รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 303 บีบบังคับ



บทที่ 303 บีบบังคับ

“อาหม่า คุณอย่าทำเกินเหตุไปเลย!” หยูหมิงพูด อย่างโกรธกรุ่น

หม่าหุ้ยกำลังยุให้คนอื่นหักหลังตระกูลหนู ร่วม กับเขา เขาเองก็ตระหนักว่าผู้บริหารระดับสูงเหล่านั้นที่ เป็นฝ่ายขอลาออกเองก่อนหน้านี้ เป็นไปได้สูงว่าหม่า ฝูหรุยอาจเป็นคนวางแผน!

คุณชายรวยรุ่นที่สองคนอื่นๆ ก็ทนมองต่อไปไม่ ไหว พากันตำหนิหม่า หุ้ย พวกเขาล้วนเป็นชายหนุ่ม รุ่นใหม่ไฟรง พูดจาคงไม่อาจไว้หน้า ต่างด่าทอหม่าฟูห รู้ว่ากินที่ลับไขที่แจ้ง หมาป่าตาขาว คงไม่ได้ตายดี..

หม่าหุ้ยทำเหมือนไม่เห็นต่อคำตำหนิของกลุ่ม คน ยังคงพูดล็อบบี้ผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆ ด้วยรอยยิ้ม เย็นชา ทำเอาเหล่าคุณชายรวยรุ่นที่สองที่อารมณ์ร้อน ปะทุเพลิงโทสะต่างอยากกระโจนไปต่อยเขาสักหมัด

ภายใต้การสนับสนุนอันดังของหม่าฟูหตุ้ย ผู้ บริหารระดับสูงคนอื่นๆ ต่างก็ใจเต้น และเริ่มมีคนค่อยๆ ลุกขึ้นยืน หันไปลาออกกับหยูจื้อ ภายใต้อิทธิพลความ คิดมวลชน คนอื่นๆ เกือบจะทั้งหมดล้วนอยากลาออกกัน ทั้งนั้น

“ประธานหยู ผมไม่ทำงานแล้ว”

“ผมก็ไม่ทำแล้ว! ผมดูแล้วตระกูลหยูไม่สามารถข้ามวิกฤตครั้งนี้ไปได้หรอก!”

“นั่นสิ ประธานหยู ท่านตายก็อย่าลากพวกเราไป

ด้วย”

เหล่าผู้บริหารระดับต่างแสดงทัศนคติเชิงลบต่อ วิกฤตครั้งนี้ของบริษัทหัวเสร์ และจากคำพูดของหม่าฝห รั้ย พวกเขายังฟังออกว่าหม่าฝูหรุ้ยได้ปูทางข้างหน้าให้ พวกเขาแล้ว ดังนั้นยามนี้ ในใจพวกเขาจึงอยากประจบ หม่าฟูหนุ้ยเป็นพิเศษ

เวลาสั้นๆ เพียงสิบกว่านาที ผู้บริหารระดับสูงของ บริษัทหัวเสร์แปดสิบเปอร์เซ็นต์ล้วนลาออก สำหรับตระ กูลหยูซึ่งตกที่นั่งลำบากแล้วนี่กล่าวได้ว่าเป็นเคราะห์ซ้ำ กรรมซัด

“ฝูหรุ้ย คนที่อยู่เบื้องหลังนายเป็นใคร คนที่จ้อง เล่นงานตระกูลหยูของผมในครั้งนี้เป็นใคร ตอนนี้นาย บอกฉันได้แล้วกระมัง” หยูจื้อเอ่ยถาม

เขามองปัญหาในเชิงลึกและแม่นยำ พฤติกรรม ของหม่าหุ้ยดูผิดปกติเกินไปจริงๆ การแสดงออกเช่น นี้ของเขามีเพียงสาเหตุเดียวก็คือเขารู้ว่าคนที่จ้องเล่น งานตระกูลหยูในครั้งนี้ภูมิหลังยิ่งใหญ่มาก ตระกูลหยู แทบไร้ความหวังจะพลิกสถานการณ์ ดังนั้นเขาจึงกล้า ยุยงส่งเสริมให้พนักงานลาออกอย่างประเจิดประเจ้อต่อ หน้าเขาแบบนี้!

“ที่แท้คุณก็คือไส้ศึกนี่เอง! หม่าฝูหรุ้ย เสียแรงที่พวกเราตระกูลหยูดีกับคุณขนาดนั้น!” หยูหมิงได้ยินที่ พ่อพูดก็เข้าใจเลยว่าหม่าฝหรุ้ยรู้ว่ามีอทมิฬเบื้องหลังนั้น เป็นใคร

“ฮ่าๆ ประธานหยู คุณก็ยังฉลาดเหมือนเดิมสินะ ถูกต้อง ผมรู้ว่าใครกำลังเล่นงานครอบครัวคุณอยู่!” หม่า ฝูหนุ้ยพูดอย่างลำพอง หน้าที่เขาในยามนี้เสร็จสิ้น บริบูรณ์แล้ว ดังนั้นจะหงายไพ่ใส่หยูจื้อก็คงไม่มีผลกระ ทบอะไรหรอก!

พอเขายอมรับ เสียงด่าทอของคุณชายรวยรุ่นที่ สองรอบด้านก็ดังขึ้น เป็นคำผรุสวาทประเภทสาดเสียเท เสีย มีทั้ง “หมาป่าตาขาว” “หมาทรยศ” “หน้าไม่อาย” ไม่เข้าหูเท่าไร

“พวกเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างพวกนายมี คุณสมบัติอะไรมาด่าฉัน ฉันเป็นผู้อาวุโสของพวกนาย นะ!”

หม่าหลุยส์โพล่งเสียงใส่เหล่าคุณชายรวยรุ่นที่ สอง แล้วกว่าดตามองพวกเขารอบๆ พูดพร้อมหัวเราะ เสียงเย็นว่า “พวกนายไม่ได้รู้แล้วเหรอว่าใครกำลังจ้อง เล่นงานตระกูลหยูอยู่อันที่จริงพวกนายก็รู้กันหมดแหละ เขาก็เป็นคุณชายใหญ่คนหนึ่งของหลินอานเหมือนกัน!”

คุณชายใหญ่ของหลินอาน?

คุณชายรวยรุ่นที่สองต่างมองหน้าสบสายตากัน นี่จะเป็นไปได้อย่างไรกัน คุณชายใหญ่แห่งหลินอาน ไม่มีใครเป็นอริกับตระกูลหยู
“อุ้ย! คุณชายใหญ่แห่งหลินอานก็ยืนอยู่ที่นี่กัน หมด พวกเราต่างก็มาที่นี่เพื่อสนับสนุนคุณชายหยูกันทั้ง นั้น” ซุนเจี้ยนคุณชายรวยรุ่นที่สองโพล่งคำหยาบใส่ หม่า หุ้ย

“เดี๋ยวก่อนนะ ทำไม่ไม่เห็นคุณชายฉาว คุณชาย ฉาวอยู่ไหน” ในหมู่คุณชายรวยรุ่นที่สอง จู่ก็มีคน สังเกตว่าฉาวหนิงจากตระกูลฉาวไม่ได้อยู่ที่นี่ ทุกคนต่าง มองกันและกัน ไม่เห็นเงาของฉาวหนิงจริงๆ ด้วย

ในใจหยูหมิง หยูจื้อตกตะลึงพร้อมกัน หรือจะเป็น ตระกูลฉาว..

“ทุกคนมาเร็วกันจัง ผมสายแล้ว ขอโทษจริงๆ นะ!” เวลานี้ ประตูห้องประชุมถูกผลักเปิด ฉาวหนิงที่ บุคลิกเด่นสง่าและพ่อของเขาฉาวเจี้ยนเฟิงสาวเท้าฉับ เข้ามา ที่ต่างจากปกติคือ ฉาวหนิงสวมแว่นตาทรงกลม ด้านหลังพวกเขายังมีนักข่าวกลุ่มหนึ่งตามมาด้วย

“เห พวกนักข่าวใครให้พวกคุณเข้ามา! ออกไป!” พอเห็นนักข่าวก้าวขึ้นมา คุณชายรวยรุ่นที่สองหลายคน ก็รีบก้าวขึ้นหน้าทันควัน ตั้งท่าจะไล่ออกพวกออกไป

ตอนนี้ตระกูลหนูกำลังเผชิญปัญหาใหญ่ขนาดนี้ หนำซ้ำยังมีคนตั้งมากมายอยากลาออกอีก นี่ถ้าหาก เรื่องนี้มีการเผยแพร่โดยนักข่าวออกไปในวงกว้าง ก็จะ ยิ่งทำให้ความกังวลใจของโลกภายนอกที่มีต่อตระกูลห ยูเพิ่มมากขึ้น และมันมีแต่เสียกับเสียต่อการแก้ไข สถานการณ์ตอนนี้ของตระกูลหยู
“ซ้าก่อน ฉันเป็นคนให้พวกเขาเข้ามาเอง!” ฉาว หนิงขวางคุณชายรวยรุ่นที่สองหลายคนเอาไว้ พูดด้วย สายตาฉายแววถือดี

“คุณชายฉาว คุณคิดจะทำอะไร พวกเรามาเพื่อ ช่วยแก้ไขปัญหายากให้ตระกูลหยู ไม่ได้มาเพื่อเพิ่ม ความวุ่นวายให้พวกเขา!” หนึ่งในคุณชายรวยรุ่นที่สองที่ ถูกห้าม พูดกับฉาวหนิงเสียงต่ำ

พวกเขาก็ยังคิดว่าที่ฉาวหนิงมาวันนี้ก็เพราะเสริม สร้างฐานมั่งคงให้ตระกูลหยู พวกเขาคิดไม่ถึงเลยสักนิด ว่าตระกูลฉาวที่ขุมอำนาจอ่อนแอกว่าตระกูลหยูมากโข นั้นจะเป็นมือทมิฬหลังม่านคนนั้น

“ก็เพราะฉันอยากช่วยแก้ไขปัญหาให้ตระกูลหยู ไง ดังนั้นฉันจึงต้องการนักข่าวพวกนี้ สิ่งที่จะเกิดต่อไปนี้ เป็นเรื่องใหญ่ของหลินอาน!” ฉาวหนิงพูดพลางผลัก คุณชายรวยรุ่นที่สองที่ขวางหน้านักข่าวออก แล้วพาก ลุ่มนักข่าวมากมายเดินเข้าไปในโถงประชุม

เรื่องใหญ่ของหลินอาน?

คุณชายรวยรุ่นที่สองคนอื่นๆ เห็นท่าทีของฉาว หนิงเมื่อครู่ต่างพากันตกใจอย่างอดไม่ได้ ฉาวหนิงในวัน นี้แข็งแกร่งยิ่งนัก ดูเหมือนไม่ได้เจอกันสักพัก เขาจะ ไม่ใช่นักศึกษาที่วางตัวสุภาพคนนั้นอีกต่อไปแล้ว

“คุณชายหยู ลุงหยู สวัสดี!” ฉาวหนิงหันไปกล่าว ทักทายสองพ่อลูกหยูจื้อ

ฉาวเจี้ยนเฟิงที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาก็มองไปทางพ่อลูกแซ่หยูด้วยสีหน้าปั้นยาก ก่อนมองลูกชายของตนอีก ครั้ง ตอนนี้ในใจเขาระส่ำระสายหาใดเปรียบ ลูกชายของ ตนจะกว้านซื้อบริษัทหัวเสร์ไว้จริงๆ หรือไม่

ถ้าหากความแตก วันนี้ล่วงเกินตระกูลหลินอาน ตั้งมากมายขนาดนี้ พวกเขาตระกูลฉาวคงไม่เหลือหลอ แล้ว

“ฉันมาวันนี้ก็เพื่อเรื่องเดียวเท่านั้น ฉันอยากรับ ซื้อสินทรัพย์ทั้งหมดของตระกูลหยู!” ฉาวหนิงพูดจุด ประสงค์ในการมาของตนอย่างตรงไปตรงมา

ทันทีที่คำพูดนี้ของเขาเอ่ยออกมา หยูหมิงก็โกรธ เขาชี้ฉาวหนิงแล้วด่าว่า “ฉาวหนิง เป็นนายจริงๆ ด้วย เป็นนายที่สมรู้ร่วมคิดกับหม่าฟู่หลุย โลภทรัพย์สินของ พวกเราตระกูลหยูสินะ! ว่ามา ใครเป็นคนชี้นำพวกนาย มือทมิฬหลังม่านที่แท้จริงเป็นใครกันแน่”

หยูหมิงสรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตระกูลหยูว่ามี ส่วนเกี่ยวข้องกับฉาวหนิง แต่เขารู้ดีว่าตระกูลฉาวไม่ได้ มีกำลังแข็งแกร่งขนาดนี้แน่นอน เบื้องหลังเขาจะต้องมี คนกำลังปลุกปั่นเรื่องนี้อยู่แน่ๆ!

คุณชายรวยรุ่นที่สองคนอื่นก็โกรธระอุไม่หาย พวกเขาส่อเสียดฉาวหนิงว่า “จิตใจมนุษย์ไม่รู้จักพอ” ระวังจะต้องตายในตอนท้าย

เผชิญหน้ากับการถากถางของหยูหมิงกับเหล่า คุณชายบ้านรวย ฉาวหนิงหัวเราะน้อยๆ เรื่องพวกนี้เขา เดาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เขาคิดในใจ พวกนายถือดีไปเถอะอีกหน่อยก็คงถึงคราวให้พวกนายร้องไห้อ้อนวอนฉัน แล้ว

“ลุงหยู ผมคิดว่าคุณรู้สถานการณ์ในตอนนี้ของ บริษัทหัวเสร์ดีกว่าผม หากสถานการณ์เลวร้ายต่อไป เรื่อยๆ ความเสียหายของบริษัทหัวเสร์ก็คงเฉียดหลาย หมื่นล้าน ถึงตอนนั้นคุณจะยื่นฟ้องล้มละลายกับรัฐบาล ทรัพย์สินของคุณก็จะหดหายเป็นก่ายเป็นกองเชียว คุณ อย่าบอกผมนะว่าตอนนี้คุณยังคิดว่าหัวเสร์ยังมีโอกาสจะ พลิกกลับมาชนะได้อีก ดูเหล่าผู้บริหารระดับสูงของคุณ สิ พวกเขาพากันขอคุณลาออกกันหมดแล้ว ตอนนี้บริษัท หัวเสร์มีปัญหาทั้งภายในและภายนอก ต่อให้เทพเซียน มาก็ไม่สามารถช่วยชีวิตพวกคุณจากหายนะสองอย่างนี้ ได้”

คำพูดของฉาวหนิงเต็มไปด้วยความมั่นใจ ราวกับ ว่าทุกอย่างล้วนอยู่ในกำมือเขาหมดแล้ว

“ตอนนี้ผมยินดีจ่ายเงินสามหมื่นล้านเพื่อรับซื้อ หัวเสร์และทรัพย์สินทั้งหมดที่คุณมีในหลินอาน ผม อยากให้คุณทบทวนให้ดีก่อน”

ฉินหยวนให้อำนาจฉาวหนิงรับซื้อในจำนวนสาม หมื่นห้าพันล้านหยวน แต่ฉาวหนิงคงไม่อาจหงายไพ่ ตายของตัวเองออกมาตั้งแต่เริ่มต้นแน่ เขายังต้องเหลือ ไว้สำหรับช่องว่างเพิ่มราคาให้ตัวเองด้วยห้าพันล้าน

ได้ยินตัวเลขสามหมื่นล้าน เหล่าผู้สื่อข่าวต่างทำ หน้าตกอกตกใจทันที หากธุรกรรมนี้เสร็จสมบูรณ์ จะ เป็นการซื้อกิจการครั้งใหญ่ที่สุดในเขตหัวตงมณฑลหลินอานไปจนถึงเจ้อเจียงจะต้องระอุอินเทอร์เน็ตอย่าง แน่นอน

ส่วนคุณชายรวยรุ่นที่สองต่างทำหน้าดูแคลน พวกเขาต่างรู้ดีว่าฉาวหนิงไก่อ่อนขนาดไหน ครอบครัว พวกเขาจะจ่ายเงินสามหมื่นล้านหยวนได้อย่างไรกัน นี่ เป็นการเอาฉาวหนิงมาฉายตลกทั้งนั้น

ฉาวเจี้ยนเฟิงที่ยืนอยู่ข้างฉาวหนิง เวลานี้ยิ่งอยู่ ไม่สุขเขาในฐานะผู้นำตระกูลฉาว รู้ดีถึงสถานการณ์ใน ตระกูลของตน เขามีทรัพย์สินครอบครัวก็แค่สามพันล้าน เงินกองทุนสภาพคล่องยิ่งมีไม่ถึงหนึ่งร้อยล้านด้วยซ้ำ!

ฉาวหนิงโพล่งออกมาว่าสามหมื่นล้าน บอสใหญ่ คนนั้นที่อยู่เบื้องหลังเขา จะมีขุมอำนาจแข็งแกร่งขนาด นี้จริงๆ หรือ

ถ้าหากแค่หยอกฉาวหนิงเล่นเช่นนั้นพวกเขา ล้วนหาเรื่องตระกูลใหญ่ทั้งหมดในหลินอาน ก็คงอยู่อยู่ หลินอานต่อไปไม่ได้แล้ว

“ดูเหมือนพวกเขาไม่เชื่อว่านายจะจ่ายเงินสาม หมื่นล้านได้จริงๆ ถ้าอย่างนั้นนายแค่พิสูจน์ให้พวกเขา เห็นก็สิ้นเรื่อง!” ในหูฟังบลูทูธที่ฉาวหนิงใส่ไว้ในหมี เสียงเกียจคร้านของฉินหยวนดังลอยมา

อันที่จริงแว่นตาที่ฉาวหนิงสวมก็ติดตั้งกล้อง ขนาดเล็กเอาไว้ ฉินหยวนจะได้เห็นฉากทุกตอนในห้อง ประชุม จากนั้นเขาก็ออกคำสั่งทางไกลกับฉาวหนิงผ่าน ชุดหูฟังบลูทูธ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนอยู่ในกำมือของเขาทั้งสิ้น

“ตอนนี้นายจะโทรศัพท์ไปที่สำนักงานใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ก็ได้ ค้นหาหมายเลขบัญชี SNB245654684258 ฉันจะพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นว่า ตอนนี้ในบัญชีมีเงินฝากมากกว่าสามหมื่นล้านหยวน”

“ผมรู้ว่าพวกคุณคงไม่เชื่อว่าตระกูลฉาวของผมจะ จ่ายเงินสามหมื่นล้านได้จริงๆ ใช่หรือเปล่า” ฉาวหนิงทำ ตามคำสั่งของฉินหยวนทันที ล้วงมือถือออกมาและโทร ไปที่สำนักงานใหญ่ธนาคารซิตี้แบงก์

“Hello, here is the Citi bank head quarters (สวัสดีค่ะ ที่นี่คือสำนักงานใหญ่ธนาคารซิตี้แบงก์)”

ฉาวหนิงหันหน้าจอโทรศัพท์ไปทางสองพ่อลูก ตระกูลหยูและคุณชายรวยรุ่นที่สองที่อยู่รอบข้างหนึ่ง รอบ พูดว่า “พวกคุณน่าจะรู้ว่านี่คือโทรเบอร์ของ สำนักงานใหญ่ธนาคารซิตี้แบงก์ใช่หรือเปล่า”

ในใจสองพ่อลูกตระกูลหยูและคุณชายรวยรุ่นที่ สองคนอื่นๆ ต่างรัดเกร็งขึ้นมา นั่นเป็นหมายเลขของ สำนักงานใหญ่ธนาคารซิตี้แบงก์จริงๆ หรือตระกูลฉาวจะ จ่ายเงินสามหมื่นล้านได้จริงๆ

“รบกวนคุณช่วยผมตรวจสอบจำนวนเงินในบัญชี นี้ที่ หมายเลขบัญชี 245654685258..” ฉาวหนิงใช้ ภาษาอังกฤษมาตรฐานคุยกับอีกฝ่าย เมื่อพูดจบเขาก็ เปิดฟังก์ชันแฮนด์ฟรี ค่อยๆ ชูมือถือขึ้นให้คนอื่นๆ ได้ยิน กันถ้วนหน้า คอยฟังว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร
ไม่นาน เสียงปลายสายก็ดังลอยออกมาจากมือ

ถือ

“Thank you for your waiting, we have already found out that the current amount in this account has reached $5.041 billion. (ขอบพระคุณสำหรับการรอของท่าน ทางเราตรวจสอบ เรียบร้อยแล้ว จำนวนเงินฝากในบัญชีนี้มีจำนวนถึงห้า หมื่นสี่ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ)”

หลังจากได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย ทุกคนต่างตก อกตกใจ ห้าหมื่นสี่ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ แลกเปลี่ยน เงินหยวนมีจำนวนมากกว่าสามหมื่นห้าพันล้านหยวน เลยเชียว ฉาวหนิงมีเงินขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน

หยูหมิงส่ายหน้ามองฉาวหนิงอย่างไม่อยากเชื่อ ฉาวเจี๊ยนเฟิงมองไปที่ฉาวหนิง นิ่งอึ้งปานไก่ไม้ในใจ เปี่ยมด้วยความกลัวเกรงต่อลูกชาย แต่สีหน้าหยจื้อดู เหมือนไม่ไหวติง ทว่าในใจก็บังเกิดระลอกคลื่นโหม กระพือแล้วเช่นกัน

ฉาวหนิงตัดสายโทรศัพท์ ยิ้มน้อยๆ พลางมองหยู จื้อ

“ลุงหยู ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าผมมีกำลังรับซื้อบริษัท หัวเสร์ของคุณจริงๆ แล้วใช่ไหม ตอนนี้คุณยอมให้ผมรับ ซื้อหัวเสร์ สำหรับคุณ ความมั่งคั่งไม่ได้มีความเสียหาย อะไร แต่ถ้าหากคุณยังดึงดันไม่เลิก ยืนกรานจะหอบหัว เสร์อยู่ในมือตัวเองต่อไป ถ้าอย่างนั้นตระกูลหยูคงมี ความเสียหายหลายหมื่นล้าน ผมเชื่อว่าจากประสบการณ์ยาวนานในโลกธุรกิจของคุณจะต้องตัดสิน ใจเลือกอย่างชาญฉลาดที่สุดแน่นอน”

“ฉาวหนิง นายไสหัวออกไปจากที่นี่ให้ฉันที ตอน นี้ฉันจะให้คำตอบที่ชัดเจนแก่นาย คิดอยากซื้อบริษัทหัว เสร์ของฉัน ไม่มีทางซะหรอก ฉันรู้ ที่พวกเราประสบ วิกฤตในครั้งนี้ก็เป็นเพราะนายกับหม่าหรุยคอยป่วนอยู่ เบื้องหลัง พวกเราจะทำให้นายจ่ายค่าชดเชยแน่” หยูห มิ่งร้องด่า

“หลานรัก เธอพูดแบบนี้ก็ตอบแทนน้ำใจด้วย ความเกลียดชังแล้ว คุณชายฉาวใช้เงินสามหมื่นล้านรับ ซื้อหัวเสร์เพราะอยากช่วยตระกูลหยูแก้ไขปัญหาหนัก เธอไม่รู้จักซาบซึ้งน้ำใจ ซ้ำร้ายกลับด่าทอสาดเสีย คุณชายฉาวกับฉันอีก ฉันดูแล้วจุดจบในวันนี้ของพวก เธอตระกูลหยูก็ช่างสมน้ำหน้าจริงๆ เป็นเวรเป็นกรรม แท้ๆ!” หม่าฝหรุ้ยพูดพลางก้าวขึ้นหน้าด้วยรอยยิ้มเย็น

ชา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ