รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 124 ฉันไม่ใช่หมาของเขา



บทที่ 124 ฉันไม่ใช่หมาของเขา
วิ่งออกจากประตูโรงเรียน ฉินหลั่งวิ่งไปยังทิศทางตามกล้อง วงจรปิด ที่คนร้ายทั้งสองหลบหนี
ตามสัญชาตญาณ เขาวิ่งไปมากกว่าหนึ่งกิโล ณ.สี่แยกแคบๆ ฉินหลั่งได้ยินเสียงบ่นด่าและคร่ําครวญเบาๆ ทันใดนั้น
เขารีบวิ่งไปตามเสียงที่แว่วมา
“เป็นพวกมัน!” อู่ยี่หยวนที่ตามฉินหลั่งมาจําได้ทั้งสองคนที่ยืน อยู่ข้างรถตู้ด้านหน้า คือสองคนในภาพวงจรปิด ที่ลักพา
ตัวเจียเจียออกไป
ฉันเห็นฝุ่นเต็มร่างกายของสองคนนี้ คนหนึ่งโอบเอว อีกคนจับ ศีรษะ ทําสีหน้าท่าทางเหมือนเจ็บปวด ราวกับว่าเขาเพิ่งถูก
ใครทําร้ายมา ฉินหลั่งไม่รอช้า รีบวิ่งไปหาทั้งสองคนทันที
“แม่ง พวกแกไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้วใช่ไหม?” เมื่อทั้ง สองเห็นฉินหลั่งเด็กผู้ชายอายุประมาณ 20 ปี พุ่งเข้าใส่พวก
เขาอย่างดุเดือด ราวกับว่ากําลังจะต่อสู้กับพวกเขา ทั้งสองคนก็ อยู่วงการนี้มานาน มันรู้สึกเหมือนถูกเหยียดหยาม
“แม่งเอ้ย”
ก่อนที่ทั้งสองคนจะทันตั้งตัว ฉินหลั่งก็กระโดดขึ้น เตะไปหนึ่งที่ ทั้งสองคนล้มลงกับพื้นทันที รู้สึกว่ากระดูกของพวกเขาจะ
แตกเป็นเสี่ยงๆ พวกเขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
ฉินหลั่งใช้เข่ากดเข้ากับคอของชายคนหนึ่ง และถามด้วยความ โกรธ “เด็กสาวอยู่ไหน!”
อู่ยี่หยวนค้นหาในรถตู้ข้างๆพวกเขา แต่เธอไม่เห็นเจียเจีย
“ลูกพี่ คุณกําลังพูดถึงอะไร? พวกเราไม่รู้อะไรเลย?” ชายคนนั้น ไม่รู้ว่าฉินหลั่งได้ดูภาพกล้องวงจรปิดแล้ว ยังแกล้งทําเป็น
ไม่รู้เรื่อง
“เพี้ยะ” ฉินหลั่งชกไปที่จมูกชายคนนั้น และชายคนนั้นก็รู้สึก เจ็บปวด จนน้ําตา น้ํามูก และเลือดกําเดาไหลออกมาในเวลา
เดียวกัน “พูดไหม!” ฉินหลั่งถามอีกครั้ง
“พูด ฉันพูด” ในตอนนี้พวกเขาหรือจะกล้าปกปิด “พวกเรากําลัง จะพาเธอเข้าไปในรถ แต่มีคนๆหนึ่งโผล่มา และเขาก็ต่อย
พวกเราล้มลงกับพื้น เมื่อพวกเราตั้งสติขึ้นมาได้ เด็กสาวกับเขาก็ หายไปทั้งคู่… ”
เมื่อได้ยินว่า เจียเจียถูกคนกลุ่มที่สองแย่งไป จิตใจของอู่ยี่ หยวนและฉินหลั่งก็หดหูทันที
“เขาแย่งคนจากพวกแกไป พวกแกต้องรู้ว่าเขาเป็นใคร พูด!” ฉิน หลั่งตบปากของชายคนนั้น
“ลูกพี่ ได้โปรดอย่าตีพวกเราอีกเลย พวกเราสองพี่น้องไม่รู้จริงๆ ว่าคนๆนั้นเป็นใคร การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วมาก พวก เราเห็นไม่ชัดเจน… ” ชายคนนั้นพูดด้วยน้ําตา
ด้วยความโกรธของฉินหลั่ง เขาชกทั้งสองคนอย่างหนัก และทั้ง สองก็กุมท้อง รู้สึกว่าอวัยวะภายในของพวกเขาจะแตกเป็น เสี่ยงๆ
ในเวลานี้ รถตํารวจสองคันขับผ่านมา ฉินหลั่งมอบทั้งสองคนให้ กับตํารวจ ตํารวจพาทั้งสองคนกลับไปที่สถานีตํารวจ โดย
ทิ้งรถตํารวจไว้หนึ่งคัน ตํารวจทั้งสองนายได้ค้นหาเบาะแสเจีย เจียพร้อมกับฉินหลั่งและอู่ยี่หยวนบริเวณใกล้เคียง
หลังจากสื่อสารทางโทรศัพท์กับฝ่ายจราจรบนถนนแล้ว เจ้า หน้าที่ตํารวจกล่าวว่าจากการตรวจสอบกล้องวงจรบนท้องถนน
ระบุว่า ผู้ร้ายที่จับตัวเจียเจียไป และพาเจียเจียไปซ่อนตัวในสวน สาธารณะใกล้เคียง
ฉินหลั่ง อู่ยี่หยวนและเจ้าหน้าที่ตํารวจสองคนเข้าไปในสวน สาธารณะเพื่อค้นหาทันที
พวกเขาค้นหาเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง และไม่พบอะไรเลย ในตอนนี้ รอบๆมีเสียงร้อง
“แม่” เสียงนั้นหยุดลงอย่างกะทันหันราวกับว่ามีใครบางคนกําลัง ปิดปากของเธอ แต่ฉินหลั่งและอู่ยี่หยวนต่างก็ได้ยิน มันเป็น เสียงของเจียเจีย
“เจียเจีย” อู่ยี่หยวนหันไปทางเสียงที่ได้ยิน ร้องตะโกนด้วยความ ตื่นตระหนก ฉินหลั่งและตํารวจก็หันหน้าไป ยังทิศทาง
ข้างหน้าที่มีพุ่มไม้เขียวชอุ่มอยู่ตรงหน้าพวกเขา ฉินหลั่งทําสัญญาณมือให้อู่ยี่หยวนเงียบๆ เขาสบสายตากับ ตํารวจทั้งสองคน ทั้งสามคนขวางอู่ยี่หยวนไว้ข้างหลัง และ เข้าไปใกล้พุ่มไม้สีเขียว สามารถได้ยินเสียงขาดๆหายๆ ผู้ร้ายและเจียเจียก็อยู่ใกล้ๆ
ทันใดนั้น พุ่มไม้สีเขียวก็เคลื่อนไหว และมีคนมุดออกมาจากพุ่ม ไม้ เขาสวมหน้ากากสีขาว เป็นอาส้วยที่หลายวันก่อนถูก ฉินหลั่งใช้มีดเฉือนอยู่ที่ผับโอวโล่ ! อาส้วยเผชิญหน้ากับฉินหลั่ง ให้เจียเจี้ยบังอยู่ตรงหน้าเขา
“เจียเจีย!” เมื่อเห็นลูกสาว อู่ยี่หยวนตื่นเต้นจนกําลังจะพุ่งไปหา ลูกสาว แต่ถูกฉินหลั่งขวางไว้ แววตาของฉินหลั่งเต็มไป
ด้วยความโกรธ อยู่ในผับโอวโล่ เขาเห็นความร้ายกาจของอา ส้วย ตอนนี้เจียเจียอยู่ในมือของเขา ตกอยู่ในสถานการณ์ที่
อันตรายมาก
“ปล่อยเด็กสาวเดี๋ยวนี้! เร็ว!” เจ้าหน้าที่ตํารวจทั้งสองเล็งปืนไปที่ อาส้วย
“ฉัน… ” อาส้วยกําลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ตํารวจได้ยิงไป แล้ว อาสวยที่สวมหน้ากาก และได้เอาเจียเจียมาบัง ข้างหน้า ในสายตาของตํารวจเขาเป็นคนที่อันตรายมาก เมื่อมี
ส เขาจะต้องยิงอย่างเด็ดขาด “เปรี้ยง!” อาส้วยถูกยิงและล้มลงไปข้างหลัง และเจียเจียก็ล้มทับเขาด้วย ฉินหลั่งและอู่ยี่หยวนรีบวิ่งไปที่เจียเจียทันที
“เจียเจีย อู่ยี่หยวนกอดเจียเจียไว้ แต่สายตาของเจียเจียจ้องไป ที่อาส้วยตลอด เธอดิ้นรนจะไปดูอาส้วย
“เจียเจีย เป็นอะไร เขาเป็นคนร้าย ไปใกล้เขามันอันตรายมาก ” อู่ยี่หยวนปลอบโยนเจียเจีย
“ไม่ อาส้วยไม่ใช่คนร้าย อาส้วยเป็นเพื่อนของฉัน อาส้วยเป็นคน ทําร้ายคนเลว แม่ รีบปล่อยฉัน ฉันจะไปดูอาส้วย… ”
น้ําตาของเจียเจียร่วงหล่น คําพูดของเจียเจียทําให้ทุกคนผงะ ในเวลานี้ อาสัวยถูกฉินหลั่งกดลงกับพื้น “พูด! ทําไมต้องลักพาตัวเจียเจีย” ฉินหลั่งถามอย่างโกรธเคือง “ฉันไม่ได้ทํา ฉันเป็นคนช่วยเธอ… ” “ยังไม่ยอมสารภาพ…” ฉินหลั่งชกไปที่ด้านหลังศีรษะของเขา
วิธีการของฉินหลั่งนั้นหยาบคายเกินไป เจ้าหน้าที่ตํารวจทั้งสอง จึงห้ามไว้ ควรจะเป็นพวกเขาที่จะสอบถาม แต่อาส้วย
ยังคงยืนยัน ว่าเขาเป็นคนช่วยเหลือเจียเจีย
ในเวลานี้ โทรศัพท์ของตํารวจดังขึ้น วางสายแล้ว ตํารวจก็ปล่อย อาส้วย
“ได้เห็นภาพกล้องวงจรปิดแล้ว มันก็เป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ เขา เป็นคนต่อยสองคนนั้นล้มลง แล้วพาเจียเจียไป อยู่ใน
สวนสาธารณะ ไม่พบว่ามีเจตนาที่จะทําร้ายเจียเจีย เพียงแต่เขา ได้ยินเสียงพวกเราตะโกน เขาจึงพาเจียเจียหลบซ่อน… ”
หลังจากฟังตํารวจพูด และดูปฏิกิริยาของเจียเจีย ฉินหลั่งและอู่ ยี่หยวนก็เข้าใจ ว่าพวกเขาเข้าใจผิด
“อาส้วย… ” อู่ยี่หยวนปล่อยตัวเจียเจีย เจียเจียวิ่งไปที่ด้านข้าง ของอาส้วย “คุณเป็นอย่างไรบ้าง? ตํารวจยิงคุณเจ็บ
ไหม?”
“ไม่เป็นไร ที่ตํารวจยิงคือกระสุนยาง ไม่เจ็บเลย… ” อาส้วยคุย กับเจียเจีย น้ําเสียงดูผ่อนคลายลงมาก
“กระสุนกล้วยเหรอ? ยังมีกระสุนแบบนี้” ความสนใจของเจียเจีย ถูกเบี่ยงเบนไปทันที เธอเดินไปหาตํารวจสองคน “คุณ
ตํารวจเอากระสุนกล้วยให้ฉันดูหน่อยได้ไหม? ฉันจะลองกินดูว่า อร่อยไหม”
เจ้าหน้าที่ตํารวจทั้งสองสังเกตเห็นว่าเจียเจียเป็นเด็กที่มีความ บกพร่องทางสมอง พวกเขายิ้มให้เจียเจียและพูดปลอบไม่กี่
คํา และขอให้ฉินหลั่งกับอู่ยี่หยวนไปจดบันทึกเหตุการณ์ที่สถานี ตํารวจ สักพักแล้วพวกเขาก็จากไป
เมื่อเห็นเจียเจียกับอาส้วยอยู่ด้วยกัน ดูมีความสุขมาก ฉินหลั่งก็ สงสัยมากขึ้นว่าอาสวยที่สวมหน้ากากคนนี้เป็นคนแบบ
ไหนกันแน่
“อาส้วย ถอดหน้ากากให้ฉันดูหน่อยได้ไหม?” ในตอนนี้ เจียเจี ยถามอาสัวยอย่างไร้เดียงสา
“ไม่ล่ะ หน้าตาของฉันจะทําให้เธอตกใจ” อาส้วยผงะ จากนั้นก็ ถอยหลังไป
“ไม่เป็นไร คุณให้ฉันดูหน่อยได้ไหม ฉันขอร้อง… เจียเจียจับมือทั้งสองข้างของอาส้วย และพูดด้วยท่าทางที่ขี้อ้อน
“โอเค” ในที่สุดอาส้วยก็ตอบตกลง
เจียเจียยิ้มอย่างมีความสุข จ้องมองอาส้วยถอดหน้ากากอย่างใจ จดใจจ่อ ฉินหลั่งและอู่ยีหยวนก็ดูอยู่ด้านข้าง
ความรู้สึกที่มีต่ออาส้วย มีความสนใจเป็นพิเศษเช่นกัน อาส้วยค่อยๆถอดหน้ากาก ใบหน้าของเขาถูกเปิดเผย
“อ๊ะ ผี” เจียเจียตะโกนด้วยความตกใจ และเดินไปหลบด้านหลัง อู่ยี่หยวน อู่ยี่หยวนก็จับแขนของฉินหลั่งไว้แน่น ฉินหลั่ง
จ้องมอง เขาไม่คาดคิดว่าอาส้วย จะมีหน้าตาเช่นนี้
เห็นบนใบหน้าของอาส้วยมีจุดสีขาวๆ และมีปานสีม่วงที่ตาซ้าย ของเขา สองสีนี้ทําให้ใบหน้าของเขาดูแย่และน่าเกลียด
“ทําให้พวกคุณตกใจ” เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเจียเจียและคนอื่นๆ ใบหน้าของอาส้วยรู้สึกผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด เขาบีบ
หน้ากากในมืออย่างอึดอัด และรีบสวมไว้บนใบหน้าของเขา “นายสะกดรอยตามฉันมาตั้งแต่อยู่มหาลัยจีนหลิง ใช่ไหม?” ฉิน หลั่งจําได้ เขารู้สึกได้ตั้งแต่อยู่มหาลัยจีนหลิง ดูเหมือนว่า
จะมีคนสะกดรอยตามเขาอยู่ โดยสันนิษฐานว่าคนนั้นน่าจะเป็น อาส้วย
“ใช่…. ” อาส้วยพยักหน้าอย่างเศร้าๆ เขาเห็นว่า ตั้งแต่เจียเจีย เห็นใบหน้าของเขา เธอก็ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังอู่ยี่หยวน
“ทําไม นายต้องการล้างแค้นเหรอ?” ฉินหลั่งถามอย่างตรงไป ตรงมา
อาส้วยส่ายหัวช้าๆ “ถึงแม้ครั้งที่แล้วคุณจะฟันฉัน แต่ฉันก็ไม่เกลียดคุณ กลับกัน ฉันหวังว่าจะได้พบคุณอีกครั้ง และสะกดรอยตามคุณ”
“อ่อ? ทําไมเหรอ?”
“ ” อาส้วยอึ้งไปชั่วขณะ แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นใบหน้าของ อาส้วย แต่ฉินหลั่งรู้สึกได้ว่า ริมฝีปากของอาส้วยกําลังสั่น:
“เพราะว่าเพราะว่า…. ” อาส้วยเสียงสั่น
“ไม่เป็นไร มีอะไรก็บอกฉัน พูดออกมาแล้วนายจะรู้สึกดีขึ้น… ” ฉินหลั่งตบไหล่อาส้วย เขารู้สึกว่าอาสวยน่าจะเป็นผู้ชาย
ที่มีอดีตฝังใจ
“ตั้งแต่เล็กจนโตเพราะหน้าตาน่าเกลียด เด็กๆทุกคนหัวเราะเยาะ ฉัน ในหมู่บ้านของฉัน ฉันเป็นแค่ตัวตลก ฉันอยากมี
เพื่อน แต่ไม่มีใครอยากเล่นกับฉัน จากนั้นฉันก็ถูกส่งไปที่วัดเส้า หลิน ตรงนั้น ฉันยังคงถูกรังแก และถูกหัวเราะเยาะ ฉันไม่
กล้าพบปะผู้คน ทุกวันก็ทุ่มเทกับการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ ” “ต่อมา ฉันถูกอาจารย์ขับไล่ลงจากเขา ฉันอยากหางานทําแต่ ไม่มีใครต้องการฉัน ฉันหมดหวัง ตอนที่ฉันกําลังจะกระโดด
ลงแม่น้ําเพื่อฆ่าตัวตาย… ” “เหลียงฮุยช่วยนายไว้หรอ?” ฉินหลั่งคาดเดา ว่านี่อาจเป็น สาเหตุที่ทําให้อาส้วยกลายเป็นขี้ข้าของเหลียงฮุย
อาส้วยพยักหน้า “เขาบอกฉันว่า เขามีวิธีที่จะไม่ให้ฉันถูกคนอื่น เยาะเย้ย เขาให้หน้ากากนี้ และเขาบอกว่าเมื่อใส่หน้ากาก
ฉันก็เป็นคนธรรมดาเหมือนพวกเขา และสามารถใช้ชีวิตตาม ปกติได้… ”
“นายไม่คิดเหรอว่าเขาหลอกนาย?” เห็นการแต่งตัวของอาส้วยที่ ไม่เหมือนคนอื่น ฉินหลั่งพูดด้วยความวิตกกังวล
“แต่อย่างน้อยเขาก็ทําให้ฉันไม่ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ ตอนนี้ฉัน รู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก ฉันพอใจ… ” อาส้วยมองไปที่
ฉินหลั่งและพูดว่า “ครั้งก่อนที่อยู่ในผับ ตอนที่ฉันเดินถือมีดสั้น มาหาคุณ ฉันเห็นสายตาคุณที่มองฉัน มัน เท่าเทียมกัน
ไม่ได้ดูถูกเหยียดหยาม นี่เป็นแววตาที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต ฉะนั้นฉันจึงตกตะลึงชั่วขณะ แม้ว่าคุณจะทําร้ายฉัน ฉันก็
ไม่ได้เกลียดคุณเลย… ”
ฉินหลั่งตะลึง เขาไม่คาดคิดว่าคนที่ช่วยเขาในวันนั้น เป็นเพราะ “แววตาความเท่าเทียม”
“ฉันยอมรับ ว่ามีคนมากมายในสังคมที่มีอํานาจและใจคับแคบ แต่คุณก็ใจเสาะเกินไป ถ้านายสามารถกล้าหาญที่จะคบ
คนในสังคม นายจะพบว่ามีคนจํานวนมาก ที่อาจไม่ได้มองนาย แค่ด้านเดียว” ฉินหลั่งพูดอย่างเศร้า ๆ
“ฉันต้องบอกนาย ตอนนี้นายช่วยเหลียงฮุยทําเรื่องชั่ว มัน อันตราย นายคิดว่าเขาหวังดีและจริงใจกับนายเหรอ ถ้าพูดน่า เกลียดหน่อย นายคิดว่าเขายังคิดว่านายเป็นคนอยู่เหรอ?”
“เขาให้เงินฉันเดือนละ 2,000 หยวน ฉันกินและเครื่องแต่งกาย เป็นของเขาหมด เขาให้เกียรติฉันมาก และเรียกฉันว่า “สุด
หล่อ” ทําไมเขาจะไม่จริงใจกับฉัน? อาส้วยพูดด้วยความซื่อๆ
“เฮ้ย นายคิดว่าที่เขาให้นายสวมใส่เรียกว่าเสื้อผ้าเหรอ นายลืม ไปแล้วเหรอ ตอนที่นายช่วยเขาในผับ เขากลับตีหัวแทน?”
ฉินหลั่งมองไปที่ดวงตาของอาส้วยและพูด “ตั้งสติขึ้นมาได้แล้ว อาส้วย นายถูกเขาล้างสมองมากเกินไป และเขาก็มองว่า
นายเป็นแค่สุนัขรับใช้เท่านั้น”
“ไม่ใช่แน่นอน เป็นไปไม่ได้ ยังไงเขาเป็นผู้มีพระคุณของฉัน ฉัน ไม่ใช่สุนัขของเขา ฉันไม่ใช่ “อาส้วยพูดพลางเอามือกุม
หัวและรู้สึกปวดหัว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ