ตอนที่ 121 ความรักคือความจริงใจ(2)
“แกตามฉันมา”
ทัตดากำลังจูงมือลูกชายเดินเข้าออฟฟิตของอาจารย์ เอามือชี้ไปที่ตัวชื่นใจ”ลูกลองถามเธอดูสิ แม่เข้ามาออฟ ฟิต ของลูกไม่ได้ใช่ไหม
ชื่นใจลุกขึ้นมา ท่าทีแข็งกระด้างเล็กน้อย
อาจารย์หลายคนต่างพากันมองไปที่ชื่นใจคนเดียวและ รู้สึกมึนงง ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ไวภพตะลึงไปแป๊ปนึง แล้วก็เข้าใจในทันที เขายิ้มๆ ผม นึกว่าเป็นเรื่องอะไร ใช่แล้ว ชื่นใจทำถูกต้องแล้ว แม่จะ ไป ตำหนิครูชื่นใจไม่ได้ เพราะปกติผมเป็นคนสั่งให้ทำแบบนี้”
“ลูกไม่ต้องมาแก้ตัวแทนเธอเลย ปกติเวลามีแขกอยาก ดื่มกาแฟ ลูกสั่งให้เธอบอกแขกไปร้านกาแฟดื่มเอง หรือ”
“ท่านพูดจาไม่มีความเกรงใจก่อนค่ะ”
ชื่นใจตอบอย่างไม่ยอมก้มหัวให้แต่ไม่ได้คิดจะเอาชนะ
“ที่ฉันพูดมาไม่มีความเกรงใจยังไง ฉันแค่อยากไปออฟ ฟิตคอยลูกชายของฉัน ฉันทำอะไรเกินไปไหม
ชื่นใจใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม รู้สึกเกรงกลัวกับประโยคที่ท่านผู้หญิงพูด อดไม่ได้ที่จะเงยขึ้นไปมองท่านผู้หญิงนิด นึง ท่านผู้หญิงคือคุณแม่ของคุณไวภพจริงหรือ การรู้จัก กันในครั้งนี้ทำให้ชื่นใจรู้สึกประหลาดใจและเป็นทุกข์มาก
เธอทำไมถึงไปโต้เถียงกับแม่ของคุณไวภพ นี่เป็นการ ขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ
เดิมทีไวภพก็ปฏิบัติต่อเธอแบบไม่แยแส นี่ยิ่งไปล่วงเกิน แม่ของเขาอีก เขายิ่งรู้สึกไม่ดีต่อเธอมากขึ้นแน่นอน
“ท่านผู้หญิงไม่ได้ชี้แจงว่าท่านเป็นคุณแม่ของผู้อำนวย การไวภพ”
“ฉันไม่ได้พูดหรือ ฉันถามเธอว่า รู้ไหมฉันเป็นใครไหม แล้วเธอตอบกลับว่า ไม่ว่าฉันเป็นใคร ก็ต้องปฏิบัติตาม กฎ เหมือนคนอื่น ฉันยังไม่รู้ว่า โรงเรียนของเราจะมีครูที่ เคร่งครัดกฏ ไม่ไว้หน้าใคร ตอนนี้ฉันในฐานะผู้บริหารสูงสุด ขอให้เธอเก็บของออกไปจากโรงเรียนทันที
บรรยากาศเย็นเฉียบทันที คนอื่นต่างกลั้นลมหายใจ เพราะว่าพวกเขาต่างรู้ว่าโรงเรียนมีผู้ถือหุ้นใหญ่อย่างลับๆ คน หนึ่ง เพียงแต่ว่าไม่รู้ว่าแม่ของผู้อำนวยการคือผู้ถือหุ้น รายนั้น
สีหน้าของชื่นใจดูแย่มาก เธอไม่แก้ต่างให้กับตัวเองอีก กําลังคอยให้ไวภพพูด
ไวภพถอนหายใจ พูดว่า”แม่ แม่ไม่ค่อยมีเหตุผลเลยครับ เธอแค่ทำตามหน้าที่ ไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องไล่ เธอออก”เขาเว้นช่วงแล้วพูดต่อว่า“ต้องบอกอีกครั้งว่า ครู ในโรงเรียนอาศัยความสามารถสอบเข้ามาทั้งนั้น ไม่ ได้ทำ ผิดกฎระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ ใครก็ไม่มีอำนาจไล่ พวกเขาออก แม้กระทั่งคุณ ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ไม่ เคยปรากฏตัว มาก่อน”
ทัตดายิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ชื่นใจก็เพิ่งจะทำให้ ฉุนเฉียวสุดขีด ตอนนี้ลูกชายยังมาพูดแทนเธออีก แล้วพูด เสียง ต่ำด้วยความโกรธว่า “ฉันบอกว่าไล่ออก ก็คือ ไล่ออก หากว่าต้องทำตามขั้นตอนล่ะก็ ฉันก็มีวิธี
ปัจจุบันนี้ ทัตดาไม่ใช่ทัตดาเมื่อยี่สิบปีก่อนอีกต่อไปแล้ว ความตั้งใจของเธอเหนือความคาดหมายของคนทั่วไป
เสียงกระดิ่งดังขึ้น ผลินสอนเสร็จกลับมายังออฟฟิต เหลือบเห็นทัตดาแล้วรู้สึกแปลกใจมาก กล่าวคำทักทาย ก่อน ว่า“ป้าทัต ทำไมมาที่นี่คะ”
วินาทีก่อน ทัตดายังมีสีหน้าหม่นหมอง วินาทีต่อมา พอได้เห็นผลินก็เปลี่ยนเป็นสดชื่นขึ้นทันที
“หนูผลิน เมื่อกี้กำลังสอนหนังสืออยู่ใช่ไหม ป้ามองหา หนูรอบนึงแล้วแต่ก็ไม่เจอหนู เลยโดนคนที่มีตาแต่ไร้แวว ปล่อยให้เคว้งคว้างครึ่งค่อนวัน”
ผลินกวาดสายตามองไปรอบๆรอบหนึ่ง มองเห็นชื่นใจ สีหน้าผิดปกติ ก็สามารถเข้าใจเรื่องราวได้ทันที เธอยิ้มๆพูด ว่า”อาจจะเข้าใจผิดกันค่ะ คุณป้าเป็นผู้ใหญ่ที่ใจกว้างอย่า เก็บเอามาใส่ใจเลยค่ะ”
“แม่จะไล่ชื่นใจออก
ไวภพรีบไปเตือนที่ข้างหูผลิน
“เข้าใจผิดอะไร เห็นกันอยู่ว่าเธอไร้มารยาท คนที่ไม่ได้ รับการอบรมสั่งสอนจะสอนเด็กได้ยังไง วันนี้จำเป็นต้อง ไล่ ออก”
“คุณป้า ครูชื่นใจเป็นเพื่อนของหนูค่ะ คุณป้าเข้าใจผิด จริงๆค่ะ เธอไม่ได้ตั้งใจเมินเฉยคุณป้า แต่พวกเราปฏิบัติ ตามกฎอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอดค่ะ
“เพื่อนที่ดีของหนูใช่ไหม”
ทัตดาเลิกคิ้วพูดว่า “ทำไมหนูถึงคบคนแบบนี้เป็นเพื่อน”
ผลินนิ่งไป ในใจรู้ว่าทัตดาเกลียดชื่นใจมาก แต่เพื่อ ทำให้เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็ก ไม่ให้ลุกลามบานปลาย จึงพูดว่า”เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันจริงๆ คุณป้าเห็นแก่หน้าหนู อย่าไปถือสาเลยค่ะ”
ทัตดาลองคิดดูแล้วพูดว่า “ก็ได้ เพราะหนูผลินขอ ไว้ งั้นฉันจะปล่อยเธอไป แต่ว่าความเมตตาครั้งนี้ไม่ได้ให้ง่ายๆ เย็นนี้ไปทานข้าวเป็นเพื่อนป้าหน่อย
ทานข้าวอีกแล้วหรือคะ
ผลินวิตกกังวลจนหนังศีรษะซาไปหมดแล้ว แต่เพื่อน ใจ เลยต้องตกลงรับปากว่า “ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา”
เมื่อผลินตอบตกลง ทัตดาดีใจอย่างมาก ตบที่มือของ ผลินพูดว่า”งั้นเราตกลงกันแล้วนะ เย็นนี้หนึ่งทุ่ม เจอกันที่ ภัตตาคารหูหนาน รอจนกว่าหนูจะมา
“อึมค่ะ”
ไวภพยิ้มเล็กๆยกนิ้วโป้งให้ผลิน จับบ่าของแม่เขา แล้ว พูดว่า”คุณนายทัดตา ตอนนี้ไปได้แล้วยัง
ทัดตาจ้องมองลูกชายอย่างมีความสุข หลังจากนั้น มองชื่นใจอย่างสงสัย” ขณะเดียวกันการเป็นแบบอย่างที่ดี ทำไมเธอถึงทำได้แย่ขนาดนี้”
ประโยคนี้ใครได้ยินเข้าก็รู้สึกด้อยค่า ชื่นใจรู้สึกเสียใจ มาก เพียงเพราะว่าคนที่พูดคำนี้เป็นแม่ของคนที่เธอแอบรัก อยู่
“หนูผลิน ป้ากลับล่ะ อย่าลืมที่พวกเรานัดกันไว้นะ ผลินโบกมือ พูดว่า“อูย จะไปตรงเวลาตามนัดค่ะ”
ในที่สุดออฟฟิตก็กลับสู่สภาพปกติ ฌนใจขยับขารีบวิ่ง ออกไป ผลินรีบวิ่งตามไปทันที วิ่งตามเธอมาถึงต้นไม้ ขนาด เล็กต้นหนึ่งที่อยู่หลังโรงเรียน
“ชื่นใจ เธอไม่ต้องใส่ใจคำพูดของคุณแม่ไวภพ ท่าน เข้าใจเธอผิด แต่ไวภพเข้าใจเธออย่างถูกต้อง เขากับแม่ ของเขานิสัยแตกต่างกัน”
“ฉันคิดไม่ออกมาโดยตลอดว่า ทำไมไวภพชอบเธอมาก ขนาดนั้น ฉันก็สวยไม่แพ้เธอ ไม่ได้โง่กว่าเธอ แต่เขา ทำไม ก็ยังคงชอบคุณ จนกระทั่งถึงตอนนี้ ฉันก็เข้าใจแล้ว นี่คง เป็นโชคชะตา แม่ของไวภพไม่ใช่คนที่คบง่าย แต่ กับคน ประเภทนี้ก็ชอบเธอด้วย ฉันยังไม่ถอดใจ
“ไม่ใช่แบบนั้น เพียงแค่ครั้งหนึ่งฉันเก็บกระเป๋าตังค์ ของแม่เขาบนถนนใหญ่ได้ เลยทำให้รู้จักกัน พวกคุณแค่ บังเอิญเจอกันในโอกาสที่ไม่เหมาะ แต่นี่ไม่ได้หมายความ ว่าระหว่างเธอกับไวพจะเป็นไปไม่ได้
“ใช่แล้ว ดังนั้นฉันเลยพูดว่านี่คือโชคชะตา คุณเก็บ กระเป๋าตังค์แม่เขาได้ แม่เขาต้องขอบใจคุณ ในทางกลับกัน ฉันทําตามกฎระเบียบเลยทำให้แม่เขาไม่พอใจ นี่ก็แสดง ว่าระหว่างฉันกีบคุณไวภพจะไม่มีผล ไม่มีเงื่อนใขใดๆที่มี ผลประโยชน์สามารทําให้เราคบกันได้
ผลินเห็นใจ นใจมาก จับมือของชื่นใจแล้วพูดว่า”อย่าไป คิดแย่แบบนั้น เรื่องยังไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น ที่สำคัญ คือ คุณเองไม่กล้าพอ หากว่าคุณกล้าสารภาพความในใจกับไวภพสักนิด ผลลัพธ์แน่นอนไม่อาจเหมือนกัน
“ช่างเถอะ ยังไงก็ได้ ตรงกันข้ามฉันเตรียมออกจากที่นี่ แล้ว”
“จะจากไปแบบนี้ เธอไม่รู้สึกเสียดายหรือ”
“ไม่ได้รู้สึกคาดหวัง เลยไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกเสียดาย
ผลินไม่พูดอะไรอีก แต่ในใจแอบคิด ไม่ยอมให้ชื่นใจ จากไปแบบนี้
ก่อนเลิกงานผลินโทรศัพท์หาปยุต“ฮัลโหล ตอนเย็นนี้ คุณมีงานเลี้ยงสังสรรค์ไหม”
“ไม่มี มีอะไรหรือเปล่า”
“ฉันอาจจะกลับไปดึกหน่อย มีนัดทานข้าวกับคนอื่น”
” ใคร ชื่นใจใช่ไหม
“ไม่ใช่ คือ ป้าทัต”
“แม่ของไวภพ”
“ใช่ ”
ในโทรศัพท์เสียงเงียบลง สักครู่ ปยุตก็พูดว่า“แม่ไวภพมีจุดประสงค์อะไร มักจะนัดคุณทานข้าวแบบนี้หลาย ครั้ง”
“วันนี้เป็นกรณีพิเศษ ฉันกลับไปค่อยเล่าให้คุณฟัง
“รู้แล้ว”
ปยุตวางหูโทรศัพท์อย่างหงุดหงิดเล็กน้อย
ผลินไปตามเวลานัด พอถึงสถานที่นัดหมาย เธอ ประหลาดใจว่าไวภพนั่งอยู่ที่นั่น
“แม่ของคุณล่ะ”
เธอนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเขา สอบถามอย่างสงสัยมาก
“แม่ผมพอดีมีงานเลี้ยงกะทันหันเลยมาไม่ได้แล้ว ดังนั้น ให้ผมมาแทนแม่
“โทรศัพท์บอกก็ได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องทานข้าวมื้อนี้
“ทำไม เพราะว่าคนที่มา คือ ผมใช่ไหม”
ผลินจ้องมองแล้วพูดว่า”ไม่ใช่ ฉันกังวลเห็นคุณก็ยุ่ง เหมือนกัน”
“ผมไม่ยุ่ง นานมากแล้วที่ไม่ได้ทานข้าวกับคุณ ผมตั้งตา คอยอาหารค่ำมื้อนี้จริงๆ
เธอถอนหายใจ ไม่รู้จะพูดอะไรดี
“สั่งอาหารเถอะ มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง”
“โอเค ตรงกันข้ามตอนนี้คุณไม่ใช่คนที่เพิ่งเรียนจบ ยากจนไม่มีข้าวกิน คุณผู้หญิงแห่งตระกูลทรัพยสานเลี้ยง ข้าว ผมไม่เกรงใจล่ะนะ”
ผลินมองบน พูดว่า “จะต้องประชดฉันแบบนี้ใช่ไหม”
“ผมพูดจริงๆนะ ผมก็ประชดตัวเองด้วย ที่ไม่สามารถทำให้ คุณเป็นคุณผู้หญิงของตระกูลเจริญมาศได้ คือความ พ่าย แพ้ของผม”
ไวภพชำเลืองมองผลินอย่างลึกซึ้ง ก่อนจะก้มศีรษะเปิด ดูเมนู
“คุณคิดว่าชื่นใจเป็นคนยังไง ” สองคนนิ่งเงียบไปสักครู่ ผลินถามอย่างระมัดระวัง
“ดีมาก”
“งั้นคุณรู้ไหมว่าเธอมีคนที่ชอบ”
“ไม่รู้ เธอเคยบอกกับผม”
“คุณไม่อยากรู้หรือว่าคนนั้นเป็นใคร
ไวภพยักไหล่อย่างไม่เข้าใจ นี่มีอะไรน่าอยากรู้ เรื่อง ส่วนตัวของคนอื่นเป็นเรื่องของคนอื่น พูดอีกที ก็ไม่ใช่ผม อยู่ดี”
“คุณทำไมแน่ใจว่าไม่ใช่คุณ
ผลินลังเลในใจ อยากที่จะสารภาพแทนชื่นใจ แต่เธอก็ สะกดใจไว้ เหมือนที่ไวภพพูด เรื่องส่วนตัวของคนอื่นเป็น เรื่องของคนอื่น ไม่ได้รับอนุญาตจากคนอื่น แล้วไปสารภาพ แทนคนอื่น แม้ว่าเป็นเพื่อนที่ดี ก็ล้ำเส้นไปนิดเหมือน กัน
“เธอรู้ว่าผมชอบคุณ”
“หากว่าคนที่เธอชอบคือคุณ นี่เกี่ยวอะไรกับการที่คุณชอบ ฉันคะ”
ไวภพเงยหน้าขึ้น ถามอย่างจริงจังว่า “คุณอาจชอบผู้ชาย ที่ชอบผู้หญิงคนอื่นใช่ไหม ผู้ชายคนนั้นยังสอบถาม คุณ เรื่องของผู้หญิงคนนั้นที่เขาชอบทั้งวัน”
“ทำไมไม่ได้ล่ะ หัวใจควบคุมไม่ได้
“หรือว่า เธอชอบผมจริงๆ
ไวภพเคร่งขรึมทันที
“อ้อไม่ใช่ ฉันแค่เปรียบเทียบให้ฟัง
ผลินส่ายหัวอย่างไม่สบายใจ คงต้องปลุกใจให้ชื่นใจ สารภาพรักกับไวภพแล้ว
“ช่วงนี้คุณเป็นยังไงบ้าง”
ไวภพพลิกเมนูต่อ แกล้งถามเธอตามสบาย จริงๆแล้ว เขาสนใจมากว่าเธอมีความสุขไหม
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ