ๆ ของพวกเราด้วยหรือเปล่า”
ปยุตก้มศีรษะมองด้วยความประหลาดใจ “พวกเรา…เด็กๆ อะไร”
“มันเป็นความคาดหวังของฉัน แม้ว่าฉันจะยังไม่สามารถมี ลูกตอนนี้ได้ แต่หลังจากมีความคาดหวังชีวิตของฉันจะไม่ น่าเบื่ออีก”
หลังจากเงียบไปช่วงสั้น ๆ เขาก็ตกลงออกมา “ได้”
จากนั้นก็เริ่มคิด “เป็นชื่อของเด็กผู้ชายหรือชื่อของผู้ หญิง”
“เอาทีละชื่อ”
ปยุตครุ่นคิด “เด็กผู้ชายชื่อลม เด็กผู้หญิงชื่อดอกไม้เป็น ไง”
ฟี่บ! ผลินต่อยไปที่ปากเขาแผ่วเบา “ลมอะไรดอกไม่ อะไร แทบจะเป็นกากสกปรกไร้ประโยชน์
“ไม่จริงน่า ผมว่าคำมันเรียบง่ายดีนะ”
“มันเรียบง่ายน่ะใช่ แต่มันก็สกปรก โดยเฉพาะดอกไม่ คุณ ไม่คิดว่ามันฟังดูเป็นชื่อของช่องนางโลมในสมัยโบราณ หรือไง”
ช่องนางโลม…
ปยุตดวงตาเบิกกว้าง “คุณคิดสกปรกเกินไปแล้วหรือ เปล่า”
“ชื่อที่คุณตั้งเองนั่นแหละน่าขยะแขยง
“ได้ งั้นผมจะคิดใหม่
ปยุตครุ่นคิดสักครู่ “แล้วชื่อชุติเดชล่ะเป็นไง
“ชุติเดช?”
“อืม หมายถึงน้ำค้าง น้ำค้างที่หล่อเลี้ยงทุกสรรพสิ่งบนโลกให้ชุ่มชื้น
ผลินพยักหน้าอย่างหนัก “ดี ชื่อนี้ดี ฉันชอบมัน”
ปยุตยิ้มในหัวใจ รู้ว่าเธอจะชอบชื่อนี้ เพราะตราบใดที่มีการ ใช้นําในวรรณกรรมและศิลปะ เธอจะชอบมันมาก
“แล้วเด็กผู้หญิงล่ะ”
“ผู้หญิงก็ชื่อชัชชญา ความหมายคือ จิตใจเหมือนกับ หญ้าฮุ่ยที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ตัวตนเหมือนดอกหลันที่อ่อนช้อย งดงาม ได้ไหม”
ผลินให้จูบแก่เขา “ได้สิ มันดีมากเลย งั้นก็เอาตามนี้”
ผ่านคืนในสวน หลังจากปยุตตั้งชื่อให้เด็ก ผลินตัดสินใจที่ จะเปลี่ยนสถานะที่เป็นอยู่ เธอเข้าใจว่าทัศนคติมีผลต่อการ ตัดสินใจทุกอย่าง ถ้าสภาพจิตใจไม่ดี ย่อมมีผลโดยตรงต่อ ความสามารถในการตั้งครรภ์ของเธอ
ดังนั้น ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เธอทำให้ตัวเองติดเป็นนิสัย ที่ดีในชีวิต ฟังเพลงผ่อนคลายอารมณ์ อ่านหนังสือปลอบ ประโลมจิตใจ ทานอาหารครบสามมื้อต่อวัน ทานยาตรง เวลา ตอนบ่ายไปเดินเล่นในสวนสาธารณะใกล้เคียงอาจจะ เป็นคนเดียวหรือกับแม่สามี ไปเรียนโยคะในตอนเย็น เพื่อ ผลักดันตัวเองออกมาจากความเศร้าความหดหู่ ทำให้เป็น นิสัยการใช้ชีวิตปกติ ทำให้เธอมีอารมณ์ที่ดีขึ้นในทุก ๆ วัน
ในเย็นวันนั้นเธอมาที่คลับโยคะ เมื่อจอดรถได้เห็นผู้หญิง คนหนึ่งเดินลงจากรถข้างหน้าเธอ เพียงแค่มองไปแม้ว่าจะ ไม่คุ้นเคยแต่เธอก็รู้ว่าเป็นใคร ผู้หญิงคนนั้นคือธารีแฟนของ ชนัย สงสัยว่าเธอมาที่นี่ได้ยังไง จากนั้นมีผู้ชายอีกคนลงรถ มา เธอตกใจ ธารีเดินไปหาชายคนนั้น แขนเรียวยื่นออกมา คว้าคอของผู้ชายคนนั้น เป็นฝ่ายเริ่มจูบหวานด้วยตัวเอง
เธอปิดปากของเธอด้วยความประหลาดใจ ไม่อยากจะเชื่อ เลยว่าธารีจะกล้าหาญเช่นนี้ เปิดเผยความรักกับผู้ชายในที่ สาธารณะ คิดถึงสิ่งที่น้องสามีพูดกับเธอก่อนหน้านี้แล้วจู่ ๆ เธอก็โกรธชนัย
เมื่อคุณต้องการจะก้าวออกไปถามเธอ เท้าข้างหนึ่งก็ก้าว ถอยหลัง ชนัยรักแฟนของเขามาก ถ้าธารีไม่ยอมรับ มันไม่มี ประโยชน์ที่จะพูดกับเธอ ดูเหมือนว่า เรื่องนี้คงต้องถกเถียง กันในระยะยาว
ชายคนนั้นเข้าไปในรถแล้วขับออกไป ก่อนที่ผลินจะลง จากรถไป แล้วแกล้งทำเป็นว่าเพิ่งมาถึง และเข้าประตูคลับ ไป
ธารีประหลาดใจที่เห็นเธอ เดินเข้ามาตรงหน้าและทักทาย “สวัดดีค่ะคุณผลินหรือเปล่าคะ รู้จักฉันใช่ไหมคะ”
ผลินยิ้มสุภาพ “แน่นอนค่ะ แฟนของคุณชนัย เราพบกัน ครั้งล่าสุดในโรงพยาบาล”
“คุณมาทำอะไรที่นี่คะ”
“ฉันมาฝึกโยคะ แล้วคุณล่ะคะ”
“ฉันก็เหมือนกันค่ะ ช่วงนี้ร่างกายอ่อนแอเลยต้องหยุดไป สองเดือน ฉันเป็นนักเรียนเก่าของโยคะคลับค่ะ”
“อ้าวเหรอคะ”
ผลินแสร้งทำเป็นว่าบังเอิญ ทั้งสองพูดคุยกันอย่าง กระตือรือร้น ธารีไม่รู้เลยว่าถูกเธอเห็นเข้าแล้ว
ชั้นเรียนโยคะใช้เวลาสองชั่วโมง ในระหว่างพัก ปยุตมา อย่างไม่คาดคิดพร้อมกับช่อดอกกุหลาบสีฟ้า ผลินรู้สึก ประหลาดใจ วิ่งเข้าไปถามอย่างเงียบ ๆ “คุณมาทำอะไรที่
“ผมมาเจรจาธุรกิจ แล้วเดินผ่านมาทางนี้ ก็เลยเข้ามาดู คุณ”
ผลินกระซิบบอก “ไม่ต้องซื้อดอกไม้มาก็ได้
ปยุตยิ้ม “ไม่ใช่เพื่อให้คุณได้หน้า แต่เพื่อให้คนที่นี่รู้ว่ามี สามีที่รักคุณ”
ทั้งสองคนคุยกระซิบกันอยู่นาน แล้วผลินก็พูดขึ้นอย่างไม่ เต็มใจว่า “เอาล่ะ ได้เวลาฝึกซ้อมแล้ว คุณไปเถอะ”
เธอยืนอยู่ในแถว โบกมือให้กับปยุต นั่นทำให้คนรอบข้าง พากันอิจฉา “ว้าว คุณนายผลิน สามีของคุณหล่อมากเลยคะ”
“ไม่ใช่แค่หล่อแต่น่ารักมากด้วย ดอกกุหลาบสีฟ้านั่นหา ชื้อได้ยากมากเลยนะ
“นั่นสิ ฉันฝึกโยคะที่นี่มาครึ่งปี สามีของฉันไม่เคยมาหาสัก ครั้ง…
ผลินเลื่อนสายตาไปทางธารี พบว่าเธอจ้องไปที่ด้านหลัง ของปยุตอย่างครุ่นคิด ทันใดนั้น ก็ยิ่งแน่ใจว่าเธอเป็นผู้หญิง ไม่ดี
กลับบ้านไปในตอนกลางคืน เธอเข้าไปในห้องหนังสือ แล้วดึงปยุตออกมา “ไปกันเถอะ ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ”
“มีอะไรเหรอ”
ปยุตสมองว่างเปล่า
เข้าไปในห้องนอน นั่งลงบนโซฟา เธอพูดอย่างจริงจัง “คุณคิดว่าวันนี้ฉันได้เห็นอะไร”
ปยุต นศีรษะ “ผมไม่รู้ว่าคุณเห็นอะไร แล้วคุณเห็นอะไร
“ฉันเห็นธารีคบซ้อนมีผู้ชายคนอื่น!”
“ธารี? แฟนของชนัย?”
“ใช่”
“เป็นไปไม่ได้…
“จริง ๆ นะ ฉันเห็นมันด้วยตาตัวเอง แถมทั้งสองคนยังจูบ กันด้วย” ผลินพูดรอดไรฟัน “ตอนที่น้องณีบอกฉันก็ไม่อยาก เชื่อ หลังจากเรื่องอุบัติเหตุของชนัยฉันแค่สงสัยนิดหน่อย แต่ตอนนี้ฉันมั่นใจมากเพราะได้เห็นมันด้วยตาตัวเองแล้ว”
“คุณได้บอกเรื่องนี้กับชนัยหรือเปล่า”
“เปล่า คุณชนัยหลงผู้หญิงคนนั้นจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว ถึง ฉันบอกไปเขาคงมาเชื่อ”
ปยุตถอนหายใจ “ลืมมันไปเถอะ ไม่ต้องสนใจเรื่องของคน
อื่น ทุกครอบครัวมีปัญหาของตัวเอง”
“จะไม่ทําอะไรเลยเหรอ ชนัยไม่ใช่คนอื่น เขาเป็นผู้ชาย ที่น้องณีชอบ เรื่องนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับน้องณี เราไม่ สามารถนั่งเฉย ๆ ได้ นอกจากนี้ชนัยก็ยังเป็นคนที่ใกล้ชิดกับ คุณด้วย คุณทนเห็นเขาเป็นคนโง่ให้ผู้หญิงคนนั้นเล่นกับ ความรู้สึกได้เหรอ
“แล้วคณอยากให้ทำอะไร”
“พวกเราต้องหาทางให้ชนัยเห็นตอนเธออยู่กับผู้ชายคน อื่น”
ปยุตมองเธอด้วยความหวาดผวา “อย่าบอกนะว่าคุณคิด แผนเอาไว้แล้ว
“แน่นอนว่าฉันคิดไว้แล้ว ฉันคิดได้ตอนที่ขับรถกลับมา”
“วิธีไหน”
ผลินเข้าไปกระซิบที่ข้างหู ปยุตสั่นศีรษะทันทีที่ได้ยินมัน “ไม่มีทาง ทำไมคุณถึงใช้ผมเป็นเหยื่อล่อ
“เพราะเมื่อเย็นตอนที่คุณไปที่คลับเฮาส์ ฉันพบว่าเธอ เอาแต่จ้องมองคุณ ดังนั้นงานนี้ไม่ใช่คุณแล้วจะเป็นใครได้ อีก”
“แล้วคุณไม่กลัวว่าผมจะเล่นจริงกับเธอเหรอ”
หึ ผลินยิ้มอย่างไร้อารมณ์ “คุณจะอยากได้ของแบบนั้นเห รอ”
ปยุตพูดไม่ออก แต่ก็ยังไม่เต็มใจ “ก็แค่หาใครสักคนก็ พอแล้ว ทำไมต้องเป็นผมด้วย ถ้าชนัยรู้เข้า ผมแย่แน่”
“ถ้าคูณเป็นธารีเพราะอะไรถึงจะทำให้คุณนอกใจล่ะ ทุก อย่างต้องขึ้นอยู่กับชื่อเสียงและความมั่งคั่ง คนธรรมดาเธอ ไม่แลหรอก ชนัยน่ะยอดเยี่ยมใช่ไหมล่ะ นอกจากตัวตนที่ เป็นเด็กกำพร้า แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาเป็นชายหนุ่มที่มี อนาคต ดังนั้นคนคนนั้นจะต้องดีกว่าชนัยถึงจะดึงดูดเธอ”
“ถ้าพูดอย่างนี้ หมายความว่าคุณผลักผมไปหาผู้หญิงคน อื่นอีกแล้วเหรอ”
“แน่นอนว่าไม่ใช่ แค่ให้คุณเสียสละเพื่อช่วยเหลือเป็ดที่ ทนทุกข์ทรมานอย่างชนัยและน้องณี”
“ผมขอคิดดูก่อน”
ปยุตเตรียมจะลุกขึ้น แต่ผลินกดไหล่ของเขาไว้ “ไม่ต้อง คิดอะไรอีกแล้ว ฉันต้องการที่จะใช้โอกาสนี้ไปผ่อนคลาย ข้างนอกไงไม่ดีเหรอ คุณก็เห็นด้วยและตกลงมาเลยได้ไหม ล่ะ สามี”
ผลินอ้อน ปยุตจนหนทาง “อ้ะ ก็ได้ ๆ ยังไงผมก็ตามใจคุณ ผมยินดีจะเอาใจคุณขึ้นอีกหน่อย”
“นั่นเยี่ยมมาก และก็รู้ว่าคุณทำได้ ขอบคุณนะสามี”
เธอรีบเอาโทรศัพท์มือถือออกมา “ฉันจะโทรไปหาชื่นใจ”
“คุณโทรหาชื่นใจทำไม
“ให้เธอนัดไวภพมาร่วมมือกับพวกเรา
“อะไร” ปยุตจ้องหนัก “ทำไมคุณต้องเอาไวภพมาร่วม ด้วย”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ