ตอนที่105 ไม่มีกำแพงใดกันลมได้ (3)
“ได้ค่ะ”
ผลินตอบรับอย่างน่ารัก
เธอใส่เสื้อผ้าหนาอบอุ่น ขับรถผ่านไปครึ่งทาง ท้องฟ้า เต็มไปด้วยหิมะ เมื่อมาถึงก็ไปที่ล็อบบี้สนามบินพร้อมกับ กระเป๋าเดินทาง ปัดเศษหิมะบนร่างกายออกและบ่น“สภาพ อากาศเลวร้ายอย่างนี้ ไม่ต้องไปดูหิมะที่ฮอกไกโดแล้วล่ะ
รอยี่สิบนาทีแล้ว ปยุตก็ยังไม่มา เธอค่อนข้างกังวลจึง โทรออกไปหาเขา รอสายอยู่เป็นเวลานานก่อนที่จะมีคนรับ สาย“ฮัลโหล”
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของปยุต เธอตกใจว่าทำไมน้ำ เสียงเขาถึงได้ฟังดูแข็งกระด้าง
“คุณยังไม่มาอีกเหรอ”
“ผลินผมขอโทษ วันนี้พวกเราจะยังไม่ไปนะ ผมมีบาง อย่างที่ต้องทำ”
หัวใจเริ่มเต้นแรง ผลินนิ่งไป พูดไม่เต็มเสียงพร้อมกับ สูดจมูกที่กลายเป็นสีแดงก่ำจากความเย็น มันเป็นเรื่อง สำคัญมากเลยเหรอ ฉันคิดว่าการเดินทางของพวกเราก็ สำคัญเหมือนกัน”
ดูเหมือนปยุตจะรู้สึกผิด”อืม ผมให้นัยไปรับคุณเพื่อไป ส่งบ้านแล้ว พวกเราค่อยเจอกันคืนนี้นะ”
วางสายไปอย่างมึนงง ไม่สามารถอธิบายได้ว่าตอนนี้ ตัวเองกำลังรู้สึกเช่นไร มันทั้งซับซ้อน ทั้งเศร้า และรู้สึกผิด หวังอย่างมาก
สิบนาทีต่อมา ชนัยก็ขับรถมาถึงสนามบิน เขาวิ่งมาตรง หน้าพร้อมกับร่ม นายหญิงครับ คุณยุตติดธุระจําเป็น จึง ให้ผมมารับคุณกลับบ้านครับ
เธอเข้าไปนั่งนิ่งเงียบในรถโดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
รถสตาร์ตเครื่องยนต์ขึ้นช้า ๆ มุ่งหน้าไปท่ามกลางหิมะ ผลินพิงศีรษะกับหน้าต่างรถ พยายามปลอบตัวเอง ไม่ เป็นไรหรอก ไม่จําเป็นต้องไปฮอกไกโด ทีนี่เองก็ยังมีหิมะ ให้ดู ไม่เป็นไรหรอก ไม่จําเป็นต้องมีคนถึงสองคน แค่ ตัว เราเพียงคนเดียวก็สามารถจัดการได้
ชนัยมองเห็นอารมณ์ขุ่นมัวของผลินที่สะท้อนผ่านกระจก พูดออกมาด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายว่า “นายหญิงครับ มันก็ แค่เลื่อนออกไป หลังจากนี้ก็สามารถไปที่นั่นได้อีก”
“ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนเหรอคะ”
“ออกไปเรื่องงานข้างนอกนะครับ”
เลย
ชนัยกะพริบตาไปตอบไป ผลินรู้แจ้งทันที”ไปทำอะไร
คะ”
“เอ่อ…ผมก็ไม่ได้ถามครับ”
“ไม่ได้ถามหรือไม่อยากบอกฉันกันแน่คะ”
ผลินเริ่มไล่บี้
“ไม่ได้ถามครับ”
“คุณชนัย คุณยังพยายามที่จะโกหกฉันอีกเหรอ อย่าคิดว่า ฉันไม่รู้นะว่าคุณโกหกไม่เป็น ถ้าคุณทำเพื่อเขา คุณก็น่าจะ บอกฉันทุกอย่างเกี่ยวกับเขา เพราะมีแต่ฉันที่สามารถทำให้ เขามีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นได้
ถ้อยคําของผลินทำให้ชนัยต้องสั่นคลอน ที่จริงแล้วเขา ต้องการจะสารภาพตั้งแต่แรก
“ได้ยินว่า คณจันทรดูเหมือนจะกลับมาแล้วครับ”
ประโยคเดียว เป็นเหมือนดั่งระเบิดเวลา สมองของผลิน พลันว่างเปล่า ในรถมีฮีตเตอร์ เธอเองก็สวมเสื้อผ้าหนากัน หนาว แต่ทว่าตัวเธอกลับสั่นเทา
มันช่างหนาวเย็น
“เขารู้ได้ยังไงเหรอคะ”
“ระหว่างทางมาที่บริษัท เห็นคนที่คล้ายกันมาก จึงตามคน คนนั้นไป จนถึงตอนนี้ก็ยังคงตามหาอยู่ครับ”
หัวใจของผลินเต้นแรงด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ไม่อยากจะ พูดอะไรออกมาอีกแล้ว
ชนัยรู้ว่าเธอไม่สบายใจ จึงพูดออกมาอย่างสุภาพ ไม่ ต้องเป็นห่วงนะครับ ความรักที่คุณยุตมีต่อคุณไม่มีใคร สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้
“จันทรก็เปลี่ยนไม่ได้เหรอคะ”
“ก็…อาจจะนะครับ”
อาจจะ? หึ ช่างเป็นคำที่น่าขำ แม้แต่คนโง่ก็รู้ ว่ามัน หมายถึงความไม่แน่ใจ
รถจอดที่หน้าประตูของคฤหาสน์นภา ผลินลงจากรถ พนักงานรักษาความปลอดภัยนำร่มมารับและรับกระเป๋าไป เธอถามชนัย คุณจะเข้าไปนั่งพักข้างในสักครู่ไหมคะ”
“ไม่แล้วครับ ที่บริษัทยังมีเรื่องให้ต้องจัดการอยู่”
ชนัยเหลือบมองเธออย่างมีความหมาย แล้วจึงเหยียบ คันเร่งขับรถออกไป
แม่สามีเห็นลูกสะใภ้ออกไปไม่ถึงชั่วโมงก็กลับมา จึง เลิกคิ้วอย่างแปลกใจไม่ใช่ว่าจะไปเที่ยวกันวันนี้เหรอจ๊ะทําไมถึงกลับมาล่ะ”
“มันถูกเลื่อนออกไปก่อนน่ะค่ะ”
ผลินตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง “เลื่อนออกไปเหรอ ทำไมถึงถูกเลื่อนออกไปล่ะจ๊ะ”
“คุณยุตเขาติดธุระนิดหน่อยน่ะค่ะ”
“เด็กคนนี้นี่มันยังไง อะไรจะสำคัญกว่าจนต้องเลื่อนการ เดินทาง กลับมาตอนเย็นฉันจะต้องอบรมเขาสักหน่อย”
ผลินยิ้มอย่างขนขม“คุณแม่คะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เป็น ผู้ชายก็ควรให้ความสำคัญกับอาชีพของเขา เรื่องเดินทาง จะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ก็ได้ค่ะ”
แม่สามีตบลงบนบ่า “หนูลินของพวกเรามักจะเป็นคนที่มี เหตุผลเสมอเลยนะจ๊ะ
ตกกลางคืน ปยุตกลับบ้านมาในช่วงดึก ผลินไม่ถามว่า เขาไปไหนหรือเพราะเหตุใดจึงผิดสัญญากับเธอ แน่นอ นว่าปยุตเองก็ไม่ได้พูดอะไร
เธอแกล้งทําเป็นหลับลึก เขาไม่ได้ปลุกเธอ แค่ไปอาบ น้ำ กลับมาจูบที่หน้าผากของเธอ แล้วล้มตัวลงนอน หลัง จากนั้นจึงปิดไฟที่หัวเตียง
ในความมืดมิด เธอได้ยินเสียงถอนหายใจหนักของเขา อย่างชัดเจน
วันต่อมา ผลินตื่นแต่เช้า เลือกเสื้อผ้าเพื่อที่ปยุตจะสวม ใส่ แล้วก็ไปที่โรงยิม วิ่งอย่างบ้าคลั่งบนลู่วิ่ง
วิ่งจนเหงื่อออก เธอก็กลับไปที่ห้องนอน ปยุตตื่นแล้ว มองเธออย่างอ่อนโยน”ไปวิ่งมาเหรอ”
“อิ่ม”
เธอบรรจงเช็ดเม็ดเหงื่อบนใบหน้าของเธอด้วยผ้าขนหนู จากนั้นจึงไปหยิบเสื้อผ้าที่เขาจะสวมใส่และยื่นให้ “อาบ น้ำแต่งตัวแล้วไปทานอาหารเช้าข้างล่างนะ
หันหลังและเดินจากไป ปยุตจับแขนของเธอไว้ไม่ถาม ผมเหรอ ว่าทำไมอยู่ดี ๆ ถึงเปลี่ยนกำหนดการณ์”
เธอจ้องเล็กน้อยทุกอย่างที่คุณทำมีเหตุผลของคุณ ถ้า คุณอยากจะบอก ถึงแม้ว่าฉันไม่ถามคุณก็จะบอกอยู่ดี แต่ ถ้าคุณไม่อยากบอก ถึงฉันจะถามไปมันก็ไม่มีประโยชน์”
“ที่จริงแล้วผม…
ปยุตเหมือนอยากจะสารภาพ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ พูด“ช่างเถอะ ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวจะพาคุณไปฮอกไกโด แน่”
ผลินยักไหล่ แล้วหันกลับไป มุมปากยกยิ้มเยาะตัวเอง
หลังจากนั้นอีกสองสามวัน ปยุตกลับบ้านดึกทุกวัน ใน ที่สุด ผลินก็ทนต่อไปอีกไม่ไหว
เธอตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับปยุต
มันเป็นคืนที่หนาวเห็นอีกคืน ถึงข้างนอกจะไม่มีหิมะ แต่ลมพัดแรงมาก แม้ว่าจะปิดหน้าต่างให้แน่น ก็ยังได้ยิน เสียงกิ่งไม้พัดไหวเอนเสียดสีกัน
ทันทีที่ปยุตกลับถึงบ้าน ก็พบเข้ากับผลินที่กำลังนั่ง โซฟาดูทีวีอยู่ เขาถอดเสื้อคลุมออกและถามขึ้นแผ่วเบา
“ทำไมยังไม่นอนอีก”
“ทำไมคุณถึงกลับบ้านดึก”
เขางุนงง บางทีมันอาจเป็นเพราะว่าเธอถามเหตุผลที่ กลับดึกเป็นครั้งแรกจึงค่อนข้างไม่คุ้นเคย
“ติดธุระนิดหน่อยน่ะ
“ธุระอะไร”
ปยุตนิ่งไปอีกครั้ง บางทีคงไม่คาดคิดว่าเธอจะถาม คำถามซ้ำแล้วซ้ำอีก
“เป็นอะไร
เขานั่งลงข้าง ๆ ถามอย่างสับสน
“ฉันไม่ได้เป็นอะไร แค่สงสัยว่าทำไมช่วงนี้คุณถึงกลับ บ้านดึกจัง”
“ผมบอกไปแล้วนี่ว่าผมติดธุระ”
“ธุระนั่นก็คือการตามหาจันทรน่ะเหรอ”
ทันใดนั้นปยุตก็ชะงักไป นานมากก่อนจะเอ่ยถาม“คุณรู้ ได้ยังไง”
“ไม่มีกำแพงใดในโลกนี้ที่กันลมได้ ฉันต้องการปกปิดบาง อย่างจากคุณคุณก็รู้ แล้วฉันจะไม่รู้ได้ยังไงว่าคุณ พยายาม จะซ่อนบางอย่างจากฉัน”
“ใช่ ผมกำลังตามหาเธออีก
ปยุตไม่ปฏิเสธ
“ทำไม ทำไมคุณถึงพยายามตามหาเธอ ถ้าคุณได้เจอเธอ คุณต้องการอะไร”
“ไม่ได้ต้องการอะไร แค่อยากได้คำตอบ ว่าตอนนั้นทำไม ถึงทรยศหักหลังผม”
ดวงตาของผลินกลายเป็นสีแดงก่ำ เธอพยายามอดกลั้น ความผิดหวัง กลัวว่าน้ำตาจะรินไหลออกมา เพื่อค้นหาคำ ตอบของหัวใจคุณ คุณไม่สนใจว่าหัวใจของฉันจะรู้สึกยังไง คุณรู้ไหมทำไมฉันถึงอยากไปดูหิมะที่ฮอกไกโด คุณคิดว่า ฉันไม่สามารถเล่นสกีได้จริง ๆ เหรอ ผิดแล้ว ฉันสามารถเล่น สกีได้ แต่เหตุผลที่ฉันต้องการเห็นหิมะ นั่นเป็นเพราะฉัน ได้ยินตำนานมานานแล้ว ว่าถ้าสามารถเห็นหิมะเพชรได้ใน ตอนเช้าของฮอกไกโด ตราบใดที่คู่รักได้เห็นหิมะนี้ด้วยกัน จะรักกันตลอดไป และจะไม่มีวันแยกจากกัน ฉันไปที่นั่นกับ ความเชื่อนี้ ฉันคิดแม้แต่ว่า วันนี้ไม่ได้เห็นก็รออีกวัน แม้ว่า จะต้องแข็งตายในสถานที่นั้น แค่ฉันได้เห็นมันพร้อมกันกับ คุณปยุต ทรัพยสานคนนี้ก็พอ อยากเห็นมันด้วยตาตนเอง”
ในที่สุดน้ำตาของเธอก็ร่วงหล่นลงมา ปยุตเจ็บปวด ดึง เธอเข้าไปในอ้อมแขน“ยัยโง ผมแต่งงานกับคุณแล้ว ไม่มี ทางคิดเป็นอื่น”
“คุณแต่งงานกับฉันแล้ว แล้วการตอบเหตุผลที่เธอทรยศ หักหลังคุณมันสำคัญด้วยเหรอ”
เมื่อผลินเอ่ยถาม ปยุตก็พูดไม่ออก
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ