รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 279 ไล่เขาออกไม่ได้



บทที่ 279 ไล่เขาออกไม่ได้

พอคิดแล้ว ฉินหลั่งก็รู้สึกว่าเป็นอย่างที่ต้ายเฉียน โป๊พูดจริงด้วย มีโอกาสสูงมากที่เหยาจ้นเจี้ยจะเลิกจ้าง เขา เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะเขา ฉินหลั่งจะไม่ให้เรื่องแบบนี้ เกิดขึ้นแน่นอน

“พี่ต้าย คุณอาจจะคิดมากไปหน่อยก็ได้ ตอนนี้ หัวหน้าเหยายังไม่ได้พูดอะไรเลย ผมคิดว่าเขาคง เข้าใจ”ฉินหลั่งยิ้มแล้วตอบ

“แต่….”

“พี่ต้าย คุณพักดีๆนะ ผมต้องเข้าเวรละ ไว้คุยกัน ใหม่”พอพูดจบฉินหลั่งก็วางสายเลย

ฉินหลั่งเฝ้าถึง9โมงครึ่ง เขาควรไปห้องพักร.ป.ภ ไปขับรถตระเวนกับคนอื่นแล้ว

ฉินหลั่งเดินไปถึงหน้าห้องแผนกรักษาความ ปลอดภัย พอเดินเข้าประตูไป เขาเห็นว่ารงป.ภที่พักอยู่นั้น ไม่มีใครกล้าเล่นโทรศัพท์เลย แต่ละคนพูดคุยกันอย่าง สนุกสนาน

“นี่ เมื่อคืนเกิดคดียิงกันตั้งสองคดี ตายไปหลายคน เลย พวกนายไม่รู้ล่ะสิ เรื่องนี้ถูกใครบางคนกดไว้แล้ว”

“ฉันก็ได้ยินมาเหมือนกัน คดีหนึ่งเกิดที่ถนนต้า เจี่ยวถึง ได้ข่าวว่าเป็นเวลาตอนตีหนึ่งกว่า ตอนนั้นได้ยิน เสียงปืน “ปัง ปัง ปัง “รัวๆหลายที่ อย่างกับหนังฮ่องกง หัว ปืนมีปลิวไฟออกมาด้วย ยิงตายไปทั้ง7 8คนเลยนะ สุดท้ายมีคนรอดแค่คนเดียว พวกนายรู้ไหมว่าใคร
เขาก็คือเฉิงเหมิ่ง ห้าๆ ดูหน้าโง่ๆอย่างพวกนายก็รู้ ว่าไม่เคยได้ยินชื่อของเขาล่ะสิ ฉันจะบอกให้ เฉิงเหมิ่งนี้ ไม่ใช่คนทั่วไปนะ เขาเป็นนักนวยใต้ดินของเย็นจีน เป็นคน ไม่มีใครเอาชนะบนเวทีมวยได้”

ร.ป.ภวัยกลางคนที่ใส่แว่นคนนี้เป็นคนที่ได้รับข่าว เร็วที่สุดในร.ป.ภูทั้งหมด และเป็นคนขี้โม้มากที่สุดด้วย พอเขาพูดจบร.ป.ภทุกคนที่เหลือต่างทำหน้าตาสนใจกัน

หมด

“แม่ง สุดยอดไปเลย สู้รบกันด้วยปืนแบบนี้ ทั้งชีวิต นี้ฉันคงไม่มีโอกาสได้เห็นล่ะ”ร.ป.ภที่หัวล้านตบข้าตนเอง แล้วพูดเช่นนี้ และรีบถามต่อว่า”แล้วอีกคดีหนึ่งล่ะ ตื่นอก ตื่นใจมากกว่าคดีนี้หรือเปล่า รีบพูดเร็ว”

ร.ป.ภทั้งหมดหันไปมองร.ป.ภที่ใส่แว่นด้วยสายตา อยากรู้

“อีกคดีหนึ่งเจ๋งยิ่งกว่าอีก ไม่ได้เป็นเพราะ เหตุการณ์ร้อนแรงขนาดนั้น แต่เป็นเพราะผู้ที่ถูกยิงเป็น ใคร พวกนายรู้ไหมว่าผู้ที่ถูกยิงเป็นใคร”ร.ป.ภวัยกลางคน ที่ใส่แว่นมองหน้าร.ป.ภคนอื่น แล้วทำหน้าตาได้ใจ

“ใครกันแน่”เขาทำทุกคนอยากรู้เหลือเกิน ทุกคน จึงรีบถามเขาว่าเป็นใครกันแน่

“ผู้ที่ถูกยิงคือฟางเจิ้งคุณชายของกรุ๊ปเหว่ยฮุ่ย และมีซ่งอวี่คุณชายของตระกูลซ่งในเย็นจีนอยู่ใน เหตุการณ์ด้วย ผู้ที่ยิงฟางเจิ้งก็คือเฉิงเหมิ่งนั้นเอง”

พอร.ป.ภวัยกลางคนที่ใส่แว่นคนนั้นพูดจบ ร.ป.ภ คนอื่นต่างรู้สึกตื่นตะลึงจนร้องเสียง”ว้าว”ออกมา เพราะพวกเขาที่เป็นร.ป.ภอาชีตชั้นต่ำของสังคม รู้กันอย่าง ชัดเจนว่าคุณชายสองคนนี้ต่างสูงศักดิ์ขนาดไหน

“ฉันรู้แค่นี้แหละ เป็นไงข่าวนี้เจ๋งมากพอไหม เรื่อง พวกนี้ไม่เห็นบนทีวีกับหนังสือพิมหรอก ตระกูลซ่งกับ ตระกูลฟางกดเรื่องนี้ไว้แต่แรกแล้ว”

ร.ป.ภวัยกลางคนที่ใส่แว่นพูดว่า “พูดแล้วก็รู้สึกว่า เฉิงเหมิ่งนี่เจ๋งจริงๆเลย กล้ายิงคุณชายคนรวยอย่างฟาง เจิ้ง แล้วใช้ปืนยิงตายอีก7 8คน นี่ถ้าเกิดมาในสมัยสู้ สงคราม ต้องเป็นคนที่เก่งมากและได้รับยศจากการสู้รบ แน่นเลย แต่น่าเสียดาย เขาเกิดในยุคสมัยที่สงบอย่างตอน นี้ ฆ่าคนไปเยอะขนาดนี้ แล้วยังมีเรื่องกับตระกูลฟางและ ตระกูลซ่งอีก ต้องโดนประหารชีวิตแน่เลย”

ฉินหลั่งยืนหลังพวกเขาฟังอย่างเงียบๆ พอได้ยิน ร.ป.ภวัยกลางคนที่ใส่แว่นไม่รู้ว่าจริงๆตนเองกับต้ายเฉียน โป๊ก็เป็นผู้ที่ในเหตุการณ์ทั้งสองคดีนั้น เขาจึงโล่งใจไป หน่อย

“ฉินหลัง ฟังจนอึ้งละสิ ถ้านายอยู่ในเหตุการณ์นะ คงกลัวจนฉีราดแน่นเลย”ร.ป.ภคนหนึ่งหันมาพูดเล่นกับฉิน หลัง

ฉินหลั่งเข้ามาในกลุ่มนี้แล้ว สำหรับฉินหลั่ง ร.ป.ภ ทั้งหลายก็ไม่ได้รู้สึกแย่และห่างกันเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว ก็เริ่มพูดเล่นกับเขา

“ใช่แล้ว ผมไม่มีความสามารถอย่างเฉิงเหมิ่งหรอก “ฉินหลั่งยิ้มเบาๆ แล้วเดินไปทางห้องพักของหัวหน้าเหยา ที่อยู่ด้านใน เขาอยากถามเรื่องเกี่ยวกับต้ายเฉียนโป้
“หัวหน้าเหยา ผมอยากสอบถามเรื่องของพี่ ด้าย”ฉินหลังเดินมาพูดหน้าโต๊ะทำงานของเหยาจี้นเจี้ย

“ต้ายเฉียนโป๊โทรหาฉันบอกว่า เมื่อวันเขาโดนคน อื่นต่อย ต้องพักที่โรงพยาบาลหนึ่งเดือน ฉันฟังน้ำเสียง เขาแล้วท่าจะเจ็บหนัก มีสิทธิ์สูงที่ถึงจะออกจากโรง พยาบาลแล้วก็ยังมีผลกระทบต่อร่างกายเขา ฉันคิดมาทั้ง คืน ตอนนี้ตัดสินใจแล้วว่าจะเลิกจ้างเขา”เหยาจี้นเจี้ยกล่า

ถ้าไม่ใช่จงเส่นซานฝากให้ดูแลฉินหลัง เหยาจขึ้น เจี้ยไม่พูดสิ่งเหล่านี้ให้เขาฟังหรอก

“เลิกจ้าง”ฉินหลังตกใจเบาๆ ต้ายเฉียนโป๊เดาถูก จริงด้วย

“ใช่ มหาวิทยาลัยเย็นจีนไม่ใช่สถานที่ที่ดูแลคนว่าง งาน เขาเกิดปัญหาใหญ่ขนาดนี้ ก็ควรรับผิดชอบ พฤติกรรมของตนเอง การที่เขาเป็น/หัวหน้าของแผนก รักษาความปลอดภับในมหาวิทยาลัยเย็นจีน ถ้าผมไม่ไล่ เขาออก งั้นก็คือผมละทิ้งหน้าที่ของผม ถ้าหัวหน้าถามขึ้น มา ก็จะว่าผมไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของตน ดังนั้นครั้งนี้ผมก็ ทำอะไรไม่ได้จริงๆ ทำได้แค่เลิกจ้างเขา”

เหยาจวั้นเจี้ยพูดคำพูดที่ฟังดูดีมาเยอะมาก เป้า หมายของเขาคือไล่ตายเฉียนโป๊ออก โดยไม่ให้ฉินหลั่งมี โอกาสขอร้องแทนเขาได้

“หัวหน้าเหยา เมื่อวันพี่ต้ายเขาลากับคุณยังไง หรอ”พอฉินหลั่งฟังเหยาจวนเจี้ยพูดจบ ก็รู้ว่าเขาไม่รู้ว่า เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น
“เมื่อคืนต้ายเฉียนโป๊บอกฉันว่าน้องสาวเขาป่วย เขาเลยต้องกลับบ้านไปดูแลน้องที่บ้าน ทำไมหรือ”เหยาจ วั้นเจี้ยถาม

เมื่อคืนต้ายเฉียนโปักลัวเหยาจี้นเจี้ยรู้ว่าเขา ทำคุณชายอย่างฟางเจิ้งกับซ่งอวี่โกรธ แล้วจะไล่เขาออก ทันที จึงปิดบางความจริงไม่ให้เหยาจี้นเจี๋ยรู้

“ไม่ใช่ เขาโกหก ความจริงคือ เมื่อคืนพวกเราสอง คนยืนเฝ้าที่หน้าประตูบ้านพักพนักงานพร้อมกัน แล้ว คุณชายฟางของกรุ๊ปเหว่ยฮุยกับคุณชายซ่งของตระกูลซ่ง ในเย็นจีนจะเข้าไป แต่พวกเราไม่ให้พวกเขาเข้า พวกเรา จึงเกิดการทะเลาะวิวาทกัน สุดท้ายผมตบหน้าฟางเจิ้งไปที หนึ่ง พวกเขาจึงจากไป พี่ต้ายกลัวพวกเขามาล้างแค้น เลย ขอลากลับบ้าน”ฉินหลั่งพูดความจริงออกมา

“อะไรนะ”

เหยาขั้นเจี้ยอึ้ง”พวกนายเกิดปัญหากับคุณชาย ฟางและคุณชายซ่งหรือ”

“ใช่แล้ว”ฉินหลั่งตอบว่า” ? คุณน่าจะได้ข่าวแล้วใช่ ไหม ว่าเมื่อคืนมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับฟางเจิ้งและซ่งอวี่”

เหยาจวนเจี้ยใจสั่นไปแวบหนึ่ง เกี่ยวกับฉินหลั่ง พวกเขาจริงด้วย

“ฟางเจิ้งกับซ่งอวี่สั่งเฉิงเหมิ่งมาไล่ฆ่าพวกเรา เฉิง เหมิ่งต่อยพี่ต้ายจนบาดเจ็บสาหัส และหลังจากนั้นก็เกิด เรื่องฟางเจิ้งถูกยิง พี่ต้ายโดนส่งไปโรงพยาบาล แล้วผมก็ ถูกพาตัวไปตรวจสอบที่สถานีตำรวจ…”ฉินหลังพูดให้เห ยาจ้นเจี้ยฟังเพียงแค่เรื่องที่สำคัญ
สายตาที่เหยาจี้นเจี้ยมองฉินหลั่งนั้น รู้สึก มหัศจรรย์ขึ้นเรื่อยๆ บนตัวฉินหลั่งไม่มีบาดแผลใดๆเลย นั้นก็หมายความว่าเฉิงเหมิ่งไม่เคยต้อยฉินหลั่ง หรือเขา อาจจะแพ้ฉินหลั่งก็ได้งั้นคดียิงปืนทั้งสองคดีฉินหลั่งก็มี ส่วนเกี่ยวข้องหรือเปล่า

อำนาจอย่างตระกูลซ่งกับฟางเจิ้ง ถ้าฉินหลั่งถูกพา ตัวไปสถานีตำรวจ ต้องไม่ให้เขามีโอกาสได้ออกมาแน่เลย แต่ตอนนี้ฉินหลังยังยืนอยู่หน้าตนเองอย่างปลอดภัย นี้ หมายความว่ายังไง

ความคิดหนึ่งที่น่ากลัวโผล่ขึ้นมาในสมองเหยาจขึ้น เจี้ย นั้นก็คือตระกูลซ่งกับตระกูลฟางทำอะไรฉินหลั่งไม่ได้ ทั้งนั้น พอนึกถึงสายที่โทรมาจากจงเส่นซาน เขารู้สึกว่านี่ ไม่ใช่ความคิดโดยไร้เหตุผล เหยาจวนเจียรู้สึกว่าความคิด นี้ดูน่าเชื่อถือมาก

“ตอนนี้คุณยังจะไล่ต้ายเฉียนโป้ออกอยู่ไหม “ฉิน หลังเห็นเหยาจวนเจี้ยใช้สายตาที่สงสัยมองตนเอง ก็รู้ว่า ตอนนี้ในใจเขาเริ่มหวั่นไหวแล้ว

“ไม่ ไม่หรอก พนักงานอย่างต้ายเฉียนโป้ออกจะดี ให้เขาทำงานที่นี่ต่อดีกว่า”เหยาจวนเจี้ยกลับคำทันที

“ผมเห็นด้วยกับความคิดของคุณสุดๆ อีกอย่าง หัวหน้าเหยา ครั้งนี้พี่ต้ายเข้าโรงพยาบาล เป็นเพราะรักษา กฎของมหาวิทยาลัยเย็นจีนถึงทำให้ซ่งอวี่กับฟางเจิ้ง โกรธ นี่ก็ถือว่าเป็นอุบัติเหตุที่ได้รับจากการทำงานหรือ เปล่า”

ฉินหลั่งนึกขึ้นมาโดยกะทันหัน จึงถามเหยาจขึ้น เจี้ยเช่นนี้ เพราะนิสัยอย่างต้ายเฉียนโปต้องคืนเงิน9หมื่นที่เราจ่ายแทนเขาไปก่อนแน่เลย แต่ถ้าคิดเป็นอุบัติเหตุที่ได้ รับจากการทำงาน งั้นมหาวิทยาลัยควรออกเงินส่วนนี้ให้ เขา ต้ายเฉียนโป๊ก็ไม่ต้องเครียดที่จะคืนเงินให้เราแล้ว

“คิดเป็นอุบัติเหตุที่ได้รับจากงาน อีม.”เหยาจี้น เจี้ยรู้สึกลำบากใจเหลือเกิน เขารู้ว่าฉินหลั่งหมายถึงอะไร นี่ก็หมายความว่าอยากให้มาหาวิทยาลัยเป็นคนออกเงิน ละสิ

“ค่ารักษาพยาบาลของพี่ต้ายเป็นจำนวนเงิน9หมื่น กว่า ผมรู้สึกว่าคุณทำได้ อีกอย่าง คุณก็ไม่ต้องเป็นห่วงว่า ซึ่งอวี่กับฟางเจิ้งพวกเขาสองคนจะมาหาเรื่องหรอก เพราะ พวกเขาก็กังวลชื่อเสียงของพวกเขาเหมือนกัน พวกเขาไม่ อยากให้คนอื่นรู้หรอกว่าพวกเขาถูกร.ป.ภตบ ค่ารักษา พยาบาลของพี่ต้ายคุณจะรับผิดชอบไหม”ฉินหลั่งถามอีก ครั้งหนึ่ง

“ได้ เดี๋ยวผมลองยื่นเรื่องให้ละกัน”ตอนนี้เหยาจว้น เจี้ยทำได้แค่ตกลง

“ครับผม ขอบคุณครับ งั้นผมไปตระเวนก่อนล่ะ นะ”ฉินหลั่งพูดจบก็เดินออกจากห้องไป

ในขณะเดียวกัน ซ่งอวี่ถูกกักตัวไว้ในห้องขัง

เมื่อคืน เขาถูกหวังเฉินพามาที่สถานีตำรวจ จริงๆ หวังเฉินจะสอบปากคำซ่งอวี่ตั้งแต่เมื่อคืน แต่ซ่งอวี่ไม่พูด อะไรเลย ผู้บัญชาการตำรวจฝานเฟิงบังคับให้ตำรวจคนอื่น พาซ่งอวี่ไปที่ห้องขังก่อน

หลังจากหวังเฉินกลับไปพักผ่อน ฝานเฟิงรีบไป เยี่ยมซ่งอวี่ที่ห้องขัง แล้วให้ลูกน้องนำผ้าปูเตียง ผ้าห่มและหมอนมาให้ซ่งอวี่ เพื่อไม่ให้ซ่งอวี่รู้สึกลำบากเมื่ออยู่ ในห้องขัง

ในห้องขัง ฝานเฟิงพูดแต่คำพูดดีๆ ว่าตนเองเป็น เพราะภูมิหลังของหวังเฉินถึงไม่กล้ายุ่งเรื่องนี้ ไม่งั้นเขาไม่ ให้ซ่งอวี่มาทนลำบากที่นี่หรอก

ซึ่งอวี่นำอารมณ์โมโหทั้งหมดของตนไปลงที่ฝาน เฟิงจนหมด ทั้งตบหน้าสองที และใช้เท้าเตะเขาจนล้ม

ฝ่านเฟิงไม่กล้าพูดอะไรเลย ถึงแม้จะโดนเตะก็ยัง คงยิ้มแล้วพูดว่า”ขอเพียงแค่คุณชายซ่งหายโกรธ ถึงจะ ต้อยผมจนตาย ผมก็ยินยอม”

หลังจากนั้น ซ่งอวี่แค่เห็นฝานเฟิงก็รู้สึกหงุดหงิด จึงไล่ฝานเฟิงออกไปจากห้องขัง

ข่าวที่ว่าเขาถูกจับมากักตัวที่สถานีตำรวจ ป้าคน เล็กของเขา ก็คือแม่ของฟางเจิ้งนี่เอง เธอต้องบอกที่บ้าน แล้วแน่เลย ซ่งอวี่ก็ไม่เป็นห่วง อีกไม่นานพ่อเขาก็จะช่วย เขาออกจากที่นี่

10โมงเช้า หวังเฉินมาถึงห้องที่พักซ่งอวี่ พอเห็น ผ้าปูเตียง ผ้าห่ม และหมอนที่อยู่บนเตียงซ่งอวี่ หวังเฉิน เผยสายตารู้สึกรังเกียจออกมาแวบหนึ่ง

สิ่งที่เธอรู้สึกเกลียดที่สุดก็คือการดูแลคนมีอำนาจ อย่างพิเศษ

ขณะนี้ ซ่งอวี่ยังนอนอยู่ในผ้าห่มอยากสบาย

“ซุ่งอวี ตื่น”หวังเฉินเรียก เธอมาทำงานตามเวลา ตั้งแต่เช้า8โมง แต่เพราะคำนึงถึงเมื่อคืนจับซึ่งอวี่มาตอน ตี3 กลัวว่าเขาจะนอนไม่พอ เลยตั้งใจมาสาย2ชั่วโมงตัวซึงอที่ไม่ขยับเลย ยังคงนอนอยู่

หวังเฉินไม่พูดรอบสอง เดินเข้าไปที่เดียงซ่งอวี่ แล้วเปิดผ้าห่มของเขาออก และพูดเบาๆว่า “ตื่น”

ซ่งอวี่ถึงลืมตาขึ้นมามองหน้าหวังเฉิน ในตายเขามี แต่ความโกรธ เขาลุกขึ้นมานั่งริมเตียง แล้วใส่รองเท้า อย่างเช้าๆ

“ผมจะล้างหน้า ล้างที่ไหน”ซ่งอวี่ยืนขึ้นมาแล้วถาม

“ไปสอบปากคำกับฉันก่อน”หวังเฉินยืนด้านหลังซ งอวี่แล้วผลักเขาไปทีหนึ่ง ผลักให้เขาเดินออกจากห้องขัง

เพิ่งเดินออกจากห้องขัง ขณะที่เดินผ่านห้องโถง ใหญ่ ก็ได้ยินเสียงผู้ชายที่ทุมหนักพูดขึ้นมาว่า”พาลูกชาย ผมออกมาเจอผมเดี๋ยวนี้”

พอได้ยินเสียงนี้ ซ่งอวี่ดีใจขึ้นมาทันที พ่อเขามารับ เขาออกไปจากที่นี่แล้ว

ซึ่งอวี่จึงรีบเดินไปที่ห้องโถง หวังเฉินเรียกยังไง เขาก็ไม่ได้ยิน

“พ่อ”ซ่งอวี่เดินเข้าไปที่ห้องโถง เห็นพ่อเขาซ่งจง ผิงที่เป็นชายกลางคนที่ใส่ชุดจงซาน รูปร่างสูงใหญ่ ผมดำ หน้าตาเคร่งขรึม

“คุณซ่ง ตอนนี้คุณสามารถพาลูกชายของคุณออก ไปจากที่นี่ได้แล้ว”ฝานเฟิงยิ้มแล้วพูดอย่างเอาใจ

“ไม่ได้”หวังเฉินที่ตามมาทีหลังรีบพูดออกไป เธอ หันไปมองซ่งจงผิงแล้วพูดว่า ลูกชายคุณเป็นผู้ต้องสงสัย ในข้อหาจ้างคนฆ่าคนอื่น ตอนนี้ต้องสอบปากคำกับสถานีตำรวจก่อน รอคดีชัดเจน ถ้าบริสุทธิ์ถึงออกไปจากที่นี่ได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ