เล่ห์รักนายซาตาน

บทที่ 100 อย่าแตะต้องตัวฉัน !



บทที่ 100 อย่าแตะต้องตัวฉัน !

พอกลับถึงกรุงเทพ รถของมาร์วินจะมารับเธอกลับ บ้านสุขสําราญ แต่เธอปฏิเสธ เธอกลับมาเพื่อที่จะมาดูแม่ เธอ ฉะนั้นเธอเลยจะไปงานศพก่อน และไม่ได้กะจะกลับ ไปบ้านนั้น

มาร่วินก็โทรหาเธอโดยด่วย แล้วบอกเธอว่าศพของ แม่เธอได้ย้ายไปที่บ้านสุขสำราญแล้ว เธอรู้สึกว่าพวกเขา เอางานศพของแม่เธอมาเป็นข้ออ้างให้เธอกลับประเทศ

เธอไม่รู้ว่าพวกเขายังนึกว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ แต่กลับ ไม่ได้ตายๆไปพร้อมกับแม่เธอ เลยรู้สึกไม่พอใจ

เธอเลยไม่มีทางเลือกที่ต้องนั่งรถกลับกับมาร์วิน

บนรถมาร์วินคุยกันเธอ “ญา เรื่องที่มันผ่านมาก็ให้มัน ผ่านไปเถอะ ปล่อยวางหน่อยเถอะ พี่ใหญ่ก็รู้สึกผิดกับญา มากเลยนะ ถือว่าเห็นแก่งานศพของแม่ญา ปล่อยให้ งานศพครั้งนี้ผ่านไปด้วยดีเถอะ อย่าได้สร้างปัญหาหรือ โวยวายอะไรเลย”

เธอขมวดคิ้วแล้วมองเขา “กลัวฉันจะสร้างปัญหา หรอ? ให้ฉันโวยวายอะไร? หรือการตายของแม่ฉันเกี่ยว กับครอบครัวคุณ”

เขาเลยรีบอธิบาย “แม่คุณเป็นมะเร็งจริงๆ ถ้าญาไม่ เชื่อก็ลองไปเช็คข้อมูลที่โรงพยาบาลได้เลย ครอบครัวผม ไม่คิดจะทำร้ายแม่คุณจริงๆ”

เธอจึงแสยะยิ้มขึ้น “คุณกับพี่คุณก็หวังแต่จะให้แม่ ฉันกับฉันตายๆไปไม่ใช่หรือไง?”

“ญาดา ตอนนี้ทำไมคุณถึงกลายเป็น……”

“ไม่ต้องพูดหรอก แม่เธอตายยังไง ยังไงฉันก็จะไป สืบความจริงมาให้ได้”

แม่ฉันตายจากไป ตอนแรกที่เธอรู้เรื่องเธอรู้สึกเสียใจ มาก แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้เสียใจมากนัก ไม่ใช่เพราะว่าเธอชั่ว ร้าย แต่เพราะเป็นเธอได้ตายใจไปแล้ว แม่เธอไม่เคยรับ ผิดชอบในหน้าที่ของคนเป็นแม่เลย ในความคิดของเธอ แล้ว คนที่แม่เธอสมควรขอโทษที่สุดก็คือพ่อที่ไม่ใช่พ่อ แท้ๆของเธอ

คนที่ตายจากไปตอนที่ยังไม่ถึงอายุห้าสิบปี ก็เป็น เรื่องที่น่าหดหู่ใจ แต่เธอได้ทิ้งสามีของเธอไป แล้วไป ทำร้ายชีวิตครอบครัวของคนอื่น มันก็สมควรได้รับกรรม แบบนี้

แม่ของเธอได้ชดใช้กรรมไปแล้ว เธอกำลังคิดว่า แล้วคีรินล่ะ เขาทำเรื่องเลวๆกับเธอไว้มากมายขนาดนี้ เขาล่ะ ทําไมกรรมยังไม่ตามสนองเขาสักที ถึงแม้เธอ เลือกที่จะวิ่งหนีกับทุกสิ่ง แต่เธอไม่เคยปล่อยวางเรื่องที่ เธอเกลียดเขาได้เลย ความเกลียดนั้นยังไม่เคยจางหาย ไป

พอถึงบ้านสุขสําราญ คีรินยืนอยู่ตรงหน้าประตู ใจ ของเธอเริ่มเต้นเร็ว ครั้งก่อนที่เธอเจอเขาที่เดนมาร์ก ก็ ผ่านมาเกือบครึ่งปีแล้ว

มาร่วมลงรถก่อน คนขับได้เปิดประตูให้เธอ เธอก้ม หน้าก้มตาไม่มองคีรินเลย

“กลับมาแล้วหรอ”

คีรินเป็นฝ่ายพูดกับเธอก่อน แค่สั้นๆคำว่า กลับมา แล้วหรอ มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกจริงๆ

เธอเงยหน้ามองเขา ในใจรู้สึกเกลียดแค้นเขามากๆ แต่กลับต้องแกล้งทำสีหน้าที่เย็นชาแล้วถามเขา “ศพของ แม่ฉันล่ะ?”

“อยู่ห้องโถงใหญ่”

สีหน้าของเขาไม่สบอารมณ์ใดๆ
เธอเดินลัดเรือนใหญ่ไปยังห้องโถงที่อยู่ข้างหลัง คื รินและมาร์วินก็เดินตามเธอไป ตรงกลางห้องโถงมีตู้เย็น แช่ศพวางอยู่ เธอรู้สึกมือไม้เริ่มอ่อนแรง และไม่กล้าเดิน หน้าไปอีก เธอไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกยังไงอยู่ รู้สึกเสียใจ หรือ……

เธอค่อยๆเดินไปข้างหน้าทีละก้าว แล้วเดินเข้าไป ใกล้โรงศพ และฝืนตัวเองให้ลืมตามองแม่เธอ และคงเป็น ครั้งสุดท้ายที่ได้มองแม่ของเธอ แต่ก่อน เธอเกลียดแม่ มาก แต่ตอนนี้ พอเห็นแม่เธอได้หลับตาและนอนนิ่งๆแบบ นี้ เธอก็รู้ตัวเลยว่าตัวเองเกลียดแม่เธอไม่ลงอีกต่อไป คน ก็ตายไปแล้ว มีอะไรที่ต้องเกลียดอีก

ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นแม่ที่แย่มาก แต่อย่างน้อยญาดา และพ่อของญาดาก็รักเธอจากใจจริง

“ก่อนที่แม่คุณตาย เธออยากเจอคุณมาก ผมได้โทร หาคุณก็แล้ว และส่งเมล์หาคุณก็แล้ว แต่คุณไม่รับสาย และไม่อ่านอีเมล์เลย!!

คีรินยืนอยู่ข้างเธอแล้วคุยกับเธอ ตอนนี้ห้องโถงอัน กว้างใหญ่มีแค่เธอกับเขาสองคน เธอเลยนึกถึงสองสาม วันก่อนมีเบอร์ไทยโทรหาเธอจริงๆ แต่เธอคิดว่าคงเป็น เพื่อนเธอโทรมา เลยไม่อยากจะรับสาย แต่จริงๆเธอกลัว ว่าคีรินจะโทรหาเธอ
นึกไม่ถึงว่าเขาจะเป็นคนโทรมา ตอนนี้เลยเสียใจที่ ไม่ได้สายของเขา

เธอคิดว่าก่อนที่แม่ของเธอจะตาย เธอก็คงจะนึกถึง ลูกสาวคนที่เธอไม่เคยรัก เพราะได้ทำผิดต่อเธอไว้ มากมาย เธอคงจะบอกว่า: ฉันผิดไปแล้ว ฉันต้องขอโทษ พ่อแกและแกด้วย หวังว่าแกจะยกโทษให้ฉัน

เธอคุกเข่าลงข้างๆโรงศพ และมองใบหน้าที่ขาวซีด นั้น ตอนนี้เธอไม่มีแม้แต่น้ำตาจะร้องไห้ เพราะตอนที่รู้ ว่าแม่ของเธอตาย น้ำไหลของเธอไหลพรากไม่หยุด แต่ ตอนนี้พอได้เห็นศพของแม่ กลับร้องไห้ไม่ออก

เธอยื่นมือไปจับหน้าแม่ของเธอ รู้สึกเย็นมากๆ เธอ เลยพูดขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา “แม่ หนูไม่เกลียดแม่แล้ว นะ หนูกับพ่อไม่เกลียดแม่ เราอภัยให้แม่ แม่ไปบนสวรรค์ ก็ไปอยู่เป็นเพื่อนพ่อนะ อย่าได้รังแกพ่ออีกเลย เขาเป็น ผู้ชายที่ดีจริงๆ เขารู้ว่าหนูไม่ใช่ลูกของเขา แต่เขาก็ยังรัก หนูขนาดนั้น แม่ต้องทำดีกับเขานะ รู้ไหม?”

เธอคุกเข่าอยู่ตรงพื้นแล้วคุยกับแม่เธอไปเยอะมาก

คีรินยืนอยู่ข้างเธอ แล้วยืนอยู่เงียบๆไม่พูดไม่จา พอ เขาเห็นเธอคุกเข่านานพอสมควร เขาเลยก้มลงมาพยุง เธอ “ลุกขึ้นเถอะ คุกเข่านานไปเดี๋ยวเจ็บหัวเข่า”
เธอสะบัดมือเขาออก ไม่อยากให้เขาแตะต้องตัวเธอ เธอเลยจับโรงศพแล้วลุกขึ้นเอง

เธอมองเขาด้วยสีหน้านิ่งเฉย “แม่ฉันเข้ารักษาที่โรง พยาบาลไหน?”

คีรินพูดขึ้น “เดี๋ยวผมพาไป

“ไม่ต้อง ฉันไปเอง พรุ่งนี้ฉันจะเอาเถ้ากระดูกของแม่ ฉันกลับบ้านเกิดของฉัน”

เธอพูดจบก็จะเดินออกมา ไม่ใช่ว่าเธอมีจิตใจที่ จํามหิต คนก็เสียไปแล้ว จะให้ไว้อาลัยศพไปยังไงก็เปล่า ประโยชน์ เธอเลยอยากจะรีบจัดการเรื่องนี้ให้จบ เธอไม่ อยากจะอยู่ที่บ้านสุขสำราญแม้แต่วินาทีเดียว

เขาจับไหล่เธอไว้ “คงไม่ได้หรอก ตอนที่แม่คุณอยู่ ย่าและพ่อของผมก็ได้ยอมรับว่าเธอเป็นสะใภ้ของตระกูล แล้ว งั้นศพของเธอก็ต้องฝังที่สุสานของตระกูลผม งาน ศพของคุณผู้หญิงบ้านสุขสำราญก็จัดแบบธรรมดาไม่ได้ อย่างน้อยต้องไว้อาลัยศพเจ็ดวัน คุณเป็นลูกสาวคนเดียว ของเธอ ก็ควรที่จะอยู่ศพจนถึงศพจะถูกฝัง!!

คุณผู้หญิงบ้านสุขสำราญ? ฝังที่สุสานสุขสำราญ นี่เป็นความใฝ่ฝันของแม่เธอ แต่ก่อนหน้านี้ตระกูลสุขสําราญก็ไม่เคยตกลงกับเธอ นึกไม่ถึงว่าคีรินจะทำให้แม่ เธอได้สมดั่งปรารถนาแบบนี้

แต่ว่านี่มันเกี่ยวอะไรกับเธอ ในความคิดของเธอ เธอ อยากจะเอาศพของแม่เธอไปฝังกับศพของพ่อเธอ จะได้ ให้พ่อของเธอได้สมดั่งที่เขาได้ปรารถนาไว้

“ปล่อยมือ!” เธอพูดกับคีรินด้วยน้ำเสียงที่เลือดเย็น เขาแค่แตะต้องตัวเธอ เธอยังรู้สึกรังเกียจ

“ญาดา คุณเป็นลูกสาวคนเดียวของเธอ ทำไมถึง อกตัญญูแบบนี้ล่ะ?” เขายังคงจับตัวเธออยู่

เธอเลยสะบัดออกเต็มแรง แล้วเดินออกไปข้างนอก

โดยเร็ว

คีรินรีบวิ่งตามมาขวางทางเธอไว้แล้วจับไหล่เธอไว้ “เธอเป็นแม่ของคุณ ญาดาคุณไม่ใช่เด็กอายุสามขวบแล้ว นะ ควรรู้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ”

เธอมองคีรินด้วยความรังเกียจ “ฉันรู้ฉันควรทำอะไร ไปโรงพยาบาลสืบหาสาเหตุการตายของแม่ฉัน ก็ยังดีกว่า มาคุกเข่าไว้อาลัยเธอที่นี่ ปล่อยฉัน!”

เธอไม่อยากจะพัวพันกับคีรินแล้วจริงๆ
“แม่คุณเป็นมะเร็งตับ ถึงแม้ว่าผมจะเกลียดเธอ ตอน ที่รู้ว่าเธอป่วย ผมก็ได้เชิญหมอที่ดีที่สุดมารักษาเธอ ถ้าผม อยากจะทําร้ายเธอ ผมคงไม่ต้องรอถึงตอนนี้หรอก ญาดา จริงๆผมไม่ได้เป็นอย่างที่คุณ…….”

“ไม่ได้เลวอย่างที่ฉันคิดใช่ไหม? เหอะๆ……..คุณ กับมาร์วินสมกับเป็นพี่น้องกันจริงๆ”

เธอผลักเขาออกมาแล้วออกจากบ้าน คีรินก็เดินมา ขวางทางเธออีก “ที่นี่ไม่มีแท็กซี่ เดี๋ยวผมไปส่งคุณ!”

เธอพยายามเดินหนีเขา เขายังคงขวางทางเธอ เธอเกลียดขี้หน้าเขามาก “นี่คุณทำอะไรของคุณ? ”

“ญา เลิกโวยวายได้ไหม ผมไปส่งคุณ คุณอยากรู้ อะไร ผมจะบอกคุณทุกอย่าง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ