รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 387 อึ้งยังในสนามขี่ม้า



บทที่ 387 อึ้งยังในสนามขี่ม้า

ซึ่งจงผิงตะโกน

” ต่อไปอย่าแย่งธุรกิจทั้งหมดของตระกูลจง เข้าใจ

ไหม”

“ครับ คุณท่าน เราทราบครับ” ผู้คนค่อยๆถอยห่าง ออกมา

” เฮ้อ ตระกูลจงโชคดีแค่ไหน ที่ได้พบกับคนอย่างฉิน หลั่ง ตระกูลซ่งเป็นเพียงใบหน้าที่สามารถบดขยี้ได้ตาม ต้องการ ปัจจุบันนี้ เราต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับ ตระกูลจงเท่านั้น ถึงจะได้มีที่ยืน” ซ่งจงผิงพึมพำกับตัวเอง สองสามคำ จากนั้นก็หลับตาและเงียบไป

ที่จริงซ่งจงผิงก็เริ่มสงสัยการตายของซ่งอวี่ต่อตระกูล จง แต่ตั้งแต่ผลการแข่งขันการต่อสู้ที่หูโข่วแม่น้ำหวง สะพัดออกไป สำหรับนักอรรถประโยชน์นิยมอย่างซ่งจง ผิง ก็เริ่มตระหนักว่าตระกูลจงไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสั่นคลอน

ณ สวนตระกูลจง

“ฉินหลั่งมาแล้วเหรอ”

จงเส่นซานที่ประตูถามด้วยเสียงทุ้ม

“ฉินหลั่งอะไร เรียกว่าปรมาจารย์ฉิน” จงจิ๋่วเจินกล่าว ด้วยคิ้วเย็นชา

ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องประชุม เห็นฉินหลั่งที่นั่งอยู่ ด้านล่าง จงจิ๋วเจินก็ผงะ สงสัยว่าใครที่ตาไม่มีแววจัดฉินหลั่งไว้ที่ด้านหลังสุด

“ปรมาจารย์ฉิน เชิญนั่งด้านบนสุด” จงจิ๋่วเจินกล่าวอ ย่างรวดเร็ว

“อา? คุณท่าน นั่งตรงไหนไม่สำคัญหรอกครับ” ฉิน หลั่งไม่สนใจเรื่องนี้เลย มีจงยู่อยู่ข้างๆ เขารู้สึกว่าที่นี่คือ ครอบครัว คนกันเองทั้งนั้นจะเกรงใจอะไร

“วันนี้เรากำลังคุยกันเรื่องจะให้จงยู่เป็นผู้นำของ ตระกูลจง ฉันคิดมานานแล้ว ว่าฉันควรจะเกษียณ” จงจิ๋ว เงินตรงไปตรงมา

“คุณตา ฉันทำไม่ได้…” จงยู่แปลกใจ เธอจะเป็นผู้นำ ts ตระกูลจงได้ยังไง นี่มันไล่เป็ดขึ้นคอนชัดๆ

“จงยู่ อย่าปฏิเสธ ความหวังในการฟื้นฟูตระกูลจงของ เราอยู่กับเธอ ฉันได้หารือกับพ่อของฉันมานานแล้ว ตราบ ใดที่เธอนั่งรักษาการณ์ จะไม่มีแมวหรือสุนัขตัวใดกล้า มารบกวนพวกเรา ตระกูลจงก็เหมือนมังกร เราต้องพึ่งพา การสนับสนุนของเธอ” จงเล่นซานกล่าวด้วยความจริงใจ

ทุกคนเห็นด้วยพร้อมเพรียง แน่นอนพวกเขารู้แก่ใจว่า ฉินหลั่งอยู่ข้างหลังจงยู่ ถ้าจงยู่ได้เป็นผู้นำตระกูล ฉิน หลั่งก็ไม่สามารถหลบหลีกได้

“ฮ่าฮ่า ฉันทำไม่ได้จริงๆ” เมื่อจงยู่ยิ้ม เผยฟันขาว สะอาด ใบหน้าขาวอมชมพู สวยราวกับนางฟ้าบนสวรรค์

“ฉินหลั่งเราออกไปเดินเล่นข้างนอกกันดีกว่า” จงยู่ไม่ ต้องการยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในตระกูลจริงๆ เธอกับฉินหลั่งได้ กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง เธอก็รู้สึกยินดีเกินจะบรรยายแค่ต้องการหลบหนีไปยังโลกของทั้งสองโดยเร็วที่สุด

“โอเค ไปกันเถอะ” ฉินหลั่งตอบตกลงทันที จับมือเล็ก ๆ ของจงยู่แล้วเดินออกจากสวนตระกูลจง ทิ้งให้ผู้หลัก ผู้ใหญ่ในตระกูลจงทำอะไรไม่ถูก

มีสนามม้าแห่งนึงใกล้ๆสวนตระกูลจง ที่นั่นมีทุ่งหญ้า ขนาดใหญ่ แม้ในฤดูหนาว สนามหญ้าจะได้รับการเพาะ ปลูกอย่างระมัดระวังในอุณหภูมิที่เหมาะสม ทั้งสองถูก ดึงดูดด้วยสีเขียวของสนามม้า และเดินไปที่นั่นโดยไม่รู้ ตัว

“ยู่เอ่อ เธอต้องทนทุกข์มานานแล้ว ครั้งที่แล้วต้องโทษ ฉัน ที่ไม่ได้ปกป้องคุณ ” ฉินหลั่งกล่าวด้วยความจริงใจ

“ทั้งหมดเป็นเพราะโชคชะตา ฉินหลั่ง มีแต่ฉันที่สร้าง ปัญหาให้เธอ …” จงยู่กระพริบตาดวงโตคู่งาม พร้อมกับคำ พูดที่ลึกซึ้ง

“ฉัน..” ก่อนที่ฉินหลั่งจะพูดจบ เขาก็เห็นใครบางคน ตะโกนจากระยะไกละ

เฮ้ พี่ชาย…”

เสียงของหญิงสาวคนหนึ่ง ตะโกนอย่างสนิทสนม ขัดจังหวะการสนทนาความรักระหว่างทั้งสอง

“คุณกำลังเรียกผมเหรอ” ฉินหลั่งหันศีรษะเล็กน้อย เห็นหญิงสาวที่มีรูปร่างสมบูรณ์แบบมาก ใบหน้างดงาม ละเอียดอ่อนมองเขาด้วยดวงตาที่สวยงาม

“ใช่ค่ะ” เมื่อเห็นฉินหลั่งมองไปที่เธอ หญิงสาวก็วิ่งไปจับแขนของจงยู่ พร้อมเอียงศีรษะและยิ้ม “สวัสดีฉินหลั่ง ฉันชื่ออึ้งย้ง

เมื่อพูดจบ อึ้งยังก็ยิ้มเบา ๆ “ฉันได้ยินมาว่าคุณ เอาชนะนักศิลปะการต่อสู้ระดับโลก ในการแข่งขันการ ต่อสู้ที่แม่น้ำหวงครั้งก่อน อานุภาพน่าเกรงขาม โด่งดังไป ทั่วสารทิศ”

ฉินหลั่งยิ้มจาง ๆ คิดว่ายังมีคนชื่ออึ้งย้งอีกเหรอ? อยู่ๆ ก็มาตีสนิท แถมยังจับแขนของจงยู่เอาไว้ นี่ถ้าไม่ใช่ผู้ หญิง กลัวว่าเธอจะได้ฟันปลอมแล้ว อย่าถือว่าตัวเองเป็น คนกันเอง

“คุณ เรากำลังจะออกไปฉินหลั่งไม่ได้สนใจคำพูด ของอึ้งย้ง ต้องการจะพาจงยู่ออกไป การแข่งขันการต่อสู้ อะไร มันให้ความรู้สึกเหมือนขยะชัดๆ

รอยยิ้มของอึ้งย้งโนวน้าวจิตใจได้มาก มีคำกล่าวว่า คนจะไม่ตีคนยิ้ม อึ้งย้งรีบวิ่งตามฉินหลั่งและจงยู่ไป กล่าว ด้วยรอยยิ้ม

พี่สาว ฉันขอยืมสามีคุณมาใช้สักครู่ ไม่เป็นไรใช่ ไหมคะ”

ทันใดนั้นใบหน้าของจงยู่ก็แดงระเรื่อ นี่เป็นครั้งแรกที่ มีคนใช้คำว่า “สามี” กับเธอ และมันก็ยังรู้สึกหวาน

“แน่นอน ฉันไม่รังเกียจ แต่หลังจากใช้เสร็จแล้วอย่า ลืมส่งคืนให้ฉันก็แล้วกัน” จงยู่รู้สึกยินดี เด็กผู้หญิงคนนั้น ยังดูเป็นเด็ก และรอยยิ้มของเธอก็โน้มน้าวได้มาก และคำ ว่าสามีนั้นก็ทำให้เธอพอใจอย่างลึกลับ เธอจึงตอบตกลง
ขณะพูด จงยู่ก็ผลักฉินหลั่งเบาๆและพูดด้วยรอยยิ้ม ” อึ้งยังขอให้เธอไป เธอก็ไปเถอะ แต่ห้ามนอกใจก็แล้วกัน” จงปู่หัวเราะร่า เขายังเด็กขนาดนั้นจะไปรู้ว่าความรักใคร่ ของชายหญิงได้อย่างไร

ฉินหลั่งยิ้มและพูดว่า “เธอจะไม่ถามเจ้าเปี๊ยกคนนี้ก่อน เหรอว่าจะให้ฉันไปทำอะไร คุณก็ตอบตกลงแล้ว? !”

“เจ้าเปี๊ยกอะไรกัน คุณพูดเป็นหรือเปล่าเนี่ย คุณช่วย แสดงคำพูดระดับผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ได้ไหม?” อึ้งยังเม้ม ปากเล็ก ๆ ของเธอ เอามือเท้าสะเอว ไม่พอใจกับคำพูดใน ตอนนี้ของฉินหลั่ง

“เธอจะพาฉันไปทำอะไร บอกมาหน่อย ถ้าเธอจะพา ฉันไปขายล่ะ?” ฉินหลั่งพูดอย่างเคร่งขรึม “ฉันจะทำอะไรได้ ขี่ม้าสิ ฉันอารมณ์ไม่ดี วันนี้ฉันออก

มาคนเดียว ไม่กล้าขี่ ดังนั้นฉันจึงต้องหาคนช่วย” อึ้งย้งก ล่าว

“อ๋อ งั้นไม่เป็นไร” ฉินหลั่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและถาม ว่า “เธออายุเท่าไหร่ล่ะ จะเหยียบโกลนม้าถึงไหม?”

” คือ ฉันอายุ 20 แล้ว คุณคิดว่าว่าฉันยังเด็ก?!” อึ้งย้ง สะบัดขายาวๆของเธอ รูปร่างของเธอสมบูรณ์แบบมาก

ฉินหลั่งและจงยู่มองหน้ากัน พวกเขาไม่เชื่อเล็กน้อย เด็กผู้หญิงคนนี้ท่าทางเหมือนตุ๊กตา เป็นไปไม่ได้ที่จะอายุ 20 ปี

ฉินหลั่งขี้เกียจจะถามอะไรอีก ยังไงจงยู่ก็รับปากไป แล้ว เขาก็ให้หน้าอึ้งย้งสักหน่อย ตอนนี้ทั้งคู่อารมณ์ดี ดังนั้นจึงพูดง่ายหน่อย รีบทำให้เสร็จจะได้รีบไป

ม้าตัวสูงผูกติดกับต้นไม้ อึ้งยังกระโดดขึ้นบนหลังม้า ฉินหลั่งไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นใด เขากระโดดขึ้นนั่งต้านหลัง อึ้งยังทันทีทันใดนั้นอึ้งยังก็หน้าแดง

“คุณ คุณจะทำอะไร” อึ้งยังถามด้วยเสียงต่ำ

“สอนเธอขี่ม้าไง เธอเป็นอะไรอีกล่ะ” ฉินหลั่งพูดอย่าง หงุดหงิด ดูเหมือนว่าอึ้งยังจะไม่มีความสุขอีกต่อไป?

“อา ไม่ใช่ ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น …” อึ้งยังพูด อย่างรีบร้อน

ทั้งสองวิ่งไปบนทุ่งหญ้า จงยู่กอดอกของเธอและยืนดู อยู่ด้านข้างอย่างมีความสุข อึ้งยังน้อยคนนี้ ค่อนข้างกล้า หาญ กล้าให้ฉินหลั่งสอนขี่ม้าให้ เท่ากับการให้เจ้าชาย อ่านหนังสือเป็นเพื่อนเธอ

ม้าตัวนั้นไม่ได้หงุดหงิดง่าย อึ้งย้งมีพรสวรรค์และ ฉลาด หลังจากสอนได้ไม่ถึงสองสามนาที เธอก็สามารถ วิ่งได้เองตามต้องการ

“เฮ้ ทำไมคุณบอกว่าฉันเป็นเด็กล่ะ ฉันอายุ 20 แล้ว

นะ”

ฉันกลั่งตกตะลึง เด็กคนนี้ดูเหมือนจะหมกมุ่นกับอายุ ของตัวเอง ผู้หญิงต่างหวังว่าคนอื่นจะบอกว่าเธอเด็ก แต่ อึ้งยังกลับไม่ชอบให้คนว่าเธอเด็ก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ