งานเลี้ยงตอนวันตรุษจีน จู่ๆคีรินก็ให้ พนักงานจากบริษัทลูกทุกคนมาร่วมงานนี้
และเขายังเป็นคนควักเงิน เพื่อซื้อของ รางวัลเพื่อให้พนักงานจับฉลาก ของขวัญของ ผู้ชาย รางวัลที่หนึ่งจะเป็นรถสปอร์ตราคาห้าถึง หกล้าน และคนที่ได้ในรางวัลสิบรางวัลแรกจะ เป็นรถยนต์ธรรมดา ราคาหลักแสนขึ้นไป ของ รางวัลที่ถูกที่สุดก็คงเป็นรถจักรยานยนต์ราคา ประมาณครึ่งแสน
ส่วนฝ่ายหญิง รางวัลที่หนึ่งจะเป็นคอนโดป ระมาณห้าถึงหกล้าน และรางวัลที่สองคือคอน โดเหมือนกัน และรางวัลที่สามคือสร้อยเพชร ประมาณสองล้านกว่า
สร้อยเพชรที่เป็นของรางวัลเป็นสร้อย เพชรสีใสเหมือนดั่งหยดน้ำ และเปล่งประกาย แสงสีทองออกมาอย่างหน้าแปลก เป็นสร้อยที่ แปลกตามากๆ ไม่มีผู้หญิงคนไหนเคยเจอสร้อย เพชรที่วิเศษขนาดนี้มาก่อน
ผู้หญิงทุกคนก็มักจะชอบในของที่สวยงาม แต่ว่ามีแค่ญาดาคนเดียวที่ไม่ชอบและไม่อยาก ได้ของพวกนี้ เพราะว่าของรางวัลพวกนี้เขาเป็น คนให้ เธอเลยไม่อยากได้อะไรสักอย่างในนั้น
พนักงานชายกำลังจับรางวัลมาจนถึงสิบ รางวัลสุดท้ายแล้ว แต่อีกไม่นานก็จะถึงของผู้ หญิง สถาปนิกที่ชื่อหนูยิ้มที่อยู่ในทีมเดียวกับ เธอ มองหน้าเธอด้วยความคาดหวัง
และบอกเธอว่า “ญาดา เดี๋ยวฉันจะวาสนา ให้เธอได้ และเธอก็วาสนาให้ฉันได้นะ เราสอง คนต้องได้รางวัลใหญ่กลับบ้าน จะได้เป็นค่า ตอบแทนที่เหนื่อยมาทั้งปี
คงไม่มีบอสของบริษัทไหนใจดีใจกว้างเท่า เขา ของรางวัลของฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ถ้า มารวมๆกับก็เสียไปหลายร้อยล้าน งั้นถ้าเป็น บริษัทแม่ก็คงจะเสียเป็นหลักพันล้านแสนล้าน
แน่นอนว่าเขาต้องไม่สนใจกับไอ้แค่เงิน พวกนี้
เธอจึงส่ายหัวให้กับหนูยิ้ม “ฉันไม่ค่อย สนใจเรื่องพวกนี้”
เธอกำลังหลบอยู่ข้างๆเพื่อดูพวกเขา และ จับน้ำผลไม้มาดื่มไปด้วย
เวลานี้พิธีกรกำลังพูด “กลุ่มผู้หญิงเราไม่ แย่งกันเนอะ เราเป็นกุลสตรีกันทุกคน ทำแบบนี้ คงไม่เหมาะ ทุกอย่างก็พึ่งดวงชะตาจึงจะดีกว่า ใครชะตาดีก็ถูกรางวัลใหญ่ๆ
คีรินพยักหน้าและพูดขึ้น “ความคิดนี้ไม่ เลวนะครับ”
หลังจากนั้น พนักงานคนหนึ่งก็ยกกล่องมา ให้พนักงานหญิงทุกคนจะต้องจับกันหมด
พอเดินมาข้างหน้าเธอ เธอคิดว่าเธอก็คง ไม่ใช่คนที่โชคดีคนนั้น ถ้าเธอโชคดี เธอคงไม่ ต้องมีชีวิตที่แย่ขนาดนี้
เธอยื่นอยู่ไปจับใบชิงโชคใบหนึ่งออกมา
คีรินเริ่มแจกของรางวัลให้กับพนักงานขาย และตอนที่แจกของพนักงานหญิง หนูยิ้มรับ กุญแจคอนโดอย่างภาคภูมิใจ หลังตรุษจีนเธอ จะทําการโอนคอนโดมาเป็นชื่อของตัวเอง
ตอนที่พิธีกรเรียกชื่อของเธอ เธอจึงขึ้นเวที ด้วยสีหน้าที่บูดเบี้ยว ในใจไม่ได้อยากได้สร้อย เพชรนั่นเลย ทำไมเธอถึงรู้สึกว่านี่ไม่ได้เพราะ เป็นเธอชอบดี เธอเป็นโชคดีแบบนี้ตั้งแต่เมื่อ ไหร่!”
พนักงานผู้ชายในบริษัทจะเยอะหน่อย จาก นั้นก็ตะโกนเสียงดังตอนที่เธอขึ้นไปบนเวที “ใช่ ท่านประธานจะเป็นคนใส่สร้อยให้สาวสวย คนนั้นเอง”
จริงๆทุกคนต่างก็รู้ดีว่าความสัมพันธ์ของ เธอกับคีรินไม่ธรรมดา ทั้งบริษัทต่างก็ลือกันว่า เธอเป็นแฟนเก็บของคีริน
แต่เธอก็ยังคงอยู่อย่างหน้าด้านแบบบนี้ โดยไม่สนใจคํานินทาของคนอื่น และใช้ชีวิตของเธอไปแบบนี้
คีรินมองหน้าเธอ แล้วยื่นมือมาตบไหล่เธอ “ญาดาเป็นพนักงานที่ผมไปดึงตัวมาจากบริษัท อื่น เพราะเธอคือสถาปนิกที่ไฟแรง หวังว่าวัน ข้างหน้าเธอยังจะสามารถเป็นพนักงานดีเด่น ของบริษัทต่อๆไป
เหมือนว่าเขากำลังชมเธอ แต่เธอฟังแล้ว เหมือนกําลังดูถูก
เขาจึงรับสร้อยมาแล้วลวบผมของเธอไป ข้างหน้า จากนั้นก็ใส่สร้อยให้เธอ ความเย็นของ จี้ที่ทำจากเพชรสัมผัสกับผิวตรงลำคอของเธอ ทําให้ใจของเธอเต้นอย่างน่าแปลก
จู่ๆเขาก็กระซิบข้างหูเธออย่างแผ่วเบา “ชอบไหม?
เธอสะดุ้งขึ้นมาทันที จากนั้นก็พยายาม เรียกสติตัวเองกลับมา แล้วหันไปมองสีหน้าที่ เบิกบานของคีริน “ขอบคุณท่านประธานมากๆนะคะ วันข้างหน้าดิฉันจะทำงานให้ดีกว่านี้ จะ ไม่ทําให้คุณต้องผิดหวัง
จากนั้นเขาก็ยิ้มออกเสียง และตบไหลเธอ อีกครั้ง “ดีๆ มีพนักงานอย่างคุณถือว่าผมโชคดี
จริงๆ”
เขาบอกว่าเขาโชคดี แต่ไม่ได้หมายถึง บริษัทโชคดี ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าคำพูดของเขา เหมือนแอบแฝงอะไรบางอย่างไว้
เขาทําท่าทางใกล้ชิดกับเธอบนเวทีขนาดนี้ คนดูไม่ใช่คนโง่ ถึงกับดูไม่ออกว่าพวกเขาเป็น อะไรกัน
เธอรู้สึกว่าเรื่องที่เธอได้สร้อยเพชรครั้งนี้ เขาต้องเป็นคนบงการทุกอย่าง เพื่อที่จะให้ฉัน อับอายต่อหน้าผู้คน ให้ฉันต้องมีชีวิตที่ทนทุกข์ ทรมาน เพราะสายตาอาฆาตของผู้อื่น
ห้าหกปีก่อน ตอนที่เขาพึ่งจะเป็นหัวหน้า ครอบครัวใหม่ๆ ตระกูลสุขสำราญก็ได้หาคู่ครองให้เขา เป็นตระกูลชั้นสูงในกรุงเทพ เหมือนกัน ตระกูลนั้นก็คือลูกสาวคนที่สามของ ตระกูลสุขศิริ เขมมิกา
เขมมิกาเป็นหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลสุข ศิริ ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ที่อังกฤษ คนๆนี้เธอไม่ ได้รู้จักอะไรมาก แต่ได้ยินแม่เธอเคยพูด อายุ ของเธอห่างจากคีรินมาก รอให้เธออายุ 26 ปี ก็จะต้องแต่งงานกับคีริน คิดๆแล้วคงจะอีกไม่ นาน เพราะว่าเขมมิกาอายุน้อยกว่าเธอสองปี คิดว่าคงจะแต่งงานปีนี้ เพราะเขาก็อายุสามสิบ กว่าแล้ว
ถ้าเขาแต่งงานแล้วก็ยังไม่ปล่อยเธอไป งั้น เธอก็คงจะได้มือที่สามจริงๆ
สุดท้ายไม่รู้ว่าพวกเขาจะแต่งงานกัน หรือเปล่า แต่ว่าที่เธอรู้ เขามีสัญญาผูกมัดที่ จะต้องแต่งงานกับตระกูลสุขศิริ เรื่องนี้แม้แต่ สื่อมวลชนยังรู้ พนักงานพวกนี้ก็คงจะได้ข่าวอยู่ แล้ว
วันนี้ ทุกอย่างที่เขาทํา ก็เพื่อจะทําให้คนอื่น เข้าใจผิด
คงจะกลัวว่าคนอื่นจะไม่รู้ว่าเธอเป็นเมีย เก็บของเขา ถ้าเขาทำแบบนี้ เธอก็จะได้เป็นมือ ที่สามอย่างเต็มตัว
แม่ของเธอเป็นเมียน้อยของพ่อเขา วันนี้ เธอก็กลายเป็นเมียน้อยของเขา ทำตั้งใจทำให้ เธอทรมานใช่ไหม?
ไม่ต้องคิดหรอก ต้องใช้ฝีมือเขาแน่นอน!
จู่ๆหนูยิ้มก็ชี้มาที่สร้อยเพชรของเธอ แล้ว มองด้วยความอิจฉา
“นี่ท่านประธานของเรากำลังหาวิธีเพื่อจะ เอาใจญาดาหรอ? ญาดาถือว่าโชคดีจริงๆ ที่ ได้เป็นผู้หญิงของท่านประธาน คงจะได้เป็น คุณนายที่ร่ำรวย จะคิดใช้เงินยังไงก็คงจะใช้ไม่ หมด แต่พวกเรากลับไม่มีชีวิตแบบนี้”
และชื่นใจที่อยู่ข้างๆ พูดขึ้นอย่างดูถูกเธอ
อีกคน
เธอได้ยินจึงยิ้มขึ้น “หนูยิ้ม เธอยังจับคอน โดได้ตั้งหนึ่งห้องแหนะ จะบอกว่าท่านประธาน เอาใจฉันได้ยังไง พวกเธอคิดว่าล่ะ ก็คือมือดีไป จับโดนเท่านั้น”
เหอะ!
ชื่นใจจึงพูดขึ้นด้วยเสียงที่ออกจากจมูก “โกหกใครอยหรอ? นึกว่าคนอื่นจะไม่รู้หรือไง ว่าเธอเป็นเมียน้อย
ชื่นใจจึงยกแก้วไวน์และเดินออกมา
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ