ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 153 เราหย่ากันเถอะ(3)



ตอนที่ 153 เราหย่ากันเถอะ(3)

“ก็ไม่ยังไง แต่ฉันอยากรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ เธอคิดยังไง กับมัน”

“ฉันต้องบอกเธอด้วยเหรอ”

ดวงตาสีเทาของผลินสะท้อนแสงเย็นชา กวาดตามอง ผู้หญิงที่ฝั่งตรงข้าม จันทรหัวเราะ “ไม่ต้องหรอก แต่ฉัน ต้องเดือนเธอ ถ้าเธอเป็นหมัน ก็ทิ้งพี่ยุตไปซะ มันเป็นวิธี เดียวที่เธอจะสามารถพิสูจน์ความรักที่มีต่อเขาได้

“เธอมีสิทธิ์อะไรมาเตือนฉัน เธอสำหรับคุณปยุต ก็เป็น แค่คนในอดีต ก่อนที่เธอจะพูดออกมาน่ะเธอบอกสถานะ ตัว เองก่อนดีไหม”

“ใครบอกว่าฉันเป็นแค่อดีตของเขา เขารับไม่ได้ที่ฉัน ทิ้งเขาไป เขากับฉันตัดกันไม่ขาดหรอก แม้ว่าเธอจะได้ รับ ความรู้สึกของเขาในช่วงเวลาที่อ่อนแอที่สุดก็ตามที แต่ เป็นไปไม่ได้ที่จะติดความรักของเรา การแต่งงานที่พระเจ้า กำหนดโชคชะตาไว้แล้วไม่มีทางเปลี่ยนแปลงในทุกกรณี มิ ฉะนั้นเธอจะต้องทนทุกข์ทรมานกับการเป็นหมันที่น่าเศร้านี่ เหรอ”

ผลินตัวสั่นด้วยความโกรธ คำว่าเป็นหมันที่ออกมาจาก ปากของจันทร ก็เหมือนการถ่มน้ำลายใส่หน้าเธอ ทำให้ เธอรู้สึกทั้งอับอายและขยะแขยง
“ฉันไม่อยากจะคุยกับเธอมากไปกว่านี้อีกแล้ว ยังไงก็ตาม เธอต้องออกไปจากที่นั่นด้วยตัวเอง

“ฉันไม่มีทางทั้งคุณปยุต

“มันน่าสนุกเหรอ” จันทรเลิกคิ้ว “ผู้หญิงที่ไม่มีความอุดม สมบูรณ์ขั้นพื้นฐาน ต้องเดินไปพร้อมกับใบหน้าที่ ตายแล้ว มันสนุกงั้นเหรอ” ถ้าเทียบกับผู้หญิงหน้าด้านบางคนที่เข้า มาแทรกในชีวิตคู่ของคนอื่นแล้ว ฉันก็ไม่คิดว่าตัวเองมีอะไร ผิดปกติ”

“เธอเข้าใจซะใหม่นะ ฉันมาพบเธอเพราะฉันรู้ว่าเธอเป็น หมัน ฉันโทรหาเธอก่อนแล้วยังไง ฉันแค่รู้สึกว่ามันไม่ ยุติธรรมกับพี่ยุต เขาเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ เขาต้องการ ครอบครัวที่สมบูรณ์ และตอนนี้เธอไม่สามารถตอบสนอง ความต้องการของเขาสำหรับครอบครัวที่สมบูรณ์ได้ ดังนั้น ไม่ควรที่จะทิ้งเขาหรอกเหรอ ให้ฉันเป็นครอบครัวที่ สมบูรณ์ ให้เขาไม่ดีกว่าหรือไง”

ผลินหัวเราะเยาะ “เคยเห็นคนไร้อย่างอายนะ แต่ก็ไม่ เคยเห็นใครไร้ยางอายเท่าเธอมาก่อนเลย เธอคิดว่าถ้าฉัน ทิ้งคุณปยุตไป แล้วตระกูลทรัพยสานจะยอมรับเธองั้นเหรอ เธอก็เป็นเหมือนแม่ของเธอ ใช้ประโยชน์จากอันตราย ของ ผู้อื่น”

จันทรหน้าคว่ำลง เธอกัดฟันและพูดว่า “ถึงจะไม่ยอมรับ ฉัน ก็จะไม่ยอมรับผู้หญิงที่ทำลายการสืบทอดตระกูลของ พวกเขาเหมือนกัน เธอคิดว่าเธอเป็นที่ชื่นชอบในครอบครัวของพวกเขาได้รับความรักจากครอบครัวของพวกเขามาก นักหรือไง ภายในไม่เกินสามปี เธอจะต้องถูกกวาดทิ้ง แน่นอน!”

“เธอไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นหรอก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับ ฉันในอนาคต เธอก็ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดเกี่ยวกับ ผู้ชายของ ฉัน!”

“อ่า ดูเหมือนว่าฉันจะคุยกับเธอไม่รู้เรื่อง บางทีฉันน่าจะ นัดพี่ยุตออกมาเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้นะ พี่ยุตน่ะเป็น ผู้ชายที่ชอบเด็กมาก มันต้องง่ายสำหรับฉันที่จะสื่อสารกับ เขาเรื่องนี้มากกว่าเธอแน่

หัวใจของผลินเจ็บปวด เธอพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “เธอเลิกฝันกลางวันได้แล้ว คุณปยุตไม่ชอบเด็ก ถ้าเธอ อยากจะยั่วเขาให้มีลูกกับเธอ ฉันคงต้องแนะนำให้เธอเลิก คิดมันไปได้เลย

จันทรหัวเราะเสียงดัง “ไม่ชอบเด็กงั้นเหรอ เธอนี่มัน ตลกจริง ๆ เธอไม่สามารถมีลูกได้ก็เลยบอกว่าคนอื่นไม่ ชอบ เด็กงั้นเหรอ สามปีที่แล้ว ตอนที่ฉันรักกับพี่ยุตน่ะ เธอรู้ ไหมว่าหลายครั้งที่เราทะเลาะกันเรื่องเด็ก

ผลินหน้าบึ้งและเงียบ จันทรพูดด้วยความภาคภูมิใจ “เขาบอกว่าอยากให้ฉันให้กำเนิดลูกสาวในอนาคต ฉันบอก ว่าจะให้กำเนิดลูกชาย ทุกครั้งเราจะทะเลาะกันเป็นเวลานาน ในเรื่องผู้ชายหรือผู้หญิง เขาตั้งชื่อของเด็กด้วยนะ แต่ ยังไงก็ตามฉันจะไม่บอกเธอหรอกนะว่าชื่ออะไร เพราะว่านั่นมันสําหรับลูกในอนาคตของพวกเรา เธอเป็นคนนอกไม่ จําเป็นต้องรู้”

ถ้าคําพูดแรกของจันทรเป็นเหมือนมีด คำพูดหลังก็เป็น เหมือนดาบ แทงทะลุหัวใจของผลินอย่างไร้ความปราณี หัวใจของเธอเลือดออก แต่ภายนอกนั้นไม่มีแม้น้ำตาสัก หยด ไม่มีใครรู้ว่ามันต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน ที่จะ ซ่อนความเจ็บปวดของตัวเองเอาไว้อย่างดีเช่นนี้

“มีอะไรอีกไหม พูดต่อไปสิ”

นั่นทําให้จันทรตกตะลึง คงไม่คิดว่าจะพูดแบบนี้ ผลินยัง คงสงบนิ่ง

เธอไม่พูดอะไรอีก ผลินจึงลุกขึ้นช้า ๆ ถือแก้วน้ำขึ้น ก่อน ที่จะสาดใส่ใบหน้าของเธอ “จําเอาไว้ อย่า ทะเยอทะยาน ให้มันมากนัก”

เธอหันหลังและเดินจากไป จันทรร่างกายสั่นเทิ้ม ส่ง เสียงพึมพำาลอดไรฟัน “ผลิน ฉันจะทำให้เธอได้รู้ ว่าอะไร คือความทะเยอทะยานที่แท้จริง!

ออกจากร้านกาแฟ สิ่งที่กักเก็บไว้ทั้งหมดของผลิน พังทลายลง เธอก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว น้ำตาไม่ สามารถหยุดไหลได้เลย ทำไมกัน ทำไมทั้งที่เธอไม่อยาก ทําร้ายใคร แต่กลับมีบางคนที่ไม่มีศีลธรรมโรยเกลือบน แผลของเธอ พวกเขามีความสุขที่ได้เห็นเธอเจ็บปวด
คนคนหนึ่งไปที่ทะเล ท้องทะเลเป็นประกายระยิบระยับ เธอร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง อยู่มาได้นานขนาดนี้ตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงตอนนี้ ในที่สุดเธอก็มาถึงจุดนี้จนได้ รู้สึกเหนื่อยกับ การแต่งงานที่ไม่มีทางเลือกนี้ เหนื่อยแล้ว จนอยากยอม แพ้…

ไม่ใช่เพราะการยั่วยุของจันทร แต่เพราะความรู้สึกผิด ชอบชั่วดี ถึงแม้ว่าวันนี้จันทรจะไม่ได้มาพูดยั่วโมโหเธอ เธอ เองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เธอรู้ว่าวันนั้นจะต้องมาถึง มันเป็นเพียงแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น

หลังจากออกมาจากทะเล เธอมาหาปยุตที่บริษัท เธอ ปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น เหมือนดอกไม้ที่ละเอียดอ่อนและไม่ สูญเสียความงาม ยืนอยู่ต่อหน้าปยุต ยิ้มและพูดขึ้นว่า “สามี เลิกงานแล้วหรือยัง

ปยุตรู้สึกแปลกใจและคาดไม่ถึงที่เธอมา “ลิน คุณมาได้ ยังไง”

“ฉันมาที่นี่เพื่อตรวจสอบ ว่าคุณจีบกับเลขาฯ ของคุณ หรือเปล่า”

ปยุตหัวเราะเสียงดัง “เลขาฯ? ชนัย? เขาไม่ใช่อาหาร ของผมหรอก”

“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ นอกจากคุณชนัย คุณยังมีเลขาฯ สาวสวยอีกสองคน
ปยุตแกล้งทําเป็นประหลาดใจ “คุณรู้เรื่องทั้งหมดนี้แล้ว เหรอ ดูเหมือนว่าผมต้องระมัดระวังเรื่องในบริษัทมากขึ้นแล้ วนะเนี่ย”

ผลินยกกําปั้นไปตรงหน้าเขาอย่างอารมณ์ไม่ดี “ถ้าคุณ กล้าออกนอกลู่นอกทางล่ะก็โดนแน่

“น้อมรับคําสั่งครับ ภรรยาที่เคารพ

ทั้งสองยิ้มให้กันและกัน ผลินใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยน “เมื่อไหร่คุณจะเลิกงาน ฉันจะชวนคณไปทานข้าว”

“ชวนผมไปทานข้าว?” ปยุตรู้สึกปลื้มมาก “ทำไมคุณถึง ชวนผมไปทานข้าวล่ะ”

“ที่จริงแล้วฉันไม่ได้จะชวนคุณไปทานอาหารค่ำหรอก แค่อยากทำอาหารอร่อย ๆ ให้คุณทานน่ะ”

ปยุตมองไปที่นาฬิกาบนผนัง “อีกประมาณหนึ่งชั่วโมง นะถึงจะเลิกงาน

“อืม งั้นฉันกลับไปเตรียมตัวก่อน ที่วิลล่าริมทะเล เจอกัน ทีนั่นอย่าลืมนะ”

“รอเดี๋ยวสิ”
ปยุตเอื้อมมือไปดึงเธอกลับมา “ทําไมถึงไปที่วิลล่าริม ทะเลล่ะ”

“แค่อยากทานข้าวกับคุณสองคนน่ะ”

ผลินขยิบตาให้เขา ก่อนที่จะยิ้มและเดินจากไป

ชั่วโมงต่อมา ป ตรู้สึกหมกมุ่นอยู่กับความสุขในหัวใจ พลางคิดว่าภรรยาตัวน้อยจะเซอร์ไพรส์อะไรเขากัน

หลังเลิกงาน เขารีบไปที่วิลล่าริมทะเล หยุดรถแล้วจึง หายใจช้า ๆ เขาเอื้อมมือไปกดกริ่ง

เสียงกริ่งดังขึ้นสักพัก แต่ก็ไม่มีใครตอบ เขาก้มลงเล็ก น้อย เห็นว่าประตูเปิดอยู่

ริมฝีปากยกยิ้มขึ้น เขาเอื้อมมือไปเปิดประตู และเดิน เข้าไปเงียบๆ

คิดว่าจะได้ยินเสียงในครัวที่กำลังยุ่งวุ่นวายทันทีที่เข้า มา แต่เมื่อเข้าไปบ้านทั้งบ้านกลับเงียบไม่มีเสียงใดเลย

บนโต๊ะในห้องนั่งเล่นมีบะหมี่มะเขือเทศใส่ไข่อยู่สอง ชาม มันดูหน้าตาน่าทานมาก

บอกว่าจะทําอาหารอร่อย ๆ ให้เขาทานไม่ใช่เหรอ ทำไม มีแค่บะหมี่ล่ะ
ลึก ๆ แล้วเขารู้สึกแปลก ๆ วางกระเป๋าลง และเดินไปทั่ว ทั้งบ้าน จนในที่สุดก็หยุดที่ประตูห้องนอน

มองเข้าไปในห้องนอนเงียบ ๆ เห็นโต๊ะเครื่องแป้งตรง กลางห้องนอน ผลินกำลังนั่งหวีผมสั้นของเธอ…

ผมสั้น…

ปยุตดวงตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ ก้าวเข้าไป ข้างใน และร้องถามอย่างสงสัย “ลิน?”

เขาสงสัยว่าผู้หญิงตรงหน้าใช่ผลินภรรยาของเขาหรือ ไม่ เสื้อผ้าที่เธอใส่ ทรงผมของเธอ มันแตกต่างจากปกติ

ผู้หญิงคนนี้ค่อย ๆ หันมา และใช่ นี่คือผลินภรรยาของ

เขา ปยุตมองอย่างไม่มีสติ

“ทำไมล่ะ ดูไม่ดีเหรอ”

ทัดผมสั้นเข้าที่ใบหูของตัวเอง แก้มเป็นสีแดงเรื่อเล็ก

น้อย

ทำไมคุณ…ทำไมคุณถึง…” ปยุตใช้เวลาอยู่นานเพื่อให้ ประโยคนั้นสมบูรณ์ “ตัดผมสั้นล่ะ?

“ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่อยากเปลี่ยนทรงผมเพื่อที่จะ เปลี่ยนอารมณ์น่ะ”
ผลินเดินไปหาเขา “มันดูไม่ดีเหรอ”

“ดูดี แต่มันแปลกๆ”

“แปลกตรงไหนเหรอ”

“มันดูไม่เหมือนคุณเลย

ปยุตกลืนน้ำลาย รู้สึกเหมือนเส้นเลือดกำลังจะแตก เขามองผลินตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า และเท้าจรดศีรษะ เกิด การ สั่นอย่างควบคุมไม่ได้กับผู้หญิงตรงหน้า ถ้าให้อธิบาย สถานการณ์ทั้งหมด ก็เหมือนมีวิญญาณร้าย กระชาก วิญญาณออกจากร่างของเขาไป

ปยุตก้าวไปข้างหน้าและประคองเอวบางไว้ ก้มลง กระซิบที่ใบหูของเธอ “คุณกำลังล่อลวงผมเหรอ”

ความร้อน อุณหภูมิ…เผาผลาญประสาทสัมผัสทั้งหมด

ผลินยกยิ้มมีสเน่ห์ “อ่อนโย่นหน่อยนะ”

นั่นเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ทันทีที่เลือดของปยุตวิ่งขึ้นไป บนหน้าผาก เขาอุ้มเธอขึ้นลอยในอากาศเหมือน หมาป่า ผลินพูดแผ่วเบา “คุณยุต ไม่ต้องรีบ ฉันอยากให้คุณอ่อน โยนได้ไหม”
เขาชะงักไป ยับยั้งความปรารถนาของสัตว์ในร่างกาย พยักหน้าสัญญา “ได้”

มันเป็นคืนที่ดีมาก เธอทำให้เขามีความสุขอย่างที่ไม่เคย มีมาก่อน ดูเหมือนว่าเธอจะใช้พลังงานทั้งหมดใน ร่างกาย ของเธอเพื่อช่วยให้เขาพึงพอใจ เสียงหอบของเขาเริ่มหนัก ขึ้นและหนักขึ้น ทันทีที่ถึงจุดสุดยอด เขาก็ร้อง ครางออกมา เหมือนสัตว์ป่า แต่กลับได้ยินว่า “เราหย่ากันเถอะ…”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ