รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 36 เขานั่นเอง



บทที่ 36 เขานั่นเอง

มีการกล่าวกันว่านักเรียนที่บริจาคเงินมากกว่า 1,000 หยวนจะได้ขึ้นเวทีเพื่อปราศรัย แต่ทุกคนก็ไม่ได้ เคลื่อนไหวอะไรมาก นักเรียนส่วนใหญ่ตั้งใจบริจาคเงิน เพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ในหมู่บ้านบนเขา ไม่ได้หวังชื่อเสียง

หลังจากพิธีกรพูดจบ มีหลายคนก็เริ่มขึ้นพูดบนเวที ทุกคนก็ไม่กล้าโอ้อวดมาก และเหมือนจะนัดกันทุกคน ต่างก็ชื่นชมนักเรียนที่บริจาคเงินมากกว่า 100,000 หยวน

เกาหยวนเริ่มก้าวขึ้นไปบนเวทีและยืนอยู่หน้าแท่น ฉันอยากตำหนิคนประเภทหนึ่ง คนที่บริจาค1 หยวน แต่ยังภูมิใจมาก โพทนาไปทั่วว่าฉันบริจาคเงินแล้ว ทำ เหมือนกับว่าเขาทำประโยชน์เพื่อเด็กในหมู่บ้านบนภูเขา อย่างยิ่งใหญ่เราทุกคนควรเรียนรู้จากเพื่อนร่วมชั้นที่ บริจาคเงินมากกว่า 100,000 หยวน คนประเภทนี้ไม่เพียง แต่มีเงิน แต่ยังมีคุณธรรมสูงส่ง ผมบริจาคเพียง 2,200 หยวนเท่านั้น เมื่อเทียบกับเขาแล้วก็ต่างกันราวฟ้ากับดิน หากเป็นไปได้หลังจากนี้ ผมอยากแสดงความเคารพต่อ เขาแบบซึ่งหน้า ”

เกาหยวนคิดกับตัวเองว่า นักเรียนที่บริจาคเงิน 100,000 หยวนคนนี้ จะต้องแข็งแกร่งกว่าเขาหลายเท่า เขาจึงจงใจแสดงความยินดีกับเขาบนเวที หลังจากนี้เมื่อ เจอหน้ากันจะง่ายต่อการประจบประแจง

ฉินหลั่งเห็นการแสดงออกที่ประจบประแจงของเกา หยวนบนเวที ก็รู้สึกมวนท้อง โชคดีที่เขาไม่ได้ระบุตัวตน และชื่อของเขาตอนบริจาคเงิน ถ้าหลังจากนี้ไม่ต้องขึ้นเวทีเขาก็จะเดินออกไป

เกาหยวนพูดจบก็เดินลงจากเวที

คนอื่นๆก็อินกับคำพูดของเกาหยวน ประณามคนที่ บริจาคแค่หนึ่งหยวน และชมเชยเพื่อนนักเรียนที่ บริจาค100,000คนนั้น

“บริจาคใหยวนยังมีหน้ามาคุย น่าขายหน้าจริงๆ” “ใครบอกได้บ้างว่ามันเป็นใคร ฉันจะไปต่อยมัน

เดี๋ยวนี้แหละ”

“อยากเจอคนที่บริจาคหนึ่งแสนคนนั้นจัง ต้องหล่อ มากๆแน่เลย”

เกาหยวนยิ้มอย่างมีชัยหลังจากฟังความคิดเห็น ของผู้คนรอบข้าง ฉินหลั่งนายได้ยินไหมทุกคนกำลังด่าว่า แกเป็นหมา!

หลังจากที่ไม่มีคนมาพูดบนเวที พิธีกรก็ปิดพิธีนี้ เริ่มพิธีการถัดไป

“เอาล่ะ มาถ่ายภาพหมู่กัน เนื่องจากข้อจำกัดของ สถานที่ เราจะเชิญนักเรียน 30 คนที่บริจาคมากที่สุดมา ถ่ายภาพหมู่เท่านั้น โปรดยกโทษให้ฉันด้วยสำหรับผู้ที่ไม่ ได้ขึ้นมา ต่อไปฉันจะประกาศรายชื่อ .”

“เย่ตัน บริจาค 2200หยวน”

“เกาหยวน บริจาค 2200หยวน”

“ต่งสู้ บริจาค 2200หยวน”เรียกถึงชื่อคุณแล้วที่รัก” ดิงหรุ่ยเรียกเกาหยวน อย่างตื่นเต้น คล้องแขนเกาหยวนไว้แน่น “ฉันก็อยากไป ร่วมถ่ายภาพด้วย ฉันไปกับเธอด้วยได้ไหมที่รัก”

ดิงหรุ่ยต้องการเอาภาพหมู่ไปแสดงให้กรรมการ ของห้องดู เพื่อเพิ่มคะแนนให้ตัวเอง และวิธีนี้จะทำให้เธอ มีข้อได้เปรียบอย่างมากในการประเมินทุนการศึกษาเมื่อ สิ้นสุดภาคเรียน ยิ่งไปกว่านั้นภาพนี้ยังมีใช้ประโยชน์ได้ หลายทางจะโพสต์ลงอวดในโซเชียลก็ไม่เลวเลย

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ฉันบอกพวกเขาเอง ไปกัน” พูด จบเกาหยวนก็จูงมือติงหนุ่ยเดินขึ้นไป

“เพื่อนนักเรียนคนนี้ พื้นที่เรามีจำกัด ไม่อนุญาตให้ พาคนอื่นมาด้วยนะ โปรดเข้าใจด้วย”หญิงสาวใส่แว่นตาที่ ดูแลการจัดแถวเบรกติงหรุ่ยไว้

“เพื่อนนักเรียน หยวนๆหน่อย ถ้าเธอไม่พูดก็ไม่มี ใครรู้หรอก” ติงหรุ่ยกระซิบกับสาวแว่นเบาๆ แต่ก็ยังโดน ปฏิเสธอย่างสุภาพอยู่ดี

“หลบไป แกเป็นใคร กล้าเบรกฉัน” เกาหยวนผลัก สาวแว่นออกไปอย่างแรง แล้วดึงติงหรุ่ยเข้ามา

สถุนจริงๆ มหัศจรรย์จริงๆคนแบบนี้ก็บริจาคให้ หมู่บ้านบนเขาด้วย สาวแว่นลูบแขนตัวเอง แล้วพึ่มพำด้วย ความโกรธ

ในตอนนี้เอง พิธีกรก็ประกาศถึงสามคนสุดท้าย บรรยากาศในงาน มาถึงจุดที่พีคที่สุด “เรียนเชิญผู้ที่บริจาคเยอะที่สุดลำดับที่3 เพื่อนนักเรียนหลี่อางของเราขึ้นบนเวที เขาบริจาคไป แล้วหมื่น5พันหยวน

สาวๆข้างเวทีต่างลนลาน มองดูหล่อำงขึ้นเวที แต่ละคนใช้แขนโอบหน้าอก แววตาแสดงออกถึงความรัก

“เรียนเชิญลำดับที่ 2 เถียนเจียเหา เขาบริจาคไป ใหมื่น 8000 หยวน

เถียนเจียเหาเดินขึ้นเวที

“เจียเหา เจียเหา ฉันรักคุณ รักเหมือนที่หนูรัก ข้าวสาร การปรากฏตัวของเจียเหา หายากในโลก

สาวๆข้างเวทีหวังดึงดูดให้ลูกเศรษฐีสนใจ ต่างคน ต่างตะโกนเสียงดัง ทำให้ฉากนี้เหมือนกับเวทีคอนเสิร์ต

แน่นอนว่าในใจของทุกคน กำลังรอคอยซุปเปอร์ริช ที่บริจาคเงินแสนกว่าหยวนคนนั้นอยู่

“ลำดับถัดไป เรียนเชิญนักเรียนที่บริจาคเงินมาก ที่สุดอันดับแรกขึ้นมาบนเวที เขาบริจาครวมเป็น เงิน1แสน3หมื่นหยวน ตั้ม เหมือนระเบิดลงในห้องโถงนี้ บางคนเอามือ

ปิดปาก บางคนก็เบิกตากว้าง บางคนถึงกับลุกขึ้นยืนมอง

หาเพื่อนนักเรียนคนนั้น

1แสน3หมื่น ผู้ปกครองส่วนใหญ่ปีหนึ่งยังหาเงิน ได้ไม่มากเท่านี้เลย

เมื่อดึงหรุ่ยได้ยินว่าลำดับที่1บริจาค เงิน1แสน3หมื่นหยวน หัวใจของเธอก็เริ่มปั่นป่วนเธอคิดว่าถ้าเธอรู้จักเขา แล้วเขาชอบเธอขึ้นมา เธอจะตอบตกลง แล้วบอกเลิกเกาหยวนไปเลย

ทุกคนกำลังค้นหาเงาของคนคนนั้น แต่กลับไม่มีคน ยืนขึ้นสักคน ทุกคนจึงจ้องมองไปทางพิธีกรอย่างใจจดใจ จ่อ ขอให้พิธีกรประกาศชื่อบุคคลนั้นออกมา

“วันนั้นเขาทิ้งเงินแสนสามไว้แล้วก็จากไป ไม่ได้ทั้ง ชื่อเอาไว้ “พิธีกรอธิบายกับทุกคน

“บริจาคเงินไม่ลงชื่อเหรอ นี่ก็เป็นข้อพิสูจน์ว่านาย หนุ่มรวยคนนี้ต้องการช่วยเหลือเด็กบนเขาด้วยใจจริง ไม่ ได้ต้องการชื่อเสียงใดๆ แค่จุดนี้ก็สูงส่งมากแล้ว”

“อยากเจอนายหนุ่มรวยคนนี้จัง เขาคือไอดอลของ ผมเลย”

“นักเรียนทุกคน ถ้าเกิดเธออยู่ตรงนี้ ได้โปรดขึ้นมา ถ่ายรูปบนเวทีด้วย” พิธีกรสแกนทุกคนที่อยู่ในงาน แต่ สุดท้ายก็ไม่มีใครลุกขึ้นมา ทุกคนจึงคิดว่าวันนี้นายหนุ่ม รวยไม่ได้มาที่งานและพวกเขาทั้งหมดดูผิดหวังมาก

ฉินหลั่งนั่งอยู่แถวสุดท้าย จงใจเอามือปิดหน้า ขณะนี้เขารู้สึกโล่ง แต่ในใจยังมีร่องรอยของความรู้สึกผิด ราวกับว่าเขากำลังแกล้งทุกคนในที่นี้อยู่

พิธีกรเริ่มจัดตำแหน่งของคนบนเวทีเพื่อถ่ายภาพ หมู่ เวทีมีขนาดเล็ก ทุกคนยืนเรียงแถวหันหน้าเข้าหาช่าง ภาพด้านล่างเวที

เกาหยวนบริจาคเงินน้อยที่สุด และดิงหรุ่ยก็ได้แค่ ยืนริมสุด เธอยืนริมขวาสุดของเวที หากไปทางขวาอีกนิดนึ่ง อาจจะถูกเบียดตกเวทีได้

ไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าทุกคนจะยืนกันเสร็จ ติงหรุ่ยเซ็ต ทรงผมของเธอเล็กน้อย เอามือคล้องแขนเกาหยวน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความดีใจ

เธอจงใจมองไปที่จงยู่ที่นั่งอยู่ล่างเวที ใบหน้า แสดงรอยยิ้มเย้ยหยัน ผู้ชายของฉันสามารถพาฉันขึ้นมา ถ่ายรูปบนเวทีได้ แต่เธอล่ะ เหมาะแค่นั่งมองหน้าสวยๆ ของฉันข้างล่างเวทีเท่านั้น เธอยังหวังหาแฟนเป็นเศรษฐี มาเอาชนะฉันไหม ดูผู้ชายที่เธอหามาซะก่อน ชาตินี้เธอก็ ยังต้องอยู่ใต้เท้าตลอดไป

ติงหรุ่ยในตอนนี้เปรียบเสมือนราชินี มองลงไปที่จง ยู่ผู้ต้อยต่ำ

ขณะนี้เอง ฉินหลั่งต้องการลุกขึ้นไป หลังจากที่ กิจกรรมมาถึงตอนสุดท้าย เขาจูงมือจงยู่ กำลังจากไปแบบ เงียบๆ

“เดี๋ยวก่อน”ฉินหลั่งเพิ่งเดินได้สองก้าว ท่ามกลาง เสียงตื่นเต้นของหญิงสาวทั่วทั้งห้องโถง ฉินหลั่งหันมอง ไปทางเสียงนั้นแบบไม่รู้ตัว หัวใจเต้นรัว รู้สึกไม่ดี

ผู้หญิงที่เรียกเขาก็คือ หางม้าที่ดึงเขาไปบริจาคเงิน

ในวันนั้น

เมื่อหางม้าได้เห็นหน้าตรงของเขา ปฏิกิริยาบน ใบหน้าของเธอจากลังเลก็เปลี่ยนเป็นประหลาดใจทันที เธอจับแขนฉินหลั่ง แล้วพูดเสียงดังต่อหน้าทุกคนว่า “เพื่อนนักเรียนทุกคน ผู้ชายคนนี้แหละที่บริจาค เงิน1แสน3หมื่นหยวน”
สายตาของทุกคนจดจ่อไปที่ตัวฉันหลัง ผู้ชายที่ แต่งตัวด้วยของโนเนมแบบนี้จะเป็นนายหนุ่มรวย พวกเขา แทบไม่อยากเชื่อ หลายคนถึงกับตั้งคำถามกับหางม้าคน นั้น

“ฉันจำไม่ผิดแน่นอนวันนั้นฉันเป็นให้คำแนะนำกับ เขาเอง ยิ่งไปกว่านั้นตอนนั้นเพื่อนฉันก็มีถ่ายรูปเอาไว้ด้วย ไม่เชื่อพวกคุณดู ” พูดจบเธอก็หยิบรูปถ่ายที่เพื่อนส่งให้ เปิดให้ทุกคนดู

“เขาจริงเหรอ”

“ถูกต้อง เขานี่แหละ”

“นายหนุ่มรวยทำตัวติดดินเกินไปแล้ว”

คราวนี้ทุกคนเชื่อแล้วว่าฉันหลั่งคือคนที่บริจาค เงิน1แสน3หมื่นคนนั้น พิธีกรรู้ว่าฉินหลั่งคือคนที่ บริจาคแสน3หมื่นแล้ว ก็รีบพาฉินหลั่งขึ้นมาบนเวที พร้อมๆกับผู้ชมทุกคน

“เพื่อนนักเรียนคนนี้ ในที่สุดฉันก็ได้เห็นใบหน้า ที่แท้จริงของคุณแล้ว ขอบคุณสำหรับการบริจาค 130,000 หยวนให้กับเด็ก ๆ ในหมู่บ้านบนภูเขาที่ยากจน คุณช่วยบอกชื่อของคุณให้เราได้ไหม” พิธีกรยื่น ไมโครโฟนไปที่ปากของฉินหลั่ง

คราวนี้ฉินหลั่งไม่สามารถปิดบังได้ต่อไป ดังนั้นเขา จึงหยุดเสแสร้ง

“ผมชื่อฉินหลั่ง” ฉินหลั่งพูดอย่างเรียบเฉย
“ฉินหลังนี่เองเหรอ ช่างเป็นชื่อที่ดูเหมือนคนที่มี

การศึกษาและมารยาทดีจากครอบครัวที่ร่ำรวย ขอให้พวก เราทุกคนแสดงความเคารพให้กับเพื่อนนักเรียนฉินหลั่ง ของเราหน่อยดีไหม” พิธีกรนำปรบมือ จากนั้นเสียงปรบมือ ก็กระหึมทั้งห้องโถง “ฉินหลัง ฉินหลั่ง.. ” ผู้ชมตะโกนชื่อของฉินหลั่ง

เป็นจังหวะเป็นเวลา 30 วินาที ก่อนที่จะค่อยๆสงบลง “เอาล่ะมาถ่ายภาพหมู่กันเถอะ ฉินหลั่ง คุณเป็นคน

ที่บริจาคเยอะที่สุด ให้คุณยืนอยู่ตรงกลาง” “โอเค” ฉินหลั่งเห็นดวงตากลมโตสองดวงเปิดอยู่ ล่างเวที มองไปทางจงยู่ของตนอย่างไม่เชื่อสายตา “ผม

ขอพาเพื่อนมาด้วยกันได้ไหม”

“ได้แน่นอนอยู่แล้ว” พิธีกรตอบแบบไม่ต้องคิด ฉินหลั่งกล่าวขอบคุณ เขาก้าวลงจากเวทีและจูงมือ จงยู่ที่ยังไม่แน่ใจในสถานการณ์ ขึ้นไปบนเวที

ทุกคนหลีกไปด้านข้าง คนอื่นๆก็เริ่มขยับเพื่อเว้นที่ ตรงกลางให้ฉินหลั่งและจงยู่ พอจัดตรงกลางใหม่แบบนี้ ติงหรุ่ยที่ยืนที่ขอบเวที แทบไม่มีที่ยืน

“คุณผู้หญิงคนนี้ คุณลงมาดีกว่าค่ะ มันไม่มีที่ สำหรับคุณ” สาวแว่นที่รักษาวินัยกล่าวขึ้น

ไม่ ฉันต้องได้ถ่ายรูป”ติงหรุ่ยพูดเสียงแข็ง

ตอนที่ได้ยินว่าฉินหลั่งเป็นนายหนุ่มรวยที่บริจาคถึง 130,000 หยวน ติ่งหรุ่ยและเกาหยวนรู้สึกผิดหวังมาก พวกเขาไม่สามารถยอมรับความจริงนี้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไร ขึ้น
ฉินหลั่งจูงมือจงยู่ขึ้นเวที ทำให้หัวใจของติ้งหรุย เจ็บปวดอีกครั้ง

ตอนที่ฉันจะขึ้นมาถ่ายรูปหมู่ พวกคุณบอกว่าไม่ได้ เด็ดขาด และคุณก็ยังพูดแย่ๆข้างหลังฉัน ตอนนี้ถึงตาของ จงยู่แล้ว พวกคุณกลับอ่อนน้อมถ่อมตน คุณเกือบจะเห็น ฉินหลังเป็นพ่อแล้ว

ตอนนี้ให้ฉันลงไปนั่งดูจงยู่ถ่ายรูปหมู่บนเวที นี่คือ อะไร ติงหรุ่ยต้องการเหยียบจงยู่ให้จมอยู่แล้ว ครั้งนี้แม้ว่า จะไม่สามารถเอาชนะเธอได้ แต่ฉันก็ไม่ลงไป ปล่อยให้จง ยู่หัวเราะเยาะฉันหรอก

เมื่อเห็นการแสดงออกอันดึงดันของติงหรุ่ย สาว แว่นตาก็แบะริมฝีปากของเธออย่างจำใจ เธอขยับเก้าอี้ตัว นึ่งและวางไว้ใต้เวที: “ถ้าคุณต้องถ่ายรูปคุณสามารถยืนบน เก้าอี้ตัวนี้ได้เท่านั้น ไม่อย่างนั้น ฉันจะขอให้ผู้ชายขับไล่ คุณออกไป”

ติงหรุ่ยเห็นว่าเกาหยวนก็จนปัญญาแล้ว สุดท้าย เธอก็ยอมรับคำแนะนำของสาวแว่น ลงไปยืนบนเก้าอี้ตัว นั้น เธอปลอบใจตัวเอง อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ดูแย่กว่าจงยู่ สักเท่าไหร่ เธอไม่รู้ว่าเธอได้กลายเป็นตัวตลกของผู้ชม ล่างเวทีไปแล้ว

“ผู้หญิงคนนั้นตลกไหม”

“ยืนต่ำกว่าคนอื่นครึ่งตัว ดูเหมือนกับคนแคระไม่มี

ผิด น่าตลกจริงๆ”

“ยืนนอกเวทีก็ยังต่อสู้เพื่อโอกาสในการถ่ายภาพ ความพยายามนี้ ช่างเหลือเชื่อจริงๆ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ