ตอนที่85 ร่างกายใกล้ แต่หัวใจไกล ( 1 )
ร่างกายของผลินแข็งทื่ออยู่ในน้ำ สองตาเพ่งมอง ชายคนนั้นที่อยู่ต่อหน้าอย่างตกตะลึง “ปยุต คุณเป็น อะไรไป”
“ผมไม่มีอะไร เวลานี้ผมแค่ต้องการอยากจะรู้ คุณมี เรื่องอะไรที่จะต้องการจะบอกผมหรือไม่”
“ฉัน….”
สิ่งที่เธออยากจะพูดกลับพูดไม่ได้ เมื่อหวนคิดถึงแวว ตาของแม่สามี ถ้อยคำที่แม่สามีพูดไว้ จิตใจของเธอ เหมือนโดนมีดกรีด กลับยังคงฝืนความรู้สึกตนเองพูดออก ไปว่า “ไม่มีคะ”
ร่างกายของปยุตแข็งทื่อจนเธอรู้สึกได้อย่างชัดเจน ซึ่งแข็งทื่อมากกว่าเธอเสียอีก หลังจากความเงียบงันผ่าน ไปครู่ใหญ่ ปยุตพลันหัวเราะขึ้นมาดังว่า “ดูเธอตกใจ ผมเพียงแค่หยอกเย้าคุณก็เท่านั้น ไม่รู้เหมือนกันแต่ยัง คิดว่าเธอทำอะไรที่ผิดต่อผม”
“ปยุต
อย่าทำอย่างนี้อีกนะ ทำให้ฉันรู้สึกกลัวมาก
“หวาดกลัว เพราะเหตุใดถึงต้องกลัว เว้นแต่ว่าเธอทำ อะไรที่ผิดต่อผมเข้าจริงๆ ”
ผลินคิดที่จะพูดปฏิเสธ เขาใช้นิ้วมือปิดปาดเธอไว้พูด ว่า “พอเถอะ สิ่งที่เธอตอบได้อย่างเดียวก็คือไม่มี”
มีคนเคยบอกไว้ว่า ใกล้ชิดได้แค่ร่างกายความรักยังคง ห่างไกล ค่าพูดประโยคนี้ช่างมีเหตุผลของมันเสียจริง ก็เหมือนกับ เวลานี้ ความรักความผูกพันของเธอและปยุต นั้นกลับเหมือนค่อยๆห่างไกลไปทุกที
แต่ความรัก
เขาโอบกอดเธอไปอยู่ใต้ฝักบัว อาบน้ำให้เธออย่างนุ่ม นวล ผลิ่นยืนนิ่งราวกับท่อนไม้ พลิกไปหมุนมาตามเขา หลังจากอาบน้ำด้วยกันราวครึ่งชั่วโมง เขาก็อุ้มเธอมาที่ ห้องนอน หลังจากผลินรีบสวมใส่ชุดนอนเรียบร้อย ลุก ขึ้นพูดว่า “ฉันไปข้างล่างดื่มน้ำสักหน่อยค่ะ
เธอต้องการหลบไปจากห้องนอนนั้น มุ่งตรงไปยังห้อง ครัวชั้นล่างยืนอยู่หน้าเครื่องทำน้ำอุ่นในห้องครัว ดื่ม นําเข้าไปหลายอีกจนไม่คิดจะหายใจ เพราะเหตุใด เขาไม่พูดอะไรเลยสักคำ แต่เธอกลับรู้สึกว่ามีแรงกดดัน อะไรบางอย่างกำลังคุกคามเธออยู่
“พี่สะใภ้
เสียงเรียกของน้องสามีดังขึ้นมาจากด้านหลัง เธอ ตกใจจนมือสั่นเทา แก้วน้ำในมือตกลงบนพื้นเพราะเสียง เรียก เธอหันหลังช้าๆพูดว่า “ปาณี”
“เธอมีเรื่องอะไรวุ่นวายใจหรือเปล่า วันสองวันมานี้เธอ ดูไม่ค่อยสดใส”
“ไม่มีเรื่องอะไรคะ ดึกดื่นแล้วยังไม่นอนหรือคะ”
ฉันนอนไม่ค่อยหลับ ฉันมีเรื่องวุ่นวายใจนิดหน่อยคะ” “
“มีเรื่องอะไรหรือคะ” เธอมีเรื่องไม่สบายใจปกปิดอยู่
ชุดามองเธออย่างมีความหมายเป็นนัย ลังเล ควรไม่ควรที่จะพูดเรื่องแผ่นซีดีให้เธอฟัง มองเห็น สีหน้าของน้องสะใภ้สับสน ผลินก็พอเข้าใจไปบ้าง แล้ว70-80เปอร์เซ็นต์จึงพูดถามว่า “เธอ……..ไม่ใช่ เรื่องแล้ว”
“เรื่องที่เธอหลอกลวงพี่ชายของฉันใช่มั้ย”
น้องสะใภ้ย้อนถามกลับอย่างระแวดระวัง
“……อืม”
“ใช่คะ ฉันรู้เรื่องแล้ว พี่สะใภ้ เธอเพราะอะไรถึง ทําอย่างนี้ เธอไม่รักพี่ชายของฉันแล้วหรือ”
สองตาของผลินเลือนลางขึ้นทันที “ไม่ใช่ ฉัน
ไม่ใช่ไม่รักพี่ชายของเธอ ฉันมีความจำเป็นบางอย่างที่ไม่ สามารถอธิบายได้
แต่เพราะเหตุใดเธอถึงเลือกพี่ชายของฉัน เขาน่า สงสารมากพออยู่แล้ว เธอทำไมยังต้องการทำร้ายจิตใจ เขาอย่างทารุณโหดร้ายอีก”
“ขอโทษ ชุดา มีเรื่องบางอย่างเธอไม่เข้าใจหรอก”
“สิ่งที่ฉันไม่เข้าใจ ฉันไม่เข้าใจแนวคิดทางด้านความ รักของพวกคุณ ในชีวิตของชุดามีความปราถนาเพียง สองสิ่ง หนึ่งคือ พี่สะใภ้ รักพี่ชายของฉันอย่างจริงใจ สองก็คือฉันสามารถอยู่เคียงข้างกับชนัย
ผลินมองดูน้องสะใภ้ที่จิตใจแสนบริสุทธ์ เดินช้าๆ เข้าไปจับหัวไหล่เธอพูดว่า “เธอเป็นหญิงสาวที่จิตใจดี งาม ความปรถนาของเธอจะต้องเป็นจริงอย่างแน่นอน”
นอกห้องครัว มีเงาคนหนึ่งยืนอยู่ในมุมมืด ค่อยๆเดิน ออกไปด้วยจังหวะก้าวเดินอย่างมั่นคง
วันเวลาที่อึดอัดและความตรึงเครียดก็ได้ผ่านไปสองวัน ผลินรับสายโทรศัพท์ของทาย —–
พบกันหน่อยได้มั้ย
“เวลาไหน
ที่ไหน”
“วันเสาร์ช่วงเช้าเวลาสิบนาฬิกา ที่ร้านน้ำชาองศ
“โอเค”
เธอไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด เพราะว่ามีลางสังหรณ์ ในใจ ทาตฤนัดพบเธอกระทันหันนั้น จะต้องมีเรื่อง สําคัญอย่างแน่นอน
เช้าตรู่วันเสาร์ หลังจากผลินทานอาหารเช้าเสร็จ ก็ หยิบกระเป๋าออกไปข้างนอก เธอไม่ได้ขับรถไป ขณะที่ รถยนต์ของปยุตกำลังวิ่งผ่านข้างตัวเธอ หยุดถามว่า “ไป ไหน ต้องการให้ผมไปส่งหรือไม่”
เธอส่ายศรีษะและส่งสายตาบอกว่า “ไม่ต้องคะ ฉัน นัด นใจไปเดินเล่นช้อปปิ้งด้วยกันคะ
“อ๋อ เที่ยวให้สนุกนะครับ”
เขาเหลือบมองเธอด้วยสายตาอย่างมีความนัย เร่ง เครื่องยนต์ออกไปโดยเร็ว……
ใจของผลินสับสนจนไม่สามารถบรรยายได้ รู้สึกว่า สายตาของเขาในเวลานั้นปิดบังภาวะวิกฤตบางอย่างไว้ แต่ว่าในใจของเธอก็ยังไม่ปราถนาคิดไปให้มาก
ขณะเธอเดินทางมาถึงที่นัดหมายไว้ ทาตๆยังเดินทาง ไม่ถึง เธอหาที่นั่งตรงหัวมุม จ้องมองไปนอกหน้าต่าง
อย่างกระวนกระวายใจ
เขาขอร้องอย่างตรงไปตรงมา เมฆนอกหน้าต่างขาวมากและใหญ่โตมาก ล่องลอย ไปบนท้องฟ้าอย่างอิสระ เธอแอบนักริษยาขึ้นมาจริงๆ ริษยามวลหมู่เมฆนั้น
จิตใจล่องลอยไปบนมวลหมู่เมฆ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไป นานแค่ไหน
พลันมีเสียงเรียกให้เธอสะดุ้งตื่นทันทีว่า
ความคิดที่กำลังเหม่อลอยของเธอถึงกับตกตะลึง จ้อง มองดู “ชเยศ คุณมาที่นี่ได้อย่างไร”
“ท่านพ่อพาผมมาด้วยกันครับ”
ชเยศยิ้มเล็กน้อยหันหลังกลับไป ชี้ไปทางทาตฤกำลัง เดินใกล้มาถึงทางด้านหลัง
ทาตฤเดินมาถึงอย่างช้าๆ สีหน้าท่าทางขึงขังจริงจัง พูดว่า “เขารบเร้าที่จะเจอเธอให้ได้ ฉันจำใจต้องพา เขามาด้วยกัน”
ผลินผงกศรีษะรับ อย่างงงงวย “คุณนัดฉันออกมา มีเรื่องอะไรหรือค่ะ”
ทาตฤหยิบเงิน100หยวนออกมาจากกระเป๋าเงิน ส่ง ให้กับบุตรชายพูดว่า “ชเยศ ไปร้านค้าข้างล่างตึก ช่วยซื้อบุหรี่ให้พ่อซองหนึ่ง”
“โอเค”
ชเยศหยิบเงินวิ่งกระโดดไปมาซ้ายขวาเหมือนยังกับ เด็กเล็ก ทั้งสองคนมองดูจนเขาคล้อยหลังไป ทาต ถอนหายใจพูดขึ้นว่า “เขาเพียงแค่เห็นหน้าเธอเท่านั้น เขาดีใจกระโดดโลดเต้นอย่างนี้”
ผลินนิ่งเงียบไม่พูดอะไรสักค้า จากนั้นทาตฤก็เริ่มพูด เรื่องสำคัญ “เจตนาสำคัญที่ผมมาครั้งนี้นั้นก็คือจะเจรจา ข้อตกลงกับคุณ”
“ข้อตกลงอะไรคะ”
ผมรู้ว่าเธอไม่มีทางที่จะแต่งงานกับลูกชายของฉัน ถึงแม้ คํานี้จะพูดออกมาอย่างยากลําบาก แต่ว่าเพื่อให้ ลูกชายของฉันมีความหวัง พวกเรามาทำข้อกำหนด ตกลงกันง่ายระหว่างกัน ผมจะไม่บังคับให้เธอหย่าอีกต่อ ไป แต่ว่าทุกเดือนเธอต้องเจียดเวลาหนึ่งวันมาดูแลชเยศ เป็นยังไงโอเคมั้ย”
ผลินครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ไม่มั่นใจนิดหน่อจึงถามไปว่า “คุณพูดความจริงหรือคะ เพียงแค่ฉันเจียดเวลาเดือนละ หนึ่งวันมาดูแลชเยศ การหมั้นหมายระหว่างฉันกับเขาจะ ลบล้างจนหมดสิ้น”
“ใช่แล้ว”
เธอลังเลอยู่พักใหญ่ จึงผงกศรีษะรับคำพูดว่า “อย่างนั้นก็โอเค ฉันตกลง ฉันจะปฏิบัติตามคำสัญญา ทุกเดือนจะดูแลเขาหนึ่งวัน หวังว่าคุณก็ปฏิบัติตามคํา สัญญาด้วย อย่าสร้างความวุ่นวายให้ฉันอีกต่อไป
“คําไหนคํานั้น”
คำพูดของทาตฤยังไม่ทันขาดคำชเยศซื้อบุหรี่กลับ มาถึงพอดี นอกจากบุหรี่หนึ่งซองแล้ว ในมือยังถือ ดอกกุหลาบสีน้าเงินมาดอกหนึ่ง เขามอบดอกไม้ส่งให้กับ ผลินด้วยไมตรีจิตพูดว่า “ผลิน ผมชื่อของสิ่งนี้จากข้าง ล่างมอบให้คุณ คุณชอบมั้ยครับ” “ขอบคะ”
ผลินยิ้มเล็กน้อยรับไว้ นําดอกไม้วางไว้ด้านข้าง
“ชเยศ สักครู่เราดื่มชาเสร็ขแล้ว ผลินจะพาลูกไปเที่ยว สวนสาธารณะ ลูกอยากไปมั้ย”
ดีจังเลยดีจังเลย ผมอยากไปครับ”
ชเยศตื่นเต้นจนกระโดดโลดเต้น ผลินมีบางอย่าง เซอร์ไพรส์ “ฉัน……..
“เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ก็แล้วกันนะ”
ทาตฤพูดเสียงหนักเพื่อเตือนสติ เธอก็พูดอะไรไม่ ออกอีกแล้ว
ทั้งสามคนเดินออกจากร้านน้าชา ชเยศรบเร้าถามพ่อ เขาว่า “ท่านพ่อ พ่อไปด้วยกันกับพวกเรามั้ยครับ”
พ่อไม่ไป พ่อจะไปรอพวกเธอที่โรงแรม”
ทาต มองไปทางผลินด้วยสายตามีความนัย ทั้งสอง ต่างเข้าใจกันในความหมาย หลังจากรอจนทาตฤเดินไป ผลินพาชเยศเดินไปตามถนนนําโชค
เธอพาเขาไปยังสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในมืองB มือ ไปทางเครื่องเล่นม้าหมุนพูดว่า “ชเยศ คุณขึ้นไปเล่น ฉันจะรอคุณอยู่ข้างล่าง”
“โอเค”
ชเยศเชื่อฟังโดยดีวิ่งขึ้นไปนั่งบนม้าหมุน หัวเราะ สนุกสนุกสนานยิ้มจนเห็นฟันขาว ผลินมองไปที่เขา ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่า
ความจริงแล้วเป็นคนปัญญาอ่อนก็ไม่มีอะไรไม่ดี อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีเรื่องให้วุ่นวายใจเหมือนคนธรรมดา
ผลิน ”
ชเยศโบกไม้โบกมือทั้งสองข้างอย่างมีความสุข ผลิน ก็หัวเราะและโบกมือตามเขาพูดว่า “ชเยศยอดเยี่ยม ชเยศสู้สู้
ขณะเดียวเธอเองก็คาดไม่ถึงหรอก ทาตฤยืนอยู่ หลังเขาไม่ไกลมากนัก หยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาถ่ายรูป
ผลินพาชเยศเล่นในสวนสนุกตลอดทั้งวัน เครื่องเล่น ทุกชิ้นที่มีอยู่เขาเล่นจนหมด จนถึงเวลาเย็น จึงพาตัว ชเยศที่เล่นสนุกจนไม่ยอมที่จะกลับไปส่งยังโรงแรมที่ทา ตฤพักอยู่
“เล่นสนุกมั้ย ชเยศ
“สนุกมากครับ”
ชเยศพยักหน้ารับอย่างจริงจัง ตั้งแขนของผลินไว้จน แน่นพูดว่า “ผลิน คุณพาผมมาเล่นอย่างนี้ทุกวันได้มั้ย ครับ”
ผลินชำเลืองตามองไปที่ทาต ยิ้มเจื่อนๆ พูดว่า อย่างนั้นไม่ได้หรอก ผลินยังต้องทำงานคะ”
“อ๋อ”
ชเยศยืนคอตกอย่างเสียใจ ทาตกผายมือไปในห้อง
พร้อมพูดว่า “เข้ามานั่งสักพักมั้ย” “ไม่เป็นไรคะ ฉันต้องกลับแล้วคะ”
เธอแตะไปที่หัวไหล่ของชเยศพร้อมกับพูดว่า “ครั้ง หน้าฉันจะพาเธอไปเที่ยวอีกนะ แล้วพบกันใหม่นะ”
ชเยศได้ยินว่าผลินจะต้องไปแล้วก็ร้องไห้ขึ้นมาอย่าง เสียใจ เธอคิดที่จะปลอบใจเขาสักครู่ แต่ก็กังวล ว่าหากเป็นอย่างนี้ตนเองก็จะไปไม่ได้ซักที เธอก็เลยเร่ง ฝีเท้าเดินจากไปอย่างใจจืดใจดำ
“ชเยศอย่าร้องไห้ คนที่ลูกชื่นชอบนั้นยังไงก็ต้องเป็น ของลูก หากไม่ใช่เป็นของลูกแล้ว พ่อจะไม่ยอมให้ เธอเป็นของใครหน้าไหนอีกเลย”
แน่นอนทาตฤได้จัดแจงนำรูปภาพที่อยู่ในกล้อง ถ่ายรูปปริ้นท์ออกมา หลังจากนั้นวันที่สองก่อนที่จะ ออกจากเมืองB เขาได้ส่งรูปภาพทั้งหมดไปยัง บริษัท เจ.เอฟ.ทรัพยสถาน
เขาไม่ได้ลงชื่อว่าเป็นผู้รับ เพียงเขียนไว้บนพัสดุ ว่าคนรับผิดชอบเป็นผู้รับ ชนัยเป็นเลขาของประธาน บริษัท พัสดุทั่วไปเขาจะเป็นผู้จัดแจงทั้งหมด ขณะ ที่เขารับพัสดุชิ้นนี้ ก็เปิดออกตามปกติที่เคยทํา หลัง จากเขามองเห็นรูปภาพข้างในเขาถึงกับตกตะลึงและ สับสน มาก
เขามองดูภาพทีละภาพยิ่งมองยิ่งไม่เข้าใจ ผู้ชายที่อยู่ในภาพนั้นเป็นใครกัน และเป็นใครกันส่ง รูปภาพเหล่านี้มาให้ดู”
เสียงประตูห้องทำงานของประธานเปิดออกมา เขา ตกใจรีบนำรูปภาพทั้งหมดซุกเข้าไว้ใต้แขนพูดลนลานว่า “ท่านปยุต มีอะไรจะสั่งงานหรือครับ”
“ดูอะไร ดูลับๆล่อๆพิกล
ปยุตเหลือบมองดูด้วยความสงสัย เขาส่ายหน้าพูดว่า “ไม่มีครับ ไม่มีอะไรครับ”
ชนัยมีจุดอ่อนและจุดแข็งที่เห็นได้ชัดเจน ก็คือไม่ถนัด เรื่องพูดโกหก เพียงแค่พูดโกหกเท่านั้นเปลือกตาของ เขาจะสั่นกระตุกไม่หยุด ไม่ว่าใครก็ตามสามารถมอง ออกได้ทันทีว่าจริงหรือเท็จ
“ด้านหลังของคุณคืออะไร
ปยุตยื่นมือไปด้านหลังเขาอย่างตั้งใจ เขาหันหลัง ไม่มีอะไรเลยครับ”
กลับพูดต่อว่า “ไม่มีครับ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ