รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 118 คุณโข่งไม่ได้บอกว่าให้ปล่อยเธอไป



บทที่ 118 คุณโข่งไม่ได้บอกว่าให้ปล่อยเธอไป
โข่งลิ่งเสียน! เมื่อได้ยินชื่อของโข่งสิ่งเสียน หม่าวั่นถังก็รู้สึกสั่น ในใจ เขาเคยได้ยินชื่อเสียงของโข่งสิ่งเสียนมา เป็นบุคคลที่มือชื่อ เสียงอย่างมากในเขตหัวตง ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าจริงๆแล้วเขาทําอะไร แต่ว่าไม่ว่าเศรษฐี หรือข้าราชการระดับสูงหน้าไหนในหัวตง ต่างก็ให้ ความเคารพโข่งสิ่งเสียน ไม่มีใครกล้าแข็งข้อด้วย
ก่อนหน้านี้หม่าวั่นถังเคยอยากขอโอกาสที่จะเข้าพบโข่งสิ่งเสียน แต่เขาก็พยายามใช้ทุกวิถีทางแล้ว แต่สุดท้ายเป็นเพราะกําลังที่มีอยู่ จํากัด จึงไม่อาจทําตามความปรารถนาได้ คิดไม่ถึงว่าการติดต่อกัน ครั้งแรกระหว่างเขากับโข่งสิ่งเสียน จะเกิดขึ้นด้วยวิธีนี้
หม่าวั่นถังผงะไป เขากลืนน้ําลายไปหนึ่งอีก
ถึงแม้อีกฝ่ายจะพูดมาเพียงแค่ประโยคที่ฟังดูเรียบง่าย แต่จะใช้ เหตุผลแค่นี้ตัดสินว่าเขาคือโข่วลิ่งเสียนไม่ได้ แต่คนที่จะสามารถต่อ สายโทรศัพท์จากนอกโรงแรมเข้ามาที่สายภายในของโรงแรมได้จะมี สักกี่คน? หม่าวั่นถังเองก็ถือเป็นพ่อปลาไหลที่โลดแล่นอยู่ในวงการ ธุรกิจมานานแล้ว แล้วทําไมจะตัดสินจากน้ําเสียงไม่ได้ว่าอีกฝ่ายเป็น ตัวปลอมหรือของจริง?
“ทําไม? หรือว่าคําพูดของฉันใช้การไม่ได้?” โข่งสิ่งเสินถามอีก ครั้งด้วยน้ําเสียงที่ราบเรียบ ประโยคนี้ ทําให้หม่าวั่นถังตระหนักได้ว่า ตอนนี้เข้าเชื่ออย่างสนิทใจแล้วว่าอีกฝ่ายคือโข่งสิ่งเสียน
“ได้ ผมจะฟังคุณ จะหยุดเดี๋ยวนี้” หม่าหวั่นถังพูดอย่างเกรง กลัว เขาหันไปส่งสายตาให้หม่าเก๋อ หม่าเก๋อไม่เต็มใจอย่างยิ่งที่จะ ปล่อยสังเล่นเอ๋อ สังเล่นเอ๋อโน้มตัวลง เธอรังเกียจที่ถูกหม่าเกือบังคับ จูบเธอเมื่อครู่ จึงถ่มน้ําลายออกมา
หม่าเก๋อไม่เข้าใจผู้เป็นพ่ออย่างมาก ตอนนี้ตระกูลของเขาตัดสิน ใจแล้วว่าจะออกไปเติมโตที่อื่น แม้แต่ประธานสหพันธ์ธุรกิจจีนหลิง ชื่อหยินจังก็ไม่จําเป็นต้องไว้หน้า แล้วทําไมจู่ๆพ่อจึงมายอมอ่อนข้อใน เวลาที่สําคัญที่สุดเช่นนี้?
“คุณทําอะไรพวกเอหรือยัง?” โข่งสิ่งเสียนถาม ฉินหลังที่นั่งอยู่ ข้างๆก็แอบฟังสิ่งที่หม่าวั่นถังจะพูดต่ออย่างใจจดใจจ่อ
หม่าวั่นถังตกใจอย่างมาก เขาเหลือบไปมองสังเล่นเอ๋อที่กําลัง โน้มตัวอาเจียน มือที่กําลังจับโทรศัพท์อยู่เริ่มสั่น
“เอ่อ…ลูกชายของผม..จูบสั่งเส้นเอ่อไปสองสามที ส่วนผู้หญิง อีกคนหนึ่ง…พวกเรายังไม่ได้แตะต้องเธอ” หม่าวั่นถังพูดด้วยอย่างก ล้าๆกลัวๆ ไม่กล้าโกหกโข่งสิ่งเสียนเลยแม้แต่น้อย
เมื่อได้ยินสิ่งที่หม่าวั่นถังพูด โข่งสิ่งเสียนก็หันไปมองฉินหลั่ง แววตาของฉินหลั่งแสดงออกถึงความเศร้าอยู่แวบหนึ่ง แล้วจึงหันไป ส่งสายตาให้กับโข่งสิ่งเสียน เพื่อให้พูดตามที่เขาสั่งเอาไว้ก่อนหน้านี้
“ดี ขอแค่คุณหนูโจวซินไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ส่วนคนอื่นๆผมไม่ สน พวกคุณอยากจะทําอะไรก็ทํา ตอนนี้รถที่ผมส่งไปกําลังจะถึง โรงแรมแล้ว คุณให้คุณหนูโจวซินออกมาเดี๋ยวนี้ ถ้าหากเกิดอะไรขึ้น กับเธอ ผมจะคิดบัญชีกับคุณ…” โข่งสิ่งเสียนพูดเบาๆ
สังเช่นเอ๋อพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ไม่ใช้หรือว่า ต่อให้เธอจะเกิดเรื่อง อะไรขึ้นจริงๆ ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉินหลั่งเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่าที่ ฉินหลั่งไม่สนใจเธอ ไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้ เขาพอจะเดาออกว่าที่หม่า เก๋อโกรธแค้นสังเล่นเอ๋อนั้น เหตุผลหลักๆเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ที่เขา ต่อหน้าผู้คนที่ผับโอวโล่ด้วยความหยิ่งยโส นิสัยของสังเล่นเอ๋อนั้น หยิ่งยโสเกินไป ฉินหลั่งจึงอยากจะอาศัยโอกาสในครั้งนี้เพื่อสั่งสอน เธอ
“ครับๆ ผมจะปล่อยเธอเดี๋ยวนี้” หม่าวั่นถังรีบตกปากรับคํา พูดจบ ทางฝั่งนั้นก็วางโทรศัพท์ เหงื่อของหม่าวั่นถังไหลออกมาเต็ม หน้าผาก
“พ่อ ใครโทรมา ทําไมพ่อถึงได้รับปากที่จะปล่อยคน?” หม่าเบื่อ ถามหม่าวั่นถึงอย่างไม่พอใจนัก เขาคิดไม่ออกจริงๆว่า ตอนนี้ยังมีใคร ที่จะสามารถทําให้พ่อเชื่อฟังได้ขนาดนี้
“เป็นคนที่พวกเราไม่ควรไปแส่หาเรื่อง ฟังพ่อ รีบปล่อยคน ซะ…” หม่าวั่นถังจ้องหม่าเบื่อแล้วพูด เขาอาจจะไม่กลัวประธานชื่อชื่อหยินจัง แต่ว่า ชื่อหยิงจังกับโข่งสิ่งเสียนนั้นไม่ใช่คนระดับเดียวกัน ชื่อหยินจังอย่างมากก็แค่ทําให้หม่าวั่นถังไม่อาจทําธุรกิจในจีนหลิงต่อ ไปได้ แต่ความสามารถของโข่งสิ่งเสียนนั้น สามารถทําให้เขาไม่อาจ พํานักในหัวตงหรือแม้กระทั่งทั่วประเทศเลย ก็อาจจะเป็นไปได้
สิ่งที่หม่าวั่นถังคิดไม่ถึงก็คือ ถ้าหากว่าเขากล้าท้าทายโข่งสิ่งเสีย น ไม่เพียงแค่ธุรกิจที่ไม่อาจทําต่อไปได้เท่านั้น แต่เขาจะอยู่ถึงได้ด พระอาทิตย์ขึ้นในวันพรุ่งนี้ได้หรือไม่นั้นก็ไม่อาจบอกได้
“คนที่พวกเราไม่อาจไปแส่หาเรื่องได้? พ่อ ใครกันแน่…” หม่า เกือคิดอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าใครกันที่สามารถทําให้พ่อของเขากลัว ได้ถึงขนาดนี้
“โข่งสิ่งเสียนแห่งเซี่ยงไฮ้ แกคงไม่รู้จักเขา แต่แม้กระทั่งคนที่ รวยที่สุดของมณฑลซูเจอเขา ก็ยังต้องเกรงใจ ส่วนชื่อหยินจังหากอยู่ ต่อหน้าเขาก็เป็นเพียงแค่อากาศเท่านั้น” ตอนนี้หม่าวั่นถังกําลังรู้สึก อารมณ์เสียและสับสนว่า ทําไมตนเองถึงไปแส่หาเรื่องกับคนของโข่ง ลิ่งเสียนเข้าให้ได้?
ตอนนี้ ต่อให้หม่าเก๋อยังไม่เชื่อ เพราะไม่เคยได้ยินชื่อของโข่งสิ่ง เสียนผู้นี้ แต่ไม่เชื่อก็ไม่ได้ โข่งสิ่งเสียนเป็นคนที่ไม่ว่าอย่างไรเสีย ตระกูลของเราก็ไม่อาจไปแส่หาเรื่องได้
เขามองสังเล่นเอ๋อด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ครั้งนี้ เห็นอยู่ชัดๆแล้วว่าจะสามารถทําให้สังเล่นเอ๋อต้องทนอยู่กับความ อัปยศอดสูที่ไม่มีที่สิ้นสุดได้ แต่กลับมีคนมาช่วยเธอเอาไว้ได้อีก
“มองอะไร!” สังเล่นเอ๋อยืดตัวขึ้น แล้วจ้องมองหม่าเก่อด้วยความ แค้น นึงถึงที่เขาบังคับจูบเธอเมื่อครู่นี้ ความโกรธของสังเล่นเอ๋อก็พลุ่ง พล่านขึ้นมา เธอเอื้อมือขึ้นแล้วตบลงไปบนหน้าของหม่าเก่อ: “แกคิด ว่าแกเป็นใคร ถึงได้กล้ามาจูบฉัน ฉันจะจัดการกับตระกูลของพวกแก ให้ได้ ”
“แก…” หม่าเก่อถูกตบจนหน้าชา แต่เขาก็ไม่กล้าต่อปากต่อคํา กับสังเล่นเอ่อ ถ้าหากทําให้โข่งสิ่งเสียนคนนั้นโมโหล่ะก็ ดูจากปฏิกิกริ ยาของพ่อแล้ว ตระกูลของเขาคงไม่อาจรับผลลัพธ์ที่จะตามมาได้
“แกทําไม พวกแกสองพ่อลูกที่ไร้ยางอายต่างหาก ควรจะส่งพวก แกเข้าไปอยู่ในคุกซะ ให้นั่งอยู่ในคุกไปจนตาย!” สังเล่นเอ๋อเห็น ใบหน้าของหม่าเก่อก็รู้สึกโมโหจนถึงที่สุด เธอทําหน้าทิ้งตึง แล้วใช้ เท้าเตะไปที่เป้าของหม่าเก่อโดยไม่ให้ทันได้ตั้งตัว และไม่ออมแรงเลย แม้แต่น้อย
“โอ๊ย…” หม่าเก่อร้องลั่นเอามือกุมเป้าล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น เจ็บ จนแทบจะขาดใจ
“หึ สมน้ําหน้า แกระวังฉันเอาไว้ให้ดีๆก็แล้วกัน!” สังเล่นเอ่อมองดุ หม่าเก่อที่ลงไปนอนกลิ้งอยู่ที่พื้นแล้วพูดด้วยความภาคภูมิใจ
“เล่นเอ๋อ พวกเรารีบไปกันเถอะ” โจวซินรู้สึกว่าสังเช่นเอ๋อทําเช่น นี้อันตรายเกินไป ถ้าทําให้หม่าเก่อสองพ่อลูกร้อนใจ จนทั้งสองคนนั้น ทนไม่ไหวขึ้นมาแล้วล่ะก็ แล้วมาฮึดสู้กับพวกตนทั้งสองคนจะทําเช่น ไร? ตอนนี้โจวซินคิดเพียงแต่ว่าอยากจะไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่านั้น
“โจวซิน อย่าไปกลัว เธอไม่เห็นเหรอว่าหม่าวั่นถังกลัวจนพูด อะไรไม่ออกแล้ว? อาศัยความกล้าของพวกมันทั้ง 2 คนแล้ว พวกมัน ไม่มีทางที่จะกล้าทําอะไรพวกเราแล้ว” สังเล่นเอ๋อสังเกตเห็นท่าที่ตอน ที่หม่าวั่นถังคุยโทรศัพท์หมดแล้ว เหมือนกับหนูที่เจอเข้ากับแมวก็ไม่ ปาน ครั้งนี้คนที่ช่วยพวกเธอจะต้องเป็นคนที่ยิ่งใหญ่กว่าชื่อหยินจังอ ย่างแน่นอน ตอนนี้สังเล่นเอ๋อจึงไม่รู้สึกกลัวเลยแม้แต่น้อย
“ยังมีเจ้าเต่าเฒ่านี่อีก” สังเล่นเอ๋อพูด แล้วเดินเข้าไปหาหม่าวั่น ถังด้วยท่าทีที่ก้าวร้าว แล้วใช้เท้าเตะเข้าไปที่เป้าของหม่าวั่นถังเช่น เดียวกัน แต่ครั้งนี้หม่าวั่นถังจับเท้าของสังเล่นเอ่อเอาไว้
“แก! ปล่อยนะ ไอเต่าเฒ่า!” หม่าวั่นถังหัวเราะอย่างเลือดเย็นแล้ว พูดว่า เมื่อครู่ตอนที่คุยโทรศัพท์นั้น โข่งสิ่งเสียนได้บอกแล้วว่าเขา สนใจแค่ความปลอดภัยของโจวซินคนเดียวเท่านั้น ส่วนคนอื่น เขาไม่ ได้สนใจ นั่นหมายความว่า ต่อให้พวกเขาจะทําอย่างไรกับสังเล่นเอ๋อ โข่งสิ่งเสียนก็ไม่มีทางโกรธพวกเขา
“ปล่อยนะ แกไม่กลัวคุณโข่งจะมาจัดการพวกแกหรือไง? ถ้าเกิด อะไรขึ้นกับฉัน เขาจะต้องมาคิดบัญชีกับแกเป็นคนแรกอย่างแน่นอน” สังเช่นเอ๋อถูกหม่าลั่นถังจับเท้าเอาไว้ แล้วพูดด้วยความโมโห
“เหอะ คุณโข่งให้พวกเราปล่อยแค่คุณหนูโจวซิน แล้วแกมีความ สําคัญอะไรกัน คุณโข่งไม่สนใจด้วยซ้ําว่าแกจะเป็นหรือตาย” หม่าวั่น ถังพูดเยาะเย้ย เมื่อได้ยินคําพูดนี้ สังเล่นเอ๋อก็หน้าถอดสีทันที
“จริงรึเปล่า พ่อ” หม่าเก่อลุกขึ้นมาจากพื้น แล้วหันไปพูดกับหม่า วั่นถังด้วยความประหลาดใจ เขาเดินเข้าไปหาสังเล่นเอ๋อ แล้วใช้มือ จับข้อมือขอขสังเล่นเอ๋อเอาไว้ หัวเราะอย่างเลือดเย็นแล้วพูดว่า: “นั่ง แพศยา เมื่อกี้แกยังหยิ่งยโสอยู่เลย ลองโอหังให้ฉันดูต่ออีกหน่อยสิ”
มองดูสองพ่อลูกตระกูลหม่าที่เหมือนปีศาจที่อยู่ตรงหน้า สังเช่น เอ๋อก็ตกใจอย่างมาก เอหันไปมองโจวซินะ “โจวซิน ช่วยฉันด้วย โจว ซิน ช่วยฉันด้วย…”
“พวกคุณปล่อยเธอไปได้ไหม อย่าทําร้ายเธอเลย…” โจวซิน หันไปอ้อนวอนหม่าเก่อสองพ่อลูก
“เรื่องของพวกเราเธอไม่ต้องมายุ่ง เธอรีบไปจะดีกว่า” หม่าวั่นถัง หันไปพูดกับโจวซินอย่างสุภาพ แต่สําหรับโจวซินแล้วท่าที่เช่นนั้นช่าง ดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก
โจวซินกลัวว่าถ้าหากตนเองอยู่ที่นี่ต่อ พวกหม่าวั่นถังอาจจะ เปลี่ยนใจ หันมาจับตนเองเอาไว้อีก ในเมื่อเธอเองก็อยากช่วยสังเช่น เอ่อออกไปจากที่นี่ แต่เธอไร้ความสามารถ เธอจึงค่อยเดินถอยออก จากห้องไปด้วยความกลัว แล้วเตรียมที่จะออกไปแจ้งตํารวจที่ด้าน นอกเพื่อมาช่วยสังเล่นเอ๋อ
โจวซินรีบวิ่งออกมาจากโรงแรมอย่างตื่นตระหนก พอดีกับที่ใน เวลานี้ รถมาเซราติlevanteคันที่รับฉินหลั่งก่อนหน้านี้ ก็มาจอดอยู่ที่ ด้านหน้าของเธอ
“หา..” ตอนที่มีคนลงมาจากรถมาเซราติ โจวซินก็รู้สึกตกใจ มาก แต่เมื่อได้ยินอีกฝ่ายบอกว่าพวกเขาเป็นคนที่โข่งสิ่งเสียนส่งมา รับเธอ เธอถึงได้สงบลง
“พี่ชาย ขอร้องพวกคุณช่วยเข้าไปช่วยเพื่อนฉันหน่อย ตอนนี้ เธออยู่ข้างใน อาจจะถูกสองพ่อลูกตระกูลหม่าทํามิดีมิร้ายเอาได้ ฉัน ขอให้พวกคุณไปช่วยเธอหน่อย” โจวซินลากชายหนุ่มที่รูปร่างสูงใหญ่แล้วขอร้องพวกเขาด้วยความร้อนใจ
“เอ่อ………….พวกเราได้รับคําสั่งมาแค่ให้ดูแลความปลอดภัยของคุณ เท่านั้น” อีกฝ่ายแสดงท่าที่ลําบากใจ
“ฉันคุกเข่าให้พวกคุณก็ได้ พวกคุณไปช่วยเธอหน่อยเถอะ นะ…” โจวซินคุกเข่าลงกับพื้น น้ําตาไหลออกมา
“คุณรีบลุกขึ้นเถอะ พวกเรารับไว้ไม่ได้” ชายหนุ่มรีบโน้มตัวลง ไปประคองโจวซินขึ้นมา แต่โจวซินยังไงๆก็ไม่ยอมลุกขึ้น จึงไม่มีทาง เลือก พวกเขาจึงทําได้เพียงต้องยอมรับปากโจวซิน: “ได้ พวกเราจะ ไปช่วยเธอ…”
“ขอบคุณ ขอบคุณมาก” ขณะที่โจวซินกําลังกล่าวขอบคุณ ชาย หนุ่มรูปร่างกํายําทั้งสองคนก็วิ่งเข้าไปในโรงแรมเรียบร้อยแล้ว
สังเล่นเอ๋อถูกหม่าลั่นถังสองพ่อลูกกดลงไปที่เตียง หม่าวั่นถังจับ แขนทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ ส่วนหม่าเก่อคว้าคอเสื้อของสั่งเส้นเอ่อ อยู่ด้วยแววจาที่ชั่วร้าย เขาออกแรงกระชาก ไหล่ของสังเล่นเอ๋อก็โผล่ ออกมา
สังเล่นเอ๋อรู้สึกสิ้นหวัง เธอกําลังต่อสู้ดิ้นรนอย่างตื่นตกใจ แต่ อย่างเธอนี่หรือจะเป็นคู่ต่อสู้ของชายหนุ่มสองคนได้? เธอปิดตาลง แล้วน้ําตาแห่งความเจ็บปวดก็ไหลออกมา
ในตอนนี้เอง ชายหนุ่มรูปร่างกํายําทั้งสองคนพังประตูเข้ามา แล้วเตะหม่าวั่นถังกระเด็นลงไปนอนกองอยู่ที่พื้น แล้วดึงสังเล่นเอ๋อ ขึ้นมาจากเตียง
สั่งเส้นเอ่อรู้สึกเหมือนได้มีชีวิตใหม่ ตอนนี้เอง เธอยังจะกล้าด่า สองพ่อลูกตระกูลหม่าอย่างไร้สติได้อย่างไร? เธอถูกชายหนุ่มรูปร่าง กํายําสองคนประคองออกมาจากโรงแรมอย่างรวดเร็ว
“เล่นเอ๋อ เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” เมื่อเห็นสังเช่นเอ๋อถูก ประคองออกมา โจวซินก็รีบเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง หญิงสาวทั้ง สองสวมกอดกัน แล้วพูดคุยกันตลอด 20 นาที อารมณ์ของสังเล่นเอ่อ จึงค่อยๆสงบขึ้น
เถอะครับ พวกเราจะส่งพวกคุณกลับ”ชายหนุ่มคนหนึ่งกล่าวด้วยความเคารพ
“อ้อ ให้พวกคุณรอเสียนานเลย” พูดจบ โจวซินและสังเล่นเอ๋อก็ เข้าไปในรถ ตอนนี้เองความสนใจของพวกเธอหันไปอยู่ที่มาเซราติ ราคากว่าสองล้านหยวนที่นั่งอยู่คันนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเธอได้นั่งรถ
หรูขนาดนี้
“พี่ชายท่านนี้ ขอถามหน่อยว่าทําไมคุณโข่งถึงต้องช่วยพวกเรา ด้วย?” โจวซินเอ่ยถามชายหนุ่มรูปร่างกํายําที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอ เธอรู้สึกว่ามันแปลกมาก ตนเองไม่เคยพบคนที่ชื่อโข่งสิ่งเสียนมาก่อน แล้วทําไมเขาถึงได้ยื่นมือเข้ามาช่วย?
“อ้อ คุณโข่งมาก็เพราะคุณชายใหญ่….” ชายหนุ่มรูปร่างกํายํา ที่นั่งอยู่ตรงข้ามพวกเธอกําลังจะพูดความจริงออกมา ตอนนี้เอง คนที่ นั่งอยู่ข้างคนขับก็ทําเสียงกระแอมขึ้นมา หันหน้ากลับมาขมวดคิ้วแล้ว พูดด้วยน้ําเสียงเคร่งขรึมว่า : “รู้ดีนักนะ”
“คุณชายใหญ่?” โจวซินและสังเช่นเอ๋อต่างก็รู้สึกแปลกใจ จึงได้ พยายามถามชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับพวกเธอต่อว่า: “คุณชาย ใหญ่ของพวกคุณคือใคร? รู้จักพวกเราไหม? เขาชื่อว่าอะไร?”
“คุณอย่าถามอีกเลย หน้าที่ของพวกเราคือคุ้มครองพวกคุณทั้ง สองคนให้กลับไปอย่างปลอดภัย ส่วนเรื่องที่เหลือพวกเราไม่รู้ ขอให้ รอดูเองดีกว่า!” ตอนนี้ชายหนุ่มปิดปากแน่น ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออก มาอีก
“เอ๊ะ นี่มัน…” มือของโจวซินปัดออกจากที่นั่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอรู้สึกว่าตนเองสัมผัสเข้ากับอะไรบางอย่าง จึงหยิบขึ้นมาดู เป็น เชือกสีแดงที่มีรอยผูกสองเส้น เธอหันไปพูดกับสังเล่นเอ๋อด้วยความ ประหลาดใจ: “เล่นเอ๋อ นี่มันเชือกสีแดงที่หญิงชรามอบให้เธอกับฉัน หลั่งที่ตลาดกลางคืนใช่ไหม?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ