รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 475 ป้าลู่มีภัยพิบัตินองเลือด



บทที่ 475 ป้าลู่มีภัยพิบัตินองเลือด

“ฉินหลั่ง…… โจวซินลำบากใจ พูดเสียงเบาว่า: “นี่เป็น ญาติฝั่งแม่ของฉัน เป็นแบบนี้มาตลอด ฉินหลั่ง อย่าว่าอะไร

เลยนะ”

“นี่เป็นป้าของฉัน เฉินเมิ่งลู่”

ฉินหลั่งพยักหน้า ก็ไม่ได้ทะเลาะอะไรกับอีกฝ่าย ดังนั้นก็ จึงพูดอย่างมีมารยาทว่า: “สวัสดีครับ ป้าลู่”

หัวเราะ ยินถึงเกือบจะหัวเราะออกมา ชื่อนี้ ยังเมิ่งลู่อีก ฉัน ก็คงเป็นชวาร์เซเน็กเกอร์

“ใครป้าลู่กัน?” ผู้หญิงคนนำกลุ่มคนนั้นพูดอย่างไม่พอใจ

“ปากดีนะป้าลู่นายก็เรียกได้งั้นเหรอ?!”

“เป็นคนจนที่หน้าไม่อายจริงๆ พอเห็นคนมีเงินก็รีบวิ่งแจ้น เข้ามา”

ผู้หญิงพูดจาคมเฉียว ไม่เพียงไม่รับไหว้ แต่กลับด่าทอฉิน หลั่งแทน

“โจวซิน รีบไล่พวกเขาออกไปเลยนะ วิลล่าำจื่อจวู้นไม่ ต้อนรับคนจน” เฉินเมิ่งสู่พูดอย่างดูถูก

ผู้หญิงคนอื่นก็เชิดหน้า เหมือนฉินหลั่งและคนอื่นๆไม่ใช่ คนอย่างนั้น ไม่มองเลยด้วยซ้ำ

“ไอหยา ฉันนึกขึ้นได้แล้ว” ผู้หญิงอีกคนกรีตร้องขึ้นมา ชี้ หน้าฉินหลั่งพูดว่า: “เขาเหมือนมาจากที่นั่นเลย ยังไงฉันเคย เห็นเขา เขาไง เป็นตายามนั่น จริงสิ ตายามนั่น ฉันเคยเห็น หลายครั้งแล้ว”

ผู้หญิงคนนั้นเรียกเขาว่ายามอยู่หลายครั้ง เหมือนกลัวว่า คนอื่นจะไม่ได้ยิน

” ให้ตายสิ ยามไม่ใช่คนหรือไง ทำไมต้องเติมตาเข้าไป ด้วย เธอสาวมากมั้ง?!” ยินถึงยังพูดปลอบให้หยินห้าวอย่า โกรธ แต่ครั้งนี้เขาก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ด่าไปทันที แต่ เพราะไว้หน้าโจวซินไว้ไม่งั้นต่าแรงกว่านี้แน่

“นาย..กล้าด่าฉันงั้นเหรอ?” หญิงคนนั้นตัวสั่นระริก แต่ กลับลืมไปแล้วว่าเธอเป็นคนเริ่มด่าคนอื่นก่อน

“ยามไม่ใช่คนหรือไง?” หยินห้าวก็โกรธเหมือนกัน ชี้หน้า ผู้หญิงพวกนั้นแล้วต่า: “พวกคนบ้า!”

“ซินซินได้ยินไหม? เธอดูมายาทพวกนั้นสิ? กล้าด่าออกมา แบบนี้ได้ยังไง เธอรีบไล่พวกเขาออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้น เธอจะต้องอับอายเพราะพวกเขานะ!” ผู้หญิงที่ชื่อเมิ่งลู่พูดขึ้น สุดเสียง คิดว่าตัวเองเป็นคนแก่กว่า ก็สั่งโจวซินทันที และยัง กดดันเธออีก “พวกนายพูดแบบนี้ได้ยังไงกัน เคารพคนอื่นก็คือการ เคารพตัวเอง” นี่เป็นเสียงผู้ชายที่ดังจากที่ไกล ต่อมาคนคน นั้นก็เดินเข้ามา

เป็นหวงเกอ

หวงเกอขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าได้ยินทุกคนทะเลาะกันเมื่อ

ทีแล้ว

“นั่นสิ มีแต่หวงเกอที่มีมารยาท รีบไล่พวกเขาออกไปสิ คน พูดจาแบบนี้ฉันไม่อยากเห็นหน้าพวกเขาแล้ว เห็นแล้วจะทำ สายตาเสียเอา” เฉินเมิ่งลู่ตะโกนอย่างได้ใจ

“ป้าลู่ ขอโทษด้วย ที่ผมบอกคือพวกคุณ พวกคุณเห็น เพื่อนของผมก็เริ่มดูถูกหมายความว่ายังไง? ดูถูกพวกเขาก็ เท่ากับว่าดูถูกผมด้วยเข้าใจไหม?” หวงเกอโกรธจัด

“ว่าไงนะ?” ผู้หญิงพวกนั้นต่างอึ้งกันไปหมด มองอย่างไม่ อยากจะเชื่อ: “หวงเกอ นายมันบ้า! ฉันเป็นป้านายนะ ซื้อ คฤหาสน์หลังนี้ฉันออกให้หนึ่งแสน! นายไม่รู้จักสำนึกบุญ คุณเสียบ้าง เข้าข้างคนนอก ฉันทำเพื่อพวกเธอรู้ไหม? ตา ยามนี่เอาอะไรให้นายกัน มีแต่ทำให้ตกต่ำ นายดูสิพวกเขา มาแล้วก็มีแต่ทำให้งานเลี้ยงตกต่ำลง!”

เฉินเมิ่งลู่พูดไม่หยุด ดูแล้วยังอยู่ในความโกรธอยู่ พูดแต่ ตายามที่มาแล้วก็ทำให้งานเลี้ยงตกต่ำ “ป้าลู่ ขอให้คุณเคารพเพื่อนของผมด้วย เป็นยามไม่ได้มี อะไรไม่ดี ทำงานเลี้ยงดูตัวเองเป็นเรื่องที่ดี เทียบกับพวกเรา ที่เป็นคนรวยมาแต่กำเนิดดีกว่าเป็นร้อยเท่า เคารพคนอื่นก็ คือการเคารพตัวเอง” หวงเกอพูดอย่างใจเย็น ในคำพูดก็ เอาแต่ปกป้องเพื่อนในหอพักเดียวกัน

“เคารพ? ชิ!” เฉินเมิ่งลู่แสยะยิ้มเย็นชา: “เป็นแค่ยาม เขา ก็ต้องมีความสามารถให้ฉันเคารพเขา สิ ในเมื่อเป็นเพื่อนกัน งั้นก็คงเป็นเด็กมหาลัยเย็นจีนสินะ เด็กจบมหาลัย ก็ไปเป็น แค่ยามงั้นเหรอ นายไม่คิดว่ามีปัญหาอะไรเลยเหรอ? เดาได้ ว่าคุณภาพต่ำ และไม่มีความสามารถแค่ไหนกันเชียว!”

หวงเกอขมวดคิ้วเป็นผม อดไม่ได้ ก้าวไปข้างหน้าอย่าง เร็ว จะเปิดปากพูดอะไร ฉินหลั่งยื่นมือไปถึง ยิ้มและหยุดหวง เกอเอาไว้

สำหรับเฉินเมิ่งลู่ที่เอาแต่ว่าเขาตายาม ฉินหลั่งรู้สึกว่าตัว เองควรจะสู้เพื่ออาชีพของตัวเอง

“ป้าลู่ ผมชื่อฉินหลั่ง ป้าดูจะไม่พอใจผมมากเลยนะ?” ฉิน หลั่งพูด

“ถุย! ยังเรียกฉันว่าป้าอีก! ใครป้านายกัน?! ฉินหลั่ง?” เฉินเมิ่งสู่พูดกับฉินหลั่งโดยไม่ใยดีเลย: “นายก็แค่คนจนคน หนึ่ง ไม่มีสิทธิมาเป็นญาติกับฉัน ดูแล้วก็เป็นพวกคนที่หา แฟนไม่ได้ วันนี้เกรงว่าจะไม่มีข้าวกิน ก็รีบวิ่งมาขอข้าวบ้าน โจวซินกินน่ะสิ!”

เฉินเมิ่งลู่ทำท่าเหมือนมองออกว่าฉินหลั่งกำลังคิดอะไรอยู่

“นายต่ำเกินไป ไม่เหมาะกับไปมาหาสู่กับพวกเรา!” ผู้ หญิงอีกคนก็ช่วยพูดขึ้น

หวงเกอมีสีหน้าทุกข์ใจ เพราะเป็นญาติของโจวซิน ดังนั้น เขาอดทนมากแล้ว ที่จริงบ้านของฉินหลั่ง อาชีพ หวงเกอก็ ได้ยินมาแล้ว บ้างก็ว่าเป็นคนรวบ แต่หวงเกอเห็นฉินหลั่ง อับจนจนไม่มีข้าวกินมาหลายครั้งแล้ว แต่ข่าวลือพวกนี้ไม่ สำคัญ ทุกคนให้ความสำคัญกับความรู้สึกความเป็นเพื่อน มากกว่า เขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่

น่าโมโหจริงๆ ตอนแรกก็เป็นงานเลี้ยง พูดคุยกันอยู่ดีๆ กลับถูกป้าลู่ท่ำงานล่มเสียได้

“รีบออกไปเลยนะ ไม่เห็นหรือไง ดูตรงนี้ไม่มีคนเป็นยาม เหมือนนายหรอกนะ? มังกรกับมังกร หงส์กับหงส์ นายมันคน ชั้นต่ำ มีสิทธิอะไรมาที่นี่?”

พวกผู้หญิงคนอื่นก็พูดต่อ สายตาเต็มไปด้วยความดูถูก

“หุบปากนะ! นี่เป็นคฤหาสน์ของฉัน ฉันมีสิทธิจะเชิญใคร มาก็ได้!” หวงเกอทนไม่ไหวอีกแล้ว เพราะมีแขกหลายคนที่ มองมาทางพวกเขา

“พวกเธอไม่มีสิทธิมาไล่ฉินหลั่งออกไป!” “นั่นสิ ป้า พวกป้าทำเกินไปแล้วนะ…. โจวซินอดไม่ได้ แล้วเหมือนกัน

ฉินหลั่งยื่นมือไปให้หวงเกอหยุด หัวเราะพูดว่า: “หวงเกอ โจวซิน ยังมีหยินห้าว ยินถึง พวกนายอย่างโกรธไปเลย”

“จะไม่โกรธได้ยังไง? พวกเรามาร่วมงานเลี้ยงเพื่อน ทำไม ต้องถูกไล่ออกไปด้วย?” ยินถึงโกรธจัด

“นี่เป็นบ้านของหวงเกอ ไม่งั้น…..” หยินห้าวกำหมัด “ทุกคนไม่ต้องโกรธหรอก กับคนที่มีภัยพิบัตินองเลือดไม่

ต้องโกรธอะไรหรอก….” ฉินหลั่งลูบจมูก มองเฉินเมิ่งลู่กับ พวกผู้หญิงที่ชี้หน้าว่าเขาอยู่นาน

“ภัยพิบัตินองเลือด?”

ทุกคนเงียบกันหมด ต่อมา

“ฉินหลั่งนายหมายความว่ายังไง?”

“นายแช่งพวกเรางั้นเหรอ?”

“ตายามนี้ ร้ายจริงนะ”

“พูดมา! ทำไมถึงว่าพวกเราแบบนั้น ไม่งั้นวันนี้ฉันไม่จบ

กับนายแน่!”

พอถูกคนดูถูก ก็บอกว่าคนอื่นเป็นภัยพิบัติมาทำคนอื่น กลัว ปลอบใจตัวเอง ใจโหดเหี้ยม แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยน โชคชะตาตัวเองได้ พูดจาไร้สาระ จิตใจมีตมนจนถึงที่สุด

พวกผู้หญิงจับช่องโหว่ของฉินหลั่งได้ ทั้งดูถูก เหยาะเย้ย เหยียดหยาม หยอกล้อ ความโกรธ เต็มอยู่ในใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ