รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 589 คนแปลก



บทที่ 589 คนแปลก

“อาหลิน ดังนั้นร้านยานฉ่าวในตอนนี้ก็เป็นเพียงแค่เมืองที่ว่าง เปล่าด้านในไม่มีอะไรเลย แต่ว่าตอนนี้ผมได้จ้างคนคนหนึ่ง ถ้า หากคุณรู้เรื่องเบื้องหลังของเธอคงจะต้องแปลกใจแน่ทำไมผม ถึงใช้เธอ

“สําหรับเรื่องธุรกิจของพวกนี้ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึง มันไม่มี แน่นอนอยู่แล้ว ผมคาดว่าหมอเทพสกลับมาต้องอยู่เหนือความ คาดหมายของเขาแน่นอน”

ฉินหลั่งยิ้มแล้วพูด ความจริงเขาไม่ได้รู้สึกใส่ใจเกี่ยวกับธุรกิจ ของปูนฉ่าวเลย เขาแค่แสร้งทำเป็นพูดให้น่าสงสารต่อหน้า หลินเส้าโสก็เท่านั้น เขารู้สึกว่ามีความรู้สึกที่ใกล้ชิดกับหลินเส้า โสอะไรแบบนั้น เพราะหลินเส้าโสมักจะมองเขาด้วยความรักใคร่ และเมตตามาโดยตลอด

ร้านยานฉ่าวในสายตาของฉันหลังก็เป็นเพียงแค่กับข้าวจาน หนึ่งไม่นานมันก็จะหมุนเวียนไปเรื่อยๆ อาจารย์ยายเป็นคนที่ ประสบความสําเร็จเหนือผู้คน สามารถทำให้ยาวเข่วงสืบทอด ต่อกันเป็นพันปี ร้านยานฉ่าวไม่จำเป็นต้องมีด้วยซ้ำ

แต่ว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ผมจะได้อาศัยโอกาสนี้พักผ่อนสัก พัก ไม่อย่างนั้นถ้าหากคลินิกมีชื่อเสียงขึ้นมาผมคงจะต้องยุ่งจน หัวปักหัวป่าแน่นอน”

ถ้าหากไม่ได้เป็นเพราะเห็นใจความรู้สึกของสวี่เหวินและอิงจิ่งหลิน จีนหลังก็หวังว่าร้านยานฉ่าวจะไม่มีลูกค้าแบบนี้ต่อไป

“จรรยาบรรณของหมอ”

หลินเส้าโสรู้สึกชื่นชมฉินหลั่งอีกครั้ง “ฉินหลัง ไม่ธรรมดา

จริงๆ”

ฉินหลง โบกมือ “ขอบคุณค่าขมของอาหลิน”

“ใช่แล้วฉินหลั่ง ก่อนที่ท่านจะเก็บตัวได้กำชับฉันไว้เรื่องหนึ่ง ฉันเกือบจะลืมบอกแกไปเลย

หลินเส้าโสตบกบาลตัวเองเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ หลังจาก นั้นก็หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมายื่นให้ฉันหลั่ง “การแข่งขัน แพทย์แผนจีนถ้วยเปี่ยนเซวี่ยจะจัดขึ้นทุกๆห้าปี วันพุธหน้าจะมี การจัดการแข่งขันระดับคัดเลือกตามเขตต่างๆ

เขาพูดเสริมอีกประโยค “ท่านที่สมัครให้แกเรียบร้อยแล้ว ถึง เวลานั้นอย่าลืมไปแข่ง

ฉินหลั่งอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอึ้ง “แข่งขันทักษะการแพทย์จีน

“ท่านที่กำลังทำอะไรอยู่เนี่ย?

“ผมต้องไปเข้าร่วมการแข่งขันทักษะการแพทย์จีน?”

เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มแห้งๆ แต่ผมไม่ใช่หมอสักหน่อย ผมเคย บอกแล้วว่าหมอเป็นเพียงแค่อาชีพรอง ไม่สิ แม้แต่อาชีพรองค์ นับไม่ได้ และอีกอย่างมันไม่ได้มีความหมายอะไรกับผมเลย

ฉันหลังครุ่นคิด ไม่ว่าจะเป็นการแพทย์จีนหรือการแพทย์ฝั่งตะวันตกขอเพียงแค่สามารถช่วยคนก็ถือว่าเป็นทักษะการแพทย์ ที่ดี ดังนั้นนอกเสียจากเหตุการณ์มันบังคับจริงๆมีน้อยครั้งที่เขา จะไปแข่งทักษะการแพทย์กับคนอื่น

ตอนนี้จู่ๆหมอเทพก็ให้ฉันหลังไปร่วมกันแข่งอะไรด้วย เปี่ยนเชย ฉินหลั่งรู้สึกมึนงงไปหมดไม่รู้ควรจะทำยังไง

“ท่านบอกว่าหนึ่งคืออยากให้แกลองไปเปิดหูเปิดตา ดูว่าตัว เองสามารถเดินไปไกลได้ขนาดไหนและกระตุ้นความสนใจทาง ด้านการแพทย์ของแก

หลินเส้าโสคาดการณ์ไว้แล้วกับการตอบสนองของฉันหลังจึง ตบที่หลังมือของเขายิ้มแล้วพูด “สองคืออยากจะให้แกสามารถ คว้าชัยชนะเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับคลินิกของตัวเอง

“ถ้าเป็นแบบนี้ก็จะไม่มีใครว่าแกสละเรือกลางคันและจะไม่มี ใครว่าแกไม่ใช่หมออีก”

“รางวัลของถ้วยเปียนเรี่ยไม่เพียงแต่มีสถานะชื่อเสียงใน วงการแพทย์เท่านั้นและยังมีโอกาสได้เป็นถึงอัจฉริยะของ ประเทศชาติ”

เขาพูดให้กำลังใจฉินหลง เฉินหลง ฉันรู้สึกว่าแกน่าจะไปลอง ดูหน่อย”

ฉินหลั่งเกาหัวของตัวเอง “อาหลินผมไม่ได้ต้องการซื้อเสียง อะไรพวกนั้น ผมเรียนการแพทย์ก็ไม่ได้หวังว่าจะมีใครมาชื่นชม

ฉินหลั่งไม่เหมือนระดับแดนฟ้า มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่
จําเป็นต้องมีอาจารย์ก็สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งไม่ต้อง พูดถึงทักษะการแพทย์จีนของอาจารย์ยายที่หลอมรวมภูมิปัญญา ที่ถูกสืบทอดต่อกันมาเป็นพันปีเข้าด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นการ แพทย์ฝั่งตะวันตกเขาก็รู้สึกมั่นใจมาก พูดอย่างไม่เกรงใจเลยก็ คือถึงแม้ว่าจะเป็นการผ่าตัดแบบฝั่งตะวันตกดินหลังก็กล้าลงมือ เพียงแต่ว่าตอนนี้เขาขี้เกียจไปทำเรื่องพวกนี้และยิ่งไม่สนใจพวก ชื่อเสียงจอมปลอมเหล่านั้น

“ฉินหลั่งฉันรู้จักนิสัยของแกดี แกไม่จำเป็นต้องมีของพวกนั้น มาเสริมสร้างบารมีให้กับตัวเอง

หลินเส้าโสยิ้มแล้วให้คำแนะนำอย่างใจเย็น “แต่ว่าในชีวิต

ประจำวันของมนุษย์มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอกับความสัมพันธ์ ทุกรูปแบบของบุคคล เพียงแค่ชื่อเสียงก็สามารถหลีกเลี่ยง ปัญหาได้มากมาย”

“อีกอย่างถึงแม้ว่าแกจะไม่ได้สนใจชื่อเสียงพวกนั้น ถ้าหากแก กลายเป็นผู้ชนะถ้วยเปี่ยนเซวี่ย ร้านยานฉ่าวของแกก็จะมีชื่อ เสียงไม่ต้องกังวลเรื่องลูกค้าอีกต่อไป

และอีกอย่างท่านยังหวังว่าแกจะสามารถทำให้การแพทย์ จีนนั้นโด่งดังมีชื่อเสียงไปทั่ว ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปอีกร้อยปีข้าง หน้าเขาก็จะไม่รู้สึกเสียใจ”

“ส่วนการสืบทอดก็หนีไม่พ้นจากอำนาจและเป็นที่ยอมรับของ

ผู้คน”

เขาพูดเสริมด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ “ฉันคิดว่านี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เขาจัดให้แกเข้าร่วมการแข่งขันแพทย์แผนจีนถ้วย เปียนเชย

ฉันหลังรู้สึกสั่นไหวเล็กน้อย “อาหลิน นี่คุณและท่านที่กำลังจะ ขอให้ผมเป็นผู้ปิดทองหลังพระเหรอ”

เขารู้สึกว่าไม่ว่าจะเป็นการรับช่วงร้านยาปูนฉ่าวหรือว่าเข้า ร่วมการแข่งขันแพทย์แผนจีนถ้วยเปียนเหวี่ยมันมีแรงผลักดัน อย่างหนึ่ง

“ปิดทองหลังพระก็ถือว่าเป็นการแสดงความสามารถแบบ

หนึ่ง”

หลินเส้าโสบดขยี้ความลังเลสุดท้ายของฉันหลั่ง “ฉันคิดว่าพ่อ แม่ของแกก็น่าจะมีความสุขที่ได้เห็นแก่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว

“ก็ได้!”

ฉินหลั่งถอนหายใจยาวแล้วหยิบใบสมัครขึ้นมาดูแวบหนึ่ง

“ถึงเวลาผมจะลองดู”

ฉินหลั่งไม่ถือสาที่จะได้กลายเป็นบุคคลที่มีความสามารถรอบ

ด้าน

“ฮ่าๆๆๆ เด็กดี ไป ไปวัดอารามหลวง

ใบหน้าของหลินเส้าโสเต็มไปด้วยความปลื้มใจ “ฉันจะไปขอ

พรให้พระพุทธเจ้าคุ้มครองแกสามารถคว้าชัยชนะได้อย่างราบ
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง วัดอารามหลวง หลังจากที่หลินเส้าโส ถวายธูปจบก็ให้ฉันหลังช่วยตัวเองบริจาคเงินค่าธูปค่าน้ำมัน ส่วนเขารออยู่ข้างนอก

ในขณะที่เพิ่งออกมาจากกลุ่มควันธูปโทรศัพท์ของหลินเส้า โลกสั่นขึ้น

เขาสวมหูฟังบลูทูธและไม่นานก็มีเสียงของหมอเทพดังขึ้น “เสี่ยวหลิน ฉินหลังตอบตกลงเข้าร่วมการแข่งขันแพทย์แผนจีน ถ้วยเปียนเซวี่ยหรือเปล่า?”

“ตอนแรกเขาก็ไม่ได้สนใจ แต่ถูกผมเซ้าซี้จนตอบตกลงไป

แล้ว”

การแข่งขันแพทย์แผนจีนถ้วยเงี่ยนเหวี่ยที่จัดขึ้นทุกห้าปี ไม่ เพียงแต่เป็นเรื่องสำคัญ ในแวดวงการแพทย์จีนเท่านั้นของจีน และยังสามารถดึงดูดสายตาของคนทั้งจีน ไม่ว่าจะเป็นประชาชน หรือขุนนางต่างให้ความยอมรับ

เนื้อแท้ของมันไม่ด้อยไปกว่านักวิชาการการแพทย์

เสียงของหมอเทพวี่เหมือนกับสายลมที่พัดมาในดินแดน รกร้างทางตอนเหนือ ทักษะการแพทย์ของประเทศจีนมีผู้ สืบทอดแล้ว…….

หลังจากที่ถวายธูปเสร็จฉินหลั่ง ก็พาหลินเส้าโสลงเขา เพียงแต่ว่าครั้งนี้ไม่ได้กลับไปทางเดิม หลินเล้าโสสั่งให้ฉันหลั่งเดิมตามกระแสผู้คนไปตามถนนสายหลัก

ในตอนนี้ใกล้เวลาเที่ยงแล้ว กลุ่มคนที่ถวายธูปเสร็จก็เริ่มลง จากเขา มีทั้งถ่ายรูปพูดคุยหัวเราะเยาะระหว่างทางเต็มไปด้วย ความคึกคัก

ฉินหลั่งและหลินเส้าโสเพลิดเพลินกับความรู้สึกนี้และรู้สึกว่า ไม่เคยมีความสุขขนาดนี้มาก่อน

เพียงแต่ว่า ในขณะที่ทั้งสองเดินมาได้ครึ่งทางจู่ๆก็มีเสียงร้อง ให้ดังขึ้นจากข้างหลัง มันดังขึ้นเรื่อยๆ และเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

ฉินหลังหันกลับไปมอง โดยไม่รู้ตัว เห็นเพียงสมาชิกครอบครัว

ห้าคนเดินลงมาจากเขา

มีคนชราสองคน คู่สามีภรรยาที่อายุยังน้อยหนึ่งคู่และยังมีเด็ก ทารกอีกหนึ่งคน

สีหน้าของคนชราทั้งสองดูเย็นชา ส่วนคนที่เป็นสามีดูรำคาญ คนที่เป็นภรรยา ใบหน้าเต็มไปด้วยความเป็นห่วงและอ้อนลูก

น้อยไม่หยุด

เพียงแต่ว่าถึงแม้คุณแม่คนนั้นจะพยายามอ้อนลูกและถึงขั้น ป้อนนม ให้กับเด็ก แต่เด็กทารกก็คลายออกมาไม่หยุดและเริ่ม

ร้องไห้อย่างน่าเวทนา

หลินเส้าโสขมวดคิ้วเล็กน้อย “เด็กคนนี้ร้องไห้หนักเกินไปหรือ

เปล่า?”
เสียงร้องนี้ไม่ต่างอะไรกับถูกมีดแทงทะลุลูกกระเดือก

ไม่เพียงแต่พวกฉันหลังที่คิดแบบนี้แม้กระทั่งสายตาของนัก ท่องเที่ยวก็หันไปมองครอบครัวนี้เช่นกัน

เมื่อเห็นว่าสายตาของผู้คนจับจ้องมาที่พวกเขา คุณยายสวม เสื้อสีน้ำเงินก็เงยหน้าขึ้นแล้วตบหน้าของลูกสะใภ้ “ไอ้คนไร้ ประโยชน์ แค่อ้อนลูกก็ทำไม่ได้ เลี้ยงเสียข้าวสุกของบ้านเรา จริงๆ”

หลังจากนั้นก็หันไปพูดใส่เด็กทารกด้วยท่าทางที่น่าขยะแขยง “รีบทำให้เธอหุบปากเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะโยนเธอทิ้งเอง

คุณตาหัวโล้นก็พูดขึ้นเช่นกัน “เลี้ยงเสียข้าวสุกก็ช่างเถอะ คลอดลูกก็ยังคลอดออกมาเป็นลูกสาว ชาติที่แล้วฉันไปทำบาป

อะไรมา”

“พ่อแม่ พูดให้น้อยลงหน่อย

ผู้เป็นสามีอดไม่ได้ที่จะหันไปพูดเหน็บแนมพ่อแม่ แต่หลังจาก นั้นเขาก็หันมาตะคอกใส่ภรรยา “ยังไม่รีบทําให้เด็กหุบปากอีก

เธออยากจะให้ตระกูลจางของเรากลายเป็นตัวตลกหรือยังไง?

ผู้เป็นภรรยาถูกตบจนเกือบจะเซล้มลงจนใบหน้ามีรอยฝ่ามือ แดงปรากฏให้เห็น แต่ก็ไม่ได้โต้ตอบกลับ

เธอเอาแต่เขย่าลูกตัวน้อยหวังว่าลูกจะยอมหยุดร้องไห้

เห็นได้ชัดว่ายอมจำนนนานแล้ว
เมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้านักท่องเที่ยวหลายคนกขมวดคิ้ว โดยเฉพาะผู้หญิงหลายคนที่เป็นแม่ดูโกรธมาก แม้กระทั่งถูก คนในครอบครัวลากเอาไว้ก็ยังจะเดินเข้าไปทวงความยุติธรรม

“รับไป รีบไป

คุณยายสวมเสื้อสีน้ำเงินผลักลูกสะใภ้ “ขายหน้าคน

ทั้งครอบครัวเดินต่อไปข้างหน้า

วันนี้ที่วัดอารามหลวงก็ดูคึกคักกว่าปกติมาก ดูเหมือนว่าผู้ ที่มาถวายธูปจะไม่ได้มีเพียงแต่คนที่มาบำบัดพักฟื้นเท่านั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ