รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 218 ฉันจะสอนวิทยายุทธ์ให้แกเอง



บทที่ 218 ฉันจะสอนวิทยายุทธ์ให้แกเอง

ฉินหลั่งถูกโยนมาจนเจ็บเอว ในใจรู้สึกไม่ สบายใจ พร้อมทั้งพูดว่า “ตอนที่ผมอยู่ที่เมืองจีนหลิง มี ยายท่านหนึ่งเป็นคนสอนผมมา!”

“ยาย? หน้าตาเธอเป็นยังไง?” หญิงงามชุดขาว ถามขึ้น

ฉินหลั่งเกิดความสงสัยในใจ หรือว่าหญิงงามชุด ขาวคนนี้รู้จักกับยายคนนั้น เลยพูดว่า “เธอก็เหมือนกับ คุณนั่นแหละ ใส่เสื้อผ้าชุดโบราณ แต่ว่าเป็นสีแดง คุณ ยายยังมีผมเปียสองข้าง เหมือนเป็นผู้มีฝีมือมากวิชามี ชีวิตชีวามาก”

หญิงงามชุดขาวตกใจ จากนั้นก็พูดอย่างยินดี “แกเจอนางตอนนั้นนางเป็นคนแก่ที่อายุน่าจะเจ็ดแปด สิบ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นเด็กสาวแรกรุ่นอายุ17-18 ปี ใช่

หรือไม่?”

ฉินหลั่งแปลกใจ แล้วพูดว่า “คุณรู้ได้ยังไง?”

สีหน้าหญิงงามชุดขาวดีใจหนักกว่าเก่า พร้อมทั้ง พูดเสียงทุมต่ำ “ที่แท้ก็เป็นนาง! ตอนนี้นางอยู่ที่ไหน? รีบพาฉันไปเจอ!”

ฉินหลั่งนึกสงสัยอยู่ในใจ เลยถามว่า “ท่านครับ คนที่คุณต้องการจะฆ่าเป็นคุณยายเหรอ?”
หญิงงามชุดขาวพูดเสียงแข็ง “คนไร้ค่านั่นแหละ แกพาฉันไปพบเธอ หลังจากนี้แล้วฉันจะตอบแทนให้ อย่างหนัก! นางอยู่ไหน?”

ฉินหลั่งตกใจ ฉับพลันนึกถึงคุณยายกำลังฝึก วิทยายุทธ์ในวิลล่า เธอเคยพูดเอาไว้ว่า เธอมีศัตรูที่ชื่อ ว่าจูชุยส่วย คุณยายค่อนข้างหวาดกลัวมาก หรือว่าเป็น หญิงงามชุดขาวที่อยู่ตรงหน้านี้ ฉินหลั่งเลยถามกลับ “ท่านครับ คุณคือจูชุยส่วยใช่ไหม?”

หญิงงามชุดขาวยิ้มให้เล็กน้อยแล้วถามกลับ “ดู เหมือนว่ายาย ปัหวูคอยพูดถึงฉันอยู่ ตอนนี้เธอฟื้นวิทยา ยุทธ์ไปถึงไหนแล้ว รีบพูดกับฉันว่านางอยู่ที่ไหน?”

ฉินหลั่งได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธ “ถึงแม้ว่าผมจะรู้ว่า เขาอยู่ที่ไหน แต่ผมก็ไม่บอกคุณ”

“อะไรนะ!” จชุยส่วยพูดเพิ่มเติม “แกรนหาที่ตาย ใช่ไหม!”

พูดไป แววตาเย็นชา มือโบกสะบัด ชุดโบราณสี ขาวราวกับมีชีวิตมันพุ่งมาหาฉินหลั่ง จากนั้นก็มัดด้าน บนของฉินหลั่งเอาไว้จูชุยส่วยพูดอย่างเย็นชา

“เส้นผ้าไหมสีขาวอันนี้มีเส้นใยขนวัวเป็นหมื่นๆ เส้น ฉันแค่ใช่พลังภายในดึงให้แน่น มันทำงานได้ รวดเร็วกว่ามีตั้งเยอะ แกถูกมัดมือไว้ทั้งสองข้างก็จะถูก ตัดออก แกไม่กลัวหรือไง?”

ฉินหลั่งใช้แรงพยายามทำให้หลุดอีก แต่ท่อน ด้านบนร่างกายของเขาถูกมัดไว้แน่น ฉินหลั่งมองมาทางจูชุยส่วย แล้วพูดว่า “ท่านจู คุณกับคุณยายมีเรื่อง เข้าใจผิดบางอย่างใช่หรือไม่ ทุกคนพูดกันดีๆ ก็ได้ ทำไมต้องเข่นฆ่ากันด้วย?”

จูชุยส่วยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ความแค้น ระหว่างฉันกับนางดั่งทะเลลึก ไม่มีอะไรที่ต้องพูดกันดีๆ อีก ฉันแค่หวังว่าจะแร่เนื้อบนตัวนางออกเป็นชิ้น ให้นาง อยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็น! เรื่องของฉันกับนางแกอย่าช่วย พูดเสนอความคิดเห็นเลย? แกพูดก็เหมือนไม่พูด?”

จชุยส่วยดึงเส้นผ้าไหมเข้าหาตัว มันยิ่งทำให้เส้น ไหมที่อยู่บนตัวฉินหลั่งแน่นตึง ฉินหลังถึงกลับอดร้อง ออกมาไม่ได้ เพราะบนแขนที่ถูกมัดแน่นที่สุดนั้น ผิวถูก ใบมีดคมกริบแทงทะลุเข้าเนื้อ

จูชุยส่วยยิ้มและพูดอย่างเย็นชา “แกรู้สึกแล้วหรือ ยัง ถ้าแกยังไม่ยอมพูดออกมาอีก ตอนฉันใช้พลังภายใน อีก ถึงตอนนั้นแขนแกก็จะขาด ถ้ามาโทษฉันแล้วกันว่า ไม่เตือนแกก่อน! ฉันจะถามแกอีกครั้ง ยายปีหวู้ ตอนนี้ อยู่ที่ไหน?”

ฉินหลั่งจ้องมองมาที่จูชุยส่วย พร้อมทั้งพูดออก มาตามปกติ “ขอโทษด้วยครับ ท่าน”

“แก!” ใบหน้าจชุยส่วยมีแต่ความโกรธแค้น พร้อม ทั้งพูดอย่างเย็นชา “ได้งั้นฉันก็จะตัดแขนทั้งสองข้าง ของแก!” พูดจบ ก็ใช้แรงตวัดไปที่เส้นไหน

ฉินหลั่งถูกพลังซัดมาจนลอยอยู่ในอากาศ จาก นั้นก็มีเสียงตกลงบนพื้น “ผลัก” หัวใจเสียววาบ แขนของตนเองคงขาดเรียบร้อยแล้วมั้ง?

ทว่าสิ่งที่ทำให้เขายิ่งเปรมปรีดิ์กว่า นั่นคือแขน ของเขาไม่ได้ขาดออกจากกัน ยังอยู่บนร่างกายของเขา ครบถ้วน แค่มีรอยขีดข่วนเล็กน้อยและเลือดไหลซึมออก มาเล็กน้อยเท่านั้นเอง แผลนี่น่าจะมาจากการถูกเส้น ไหมขีดข่วนจนเป็นรอยแผลเป็น ถ้าจูชุยส่วยใช้พลังภาย ในจริงๆ สักครั้ง แขนทั้งสองของเขาก็คงถูกตัดขาดออก จากกันแล้วมั้ง?

ฉินหลั่งดีใจเป็นอย่างมากพร้อมทั้งมองมาทางจู ชุยส่วย “ท่านครับ คุณไม่ได้ตัดแขนผม!”

จูชุยส่วยหรี่ตามองฉินหลั่งอยู่แวบหนึ่ง พร้อมทั้ง พูดว่า “เด็กน้อยอย่างแกนี่กล้าหาญจริงๆ! วันนี้ฉันปล่อย แกไปสักครั้ง” แววตาจูชุยส่วยขยับเล็กน้อย พร้อมทั้ง เห็นถุงสีแดงที่อยู่ชายกระเป๋ากางเกงของฉินหลั่ง เลย ทำเสียงสงสัย “นั่นคืออะไร?”

ฉินหลั่งหันไปมอง พร้อมทั้งตกใจ มันเป็น “ด้าย หนึ่งเส้นเชื่อมโยงบุพเพ” ที่คุณยายให้ตนเองเอาไว้ใน วันนั้น หลังจากที่หยิบออกมาแล้ว เขาก็เอาใส่ไว้ใน กระเป๋าตลอดเวลา ไม่คิดเลยว่าเมื่อครู่ตอนที่โดนจูชุย ส่วยผลักล้ม เส้นด้ายแดงจะหลุดออกมา ฉินหลังรีบยัด กลับไปอย่างรวดเร็ว

เห็นแค่มือที่เอื้อมออกมาเลือนรางพร้อมทั้ง รวดเร็ว ด้ายแดงก็ไม่มีแล้ว

จชุยส่วยเอาด้ายแดงไว้ในมือ พร้อมทั้งสัมผัสความรู้สึก แล้วยิ้มตอบ “ที่แท้ยายปั้หวูใช้ัพลังจริงๆ ใน การอวยพร!”

จูชุยส่วยเอาด้ายแดงดึงกับมาที่นิ้วของตนเอง แล้วสะบัดเล็กน้อย พลันเห็นว่าด้านแดงเริ่มมีปฏิกิริยา ด้วย มือของจูชุยส่วยถูกหางเลขไปด้วย เห็นได้ชัดว่า ยายปีหวู้สัมผัสได้ที่อยู่ของตนเองเรียบร้อยแล้ว

ซูซุยส่วยยิ้มให้แล้วพูดว่า “ดูแล้วยาย ปีหวูให้ ความสำคัญกับแกมากเลยนะเนี่ย?”

ฉินหลั่งพูดเพิ่ม “ผมเลยช่วยส่งไก่เป็นๆ ให้นาง เท่านั้นเอง ก็ไม่รู้ว่าหลังจากที่ผมมาที่เมืองหลินอานแล้ว นางอยู่ที่เมืองจีนหลิงเป็นยังไงบ้าง?”

จชุยส่วยหัวเราะร่าพร้อมทั้งพูดว่า “มันดีจริงๆ นิสัยคับแคบอย่างยาย ปัหว้ที่ แกไปจากนางตอนที่นาง กำลังรักษาจุดที่สำคัญที่สุด เพราะฉะนั้นเลยทำให้นาง แค้นอย่างหนัก! ดูแล้วครั้งนี้นางโมโหอยู่ไม่น้อยเลยที เดียว ต้องมาหาแกที่เมืองหลินอานเป็นแน่แท้! งั้นดีเลย ประหยัดเวลาที่ฉันจะต้องไปตามหานางทุกหนทุกแห่ง แล้ว! เจ้าน้องชาย ฉันขอบคุณเจ้าจริงๆ!”

ฉินหลั่งจ้องมองซูซุยส่วยอย่างดุดันแล้วพูดว่า “ท่านครับ ท่านก็อย่าเพิ่งดีใจไปก่อนเลย วิทยายุทธ์ของ คุณยายผมเคยเห็นมาแล้ว เยี่ยมยุทธ์ไม่น้อยหน้ากว่า คุณเลย! ทางที่ดีคุณควรหลบเขาสักหน่อยก็ยังดี เพื่อ หลีกเลี่ยงเดี๋ยวเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่ายอีก”

จชุยส่วยพยักหน้าให้ พร้อมทั้งพูดว่า “นางอายุมากกว่าฉันสี่สิบกว่าปี วิทยายุทธ์ของนางย่อมเก่งกล้า กว่าฉันอยู่แล้ว เพื่อเป็นการรับประกันว่าจะไม่ผิดพลาด ในการฆ่านาง แกต้องช่วยฉันด้วย”

“ผมเหรอ?” ฉินหลั่งสงสัย

จูชุยส่วยพูดต่อ “แกนั่นแหละ ฉันจะสอนวิชา “เทียนหนานเทียนเป่ย” ให้แก ตอนที่พวกฉันกำลังต่อสู้ กันอยู่นั้น แกก็อยู่ข้างๆ แล้วค่อยแอบช่วยฉันลงมือ เพื่อ ทำให้นางถึงแก่ชีวิต!”

ฉินหลังส่ายหัวไปมา “ผมไม่ได้มีความแค้นใดๆ กับคุณยายเลยด้วยซ้ำ อีกอย่างท่านก็ดีกับผมมาก ผมไม่ อยากทำเรื่องแบบนี้”

สายตาจูชุยส่วยฉายความจงเกลียดจงชังขึ้นมา นัยน์ตาขยับเล็กน้อย จากนั้นส่งเสียงไอในลำคอ แล้ว เธอใช้ฝ่ามือปิดปาก ยามเมื่อแบมือออกมา บนฝ่ามือมีแต่ เลือดสดกลิ่นคาวคลุง

“ท่านท่าน….ท่านเป็นอะไรไป” ฉินหลังทำหน้า ตกใจมาก จูชุยส่วยก็ดูดีอยู่แล้วทำไมถึงอาเจียนออกมา เป็นเลือดได้ล่ะ?

จชุยส่วยเช็ดคราบเลือดมุมปาก พร้อมทั้งพูด อย่างอ่อนล้า “เมื่อครู่ตอนที่ฉันฝึกวิทยายุทธ์ถึงขั้น สำคัญอยู่นั้น แกใช้วิชามือปล่อยใบมีดของยาย ปี้หว้ออก มา ฉันคิดว่าเป็นยาย ปีหมูมาแล้ว เลยรีบเก็บพลังภายใน ทันที จนทำให้ลมปราณแตกซ่าน จนภายในได้รับบาด เจ็บอยากสาหัส”
“หา….ขอโทษจริงๆ เป็นความผิดของผมเอง” ฉิน หลังพูดขอโทษอย่างจริงใจ

จชุยส่วยเริ่มพูดต่อ “แกไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่สามารถ โทษแกได้ แค่ฉันพลังภายในอ่อนแอกว่ายายปีหวู ถ้าได้ รับบาดเจ็บอีกครั้ง คงเหลือแค่รอให้นางมาฆ่าเท่านั้น เอง”

“ท่าน หรือว่าท่านไม่ต้องไปเจอหน้ากับยาย ปัหว้ ดี….” ฉินหลังพูดต่อ

“ไม่…ถึงจะต้องตายฉันก็ต้องล้างแค้นกับนางให้ ได้!” จูชุยส่วยพูดอย่างตื่นเต้น ฉินหลั่งเห็นว่าจูชุยส่วย โมโหเป็นอย่างมาก ก็เลยไม่กล้าขัดขวางกับนางได้อีก แล้ว

“เจ้าเด็กหนุ่มแกคิดว่าทำเช่นไรดี? ฉันจะสอนวิชา เทียนหนานเทียนเป่ย” ให้รอตอนที่พวกฉันกำลังต่อสู้กัน อยู่นั้น แกก็ยืนอยู่ด้านข้างคอยสนับสนุนกำลัง ตอนที่ฉัน ไม่สามารถสู้กับนางได้ แกก็เป็นคนลงมือเพื่อให้ฉันได้ รอดชีวิตอย่างปลอดภัย แกเป็นคนที่จิตใจดี ต้องยอม ตกลงกับฉันใช่ไหม?”

“เรื่องนี้…” ฉินหลั่งยังไม่ยอมตอบ

“เมื่อครู่แกก็เห็นร่างกายที่โป๊เปลือยของฉันแล้ว หรือว่าการที่ฉันให้แกทำเรื่องนี้ แกก็ไม่ยินดีใช่ไหม? แก ไม่ยอมตกลงใช่ไหม? งั้นฉันจะเอาเรื่องนี้ป่าวประกาศไป ให้ทั่ว จะดูสิว่าในสังคมของแกนั้นแกจะทนอยู่ยังไง?” หญิงงามชุดขาวพูดทวงบุญคุณ
ได้ ผมตกลงก็ได้” ฉินหลั่งได้แต่ตอบตกลง

ตัวเขาเองก็อยากเรียนวิชา “เทียนหนานเทียน เป่ย” นี้เพราะว่าฟังดูแล้วมันดูเก่งมากๆ รอจนถึงเวลาจ ชุยส่วยกับยาย ปัหวู้ใครจะอยู่ใครจะไป เขาก็ยังคงหยุด การต่อสู้อยู่ด้านข้างทั้งสองคน เพื่อให้หญิงงามชุด โบราณทั้งสองคนได้ปรับทัศนคติความขัดแย้งให้เข้าใจ กัน

จูชุยส่วยยิ้มเล็กน้อย “แกยอมตกลงแล้ว งั้นพวก เราก็เริ่มฝึกวิชากันเถอะ! ฉันจะสอนแกเอง แกก็ต้องใจ เรียน พรุ่งนี้เช้าฉันจะสอนวิชากลยุทธ์จิตใจให้”

พูดไปจูชุยส่วยที่ยืนอยู่ตรงกลางห้อง ก็แสดง ท่าทางไปหนึ่งรอบ ยามเมื่อเห็นว่าเธอใส่เสื้อผ้าสีขาว เท้าเปลือย แล้วกำลังฝึกวิชาอยู่บนพื้น ทั้งหมัดทั้งเท้า ทั้งคุกเข่าทั้งกระโดดไปมา รูปร่างนูนโค้งคอดได้รูปหมุน ไปมา อีกทั้งเธอเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ บนตัวเธอย่อมมีกลิ่น หอมๆ ลอยออกมาด้วย ฉินหลั่งเห็นเธอกำลังแสดง ท่าทางวิชา สีหน้ามีทั้งเศร้าโศก บ้างก็ยิ้มให้ ช่างน่า หลงใหลเสียจริง

ทว่าสิบกว่านาทีผ่านไป จูชุยส่วยก็ฝึกซ้อมวิชา สำเร็จ

จชุยส่วยพลันนึกถึงในปีนั้นก็ลูกศิษย์ทั้งสามคนที่ กำลังฝึกวิทยายุทธ์กำลังภายในวิชานี้พร้อมๆ กันที่ดีน เขาเทียนซาน ฉับพลันเลยรู้สึกตามไปด้วย เลยแอบฉิน หลั่งปาดรอยน้ำตาที่บริเวณหางตา ถึงได้หันตัวกลับมา อีกครั้ง แล้วพูดมา “เมื่อครู่ฉันก็ได้แสดงวิชา เทียนหนานเทียนเป่ยทั้ง36กระบวนท่าขั้นพื้นฐานออกมา หมดแล้ว ตอนนี้แกก็ฝึกให้ฉันดูสักรอบ”

“ผม.ท่านครับ ผมจำได้แค่ไม่กี่ท่าเอง แล้วจะฝึก ได้ยังไง?” ฉินหลั่งพูดแบบเขินอาย

“ฝึกเถอะ ตรงไหนไม่ได้ฉันจะช่วยเอง!” จูชุยส่วย

พูด

“ครับ!” ฉินหลั่งไม่รอช้า ทำได้แค่หน้าด้านฝึก วิชาที่ในหัวจำได้ออกมา กระบวนท่าสิบท่าแรกเกินครึ่ง จำได้ แต่พอมาช่วงท้าย ฉินหลั่งก็ลืมไปแล้ว เลยยืนอยู่ ที่เดิมมองชุยส่วยอย่างเขินอาย

จชุยส่วยถอนหายใจเล็กน้อย เมื่อเดินมาด้านข้าง ตัวฉินหลั่ง เลยจัดการใช้มือสอนเขาเอง ฉินหลั่งถูกจูชุย ส่วยจับมือ ประสาทหูก็ได้ยินเสียงอันอ่อนโยนของเธอ บางครั้งเธอก็ต้องทรมานกับเส้นผมอันพลิ้วไสวของเธอ แถมยังมีกลิ่นหอมจางๆ จากเรือนกายของเธออีก บาง ครั้งความตั้งใจก็ไม่สามารถแน่วแน่ได้

จูชุยส่วยสอนฉินหลั่งหนึ่งชั่วโมงกว่า จนถึงเวลา ตีหนึ่งแล้วจูชุยส่วยถึงได้หยุดฝึก แล้วพูดว่า “คืนนี้พอ เท่านี้ก่อน พรุ่งนี้ตื่นนอนหกโมงเช้า ฉันจะสอนแกเรื่อง วิชากลยุทธ์จิตใจ”

“ได้!” ฉินหลั่งตอบตกลง พลางหันตัวกลับไปที่ ห้องพักของตนเอง

“ไม่ต้อง หลายวันนี้นายก็นอนที่ห้องพักของฉันนี่ แหละ! เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงที่นายจะส่งข่าวให้ยายปีหรับรู้” จูชุยส่วยพูด

“หา…” ฉินหลังพูดด้วยอาการตกใจเป็นอย่างมาก

จนสุดท้ายแล้ว ฉินหลั่งก็ต้องอยู่ในห้องนอนของ จชุยส่วย เดิมทีจูซุยส่วยคิดจะให้ฉินหลั่งนอนบนเตียงกับ เธอ แต่ว่าฉินหลั่งบอกว่าไม่ได้ สุดท้ายแล้วฉินหลั่งเลย ขอเตียงเสริม ปลงบนพื้น ถึงได้ข่มตานอนหลับได้

ในเวลาเดียวกัน เฝิงหรุงถูกส่งตัวมาที่โรง พยาบาล จากห้องฉุกเฉินจนถูกส่งตัวมาที่ห้องพักสังเกต อาการคนป่วย หยูหมิงก็มารอเขาอยู่ในห้องพักผู้ป่วย แล้ว

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” หยูหมิงได้ข่าวว่าเฝิงหรุง ทำงานผิดพลาด แถมได้ข่าวว่าถูกคนตัดนิ้วไปสองนิ้ว แล้วยังถูกตัดขาจนขาดอีก ในหัวสมองไม่เคยคิดเลยว่า จะมาถึงขั้นนี้

เฝิงหรุงพูดว่า “คุณชายหยู ขอโทษด้วย ผมไม่ได้ ทำงานที่คุณมอบหมายให้สำเร็จ”

“มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?” หยูหมิงถาม

เฝิงหรุงพลันนึกถึงเรื่องที่หญิงงามชุดขาวเตือน ตนเองไว้ก่อนหน้านี้ ใจเขาสั่นไม่หยุด อย่าได้ แพร่งพรายเรื่องที่หญิงงามชุดขาวพูด เลยโยนความผิด ไปที่ไอ้ขี้แพ้คนนั้นแทน เขาพูดว่า “ไอ้ฉินหลั่งขี้แพ้คน นั้นแหละ ถ้าไม่ใช่มันป่านนี้ผมก็เอาคุณหลงไปส่งที่ โรงแรมให้คุณเสร็จเรียบร้อยไปตั้งนานแล้ว เพราะมันนั้น แหละ!”
“มือและเท้าของแกมันเป็นทำทั้งหมดเหรอ?” หยู หมิงถาม

เฝิงหรุงพยักหน้าให้ “ไม่ผิด มันนั่นแหละ! คุณ ชายหยู ไอ้ขี้แพ้นั่นมันเป็นจิ้งจอกแสนร้ายกาจ! ขนาดผม ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้กับมันเลย”

หยูหมิงค่อยๆ มองออกไปด้านนอกหน้าต่าง ๆ ม่านตาเริ่มก่อกองไฟทีละเล็กละน้อย มือของเขากำหมัด แน่น ในใจคิดว่า “ไอ้ขี้แพ้ถึงทำกพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่จบสิ้น กูจะทำให้ถึงรู้ว่า ค่าเสียเวลากมันหนักหนา ขนาดไหน!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ