ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน

ตอนที่ 101 ช่วงเวลาแห่งความสุข (2)



ตอนที่ 101 ช่วงเวลาแห่งความสุข (2)

ไวภพตะลึงงัน “คุณแม่เห็นมันทั้งหมดเหรอ”

“ไม่ใช่ด้วยสายตาของแม่ แต่เพราะความรักของแกมัน ชัดเจนเกินไป”

“แล้วคุณแม่ต้องการอะไรครับ”

“ถ้าแกชอบเธอ แม่จะ…”

“ไม่เอา พวกเขาแต่งงานเป็นครอบครัวแล้ว และรักกันดี กับสามี”

“เป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วแล้วยังไง แม่ก็เป็นผู้หญิงที่

แต่งงานแล้ว แล้วตอนนี้ก็กลับมาโสดอีกไม่ใช่หรือไง”

ไวภพจ้องกลับอย่างรวดเร็ว “คิดว่าตัวเองยอดเยี่ยมงั้น เหรอ”

ทัตดาสายหน้าอย่างขอโทษ “ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันแค่ อยากจะบอกว่าการแต่งงานไม่สำคัญ การหย่าก็ไม่ได้ แย่”’คุณแม่คิดว่าทุกคนเป็นเหมือนคุณกับคุณพ่อเหรอที่ แต่งงานกันแบบง่าย ๆ แล้วก็หย่าเมื่อใดก็ตามที่คุณต้องกา รน่ะ”

“เธอก็ยังไม่ได้แต่งงานมานานไม่ใช่เหรอ ยังไม่มีลูกใ

ไหม”“ยังครับ”

“นั่นดีมาก แกก็คอยเติมเชื้อไฟ ฉันก็จะเป็นตัวกลาง พยายามให้ดีขึ้น ยังพอมีความหวัง”

“ไม่ ผมรู้สึกถึงความหวังดีของคุณ แต่มันจะดีกว่าที่จะไม่ คิดเกี่ยวกับมัน”

โทรศัพท์มือถือบนโต๊ะน้ำชาของผลินดังขึ้น ทัตดาหยิบ มันขึ้นมาดู สีหน้าดูไม่ดีลงฉับพลัน

“ใครเหรอครับ”

ไวภพสอบถามอย่างสับสน เมื่อมองไปก็เห็นมันแสดง ขึ้นว่าสามีปยุต เขาถามแม่อย่างสงสัย “เป็นอะไรครับ”

“ปยุตที่เป็นลูกชายของธามันนะเหรอ”

“ใช่ครับ”

ทัตดามีสีหน้าที่เศร้าหมองลง “หมายความว่าผลินเป็น ลูกสะไภ้ของธามันกับดนุชางั้นเหรอ”

“อืม”

ปึก! โทรศัพท์มือถือร่วงลงบนพื้น ไวภพถามอย่างตกใจ”คุณแม่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่”

“ไวภพ แกฟังนะ แม่สัญญากับแก ว่าจะทำให้ผลินเป็นของ แกให้ได้”

“ก็บอกไปแล้วไงว่าไม่ต้อง ทำไมถึงพูดมันขึ้นมาอีก”

ไวภพค่อนข้างไม่พอใจ ถึงแม้ว่าเขาจะชอบผลิน และ ปรารถนาที่จะมีเธอ แต่วิถีของสุภาพบุรุษ การได้รับความรัก มาด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ

“ไม่ใช่เพื่อแก แต่เพื่อลมหายใจของแม่

“ลมหายใจ? ลมหายใจอะไร

ไวภพเลิกคิ้ว

มีเสียงฝีเท้าดังเข้ามา ผลินออกมาจากห้องน้ำแล้ว และ มองไปที่นาฬิกาบนผนัง “คุณป้าคะ มันดึกแล้ว ฉันต้องไป แล้วจริง ๆ ค่ะ”

ใบหน้าของทัตดากลับมาเป็นปกติ “ได้ค่ะ ให้ไวภพไป ส่งคุณนะ”

“ไม่ต้องค่ะ ฉันจะเรียกแท็กซี่กลับเอง”

“งั้นให้ไปส่งหน้าประตู
ทัตดาศอกใส่ลูกชาย ไวภพลุกขึ้นและเดินไป “ไปกัน เถอะ ออกจากวิลล่าเพิ่มสิน คุณไปของคุณ ผมไปของผม

กับคำพูดของเขา ผลินรู้สึกโล่งอก หากว่าไวภพไปส่ง เธอที่บ้าน แล้วปยุตเห็นเข้า คงเกิดสงครามโลกเป็นแน่

สองคนเดินเคียงข้างกันไป ภายนอกมีดมาก ทางเดิน ยาวที่นําไปสู่ทางออกของวิลล่าเพิ่มสิน ลมกรรโชกมาทำให้ ต้นไม้ชนิดหนึ่งที่ปลูกตามสองข้างทางพริ้วไหวเสียดสีกัน จนเกิดเสียง

“คืนนี้ฝนอาจจะตก

ไวภพมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและเป็นคนเริ่มที่จะทำลาย ความเงียบ

“อืม ดูพยากรณ์อากาศตอนเช้า ก็บอกว่าฝนจะตก”

“มันเหลือเชื่อจริง ๆ แม่ของผมกลับมาบ้านไม่ถึงสิบวัน ก็ได้มาเจอคนที่ผมชอบแล้ว

ผลินรู้สึกไม่ดี “อย่าพูดแบบนั้น ฉัน…

“ผมรู้ว่าคุณเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว คุณสามารถเลือก คนที่คุณชอบได้ และเช่นกัน คุณไม่สนใจว่าผมจะชอบใคร

เฮ้อ เธอถอนหายใจ อะไรคือพรหมลิขิต มันก็เป็นแค่ ความโชคร้าย
“คุณพ่อกับคุณแม่ของคุณ…หย่าเหรอ”

ผลินสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม แต่ก็กลัวว่ามันจะ กระทบบาดแผลของไวภพแล้วจะทําให้เจ็บปวด

“อืม”

“ขอโทษนะ ฉันไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ครั้งนั้นกลับพูด แดกดันคุณว่าการมีพ่อเป็นข้าราชการระดับสูงนั้นเป็นเรื่อง

ไวภพยิ้มอย่างไม่รังเกียจ “ไม่เป็นไรหรอก พ่อกับแม่ ของผมหย่ากันนานแล้ว มีไม่กี่คนที่รู้ อีกอย่างมันก็ไม่ได้เป็น เรื่องใหญ่อะไร”

“พวกเขาหย่ากันนานแค่ไหนแล้วเหรอ”

“แปดขวบ”

ไวภพมีรอยยิ้มบนริมฝีปาก แต่ในดวงตามีความเศร้าโศก “เมื่อผมอายุแปดขวบ ก็หย่ากัน หลังจากนั้นแม่ของผมก็ไป ฝรั่งเศสคนเดียว ผมอยู่กับพ่อของผม

“คณไม่เกลียดเธอเหรอ”

“เกลียด?” เขาหัวเราะเยาะตัวเอง “อะไรคือประโยชน์ของ ความเกลียดชัง พวกเราทุกคนไม่เข้าใจความรู้สึกของคนอื่น หรอก แม้ว่าคนคนนั้นจะเป็นญาติของคุณก็ตามที
สีหน้า เคร่งขรึมของผลินเหลือบมองไวภพ ในที่สุดก็ เข้าใจ ในโลกนี้ไม่ใช่แค่เธอที่โชคร้าย ทุกคนมีแผลเป็นที่ อาจเกิดขึ้น แค่บางครั้งนั้นไม่มีใครได้เห็นมันก็เท่านั้น ปยุต จ้องมองเวลาที่นาฬิกาบนข้อมือ รู้ว่ารถของผลินถูกส่งไป เข้าศูนย์วันนี้ เขาเลิกก่อนเวลาเพื่อมารับเธอ โทรหาไปหนึ่ง ครั้งเธอก็ไม่รับสาย เขาจึงไม่ดื้อแพ่งต่อ เตรียมทำให้เธอ ประหลาดใจเหมือนตกลงมาจากฟากฟ้า

มองไปข้างหน้าโดยไม่ได้ตั้งใจ ร่างกายแข็งที่อฉับพลัน ในร้อยเมตรข้างหน้า เขามองผิดไปหรือเปล่า ลินของเขา พูดคุยอยู่กับผู้ชายที่เขาเกลียดที่สุดอีกแล้ว

พายุพัดแรงขึ้น ไวภพถอดเสื้อคลุมออกอย่างรวดเร็ว แล้วคลุมมันลงบนร่างกายของผลินอย่างเอื้อเฟื้อ

ผลินปฏิเสธ ไม่ต้องค่ะ ฉันไม่หนาว”

“ใส่มันไว้เถอะ”

ไวภพกดไหล่ของเธอไว้เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องถอดมัน ออก กล่าวด้วยดวงตาที่สดใสว่า “อย่าคิดว่ามันเป็นภาระ มัน ก็แค่ความคิดข้างเดียวของผม คุณสามารถปฏิเสธความคิด ของผมได้ แต่คุณไม่สามารถปฏิเสธเสื้อผ้าของผมได้

ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของผลินก็ดังขึ้น ทำลาย บรรยากาศที่น่าอึดอัดใจ เธอก้มลงมองตัวเลขและตอบรับทันที ฮัลโหล สามี”

“คุณทานข้าวเสร็จแล้วหรือยัง”’เรียบร้อยแล้ว”

“คุณจะกลับบ้านเมื่อไหร่

“เดี๋ยวก็กลับไปแล้ว”

“มีใครมาส่งคุณหรือเปล่า ให้ผมไปรับคุณเอาไหม”

“ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันจะรียกแท็กซี่”

“งั้นก็ดี”

ปยุตเงียบไปชั่วครู่ “คุณไปทานข้าวที่บ้านคุณป้าดาเป็น ยังไงบ้าง ได้พบลูกชายของเธอหรือเปล่า”

ผลินชะงักไป เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ปยุต ง เธอจึงตอบ กลับไปว่า “ไม่ได้พบค่ะ”

ไม่ได้ตั้งใจจะหลอกเขา แค่คิดว่าตั้งแต่นี้ไป จะไม่มีการ ติดต่อกับทัตดาอีก

เธอจำเป็นต้องห่วงความรู้สึกของปยุต

“ฮัลโหล สามี ทำไมไม่พูดล่ะ”

ผลินสงสัยในความเงียบของโทรศัพท์มือถือ ทันใดนั้นเสียงของแตรรถที่คุ้นเคยก็ดังเข้ามาในโสตประสาท และ แล้ว เธอก็ถูกแสงเจิดจ้าสาดส่องเข้ามา เธอเงยหน้าขึ้น อย่างช้า ๆ มองตรงไปข้างหน้า หลังจากเห็นคนที่นั่งอยู่ใน รถ ใบหน้าก็เริ่มซีดเผือด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ