เล่ห์รักนายซาตาน

บทที่ 83 ตั้งครรภ์



บทที่ 83 ตั้งครรภ์

ญาดาเดินอุ้มน้องหมาแล้วเดินผ่านหน้าพวกเธอไป ด้วยสีหน้านิ่งเฉย ผู้หญิงทั้งสองคนเมื่อเห็นญาดาเดินมา นั้น ก็ตกใจจนหน้าถอดสี จากนั้นก็ถามขึ้น “คุณญาดากลับ มาแล้วหรอคะ”

ญาดาปลายตามองพวกเธอ เธอเดินอุ้มน้องหมาแล้ว เดินขึ้นชั้นบน

จันหนึ่งในสาวรับใช้มองน้องหมาที่อยู่ในมือของญา ดา จากนั้นก็พูดปราม “คุณญาดาคะ คุณไม่รู้หรอคะว่าคุณ คีรินแพ้สนับ?”

ญาดารู้จักกับคีรินมานานสิบกว่าปี เธอรู้ดีว่าเขาแพ้ สุนัข ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาคบอย่างออกนอก หน้า เป็นผู้หญิงที่น่าดูถูก แต่คนรับใช้สองคนนี้ก็เป็น แค่คนที่คีรินจ้างมารับใช้ ต่อให้พวกเธออยากจะดูถูกตน อย่างไร ก็ไม่ควรทําต่อหน้า

ตอนแรกญาดาอยากจะต่อว่าพวกเขา แต่สิ่งที่พวก เธอพูดมันก็ไม่ผิด การที่เธอต่อว่าพวกเขานั้น มันทำให้ เธอยิ่งไร้ศักดิ์ศรี

หลังจากที่ผ่านเรื่องราวมากมาย ผ่านคำนินทาต่างๆ ใครจะพูดอะไรญาดาเธอก็ไม่แคร์ทั้งนั้น ถ้าเธอทนฟังไม่ ได้ ก็ยอมตายไปสะตอนนี้เสียยังจะดีกว่า คีรินแต่งงานแล้ว หลังจากนี้จะมีคนคอยดูถูกเธอเหม็นคนรับใช้สาวคน นี้อีกมากมาย มีทั้งด่าต่อหน้าและนินทาลับหลัง

สิ่งเดียวที่เธอทำได้นั้นก็คือเรียนรู้ที่จะไม่สนใจ

ญาดาอุ้มน้องหมาไว้แน่น จากนั้นหันไปมองจันด้วย สีหน้านิ่งๆ “แล้วยังไงละ? คนรับใช้อย่างเธอไม่มีสิทธิมา สั่งสอนฉัน”

ผมจบเธอก็อุ้มน้องหมาเดินขึ้นชั้นบน

ยังไม่ทันที่จะเดินไปถึงชี้สอง ก็ได้ยินสาวรับใช้นินทา

จันพูดว่า “คุณญาดาไร้ยางอายมากเลยเนอะ เป็นแค่ นางบำเรอแต่ยังกล้าทำนิสัยแบบนี้ !

สาวรับใช้อีกคน “ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน ถึง แม้ว่าคุณคีรินดูจะไม่รักเธอเท่าไหร่ แต่เธอก็เป็นเครื่อง ระบายอารมณ์ของผู้ชาย คราวหน้าเราอยู่เงียบๆจะดีกว่า ไม่อย่างถ้าคุณคีรินรู้เขาจะซวยกันหมด”

เครื่องระบายอารมณ์ของผู้ชาย…..คนรับใช้สมัยนี้ ปากเก่งขนาดนี้เลยหรอ

ญาดามองลงไปชั้นล่าง จากนั้นก็ถอนหายใจ
คนบางคนถ้าไม่ได้นินทาคนอื่นมันจะจายหรือไง?

น้องหมาคงรู้สึกว่าสาวรับใช้สองคนนั้นไม่เป็นมิตร จึงขดตัวอยู่ในอ้อมกอดของญาดา ญาดากอดน้องหมาเอา ไว้แล้วลูบเบาๆ “ไม่ต้องกลัวนะ ญาจะปกป้องน้องหมาเอง จะไม่ให้ใครทำร้ายเด็ดขาด”

พูดจบ ญาดากลับรู้สึกตลก เพราะตอนนี้เธอก็ถูก รังแกจนแทบจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ แล้วเธอจะปกป้อง น้องหมาได้ยังไง

ญาดาตั้งชื่อให้น้องหมาว่ามูมู่ นี่คือชื่อที่พ่อของเธอ ชอบเรียกเธอในตอนเด็กๆ เธอเคยบอกเรื่องนี้กับคีรินแล้ว ว่าชื่อเล่นของเธอคือมูมู่ แต่คีรินชอบเรียกเธอว่าญาดา มากกว่า

ตอนนั้นญาดารู้สึกว่า เพราะความเคยชินที่เรียกเธอ ว่าญาดา ทําให้เขาเปลี่ยนมาเรียกมูมู่ ไม่ถนัดเท่าไหร่

แต่ตอนนี้ เธอคิดว่าสำหรับคีรินแล้ว เธอคงเป็นคนไม่ สำคัญ จึงไม่ต้องใส่ใจมาก

ครั้งหนึ่ง ตอนที่เธอถูกคีรินทำให้แปดเปื้อนนั้น เธอ กลัวว่ามาร์วินจะรู้เรื่องนี้มาก แต่ใจหนึ่งก็อยากให้เขาเป็น อัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยเธอ ช่วยเธอออกจากขุมนรกนี้ เธอเพ้อฝันว่ามาร์วินจะไม่สนใจความเป็นพี่เป็นน้อง แล้วพา เธอหนีไปให้ไกล ไปในที่ที่ไม่มีใครรู้จักพวกเธอ แล้วใช้ ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข

แต่เรื่องเพ้อฝันนั้นมันก็เป็นแค่เรื่องเพ้อฝัน ที่ไม่มีวัน เป็นจริง

มีครั้งหนึ่งตอนที่เธอทะเลาะกับคีโน คีรินพูดกับเธอ เสียงเรียบว่า “คุณคิดว่ามาร์วินรักคุณจริงๆหรอ?”

แต่การรักใครคนหนึ่งมันไม่ใช่แบบนี้ เขาควรที่จะ อยากครอบครองเธอ เป็นเจ้าของเธอ แต่สำหรับมาร์วินนั้น เขาคอยเฝ้ามองเธอ คอยให้เกียรติเธอ ไม่เคยทำให้เธอ ต้องเสียใจ วินาทีที่เขารู้เรื่องญาดากับพี่ชายนั้น เขากลับ ไม่ทำอะไรทั้งนั้น เหลือทิ้งไว้แค่สายตาที่ผิดหวัง จากนั้นก็ เดินหนีเธอไป

เธอถามตัวเองอยู่หลายครั้งว่ามาร์วินเคยรักเธอไหม เพราะเธอไม่สามารถสัมผัสคำว่ารักจากเขาได้ เขาคือแสงอาทิตย์ตอนเช้าที่แสนจะอบอุ่นในชีวิต ของเธอ
วันที่สอง หนึ่งในบอร์ดี้การ์ดของคีรินมารับเธอ กลับ ไปยังเชียงใหม่ ตอนนี้คีรินกำลังพาภรรยาที่ถูกต้องตาม กฎหมายไปฮันนีมูนเดนมาร์ก นี่คือหนึ่งในประเทศที่อยู่ใน เทพนิยาย

เธอกลับไปอยู่ที่วิลล่าของเขาไม่กี่วัน จากนั้นก็กลับ ไปอยู่คอนโดเล็กๆของตนเอง เธอยังคงเช่าที่นี่อยู่เรื่อยมา ที่นี่มีความทรงจํามากมายของเธอกับมาร์วิน

ญาดาไม่ได้กลับมาที่นี่นานแล้ว ทำให้มีฝุ่นเกราะอยู่ ตรงพื้นและบนตู้ต่างๆ เธอเปิดตู้ออก ก็เห็นกำไลหยกที่ แตกเป็นเสี่ยงๆ นี่คือกำไลหยกที่มาร์วินเคยซื้อให้

ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีราคา แต่กลับเป็นของมีค่าที่สุดใน ชีวิตของญาดา

มาร์วินไม่ค่อยซื้อของประเภทนี้กับเธอเท่าไหร่ ยิ่งโต เขาก็ยิ่งซื้อให้เธอน้อยลง ทำให้ทุกอย่างที่เขาซื้อให้เธอ นั้น มันจึงมีค่ามาก

ในตู้ยังมีเสื้อขนเป็ดสีแดงของมาร์วิน ตอนที่คีรินเห็น เธอใส่นั้น เขาก็สั่งให้เธอถอดออก แล้วสั่งให้คนรับใช้เอา ไปทิ้ง เขาบอกว่าสิ่งที่เธอแตะต้องนั้นสกปรกไม่อยากให้ มารวินใส่มันอีก
ญาดาจำได้ดี ว่าวันนั้นหลังจากที่คนรับใช้เอาไปทิ้ง เธอก็รีบไปหาในถังขยะจนในที่สุดก็เจอ

ญาดาในตอนนั้นไม่ต่างจากขโมย เธอกลัวว่าคีรินจะ เห็นแล้วสั่งให้คนเอาไปทิ้งอีก

เธอจึงห่อใส่ถุง แล้วเอาไปฝังไว้ จากนั้นนานๆครั้ง เธอจะเอามันออกไปตากแดด

ความทรงจำของเธอกับมาร์วินนั้นมีไม่มาก ตั้งแต่ เขาเรียนจบมัธยมต้น คีรินก็ส่งเขาไปเรียนมัธยามปลายที่ อังกฤษ จากนั้นก็ไปเรียนมหาวิทยาลัยที่อเมริกา

ช่วงเวลาที่เธออยู่กับมาร์วินนั้นน้อยมาก

เธอไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าตนเองตกหลุมรักเขาตั้งแต่

เมื่อไหร่

ตอนนี้หวนนึกกลับไปนั้น น่าจะเป็นตอนที่เขาเอาเสื้อ กันหนาวของเขาให้เธอใส่ในฤดูหนาว ญาดาคิดว่าตนเอง น่าจะตกหลุมรักมาร์วินในตอนนั้น

น้ำตาของญาดาไหลลงมา จากนั้นเธอก็กอดมันเอา

ไว
เสื้อกันหนาวขนเป็ดตัวนี้ไม่มีกลิ่นกายของเขาแล้ว ก็ เหมือนกับเธอที่หายไปจากชีวิตของเขา

ขณะที่เธอกำลังคิดถึงความทรงจำเก่าๆ เสียง โทรศัพท์ก็ดังขึ้น

คนที่โทรมาคือคีริน

“คุณอยู่ไหน?” เขาถามด้วยน้ำเสียงห้วนๆ จากนั้น เสียงของเขาญาดารู้สึกว่าคีรินนั้นอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่ หรือว่าเขาจะทะเลาะกับภรรยาตนเอง?

ญาดาสูดลมหายจเข้า จากนั้นปรับเสียงของตนเอง ให้นิ่งที่สุด

“ฉันอยู่ข้างนอกค่ะ เดี๋ยวจะรีบกลับ !

“คุณร้องไห้ ! ”

เขาพูดอย่างมั่นใจ

ญาดารีบปฏิเสธ “เปล่า……ไม่ได้ร้องไห้ค่ะ ฉันจะ ร้องไห้ทำไม ! ”

“ไม่ต้องโกหกผมหรอก ญาดา เสียงคุณอู้อี้ขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เพราะร้องไห้จะเพราะอะไรล่ะ? คุณอยู่ไหนเดี่ยว ผมไปรับ ! ”

น้ำเสียงของคีรินนั้น ทำให้เธอปฏิเสธไม่ได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ