รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 497 จุดเปลี่ยน



บทที่ 497 จุดเปลี่ยน

ปลายมีดเบี่ยงไปเล็กน้อย แล้วเลือนไปโดนใบหน้าของหวง เกอ ทิ้งรอยเลือดไหลเป็นทาง

หวงฮ่านโจวนิ่งไป เห็นได้ชัดว่าตกใจมาก

ตอนที่เขาคิดว่าฉินหลั่งต้องตายแน่นอน จู่ๆ ฉินหลั่งก็จับ หวงเกอขึ้นมารับปลายดาบของหวงฮ่านโจว โชคดีที่ชัก ปลายดาบกลับทันเวลา ไม่อย่างนั้นตำแหน่งที่ถูกดาบคง ไม่ใช่ใบหน้า แต่เป็นลำคอแทน

ฟุบ!

ขณะที่หวงฮ่านโจวกำลังนั่งอยู่นั้น ฉินหลั่งก็ปล่อยหวงเกอ ลง แล้วเก็บดาบหักอีกท่อนที่อยู่บนพื้นขึ้นมาโดยฉับพลัน หันปลายดาบออกไปข้างนอก แล้วจึงแทงไปที่หัวใจของหวง ฮ่านโจวเร็วปานสายฟ้าแลบ

เสียงลมพัดทั้งหมดพลันหยุดลง เงียบสงัดรอบด้าน

การสู้รบครั้งนี้สิ้นสุดลงแล้ว

รอยยิ้มของอู่หย่งพลันนิ่งไป แล้วซิการ์ที่อยู่ในปากก็ลื่น ตกลงไปบนพื้น

ยามนี้เมิ่งเหมิงเหมิงก็นิ่งเป็นหุ่นไก่เช่นกัน
“เป็นไปได้ยังไง? เป็นไปได้ยังไง?” ไม่มีใครเชื่อ ว่า เหตุการณ์จะเปลี่ยนอย่างพลิกผัน

เพียงแต่เรื่องจริงที่แดงฉานไปด้วยเลือดก็เห็นอยู่ตรงหน้า สวบ แล้วเลือดสด ก็ไหลลงมา

เลือดหยดติ้งๆ อยู่บนพื้น

หวงฮ่านโจวมองดูดาบหักที่อยู่ตรงหน้าอกตัวเอง พร้อม กับความไม่เชื่อที่อยู่เต็มใบหน้า ร่างกายพลันซะงัก แล้วก็ล้ม ไปกองที่พื้น

ใบหน้าของหวงฮ่านโจวมีดอกไม้เลือดเพิ่มขึ้นมาอีกสอง

สามดอก ทุกคนต่างนิ่งเหม่อ มองดูฉินหลั่งที่เดินส่ายไปมาอยู่ใน

ห้องโถงใหญ่ ฉินหลั่งอุ้มหวงเกอไปที่โซฟา แล้วโน้มตัวมองดูหวงฮ่าน โจว “คุณอาโจว ขอโทษครับ”

จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ปิดตาที่เบิกว้างของหวงฮ่านโจวอย่าง ช้าๆ เมื่อครูใช้หวงเกอบังมีดดาบ มันจนใจจริงๆ

“อาโจวไม่โทษนาย เติมทีอาโจวควรจะปกป้องนาย แต่ กลับแทงนายเสีย แล้วยังจะฆ่านายอีก…” ร่างกายของหวง ฮ่านโจวเย็นเล็กน้อย สั่นระริก

“นาย…จะโต้กลับฉันยังไงก็ถูกทั้งหมด… หวงฮ่านโจวยิ้มมุมปากอย่างน่าเศร้าวังเวง

ดวงตาของฉินหลั่งฉายแววที่อ่อนโยน “คุณไม่ต้องดิ้นนะ ครับ ดาบนี้ของผมไม่ได้แทงถูกหัวใจของคุณ เฮ้อ จริงๆ แล้ว มันไม่แม่นเลยครับ”

“ตอนนี้คุณใช้แรงมากเกินไป จะทำให้หัวใจเกิดการแยก ออก แล้วตายในที่สุด”

บุญคุณในการเลี้ยงข้าวหนึ่งมื้อ กับมิตรภาพ สุดท้ายฉิน หลั่งก็ตัดไม่ขาด ถึงอย่างไรเขาก็เป็นพ่อของเพื่อน

“คุณเข้าร่วมสำนักหมอผีของคุณเถอะครับ ผมยังจะคง ต่อสู้ต่อไป” ฉินหลั่งหายใจหอบห้าว พลางพูด

“ขอบใจนะฉินหลั่ง” หวงฮ่านโจวยิ้ม “ขอบใจนะ นายเป็น เด็กดี แต่อาโจวไม่ควรทำแบบนี้” สีหน้าของหวงฮ่านโจว เปลี่ยนเป็นนิ่งสงบทันใด “ฉันก็ยังพูดประโยคเดิม โลกของ นายมันสะอาดมาก ไม่มีการโกหก ไม่มีเรื่องโสมม ไม่มี แผนการกลลวง”

“เป็นฉันเองที่หลงเสน่ห์โลกมายาทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้า เป็นไปได้ รับปากฉัน ต่อไปให้มองหวงเกอเป็นพี่น้อง แล้วก็ ยังมีหยินห้าว ยินถึง ต่างก็เป็นเด็กดี”

“คนอ่อนแอทนรับสำนักหมอผีไม่ได้ หอการค้าเทียนอิงก็ ไม่ปล่อยฉันแน่นอน ฉันไม่เหมาะสมเป็นผู้ใหญ่ของนาย ฉันต้องไปแล้ว”

ฉินหลั่งอดยิ้มมุมปากไม่ได้ “คุณอา อนาคตยังอีกไกล อย่าพูดแบบนี้เลยครับ..”

“ลาก่อน…” หวงฮ่านโจวยิ้ม ยิ้มอ่อนโยนและใจดีเหมือน ก่อน จากนั้นจู่ๆ ก็พลิกมือแล้วจับดาบ ดาบนี้ได้แทงไปที่ลา คอโดยตรง ทั้งเร็วและแรง และตายคาที่ทันที

ฉินหลั่งรีบเอามือจับดาบอย่างรวดเร็ว แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว หวงฮ่านโจวตายอย่างเด็ดขาด

น้ำตาหนึ่งหยดไหลลงมาจากหางตาของฉินหลั่ง ฉินหลั่ง ถอนหายใจ “ลมพัดแล้ว”

แต่เขากลับคิดไม่ถึงว่า ห้องโถงใหญ่ของวิลล่านี้ จะมีลม

พัดได้อย่างไร ยามนี้มือของอู๋หย่งก็วาดไปมา แล้วพูดเสียงเฉียบขาด

“จัดการมันซะ!”

“ตึก ตึก ตึก…” คนของหอการค้าเทียนอิงพุ่งไปโอบล้อม ฉินหลั่ง

“วันนี้ต้องฆ่าให้ได้ไม่อย่างนั้นถ้าปล่อยเสือเข้าป่าไปแล้ว ผลเสียที่ตามมายากที่จะคาดถึง…อู่หย่งพูดอย่างน่าสะพรึง กลัว

ฉินหลั่งได้คิดถึงความตายเรียบร้อยแล้ว แต่เขาก็จะไม่ยอมแพ้ ส่วนสังเส่นเอ๋อที่หมอบอยู่บนพื้น มองเห็นฉินหลั่งถูก คนโอบล้อมต่อหน้าต่อตา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความ มีด แสดงสีหน้าที่เจ็บปวดทรมานมาก

แต่ทันใดนั้นเสียงดึงสลักปืนก็ดังไปทั่วด้านนอก จากนั้น แตรเสียงสูงก็ดังขึ้นจากข้างนอก “คนข้างในฟังให้ดีนะ!”

“คนข้างในฟังให้ดีนะ!”

“วางอาวุธลงเดี๋ยวนี้ ออกมาและยอมจำนนเสียตีๆ! ไม่ อย่างนั้นจะฆ่าไม่เว้น!”

อู๋หย่งตกตะลึง เงยหน้ามองไปรอบๆ พลางเกิดความ สงสัยในใจ “ใครส่งคนมาที่นี่?”

“พวกแกมาจากไหน?” อู๋หย่งกำหมัดและคำรามเสียงดัง “เข้าใจผิดกันหรือเปล่า? ฉันคืออู่หย่งจากหอการค้าเทียนอิง ช่วยไว้หน้าเพื่อนที่เชิญมาด้วย อย่าทำลายมิตรภาพกัน!”

“แล้วก็ยังมีคุณชายเมิ่งเมิ่งเหมิงเหมิง เขาเป็นลูกชายของ คุณเมิ่งเย่าตง คนข้างนอก คงไม่มีใครไม่รู้จักใช่ไหม?!”

อู่หย่งตะโกนพูดเสียงดัง ทุกคนต่างโห่ร้อง แล้วจึงเริ่ม ป้องกันความเคลื่อนไหวของด้านนอก

ด้านนอกเงียบไปครู่หนึ่ง อู่หย่งกับเมิ่งเหมิงเหมิงสบตากัน แล้วยิ้ม ยิ้มอย่างได้ใจ ใครกล้ามาหาเรื่องพวกเขา ถือว่ารน หาที่ตายชัดๆ
“ช่าๆๆๆ” เสียงหัวเราะอย่างเหิมเกริมมาจากด้านนอกเป็น พักๆ จากนั้นเสียงของลำโพงก็กลายเป็นเสียงสูงของผู้ชายมี เสน่ห์คนหนึ่ง

“ฉันไม่สนว่านายเป็นสมาคมบ้าบออะไร คุณชายบ้านไหน ถ้ายังรู้จักกาลละเทศะ ก็ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉัน จะยิงนาย ฉันจะนับถึงสี่ เอามือกุมหัวแล้วรีบออกมาเดี๋ยวนี้ หนึ่ง..

“สอง!”

ชายเสียงสูงพูดจริงอย่างไม่ต้องสงสัย เวลานี้อู่หย่งจึง กระโดดออกมาดูข้างนอก ทันใดนั้นสีหน้าก็ขาวซีด และเห็น เพียงคนเจ็ดแปดคนชูจรวดมุ่งเป้ามาที่วิลล่าจื่อจวู้นบน หลังคาที่อยู่ตรงข้าม

“สี่!”

“หยุด! หยุด! ผมไป! ผมไป!” อู่หย่งตะโกนร้องเสียงดัง แต่เมิ่งเหมิงเหมิงกลับมีสีหน้าเขียวปัด

แม่งไอ้นี่เป็นคนของใครวะ? จะมาแย่งคนเหรอ?

คนกลุ่มหนึ่งวางอาวุธลง แล้วจึงวิ่งออกมาด้านนอก เพราะ การรักษาชีวิตสำคัญกว่า เรื่องแก้แค้นเอาไว้อันดับสอง

“ปล่อยฉินหลั่งกับตัวประกันคนอื่นซะ ไม่อย่างนั้นจะยิงไม่ หยุดแน่!”
เสียงของชายเสียงสูงคนนั้นมีความเด็ดเดี่ยวมาก ไม่มี ใครสงสัยว่าเขากำลังข่มขู่

และแล้ว ด้านนอกก็เกิดเสียงดึงสลักปืน ดูเหมือนคนล้อม อยู่ข้างนอกมากมาย

อู่หย่งกับเมิ่งเหมิงเหมิงเอามือกุมหัวเดินออกมา แล้วจึง รู้สึกหงุดหงิดอยู่ในใจที่คราวนี้ประมาทเกินไป ไม่ได้พกปืน มาด้วย ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายจะมีจรวดแล้วจะเป็นอย่างไร แม่ง เอ้ย

พลางคิดในใจแบบนี้ อู่หย่งเอามือกุมศีรษะออกมาจาก ห้องโถงใหญ่ ทันใดนั้นก็ตกตะลึงเหม่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า และเห็นเพียงรอบๆ วิลล่าจื่อจว้นมีชายร่างสูงใหญ่สวมชุดสี ดำอยู่เต็มไปหมด ทุกคนปิดหน้าปิดตา โผล่ให้เห็นเพียง ดวงตา กับถือปืนกลมือขนาดเล็กอยู่ในมือ ดูเหมือนจะมีหนึ่ง ร้อยกว่าคนได้

อู่หย่งแอบตกใจ เมิ่งเหมิงเหมิงก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “อยู่นิ่งๆ! ช่วยอยู่นิ่งๆ หน่อย ชูมือขึ้นเหนือหัว!” ชายเสียง สูงตะโกนอยู่บนหลังคา

“ปังๆๆๆ..” เสียงปืนดัง ยิงติดต่อกัน และบอดี้การ์ดที่ไม่ ได้เอามือกุมศีรษะต่างก็โดนยิงที่ศีรษะ สมองกระเด็น ล้มบน พื้นตายคาที่
เป็นการตายที่คาวเลือด น่าเวทนามากที่สุด

ตอนนี้ ทุกคนจึงเอามือกุมศีรษะอย่างเชื่อฟัง โน้มตัวเดิน ออกไปข้างนอกอย่างระมัดระวัง

เงียบกริบไม่กล้าพูด

อู่หย่งกับเมิ่งเหมิงเหมิงแอบกัดฟันกรอด เวลานี้เสียพี่น้อง ไปหลายคนแล้ว ประเด็นสำคัญคือคนเหล่านี้ของพวกเขา ล้วนเป็นคนมีหน้ามีตา ตอนนี้ถูกมาเฟียด้วยกันทำร้ายแล้ว ต่อไปคงกลายเป็นเรื่องตลกไปทั่วยุทธภพแล้ว

“ไม่ทราบว่าพี่น้องมาจากไหน? วันหน้าจะได้ไปเยี่ยมเยียน เพื่อมีเพื่อนเพิ่มอีกคน!”

ทันใดนั้นอู่หย่งก็พูดเสียงสูง เขาจำเป็นต้องตะโกนแบบนี้ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นนักสู้ จะแพ้ท่าแบบนี้ไม่ได้ แล้วต่อไปจะ ใช้ชีวิตอยู่อย่างไร

คำพูดนี้มีค่าข่มขู่แอบแฝงอยู่ ซึ่งหมายความว่าต่อไปฉัน จะเอาคืนบ้าง

ฉากต่อไปจากนั้นก็คือบนใบหน้าของอู่หย่งมีเหงื่อเม็ด ใหญ่ไหลลงมาอย่างกะทันหัน และเห็นบนหลังคามีคนสอง สามคนยกเครื่องยิงจรวดแล้วโอบล้อมรอบศีรษะของเขา จรวดชี้ไปที่อู๋หย่ง เตรียมท่าพร้อมยิงได้ตลอดเวลา

“แม่งอู๋หย่ง ไม่ยอมแพ้ใช่ไหม? ลองพูดอีกสิ ถ้านายกล้าก็พูดอีกที!” ชายเสียงสูงยืนอยู่ตรงกลางหลังคา และหัวเราะ

เยาะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ