รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 616 ประวัติด้านมืด



บทที่ 616 ประวัติด้านมืด

กระจกบางส่วนถูกทุบแตก ก้อนหินที่แปลก ประหลาดพวกนั้นกระแทกกับกระจก ทำให้เกิดประกาย ไฟขึ้น กลุ่มควันดาโขมงก็พวยพุ่งตามมา

เปลวไฟลุกโหมกระหน่ำเผาไหม้ขึ้น เสมือนคลื่น ความร้อนเผาไหม้ผู้คน

ด้านข้างทั้งสองของหอการแพทย์ก็ลุกเป็นไฟใน พริบตา ไฟลุกท่วมกลายเป็นทะเลเพลิงทันที

บางคนถูกสะเก็ดไฟติดตามเสื้อผ้า ไฟจึงลุกลาม เผาไหม้เสื้อผ้าไปด้วย

“ไฟไหม้ ไฟไหม้ ช่วยด้วย ช่วยด้วย”

“คนจะถูกไฟคลอกตายแล้ว หนีเร็ว”

“มันเหิมเกริมมากเกินไปแล้ว วางเพลิงต่อหน้าผู้คน เช่นนี้”

เสียงตะโกนร้องกึกก้องไปทั่ว เหตุการณ์ชุลมุน วุ่นวายขึ้น ขณะที่อิงจิ่งหลิงกำลังช่วยดับไฟอยู่นั้น กลุ่ม คนไทยมุงก็ตะโกนส่งเสียงให้รีบหนีไฟ

สมาชิกที่มาพร้อมกับเมิ่งลีลี่ตอนแรกก็ตกใจ หลัง จากนั้นต่างคนต่างถอยหลังหนีไฟอย่างล้มลุกคลุกคลาน

ส่วนเมิ่งลี่ลี่ก็ไม่รู้หายตัวไปไหนตั้งแต่เมื่อไร ตอนนี้ไม่รู้ว่ามีใครแจ้งความ ตำรวจหลายสิบนาย ได้รับแจ้งข่าวแล้วรีบมาที่เกิดเหตุด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม รีบบุกเข้าไปสกัดกั้นกลุ่มสมาชิกที่ก่อเหตุ แล้วจับกุมไป ทีละคน

กลุ่มคนจำนวนมากพากันมาประท้วงอยู่หน้าหอการ แพทย์ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่มาทำร้ายผู้คนและวาง เพลิงเผาจึงทำให้กลายเป็นเหตุการณ์รุนแรงไปแล้ว

มันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง…….. แทบจะเป็นเวลาเดียวกันนั่นเอง รถเบนซ์หลายคัน กำลังขับอย่างช้าช้ามาถึงหน้าสวนดอกไม้ตระกูลเมิ่ง

สวนดอกไม้ตระกูลเมิ่งซึ่งเต็มไปด้วยผ้าขาว พวงหรีดมากมายวางอยู่ทั้งสองข้าง และมีป้ายแสดง ความเสียใจในงานศพ เสียงร่ำไห้ดังขึ้นจากภายในสวน ดอกไม้เป็นระยะระยะ เมื่อเห็นมีรถแปลกตาเข้ามา คน ดูแลความปลอดภัยที่มีปลอกแขนสีขาวข้างหนึ่ง เดินเข้า มาขวางรถไว้ “ บ้านเจ้านายกำลังมีงานศพ คนภายนอก ที่ไม่เกี่ยวข้องกรุณาเชิญกลับไปได้”

หน้าต่างรถเบนซ์เปิดลง ปรากฏใบหน้าสะสวยของ หลงเย้น “ช่วยแจ้งเมิ่งซิงอวี่ว่า ฉันคือลูกสาวของหลงเถิง ชื่อหลงเย้น ฉันจะขอเจรจาแลกเปลี่ยนข้อตกลงกับเขา! ”

การตายของเม้งหมิงหมิง ทำให้ตระกูลเมิ่งเกิดการ สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ตระกูลเมิ่งเป็นใคร? นั่นคือ ตระกูลใหญ่ที่โด่งดังและมีอิทธิพลทั่วทั้งยุทธภพ

แต่ว่าบิดาของเมิ่งหมิงหมิง เมิ่งเย่าตงก็ไม่ได้ ประกาศข่าวให้เป็นเรื่องใหญ่โต ในงานศพของเมิ่งหมิงห มิง ก็ยังไม่ได้มาเป็นเจ้าภาพด้วยตัวเอง จึงเป็นที่น่าแปลกใจมาก มีเพียงเมิ่งชิงอวี่ พร้อมด้วย สมาชิกในครอบครัวเฝ้าอยู่หน้างานศพ

มีคนพูดกันว่า เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้เมิ่งหมิงหมิง เป็นโรคติดต่อร้ายแรงไม่มีทางรักษา คนตระกูลเมิ่งก็รู้ อยู่แล้วว่าเมิ่งหมิงหมิงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ดังนั้นจึง ไม่ค่อยจะโศกเศร้าเสียใจเท่าใดนัก แต่ก็มีคนลือกันว่า ชื่อเสียงของเมิ่งหมิงหมิงในเย็นจีนม่ดี ฉะนั้นเมิ่งเย่าตง จึงหลีกเลี่ยงที่จะทำอะไรออกหน้าเพื่อลูกชายที่จากไป

สิบนาทีผ่านไป หลงเย้นก็เดินเข้ามาในสวนดอกไม้ ตระกูลเมิ่ง แล้วให้มือปืนประจำตัวรออยู่ด้านนอก จาก นั้นตัวเองก็เปลี่ยนรองเท้าขาวแล้วเดินเข้าไปด้านใน

ห้องโถงที่คนตระกูลเมิ่งต่อเติมขึ้นมานั้น เต็มไป ด้วยบรรยากาศที่ตึงเครียดอย่างยิ่ง เศษเถ้าถ่านปลิว ว่อนไปในอากาศ ควันไฟที่เกี่ยวกับเดี่ยวติดไม่แน่นอน ยังมีโลงศพเย็นวางอยู่กลางห้องโถง ทำให้บรรยากาศ ภายในงานศพแลดูอึมครึมน่ากลัว เยือกเย็นน่าขนลุกขน พองยิ่งนัก

สิ่งที่น่ากลัวกว่าบรรยากาศหน้าศพก็คือ ใบหน้าโหด เหี้ยมที่แอบซ่อนอยู่ภายใต้แสงไฟสลัว

ภายใต้ริ้วรอยที่ถักทอโยงใยบนใบหน้านั้น ก็ สะท้อนถึงความโศกเศร้าเสียใจ ความว้าวุ่นและความ เจ็บปวด หากมองผิวเผินก็ดูเหมือนปีศาจ

เมิ่งเย่าตง ผู้กํากับกรมการแพทย์

เมิ่งเย่าตง โดยปกติแล้วจะมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ราวกับพระพักตร์ของสังกัจจายน์ แต่ตอนนี้ไม่ปรากฏให้ เห็นแม้เศษเสี้ยวธุลี

นอกจากได้รับความสะเทือนใจจากการเสียชีวิต ของลูกชายแล้ว ยังได้รับข่าวจากลูกน้องทางโทรศัพท์

ลูกน้องที่ส่งไปก่อความวุ่นวาย กลับทำให้เกิด เหตุการณ์รุนแรงขึ้น ยังใช้ระเบิดขวดในการก่อเหตุอีก สุดท้ายถูกตำรวจจับไปหมด ในใจเขาก็ได้แต่กล่าว ด่าทอพวกลูกน้อง ทำงานไม่เคยสำเร็จ ล้วนทำแต่เรื่อง ล้มเหลว

เช่นนี้แล้วไม่เพียงแต่ทำให้ร้านหุยชุนได้รับความ เห็นใจ ก็ยังเป็นประเด็นสำคัญที่จะทำให้ตัวเขาได้รับ การวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างอ่อน ไหวทีเดียว

จากนั้นเขาก็เก็บอารมณ์ความรู้สึกไว้ มองไปยัง แขกไม่ได้รับเชิญ หลงเย้น

ความจริงแล้ว ถึงแม้ว่าหลงเย้นจะเป็นคุณหนูของ บ้านตระกูลใหญ่ที่ไหนสักแห่งก็ตาม แต่ก็ไม่คู่ควรที่จะ มาโยงใยเกี่ยวข้องกับเมิ่งเย่าตงได้เลย

เพียงแต่ว่า หลงเย้นเป็นพยานบุคคลสำคัญที่เห็น เหตุการณ์ เมิ่งเย่าตง จึงสั่งให้เพิ่งชิงอวี่เชิญตัวหลงเย้ นมาพบกับเขาหลังม่าน

หลงเย้นขึ้นไปจุดธูปเคารพศพเมิ่งหมิงหมิง แล้วเดิน เข้าไปหลังม่าน มาถึงข้างกายเมิ่งเย้าตงแล้วพูดว่า “ผู้กำ กับเมิ่ง คนตายมิอาจฟื้นคืน ท่านโปรดระงับความเสียใจ ด้วย”

“ขอบคุณที่ผู้จัดการหลงเป็นห่วง” เมิ่งเย่าตงคงจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับหลงเย้นแล้ว จึง ถามอย่างไม่เงยหน้ามองว่า “ผู้จัดการหลงมีเรื่องมาหา ฉันหรือ ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไร?”

ฉันอยากได้หลักฐานที่ใช้ลบล้างความผิดของฉัน ” หลั่งค่ะ

“ฉันหวังว่าฉินหลั่งกับตระกูลเมิ่งจะสลายความแค้น ระหว่างกันได้”

หลงเย้นแลดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าเมื่อก่อน การพูดจา เป็นไปอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่บีบบังคับ

“ฮ่าฮ่าฮ่า” เมิ่งเย่าตง โกรธจัดแต่กลับส่งเสียง หัวเราะออกมาแทน แล้วพูดอย่างเรียบง่ายว่า

“คุณหนูหลง คุณไม่รู้สึกบ้างหรือว่าคำพูดของคุณ ก้าวร้าวจู่โจมมาก ไร้มารยาทมาก?”

“เมิ่งหมิงหมิงตายอย่างไรนั้นคุณรู้ดีกว่าฉัน ฉินหลั่ง จะตายอย่างไรนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะควบคุมได้ กฎหมายจะบอกคุณได้ทุกอย่าง แล้วคุณหนูหลงก็ขอ เพียงทำตามกฎหมายก็พอแล้ว คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมา เจรจาแลกเปลี่ยนอะไรกับฉัน คุณหนูหลง ยังไงคุณก็ยัง เป็นถึงผู้จัดการใหญ่ ทำไมถึงพูดจาไร้เดียงสาอย่างนี้ ล่ะ”

“ใช่ค่ะ ผู้กำกับเมิ่ง ฉันรู้ว่าตัวเองก้าวร้าวและไร้เดียง สามาก แต่เกรงว่าท่านจะต้องเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วค่ะ

ขอเพียงท่านอย่าแอบไปเพิ่มแรงกดดันให้กับทาง กรมตำรวจ ฉินหลั่งก็มีโอกาสจะรอดได้ ไม่ใช่หรือคะ? ” หลงเย้นเผชิญหน้ากับเมิ่งเย่าตง ก็ยังไม่แสดงความ เกรงกลัวแม้แต่น้อย

“เหลวไหล!”

ในที่สุด เมิ่งเย่าตงก็โกรธจัด “หลงเย้น คุณรู้ตัวมั้ย ว่าตัวเองพูดอะไรออกมา?”

“ฉินหลั่งฆ่าลูกชายฉัน คุณจะมาให้ฉันลบล้างหลัก ฐานความผิดของเขางั้นหรือ? ”

“น้ำท่วมสมองคุณหรือไง หรือคิดจะมาแกล้งล้อฉัน เล่น?”

อีกอย่างฉันยังไม่ได้เอาเรื่องคุณเรื่องงานเลี้ยง อะไรคืนนั้นเลยนะ คุณกลับคิดจะลบล้างความผิดให้ฉิน หลั่ง หรือเห็นว่าฉันเมิ่งเย่าตง อ่อนแอน่ารังแกงั้น?”

“ฉันเมิ่งเย่าตงเป็นใคร? คุณบังอาจมากเกินไปแล้ว! ”

เขาจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความโกรธจัด ท่าทางเหมือนจะฉีกเนื้อหลงเย้นให้ตายทั้งเป็นได้ทุก เวลา

“ท่านใต้เท้าเพิ่ง จะเป็นคนอ่อนแอน่ารังแกได้ อย่างไรกันคะ?”

ใบหน้าสะสวยของหลงเย้น ไม่มีอาการสะทก สะท้านแม้แต่เสี้ยวเดียว ไม่แยแสความโทสะของเมิ่งเย่า ตงแม้แต่นิดเดียว

“หากท่านใต้เท้าเพิ่งเป็นคนที่น่ารังแกล่ะก็ เกรงว่าใน โลกนี้ คนส่วนใหญ่ก็จะถูกบดขยี้จนเป็นผงธุลีได้อย่าง ง่ายดายแล้วละค่ะ” ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น หลงเย้นก็หยิบเอกสารชุด หนึ่งออกมาจากกระเป๋าถือ แล้วคลี่ทีละใบทีละใบ โยน ลงกองไฟในกระถางตรงหน้าเมิ่งเย่าง

ในเอกสารเหล่านั้นไม่เพียงแต่มีตัวหนังสือ ยังมีรูป ถ่ายอีกด้วย ทําให้หนังตาของเมิ่งเย่าตงเต้นกระตุกไม่ หยุด

คนอื่นอาจจะไม่รู้ว่าเอกสารเหล่านี้หมายถึงอะไร แต่ สำหรับเมิ่งเย่าตงแล้วมันมีผลกระทบต่อจิตใจไม่น้อยที เดียว

เอกสารเหล่านี้เกี่ยวกับประวัติด้านมืดของบ้านตระ กูลเมิ่ง หากจะดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว เกรงว่าตระกูลเมิ่งจะเผชิญกับความหายนะในภายหลัง อย่างแน่นอน

เมิ่งเย่าตงสูดลมหายใจเข้าออกอย่างแรง ตัดสินใจที่ จะไม่มองหญิงสาวคนนี้เป็นดั่งแจกันอีกต่อไปแล้ว แต่ว่าใบหน้าของเขายังคงแสดงออกถึงความ แข็งกร้าว แสยะยิ้มแล้วพูดว่า

“คุณพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่ออะไรกัน ด้วยอำนาจบารมี ของฉันแล้ว มันจะมีผลกระทบอะไรต่อฉันสักนิดหรือ เปล่า?”

“คุณอย่าใช้เรื่องขี้ปะติ๋วเล็กน้อยแค่นี้มาข่มขู่ฉัน ออกไปสืบดูบ้างนะว่า คนอย่างข้าเมิ่งเย่าตงเป็นคนที่ถูก ข่มขู่ตั้งแต่เด็กจนโตเลยหรือเปล่า”

เมิ่งเย่าตงโยนเงินกระดาษกงเต๊กลงไปในกองไฟปีก หนึ่ง “แต่ว่าคุณนี่ก็เก่งจริงเลยนะ เรื่องเศษเล็กเศษน้อย นิดเดียวเช่นนี้ยังขุดคุ้ยขึ้นมาได้” เอกสารชุดนี้ของหลง เย้นดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ แต่หากมองในอีกแง่มุม หนึ่งแล้ว ความสามารถในการขุดคุ้ยเสาะหาข้อมูลของ หญิงสาวคนนี้ก็ทําให้ผู้คนรู้สึกเกรงกลัวได้เช่นกัน

“ฉันก็มีเพื่อนฝูงช่วยเหลือในการสืบค้นให้ด้วยสิคะ”

หลงเย้นยิ้มออกมาเล็กน้อย ความจริงแล้ว เอกสาร พวกนี้ไม่รู้ว่าใครส่งพัสดุด่วนมาให้ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ หลงเย้นก็ไม่รู้เช่นกันว่าใครกำลังต้องการช่วยเหลือฉิน หลั่งอยู่ แต่สําหรับเธอแล้วเพื่อความถูกต้องจะไม่ยอม จำนนอย่างแน่นอน

อีกอย่างหนึ่ง ทางด้านหลินอานนั้น ตระกูลหยูก็ได้ ร่วมมือกับตระกูลใหญ่มากกว่าครึ่งหนึ่งในท้องที่นั้น เตรียมที่จะช่วยเหลือฉินหลั่งอย่างทุ่มเทเต็มที่ ฉะนั้น แล้วหลงเย้นจะไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพังอย่างแน่นอน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ