รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 64 แม่ของทั้งสองคน



บทที่ 64 แม่ของทั้งสองคน

ได้ยินเสิ่นวันเชียนพูดเช่นนี้ ฉินหลั่งก็ตกลง แม่ของจงยู่มาถึงเมืองจินหลิง ก็ควรให้เธอได้พักใน ที่พักที่ดีหน่อย

ห้าโมงเย็นวันต่อมา เครื่องบินของเที่ยวบิน จากฮาบิน ค่อยๆลงจอดที่สนามบินนานาชาติจินหลิง

หญิงวัยกลางคนที่สวมเสื้อผ้าสีสันสดใสเดิน ลงมาจากเครื่องบิน เธอสวมหมวกปีกกว้าง แว่น กันแดด ผิวถูกปกปิดด้วยแป้งหนา มองลานจอดที่ กว้างใหญ่ ในใจเต็มไปด้วยการรอคอย

เธอก็คือแม่ของติงหรุ่ย-หลิวหง

ครั้งก่อนเธอมาพร้อมกับเพื่อนสาวคนสนิท สองคน สองสาวตามด้านหลังหลิวหง นี่เป็นครั้งแรก ของพวกเธอที่ได้นั่งเครื่องบิน และก็เป็นครั้งแรกที่ ได้มาเมืองที่เจริญคึกคักอย่างนี้ ตื่นเต้นยิ่งกว่าหลิว หงเสียอีก

“ในที่สุดก็มาถึงแล้ว โอ้ย พวกเธอดูสิ ถึงมีคน พูดว่า”เจียงหนานเป็นเมืองงดงาม จินหลิงเป็นเมือง เจริญก้าวหน้า’สนามบินทั้งสวย และกว้างใหญ่ขนาด นี้ ดูตึกใหญ่โตทางนั้นสิ จะเทียบกับเมืองเล็กๆที่พวก เราอยู่ได้อย่างไร”หลิวหงมองทิวทัศน์รอบๆสนาม บิน เอ่ยชื่นชมไม่หยุดปาก
“พูดถูก สวยงามเหลือเกิน หลิวหง ถ้าหาก ลูกสาวเธอหาได้แฟนทายาทมหาเศรษฐีเมืองจีน หลิง ชีวิตนี้ก็คงสบายแล้ว”เพื่อนคนหนึ่งที่ชื่อ”เฝิง โหย่หลัน”

“ใช่ อีกเดี๋ยวเจอหลุ่ยรุย คงต้องบอกให้เธอ ตั้งใจหน่อยแล้ว ใช้โอกาสที่เรียนมหาวิทยาลัยหา สักคน ถ้าปล่อยโอกาสนี้ผ่านไปก็อาจจะไม่มีหวัง แล้ว”เพื่อนอีกคนที่ชื่อ “หลี่น่า”ก็พูดขึ้นบ้าง

“เรื่องวาสนาของแบบนี้ใครจะไปกำหนดกฏ เกณฑ์ได้ คงต้องแล้วแต่ตัวเธอเอง”หลิวหงแม้จะ เอ่ยแบบนี้ แต่ในใจก็แอบหวังอยู่ไม่น้อย อีกสักครู่เจ อติงหรุ่ย ต้องเตือนเธอเอาไว้

พวกเธอเดินออกมาจาอาคารสนามบิน

“ฉันรู้สึกหิวนิดหน่อย พวกเธอล่ะ”หลิวหงลบ ท้องตนเองพลางเอ่ย ความจริงทั้งสองก็หิวแล้ว วัน นี้พวกเธอนั่งรถจากอำเภอมาที่ฮาร์บินแต่เช้า รีบร้อน ขึ้นเครื่องบิน ได้กินอาหารว่างเล็กน้อยบนเครื่อง ตอนนี้แน่นอนว่าต้องหิวแล้ว

“พวกเธอหิวแล้ว มา รีบกินกันเถอะ ฉันทำ หมั่นโถมาหลายลูก แล้วก็ยังเอาผักดองมาด้วย รสชาติดีเป็นพิเศษ”ตอนนี้เอง ผู้หญิงคนหนึ่งที่เดิน ตามมาด้านหลังพวกเธอตลอดก้าวมาข้างหน้า พูด อย่างมีน้ำใจพลางเปิดกระเป๋าเป้ของตนเองออกเตรียมจะหยิบหมั่นโถและผักดองออกมา

เธอก็คือแม่ของจงยู่ –ช่ายหนง เห็นเธอสวม เสื้อแขนสั้นสีเขียวอ่อน กางเกงขาสั้นสีดำ รองเท้า ผ้าใบเก่าๆคู่หนึ่ง

แม้จะไม่ได้สวมชุดสวยงามอะไร แต่รูปร่าง หน้าก็สวยทีเดียว เพราะเธอต้องตรากตรำทำงาน กลางไร่นามานานหลายปี ทำให้สีผิวเธอดำเล็กน้อย บนใบหน้ามีริ้วรอยบางๆ

“รีบปิดกระเป๋าเป้เดี๋ยวนี้ อายเขามั้ยล่ะ เธอ”หลิวหงรีบห้ามปรามช่ายหนง แค่ที่พูดคุยกันนั้น ก็ลืมช่ายหนงคนนี้ไปแล้ว เมื่อวานที่เธอคุยโทรศัพท์ กับลูกสาวติงหนุ่ยนั้น บอกว่าตนเองจะมาเที่ยวที่จิน หลิงสองวัน ถือโอกาสมาเยี่ยมเธอด้วย คิดไม่ถึงว่า ติงหรุ่ยจะให้ตนพาช่ายหนงมาด้วย บอกว่าลูกสาว เธอก็เรียนมหาวิทยาลัยที่จินหลิง ถือว่าช่วยเพื่อน

ทำอะไรไม่ได้ เธอจำต้องพาช่ายหนงมาด้วย แน่นอนว่า เธอไม่เชื่อเด็ดขาด ว่าลูกสาวตนเองจะ ใจดีขนาดนี้ แต่ทำไมต้องพาช่ายหนงมาด้วยนั้น หลิวหงก็ยังคิดไม่ตก

“รีบปิดไปสิ เธอกลัวว่าคนอื่นจะไม่รู้ว่าเธอมุด ออกมาจากเขาหรือยังไง”เฝิงโหย่หลันเอ่ยพลาง ขมวดคิ้ว

ช่ายหนงปิดกระเป๋าเป้แล้ว ในใจก็ไม่เข้าใจกินหมั่นโถกับผักดองนี้มันน่าอับอายขนาดนี้เลยเห รอ

“ถ้าเธออยากขายหน้าไม่ต้องลากพวกเรา เข้าไปด้วย ฉันนี่นับถือเธอจริงๆ ถ้าไม่บอกว่าอยู่ใน กะลาก็คือไม่เคยออกมาดูโลกภายนอกมาก่อน เดิน กับเธอ คนอื่นอาจจะหัวเราะพวกเราได้ ใช่มั้ย หลิว หง”หลี่น่าเอ่ยพลางถลึงตาใส่ช่ายหนง แล้วชำเลือง มองหลิวหง : “หรือพวกเราจะทิ้งเธอไปเลยดี ใน เมื่อเงินค่าตั๋วเครื่องบินก็ออกให้เธอแล้วนี่ ก็ถือว่า เธอได้ประโยชน์ไปแล้วไม่น้อย”

หลิวหงมองช่ายหนงผ่านแว่นกันแดดด้วย สายตาดูแคลน หัวเราะเยาะออกมา : “ช่างเถอะ ลูกสาวฉันกับลูกสาวเธอก็ถือว่าเป็นเพื่อนกัน ในเมื่อ เป็นคนดีแล้วก็ต้องดีให้ถึงที่สุด ให้เธอได้อาศัย บารมีพวกเราต่อไปอีกนิดเถอะ อย่าให้พูดได้ว่าพวก เรามาถึงจินหลิงแล้วก็ไม่สนใจเธออีก”

พูดจบ หลิวหงกับพวกสามคนก็เดินไปข้าง หน้า เดินไปคุยกันไป ชายหนงเดินอยู่ด้านหลังคน เดียว ก็เหมือนกับผู้ติดตามอย่างนั้น

“หลิวหง ที่เมืองจินหลิงมีนายแบบเยอะ มั้ย”เฝิงโหย่หลันเอ่ยถามหลิวหงด้วยสายตามีความ หวัง บ้านของหลิวหงที่อำเภอของเธอนั้น ถือว่ามี อำนาจบารมีพอสมควร ก็นับว่าไม่ขัดสน ครั้งนี้นอกจากมาเยี่ยมลูกสาวแล้ว หลิวหงก็มีแผนของ ตนเอง ไม่อย่างนั้นก็คงไม่พาสองคนนี้มาด้วย

“แน่นอนว่าเยอะมาก เธอไม่เคยดูในข่าวเหรอ ที่เซี่ยงไฮ้มีสโมสรม้าขาวใช่มั้ย เธอคิดว่าสโมสร แบบนี้ ถูกเปิดโปงไปคนหนึ่งก็ไม่มีแล้ว ความจริง แล้วมีเยอะมาก จินหลิงก็อยู่ใกล้เซี่ยงไฮ้ขนาดนี้ แน่นอนว่ามีไม่น้อย”หลิวหงหน้าตาท่าทางรู้เรื่องดี ความจริงแล้วเธอก็ทำเป็นข่มสองคนนี้เท่านั้นเอง

การเดินทางมาจินหลิงในครั้งนี้จะหาสโมสร พบหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสองคำนี้ โชคชะตา

“เฮ้อ เธอพูดแบบนี้ฉันก็สบายใจแล้ว ฮาๆ ความฝันของฉันตั้งแต่เด็กก็คือพยายามเก็บเงินเพื่อ จะได้นอนกับนายแบบหนุ่มๆ ในที่สุดความฝันก็ใกล้ เป็นจริงแล้ว”เผิงโหยหลันเอ่ยอย่างยินดีปรีดา

“ครั้งนี้พวกเธอมากับฉัน ต่อให้ไม่ได้นอนกับ นายแบบ ฉันรับรองว่าจะทำให้พวกเธอสนุกอย่าง แน่นอน ได้จับไม้จับมือกับหนุ่มน้อย แน่นอนว่าต้อง มีแน่”หลิวหงเอ่ยอย่างมั่นใจ

“ชู่ เบาเสียงหน่อย ด้านหลังมีคนตามมาอยู่ นะ”หลี่น่าเหลือบมองไปที่ชายหนังด้านหลัง เรื่อง แบบนี้พูดไปก็น่าขายหน้า

“กลัวอะไร ถ้าหล่อนกล้าพูดเหลวไหล ฉันจะ ทั้งหล่อนไว้ที่จินหลิงนี่แหละดูสิว่าหล่อนจะกลับยังไง ต่อให้กลับไปได้ พวกเราก็มีวิธีจัดการเล่นงาน หล่อนได้อีกมากที่อำเภอ ฉันไม่เชื่อว่าหล่อนจะกล้า หือ”หลิวหงพูดอย่างดูถูก

พอหลิวหงเอ่ยอย่างนี้ ทั้งสองก็วางใจ

“โอ้ย พวกเธอว่า ผู้หญิงอายุอย่างพวกเราไป หาหนุ่มๆ มันจะดูน่าเกลียดเกินไปมั้ย”เฝิงโหย่หลัน พูดจบ ผู้หญิงสามคนหัวเราะร่า

พวกเธอพูดคุยหัวเราะกันจนเดินมาถึงข้าง ถนนด้านนอกสนามบิน

ตอนนี้เอง รถบีเอ็มดับเบิลยูซีรี่ย์3จอดอยู่ด้าน หน้าพวกเธอ เมื่อหลิวหงและคนอื่นรู้สึกแปลกใจ ติง หรุ่ย จงยู่ ฉินหลั่ง เกาหยวนก็ลงมาจากรถ

“หรุ่ยรุย เป็นลูกเองเหรอ”หลิวหงพินิจ พิจารณาลูกสาวตนเอง แม่ลูกเตรียมจะพูดคุยกัน ก็มี เสียงจากข้างดังกลบพวกเธอขึ้นมา

“แม่ แม่มาแล้วจริงๆ หนูดีใจมากเลยจริงๆ”จง ยู่ดึงมือแม่

“ไม่จริงหรือไง ลูกมาเรียนมหาวิทยาลัยสองปี แล้ว แม่ไม่ได้มาเยี่ยมลูกเลย ในใจแม่ก็รู้สึกผิดไม่ น้อย ลูกสาวแม่ ให้แม่ดูสิ อึม โตเป็นสาวสวย แล้ว….”

จงยู่กับช่ายหนงพูดคุยกันราวกับไม่มีใครคนอื่นอยู่ด้วย เวลานี้เองจึงสังเกตว่า สายตาของทุกคน จับจ้องมาที่พวกเธอ ก็เงียบเสียงลงทันที

“ขอโทษด้วย เสียงดังรบกวนพวกคุณ แล้ว”ช่ายหนงเอ่ยกับหลิวหงอย่างเขินๆ

“หล่อนคิดว่าที่นี่เป็นงานรื่นเริงของบ้านเธอ หรือไง ในคอนี่ใส่ลำโพงเข้าไปเหรอ”หลิวหงถลึงตา

ใส่ช่ายหนง เอ่ยอย่างไม่พอใจ

“แม่ ฉันจะแนะนำให้แม่รู้จักใครบางคน”ติงห์ รุ่ยแทบจะสะกดกลั้นความยินดีไว้ไม่อยู่ ดึงเกา หยวนมาข้างๆ : “เขาชื่อว่าเกาหยวน แฟนของหนู ค่ะ”

“โอ้…”หลิวหงชะงักไปเล็กน้อย แล้วจึงพินิจ พิจารณาเกาหยวน ผิวพรรณดี รูปร่างสูงหน้าตาหล่อ เหลา ดูแล้วมาจากครอบครัวที่ดีมีชาติตระกูล ความ ทรงจำแรกของหลิวหงที่มีต่อเขาถือว่าไม่เลว

“สวัสดีครับคุณน้า”เกาหยวนเรียกด้วยรอย ยิ้ม : “รถบีเอ็มดับเบิลยูซีรี่ย์สามคันนี้ ซื้อเมื่อปีที่แล้ว พ่อผมบอกว่า รอให้ผมแต่งงาน แล้วจะซื้อปอร์เช่ให้ ผมอีกหนึ่งคัน”

“อื้อคือ ฉันขอดูหน่อยสิ”หลิวหงพอได้ยินที่ เกาหยวนพูด นี่คือทายาทเศรษฐีเหรอนี่ เธอพยัก หน้า เดินไปด้านหน้ารถบีเอ็มดับเบิลยูเอามือลูบๆ คลำๆ ผิวสัมผัสสุดยอดมาก ในใจเรียกว่าพึงพอใจเดิมคิดอยากจะเตือนลูกสาวให้หาแฟนรวยๆ คิดไม่ ถึงว่าติงหรุ่ยจะหาได้แล้ว ทั้งยังเป็นชายหนุ่มที่แข็ง แรงบึกบีน สมกับที่เป็นลูกสาวของตน

“พ่อหนุ่มคนนี้เป็นใคร”สายตาหลิวหงมองไป ยังฉินหลั่ง

“อ้อ เขาเหรอ ฉินหลั่ง แฟนของจงยู่ค่ะ”ฉิน หลั่งเตรียมอ้าปากพูด แต่ถูกติงหรุ่ยชิงตอบเสียก่อน ตอนที่พูด สีหน้ายังมีแววดูถูกเหยียดหยามเล็กน้อย

ช่ายหนงมองไปที่ฉินหลั่งอย่างไม่รู้ตัว

“บ้านจงยู่ไม่ใช่ว่าจนเหรอคะ จะว่าไปแล้วก็ เป็นเพื่อนคนหนึ่ง หนูก็เลยให้แม่รับแม่เธอมาด้วย แม่ดูฉินหลั่งแต่งตัวสิคะ ก็รู้แล้ว เขาก็เหมาะสมกับ จงยู่ ไม่ค่อยมีเงินเหมือนกัน หนูก็เลยให้เกาหยวน รับพวกเขามาด้วย”ติงหรุ่ยเอ่ยถึงสภาพของจงยู่ให้ แม่ฟัง

“อย่างนี้เองเหรอ”พอได้ยินลูกสาวพูด จงยู่ และฉินหลั่งใกล้เคียงกัน ในใจหลิวหงก็รู้สึกโล่งอก หี ครอบครัวของช่ายหนงก็ต้องเหมาะกับคนกระ จอกๆ เทียบกับติงหรุ่ยของพวกเราแล้ว ต่างกันราว ฟ้ากับเหว

“จงยู่ น้าไม่ได้จะว่าเธอนะ ครอบครัวเธออยู่ใน สภาพไหนเธอก็คงรู้ดี มามหาวิทยาลัยก็เพื่อให้เธอ ร่ำเรียนหนังสือ ไม่ใช่ให้เธอมาหาคู่ เธอจะมาเทียบกับหรุ่ยรุยของพวกเราไม่ได้ ต่อให้หรุ่ยรุยไม่เรียน มหาวิทยาลัย ครอบครัวของพวกเราก็สามารถหา งานให้เธอทำได้ ส่วนเธอ ก็คงต้องอยู่กับความเป็น จริง อย่าคิดฝันลมๆแล้งๆ ต่อให้เธอคิดอยากจะหาคู่ จริงๆ อย่างน้อยก็เลือกให้มันดีๆ ไม่ใช่ว่าเอาคนแบบ ไหนมาก็ได้”

หลิวหงเองก็ไม่กลัวว่าฉินหลั่งนั้นก็อยู่ตรงนี้ ด้วย เอ่ยกับจงยู่อย่างไม่ไว้หน้า “ช่ายหนงเธอเองก็เหมือนกัน จงยู่อายุยัง

น้อย ยังไม่ประสีประสา เธออายุเท่าไหร่แล้ว ยังไม่รู้ จักสอนลูก โอ้ย ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป ครอบครัวของพวกเธอก็ต้องจนอยู่แบบนี้ไปตลอด ชีวิต”หลิวหงเอ่ยแนะนำช่ายหนง”อย่างหวังดี”

ฉินหลั่งเริ่มทนฟังต่อไปไม่ไหว คุณนี่ช่างวุ่น วายจริงๆ ไม่ใช่ลูกสาวของตนเองก็ยังสาระแน

ที่คุณพูดมีกำลังดูถูกเหยียดหยามใคร ในปาก มีหมาอยู่หรือไงกัน

กำลังคิดจะโต้แย้งหลิวหงสักสองประโยค จง ยู่ก็ห้ามเขาไว้ ส่ายหน้ากับเขา

“เฮ้อ พ่อหนุ่มนี่ก็อารมณ์ร้อนนะ ฉันพูดล้วน เป็นความจริง หวังดีต่อเธอ เธอก็ยังไม่พอใจทำไม หรือ”ที่อำเภอหลิวหงเองก็วางอำนาจไม่เบา ปกติ ไม่มีใครกล้ามีปากมีเสียงกับเธอ เห็นคนกระจอกๆอย่างฉินหลั่งจะโต้ตอบ แน่นอนว่าเธอไม่พอใจ

“ใช่ แม้ว่าหลิวหงอาจจะพูดแรงไปนิด แต่ อย่างไรเสียเธอก็อาวุโสกว่า เธอมีมารยาทหรือเปล่า เป็นถึงนักศึกษานะ”เฝิงโหย่หลันฉวยจังหวะบ่น พีมพำ

“จงยู่ ต่อไปดูให้ดี ว่าคนที่เธอคบหาด้วยนั้น เป็นคนแบบไหน นิสัยใจคอเป็นยังไง ไม่ไหวจริงๆ ก็เปลี่ยนคนเถอะ ในเมื่อฉันก็เห็นว่ามันไม่ดี”หลี่น่า เอ่ยพลางเหลือบมองฉินหลั่ง

สุดท้าย ช่ายหนงก็ขอโทษหลิวหง เรื่องนี้จึง ได้ผ่านไป

“เอาล่ะ คุณน้า พวกคุณคงจะหิวกันแล้ว ผู้รู้จัก ร้านอาหารฝรั่งร้านหนึ่งอร่อยมาก พวกเราไปทาน ด้วยกันนะครับ”เกาหยวนพูดกับหลิวหง

“อย่างเสี่ยวเกานี่ถึงจะเรียกว่ารู้กาลเทศะ รู้ว่า พวกเราคิดอะไรอยู่ ดีกว่าคนบางคนเยอะแยะ ไป เถอะ พวกเราหิวแล้วจริงๆ”หลิวหงยิ่งมองฉินหลั่งก็ ยิ่งโกรธ เข้าไปนั่งในรถของเกาหยวน

“ฉินหลั่ง พวกเธอก็ไปด้วยกันสิ ฉันเลี้ยงพวก นายมื้อหนึ่ง พวกนายไม่ต้องจ่าย”เกาหยวนยิ้มอย่าง เจ้าเล่ห์พูดว่า : “รถของฉันไม่มีที่นั่งแล้ว คงให้พวก เธอนั่งรถฟรีไม่ได้แล้ว พวกนาหารถนั่งไปกันเอง แล้วกันนะ เงินค่ารถแท็กซี่มีมั้ย ถ้าไม่มี ฉันให้นายยืมก่อนได้นะ”

“ไม่จำเป็น”ฉินหลั่งเอ่ยเอ่ยเรียบๆ

“อย่างนั้นก็ดี ร้านสะแดนโกไม่เคยไปใช่ ไหม ครั้งนี้ถือว่าพวกนายได้รับอานิสงส์ไปด้วย ได้ กินอาหารฝรั่งชั้นเลิศฟรีๆหนึ่งมื้อ”เกาหยวนพูด อย่างสะใจเสร็จ ก็เปิดประตู ขับรถบีเอ็มดับเบิลยูออก ไป

พอนึกถึงทัศนคติของพวกเกาหยวน ฉินหลั่ง ก็ไม่อยากไป แต่พอคิดถึงห้องของจื่อซวนเกสท์ เฮ้าส์ที่เขาจองเอาไว้แล้วนั้น ไปทานอาหารกับพวก เขาสักมื้อจะเป็นอะไรไป

เดี๋ยวก่อน ทำไมชื่อร้านอาหารฟังดูคุ้นหูจัง เลยนะ

“เป็นร้านที่ฉันเคยทำงานอยู่”เวลานี้เอง จงยู่ เอ่ยกระซิบเบาๆกับฉินหลั่ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ