เล่ห์รักนายซาตาน

บทที่ 46 กลัวแล้วจริงๆ



ตลอดชีวิต สิบกว่าปีที่ผ่านมาของญาดา

เธอใช้ชีวิตไม่แตกต่างกับผู้ชาย เรื่องทุก อย่างเธอต้องสู้และท่ามันด้วยตนเอง ทำให้บาง ครั้งเธอก็รู้สึกอยากถูกรักบ้าง

หลังจากที่ญาดาช่วยเก็บของในครัวเสร็จ แล้วนั้น

เธอก็เดินกลับห้องของตนเอง มาร์วินยืนรอ เธออยู่ตรงบันได เขามองหน้าเธอ หน้าของเขา เริ่มแดงระเรื่อ

เขาหยิบคั่งเปาออกมา จากนั้นก็ยัดใส่ใน มือของญาดา “ญา Happy Chinese New Year นะ

ญาดาน้ำตาคลอ เธอยังไม่ทันได้กล่าว ขอบคุณเขา เขาก็เดินหายไปแล้ว

กลับไปที่ห้อง ญาดาสูดดมกลิ่นของซองอึ่ง เปา เธอทำคล้ายกับว่ามีกลิ่นของมาร์วินอยู่ในนั้น

ปีนี้เขาให้อังเปาเธอเป็นเงิน หกพันหกร้อย หกสิบบาท ซึ่งคือตัวเลขที่ดีตามความเชื่อของ ชาวจีน การได้ดั่งเปาในวันนี้ทำให้เธอนึกถึงปี ที่แล้ว เขาให้ต้นกระบองเพรซกับเธอ พร้อมกับ บอกให้เธออดทนและไม่ยอมแพ้ต่ออะไรง่ายๆ เหมือนต้นกระบองเพรช

มีข้อความเล็กๆในยั่งเปาด้วย เขาเขียนว่า “มีความสุขสุขภาพแข็งแรง

บนโลกใบนี้มีแค่มาร์วินคนเดียวเท่านั้น ที่ ให้ความสำคัญกับสุขภาพและความสุขของ เธอ แต่ที่น่าเสียดายนั้น ตอนนี้ชีวิตของญาดา เหมือนจะไกลจากสุขภาพที่ดีกับชีวิตที่มีความ สุขมากขึ้นเรื่อยๆ

ญาดาเก็บคั่งเปาไว้ในกระเป๋า

แม่ของญาดาปลุกเธอไปกวาดสนามหญ้า หลังบ้านตั้งแต่หกโมงเช้า ใจจริงญาดาไม่อยากไป แต่เพราะอยู่ที่นี่อีกสองวันเธอก็จะกลับ

เชียงใหม่แล้ว ก็เลยยอมทําตามแต่โดยดี!

ขณะที่ญาดาก๋าลังกวาดสนามหญ้าหลัง บ้านอยู่นั้น คีรินก็เดินเข้ามา เขาใส่รองเท้าแตะ กลับชุดนอนสีเทา ทำให้ดูเคร่งขรึมมากกว่า เดิม ด้วยความที่สายตาสั้นและเขายืนอยู่ไกล ทำให้ญาดาไม่แน่ใจว่าเขากำลังพูดอะไรอยู่ แต่ เหมือนว่าปากของเขาจะขยับแล้วพูดบางอย่าง

ญาดาเดินถือไม้กวาดเข้าไปหาเขา จากนั้น ก็ทักทายตามมารยาท “ทำไมตื่นเช้าจังเลยคะ ไม่นอนให้อิ่มๆล่ะ?”

คีรินมองไปที่ท้องฟ้า จากนั้นก็พูดขึ้น “ถ้า มองจากที่นี่ จะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุด”

ญาดามองตามเขา ตอนนี้พระอาทิตย์กำลัง ขึ้นแล้ว ท้องฟ้าในยามเช้านั้นสวยมาก

“ใช่ค่ะ สวยมากจริงๆ การที่จะเห็น ภาพนี้ในกรุงเทพไม่ใช่เรื่องง่าย การที่มองดูพระอาทิตย์ขึ้นนั้นทำให้ฉันรู้สึกว่าชีวิตยังมี

ความหวัง ญาดาตอบ

คีรินหันไปมองญาดา เขายิ้มเห็นด้วยกับสิ่ง ที่เธอพูด

เธอกับเขามองหน้ากัน ญาดารู้สึกประหม่า เล็กน้อย คีรินเดินเข้ามาประชิดตัวเธอ จากนั้น ก็เชยคางของเธอขึ้น ญาดารู้ว่าเขากำลังจะจูบ เธอ แต่นี่คือสวนหลังบ้าน เธอกลัวว่าคนรับใช้ คนอื่นจะมาเห็นเข้า

ขณะที่เธอกำลังจะปฏิเสธจูบของเขา เขา ก็ประทับริมฝีปากเย็นเฉียบลงมาแล้ว จูบนี้ไม่ เหมือนกับทุกครั้ง มันอ่อนโยนและทำให้เธอ รู้สึกโหยหา ญาดาชาไปหมดทั้งตัว

เธอตอบกลับจูบนั้นอย่างเสียไม่ได้

ญาดาลืมตาขึ้น ก็เห็นภาพที่ทำให้เธอ ตกใจ เธอรีบผลักคีรินออก เขาขมวดคิ้วแล้ว มองหน้าเธอ “คุณริษามาค่ะ”
ริมามองหน้าญาตานิ่งๆ ญาดาในตอนนี ไม่รู้จะทํายังไงดี เธอรู้สึกเหมือนเป็นชู้ของคีริน แล้วถูกแฟนของเขาจับได้ แต่หลังจากนั้นสัก พัก เธอก็คิดขึ้นได้ว่ายังไงคีรินก็คงอธิบายให้ ริษาฟัง

เพราะคนที่ไม่อยากให้ทุกคนรู้ความ สัมพันธ์ที่สุดแสนจะสกปรกของเธอกับเขานั้นก็ คือคีริน

คีรินหันหน้าไปมอง สีหน้าของรษาเปลี่ยน ไปในทันที เธอส่งยิ้มหวานให้คีริน “พี่คีรินคะ ทําไมตื่นเช้าจ้ง เมื่อคืน บอกกับริษาว่าเพลีย ไม่ใช่หรอคะ?”

คีรินดูไม่สะทกสะท้าน เขายิ้มแล้วพูดกับ ริษา “พี่นอนไม่หลับก็เลยมาดูพระอาทิตย์ขึ้น ในเมื่อเราตื่นแล้ว ไปกินอาหารเช้ากันเถอะ แล้ว เดี่ยว ส่งกลับบ้าน”

ริษามองหน้าญาดาสลับกับคีริน ปากของ ญาดายังแดงเจ่อ แค่มองก็รู้แล้วว่าเธอกับคีริน พึ่งจบกันเพราะปากของคีรินในตอนนี้ก็แดงเจอ

เหมือนกัน

ริษาไม่ได้พูดอะไร เธอเดินไปควงแขนของ คีริน จากนั้นก็ส่งยิ้มหวานเพื่ออ้อนเขา ถึงแม้ว่า รษาจะอายุมากกว่าญาดาถึงสองปี แต่ญาดาก ลับดูเป็นผู้ใหญ่กว่าไม่ว่าจะหน้าตาหรือความคิด

คงเป็นอย่างที่โบราณว่าเอาไว้ ผู้หญิงที่มี ความคิดเป็นผู้ใหญ่เร็วเท่าไหร่ ก็แสดงถึงชีวิตที่ ยากลำบากของผู้หญิงคนนั้น

“พี่คีรินคะ คุณย่าบอกให้ริษากลับตอนค่ำๆ เพราะอยากให้ริษาเจอญาติผู้ใหญ่ฝั่งพี่ก่อน ยังไงอีกไม่นานเราก็จะกลายเป็นครอบครัว เดียวกันแล้วจริงไหมคะ?” ริษาบอกกับคีริน

“ครับ แล้วแต่น้องริมาเลยครับ!

หลังจากที่สองคนนั้นเดินไป ญาดาก็กวาด พื้นของตนเองต่อ
วันนี้ที่บ้านมีญาติมารวมตัวพบปะกัน มากมาย ญาดากวาดพื้นเสร็จก็เข้าไปช่วยงาน ในครัวต่อ ไข้ของเธอเดี่ยวขึ้นเดี๋ยวลง ทำให้ ตอนนี้เธอเวียนหัวมาก

หลังจากที่ช่วยงานในครัวไปสักพัก ญาดา เริ่มไม่มีแรง เธอจึงบอกกับป้าแม่บ้านว่าไม่สบาย อยากจะไปพัก

ญาดาเดินจับราวบันไดแล้วค่อยๆขึ้นไป ประจวบเหมาะกับ คุณหญิงศิรินดาเดินลงมา จากชั้นสอง ญาดาพึ่งนึกขึ้นได้ว่าตนเองไม่ควร ใช้บันไดฝั่งนี้ เธอจึงจะเดินไปอีกทาง แต่เสียง ของคุณหญิงก็ทำให้เธอหันกลับมา “มาช่วย พยุงฉันหน่อย”

ปกติคุณหญิงท่านจะมีแม่บ้านคอยดูแล แต่ช่วงนี้แม่บ้านลากลับบ้าน ทำให้ไม่มีคนคอย ดูแลคุณหญิง

ญาดาจึงเดินเข้าไปพยุง แต่เรื่องไม่คาด ฝันก็เกิดขึ้น จู่ๆคุณหญิงศิรินดากีก้าวเท้าพลาดแล้วตกบันได ญาดากำลังจะเอื้อมมือไปช่วย แต่ด้วยความที่เธอไม่สบายอยู่แล้วทำให้แทบจะ ไม่มีแรง อีกทั้งคุณหญิงก็เป็นคนตัวใหญ่ ทำให้ ญาดาช่วยไว้ไม่ทัน

ญาดาตกใจ แล้วยืนนิ่งค้างอยู่ตรงบันได

“อ๊าย!” เสียงของรษากรีด ทําให้ทุก คนในบ้านวิ่งมา

คีรินกับมาร์วินรีบพยุงคุณย่าของพวกเขา ขึ้น แต่ตอนนี้คุณย่าก็สลบไปแล้ว คุณลุงสุชา ติเมื่อเห็นว่าญาดายืนอยู่ตรงชั้นสอง เขาก็เดิน เข้ามาถามเธอ “เกิดอะไรขึ้น!

ญาดากลัวจนขาอ่อน เธอกำลังจะอธิบาย

แต่ก็พูดไม่ออก

คุณลุงสุชาติจึงหันไปถามริษา “ริษาเห็น อะไรรึเปล่าลูก บอกกับลุงมาตามความจริง”

ริษามองหน้าญาดา จากนั้นจับชายเสื้อตัวเองแน่น “หนูเห็นญาตายืนอยู่ด้านหลังคุณย่า จากนั้นท่านก็ล้มลงมา”

คุณลุงสุชาติเดินมาตรงหน้าของญาดา

เจี๊ยะ! เขาตบหน้าญาดาอย่างแรง “ทำไม ถึงเนรคุณแบบนี้ ใครก็ได้แจ้งความที”

“คุณลุงสุชาติอย่าเข้าใจผิดนะคะ บางที ญาดาอาจจะเข้าไปช่วยคุณย่า แต่ไม่ทันการ เลยทำให้คุณย่าตกบันไดก็ได้ค่ะ”

ริษาอธิบาย แต่ยิ่งฟังก็เหมือนเป็นความผิด

ของญาดาจริงๆ! ตอนนี้ญาดารู้ว่าต่อให้เธอมีร้อยปาก ก็ไม่

สามารถแก้ตัวได้

ญาดาคุกเข่าอยู่บนพื้น เธอหันไปมองมาร์ วิน เพราะหวังว่าอย่างน้อยมารวินอาจจะช่วย เธอพูดอะไรบ้าง แต่สีหน้าของมาร์วินที่มองมา นั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง เขาคงจะคิดว่าเธอ193488809_1234334220333445_768135650985905642_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ