รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 65เกาหยวนที่รู้สึกดีมาก



บทที่ 65เกาหยวนที่รู้สึกดีมาก

ธุรกิจของร้านสะแดนโกดีมาก

ตอนที่เกาหยวนพาพวกของติงหรุ่ยมาถึงนั้น ในห้องโถงก็ไม่เหลือที่นั่ง ไม่มีที่ว่างเหลืออยู่แล้ว รออยู่ในพื้นที่นั่งรอ มีลูกค้ารออยู่สิบกว่าคน

เครื่องแสดงจำนวนคิวที่รอ แสดงเวลาที่ต้อง รออย่างน้อยครึ่งชั่วโมง จึงจะมีที่นั่ง

“ผมจะลองไปคุยกับผู้จัดการดู ดูว่าถ้าพวกเรา เพิ่มเงินให้นิดหน่อย จะจัดหาที่นั่งให้พวกเราก่อนได้ หรือไม่”หลิวหงนั่งรอไม่ไหว หนึ่งคือหิวแล้ว สอง หลิวหงตอนอยู่ที่อำเภอ เธอก็ถือเป็น”ชนชั้น สูง”เวลาไปทานอาหารที่ร้านอาหารไม่เคยต้องรอมา ก่อน

“แม่คะ ช่างเถอะค่ะ รอตรงนี้ก่อนนะคะ”ดิงห รุ่ยเกลี้ยกล่อม สะแกนโดเป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียง ขนาดใหญ่ของเมืองจินหลงไม่ใช่ที่ที่แม่เธอจะมา แสดงอำนาจอะไรก็ได้

“อะไรช่างเถอะ เธอนั่งอยู่นี่แหละ แม่ไปเอง ก็ได้ไม่ใช่ว่าหลิวหงไม่สนใจฟังสิ่งที่ลูกสาวพูด เธอ คิดว่าที่อำเภอ เธอเอ

งก็พอจะมีสิทธิ์มีเสียงอยู่บ้าง ด้วยฝีปากของเธอ บวกกับให้เงินอีกนิดหน่อย ทำให้ผู้จัดการหาที่ นั่งให้พวกเขาก่อน น่าจะไม่ใช่เรื่องยาก

เดินผ่านเคาน์เตอร์ ไม่นานหลิวหงก็ได้พบกับ ผู้จัดการ เธอบอกอย่างชัดเจน ตนเองอยากให้ เพิ่ม500 ให้ผู้จัดการจัดหาที่ให้ตนเองก่อน แต่ผู้ จัดการไม่ยอมเล่นด้วย ร้านอาหารใหญ่โตขนาดนี้ ต้องมาเสียดายเงิน500ของเธอหรือ

สุดท้าย หลิวหงโดนปฏิเสธอย่างอ้อมค้อม จึง ต้องล่าถอยกลับไปอย่างเสียหน้า

“คุณน้า คุณน้านั่งที่นี่ก่อน ผมไปพูดเอง”เกา หยวนลุกขึ้นมายืนพูด เมื่อครู่พวกของติงหรุ่ยเห็น หมดแล้ว หลิวหงยืนอยู่ต่อหน้าผู้จัดการท่าทาง ไร้ ความช่วยเหลือ”ตนเองจะยืนดูอยู่เฉยได้อย่างไร ไม่ อย่างนั้น ตึงหรุ่ย หลี่น่า เฝิงโหย่หลันคงต้องด่าว่า ตนเองไม่มีความสามารถในใจอย่างแน่นอน แม่ยาย ถูกคนคนอื่นทำให้เสียหน้าขนาดนั้น เขาไม่อาจนิ่ง เฉยได้

พูดพลาง เกาหยวนก็เดินไปหาผู้จัดการ ในใจ เขานั้นก็หวาดกลัวไม่น้อย ตนเองก็เป็นทายาท เศรษฐีคนหนึ่ง เขาจะไว้หน้าตนเองมั้ย

แต่ในใจเขาก็ยังพอมีความหวังอยู่เล็กๆ ก่อน หน้านี้เคยได้ยินคุณพ่อพูดว่า เขาเคยได้พูดคุยกับผู้ จัดการร้านสะแดนโกหลายครั้ง ก็ไม่รู้ว่าสนิทสนมกันมากแค่ไหน

ตอนนี้ถูกบีบมาจนถึงขนาดนี้แล้ว เกาหยวน

ได้แต่ลองดูสักตั้ง

“ผู้จัดการโจว สวัสดีครับ ผมชื่อเกาหยวน พ่อ ของผมคือเกาเส็งแห่งบริษัทรับเหมาก่อสร้างสิ่งเชิง ผมพาเพื่อนหลายคนมาทานข้าว ไม่ทราบว่าคุณพอ จะจัดหาที่ว่างให้พวกเราได้หรือไม่…..”เดินมาตรง ตรงหน้าผู้จัดการ เกาหยวนเอ่ยอย่างเกรงใจ

บริษัทรับเหมาก่อสร้างสิ่งเชิงเหรอ ผู้จัดการ รู้จักคนผู้นี้ ก็คือเจ้าของกิจการเล็กๆที่ไม่มีความ สำคัญอะไรมากนัก ถือว่าธรรมดา ในบรรดาลูกค้า ของสะแดนโก

ผู้จัดการโจวเตรียมที่จะหันไปปฏิเสธคำขอ ร้องของเกาหยวน ตอนนี้เอง สายตาของเขาก็

เหลือบมองไปที่ลูกค้าที่เดินเข้าประตูมา

ฉินหลั่งและจงยู่ ช่ายหนงเพิ่งมาถึงตอนนี้ มองเห็นติงหนุ่ยและพวกของหลิวหงกำลังนั่งรอยู่ที่ โซนนั่งรอ ก็เดินไปหา เห็นชัดว่ารู้จักกัน ,

ผู้จัดการโจวอึ้งไปเล็กน้อย เขาจำฉินหลั่งและ จงยู่ได้ทันที เห็นจงยู่มากับผู้หญิงวัยกลางคนผู้หนึ่ง ท่าทางสนิทสนม ดูท่าจะเป็นแม่ลูกกัน

ครั้งก่อน อันธพาลข้างถนนอย่างสวีกาวมาหาเรื่องจงยู่ถึงในร้าน ถูกฉินหลั่งใช้ขวดไวน์ฟาดไป อย่างแรง ตอนนั้นสวีกาวยังไปหาท่านเสิ่นเสิ่นวั่น เชียนให้มาจัดการกับฉินหลั่ง แต่เมื่อท่านเสิ่นได้ยิน ชื่อฉินหลั่ง เหตุการณ์ก็กลับตาลปัตร กลายเป็นสวี กาวคุกเข่าเอาหัวโขกกับพื้น เอาลิ้นเลียพื้น

เวลานี้ดูเหมือนว่าเขามากับคนพวกนี้ ฉินหลั่ง เป็นคนที่แม้แต่ท่านเสิ่นยังต้องตกใจ ! ตนเองกล้า ไม่หาที่นั่งให้พวกเขา หากฉินหลั่งเกิดโมโหขึ้นมา อย่างนั้นทั้งร้านนี้อาจจะต้องพังพินาศ

นึกถึงจุดจบของสวีกาวในวันนั้น ผู้จัดการโจว ถึงกับตัวสั่น !

เขากลืนน้ำลายลงคอ

“ผู้จัดการโจว ผู้จัดการโจว…”เกาหยวนงุ่นงง ผู้จัดการโจวเป็นอะไรไป

“ห๊ะ…”สายตาของผู้จัดการโจวหันกลับมามอง ที่ใบหน้าเกาหยวน : “คุณจะสำรองที่นั่งใช่มั้ยครับ ขอโทษด้วยนะครับ ก่อนหน้านี้ผมอาจจะละเลยไป บ้าง ตอนนี้ผมจะจัดการหาที่นั่งให้คุณกับเพื่อนๆ รอ สักครู่นะครับ”

“อย่างนั้นเหรอครับ ดีครับ”เกาหยวนตอบ ตกลงแล้ว ผู้จัดการโจวก็รีบทำความเคารพแล้วไป จัดการทันที ทำเอาเกาหยวนสับสนงุนงง
“พ่อของฉันใหญ่โตขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ กัน”เกาหยวนเกาศีรษะ เขายังคิดไม่ออก เดิมเขายัง คิดว่า บริษัทของที่บ้านตนเองนั้น ก็เป็นธุรกิจขนาด กลางของเมืองจินหลิง ไม่แน่ว่าผู้จัดการโจวจะยอม ไว้หน้าหรือไม่ คิดไม่ถึงว่าแค่เอ่ยชื่อพ่อของเขา ผู้ จัดการโจวก็รีบรับปากทันที

ดูท่าแล้วพ่อของตนก็ยังพอมีบารมีอยู่บ้างใน เมืองจินหลิง

คิดเช่นนี้แล้ว เกาหยวนก็เดินกลับไปที่นั่งรอ

คิว

“คุณยังจะมาถามพวกเราว่ามานั่งทำไมที่ตรง นี้อีกเหรอ เธอคิดว่าร้านนี้เป็นของครอบครัวคุณหรือ อย่างไร อยากจะกินตอนไหน ก็ได้กินตอนนั้น ต้อง ต่อแถวตามลำดับสิ”หลิวหงพูดกับฉินหลั่งอย่างไม่ สบอารมณ์ มองไปยังเกาหยวน : “เสี่ยวหยวน ผู้ จัดการไม่รับปากก็ไม่เป็นไร ในเมื่อตอนนี้น้าก็ไม่ได้ หิวมากเท่าไหร่ พวกเรารออีกครึ่งชั่วโมงก็ได้”

“อ้อ คุณน้าครับ อย่างที่บอก ผมจัดการผู้จัด การโจวได้แล้วครับ ตอนนี้เขาไปหาที่นั่งให้พวกเรา แล้วครับ”เกาหยวนเอ่ยอย่างได้ใจ

“หะ รับปากแล้วเหรอ”หลิวหงตกใจเล็ก น้อย : “เสี่ยวเกานี่ช่างเก่งจริงๆ ฉันไปพูดอย่างไร

เขาก็ไม่ยอม เสี่ยวเกาไปแค่1-2นาที เขาก็ยอมตกลงแล้ว เก่งมากๆ”

“ไม่เหมือนใครบางคน มาที่นี่ได้แต่ถาม ว่าทำไมพวกคุณยังมานั่งอยู่ที่นี่ ถ้ามีปัญญาก็ไป ทำให้ผู้จัดการหาที่มาให้สิ ฉันอับอายแทนแล้วนะ ไม่มีความสามารถก็ยังไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร”หลิว หงกอดอก ไม่ได้มองฉินหลั่งตรงๆ เอ่ยกระทบ กระเทียบ

ฉินหลั่งถอนหายใจ

เวลานี้เอง พนักงานสาวก็เดินมา เชิญพวกเขา ขึ้นไปชั้นบนอย่างเป็นกันเอง มาที่ห้องรับรองห้อง หนึ่ง

หมายเลขห้อง”888″เดินเข้าไปด้านใน ทั้ง ใหญ่โตกว้างขวาง ทั้งสว่างไสว พรมปูพื้นสีแดง โต๊ะ เก้าอี้ทำจากไม้ประดู่ และยังมีเครื่องเคลือบลาย ครามที่หายาก ประเมินมูลค่าไม่ได้

เห็นภายในห้องนี้ เกาหยวนก็กังวล เขารีบไป ถามพนักงานสาวว่า : “ขอถามหน่อยครับห้อง รับรองหลังนี้ราคาเท่าไหร่ครับ”

“อ้อ นี่เป็นห้องที่หรูหราที่สุดของร้านอาหาร ของเรา ต้องมีการใช้บริการอย่างต่ำห้าหมื่นหยวน ค่ะ”พนักงานสาวตอบอย่างมีมารยาท

ห้าหมื่น พอได้ยินราคา เกาหยวนก็ตื่นตระหนกทันที อาหารมื้อนี้เขาคาดว่าแพงที่สุดอย่าง มากก็หนึ่งหมื่น ห้าหมื่น นี่ทำให้เขาเลือดอาบเลยที เดียว

“เสี่ยวเกา ไม่อย่างนั้นเราเปลี่ยนห้อง ก็ได้”หลิวหงเอ่ย ห้าหมื่นเธอไม่เคยกินอาหารที่แพง ขนาดนี้มาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น เกาหยวนและติงหรุ่ย ยังเป็นนักศึกษา จะมีเงินมากมายขนาดนั้นได้ อย่างไร

ไม่เป็นไรครับ คุณน้า ผมชอบห้องรับรองนี้ มาก ก็ทานอาหารที่ห้องนี้เถอะนะครับ” เกาหยวน ปาดเหงื่อที่ผุดบนหน้าผาก กัดฟันพูดอยู่ต่อหน้าคน มากมายขนาดนี้ เขาไม่อยากเสียหน้าจริงๆ

“คุณผู้ชายครับ คุณไม่ต้องจ่ายเงิน ผู้จัดการ พวกเราสั่งมา พวกท่านเป็นแขกพิเศษ มาทาน อาหารที่ร้านเราถือว่าเป็นเกียรติอย่างมาก ดังนั้น อาหารมื้อนี้ ร้านของเราให้ท่านได้ทานฟรีครับ” พนักงานเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

ทานฟรี ! ได้ยินคำนี้ เกาหยวนราวกับได้รับ อภัยโทษจากคำสั่งประหารชีวิตก็ไม่ปาน , ดีใจเป็น

อย่างมาก สายตาที่เขามองพนักงาน เต็มไปด้วยดวงดาว ระยิบระยับแพรวพราวอย่างนั้น

“เชิญพวกท่านนั่งลงก่อน อีกไม่นานพวกเราจะนำอาหารมาเสิร์ฟ ทั้งหมดล้วนเป็นอาหารขึ้นชื่อ ที่สุดของร้านเรา” พนักงานยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะถอน ออกจากห้องไป

“เสี่ยวเกา เธอนี่ช่างมีอำนาจบารมียิ่งใหญ่ จริงๆ ไม่เพียงให้พวกเราได้ห้องรับรองที่หรูหรา ที่สุด ยังได้กินฟรีอีก ใครจะทำแบบนี้ได้ ไม่ใช่แค่ เสี่ยวเกาคนเดียวหรอกหรือ”หลิวหงนั่งลง เอ่ยชื่นชม เกาหยวนอย่างได้ใจ ลูกสาวตนเองคบหากับผู้ชาย คนนี้ ไม่ธรรมดานะ ในใจเธอรู้สึกพอใจอย่างมาก

“ใช่แล้ว เสี่ยวเกา ครอบครัวเธอทำอะไรเหรอ ถึงได้มีอำนาจบารมีขนาดนี้” เฝิงโหย่หลันสนใจใน ตัวเกาหยวนมากเป็นพิเศษ

“บ้านของผมเปิดบริษัทก่อสร้าง ปีหนึ่งมีราย ได้ประมาณสิบล้านกว่าหยวน ไม่น่าพูดถึงอะไร หรอกครับ”เกาหยวนหักเล็บที่นิ้ว เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ อะไร

“เฮ้อ สิบล้านกว่ายังไม่ควรค่าที่จะเอ่ย เสี่ยว เกา อย่างนั้นคนอย่างพวกเราก็ตายไปเลยเถอะ” หลี่ น่ายิ้มพลางเอ่ย เธอหันไปมองฉินหลั่งอีก ดวงตาที่ มองไปยังฉินหลั่ง มีความดูถูกเยาะเย้ย : “พ่อหนุ่ม บ้านนายทำมาหากินอะไรเหรอ ปีหนึ่งมีรายได้เท่า ไหร่”

“ที่บ้านผมไม่ได้มีกิจการอะไร แล้วก็ไม่ได้มีรายได้หลายล้านด้วยพอใจหรือยัง”ตอนนี้ฉันหลังไม่ อยากจะพูดจากับพวกที่เห็นแก่เงินเหล่านี้เลยแม้แต่ น้อย

พวกของหลิวหงดูถูกเหยียดหยามฉินหลั่งที่ เขาไม่มีเงินอีกรอบ

ไม่นาน พนักงานก็นำอาหารรสเลิศเข้าวางบน โต๊ะที่ละจาน มีซี่โครงหมูซอสมะเขือเทศ ซุปครีม ข้าวโพดใส่เห็ด สลักธัญพืชผักสด สเต็กเนื้อชั้น เลิศ, แซลมอนทอด..

ล้วนเป็นอาหารตะวันตกชั้นเลิศ

ทำให้หลิวหงกับพวกได้เปิดหูเปิดตาอย่าง มาก แม้แต่มีดกับส้อมพวกหล่อนยังใช้ไม่เป็น มีติงห รุ่ยคอยสอนอยู่ เห็นฉินหลั่งและจงยู่ใช้มีดกับสอม อย่างคล่องแคล่ว คอยสอนช่ายหนง หลิวหงกับพวก ก็ไม่พอใจอย่างยิ่ง เห็นแบบนี้แล้ว พวกเธอก็ไม่ใช่ คนบ้านนอกแบบเดียวกับช่ายหนงหรอกหรือ”โห พวกเธอสองคนก็ใช้มีดกับส้อมเก่งมากนี่ พวกเธอ เคยกินอาหารฝรั่งเหรอ”หลิวหงถามอย่างไม่เชื่อนัก

“เมื่อก่อนฉันเคยทำงานที่นี่ค่ะ”จงยู่เอ่ยเรียบๆ

“อ้าวเหรอ ฉันคิดว่าพวกเธอเคยกินเสียอีก ที่แท้ก็ทำงานให้คนอื่นเขา”หลิวหงหัวเราะเยาะ ทั้ง ยังบ่นพึมพำว่า : “มีดกับส้อมจะใช้ได้เก่งแค่ไหนก็ เท่านั้น พวกเธอก็ไม่มีโอกาสจะได้กินอาหารฝรั่งหรอก”

เวลานี้เอง ประตูห้องรับรองถูกเปิดออก ผู้จัด การโจวเดินก้มโค้งเข้ามา

“ทุกท่านทานกันอร่อยมั้ยครับ”ผู้จัดการโจว เอ่ยถามอย่างเกรงใจ พอเข้ามา สายตาเขาก็จับจ้อง ไปที่ใบหน้าของฉินหลั่งแน่นอนว่า เขาไม่กล้ามอง ตรงๆ ได้แต่แอบเหลือบมองเท่านั้น

“อร่อยมาก ขอบคุณผู้จัดการโจวอย่างมากที่ ดูแลบริการอย่างดี ผมจะจำเอาไว้”เกาหยวนลุกขึ้น ยืน จับมือกับผู้จัดการโจว เอ่ยพลางยิ้ม

ผู้จัดการโจวเกรงใจมากไปแล้วจริงๆ ยังมาส อบถามว่ากินกันอร่อยมั้ยด้วยตนเองอีก พวกเราจึง ต้องทำตัวเป็นกันเองหน่อย

“อ้อ….”ผู้จัดการโจวคิดอยากจะพูดคุยกับฉิน หลังสองสามประโยค แต่เกาหยวนก็ยังคงดึงมือเขา เอาไว้ไม่ยอมปล่อย ทั้งยังคงยิ้มให้เขาอยู่อย่างนั้น ตอนนี้ผู้จัดการโจวเองก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่า เกาหยวน กับฉินหลั่งนั้นตกลงมีความสัมพันธ์กันอย่างไร เวลา นี้จึงได้แต่ทำหน้ายิ้มแย้มเป็นมิตรด้วย

เกาหยวนพูดอะไรเยอะแยะมากมาย จึงยอม ปล่อยมือจากผู้จัดการโจว

“เพื่อเป็นการต้อนรับที่ทุกท่านมาที่นี่ ผมได้เลือกไวน์สองขวด จากในห้องเก็บสะสมไวน์ของเรา มาให้ทุกท่านถือเป็นของขวัญเล็กๆน้อย ด้วยความ นับถือในขณะที่ผู้จัดการโจวพูด พนักงานก็นำไวน์ สองขวดเข้ามา เท่าที่มองเห็นจากขวดไวน์สองนั้น ก็ ถือว่าเป็นของหายาก

ผู้จัดการโจวเอ่ยแนะนำ เขายิ้มพลางรับขวด ไวน์มา คิดจะวางไว้ตรงหน้าฉินหลั่ง เป็นการแสดง ความเคารพของเขาต่อฉินหลั่ง ขณะที่คิดอยู่นั้น ก้าว มาข้างหน้าได้ก้าวเดียว เกาหยวนที่มีใบหน้ายิ้มแย้ม ก็เดินมา

“ผู้จัดการโจวท่านเกรงใจเกินไปแล้ว อย่างนี้ พวกเราจะรับไว้ได้อย่างไร….”เกาหยวนจับขวดไวน์ พูดตามมารยาทสองสามประโยค ภายใต้สายตา แปลกใจของผู้จัดการโจว เกาหยวนก็รับขวดไวน์มา ไว้ในมือแล้ว เขามองดูขวดไวน์ ตื่นตกใจเล็ก น้อย : “โอ้โห นี่มัน LOUIS XIVปี1992 ตามร้านขาย ในราคาสี่หมื่นกว่าเชียวนะครับ ผู้จัดการโจว ขอบคุณ คุณมากจริงๆ คุณรู้ได้ยังไงว่าผมอยากลองดื่มมา นานแล้วว่ามันรสชาติเป็นยังไง ช่างรู้ใจผมจริงๆ เลย..”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ