รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 478 บัตรเชิญงานเลี้ยง



บทที่ 478 บัตรเชิญงานเลี้ยง

มีคนแกล้งเป็นตัวเองทำให้ชื่อเสียงไม่ดี สำหรับฉินหลั่งเป็น เรื่องที่ทนกันไม่ได้ เขารู้สึกว่าควรจะหาเวลา พูดอะไรกับจิ นหวูหุ่ยแล้ว

“งั้นพวกเราเมื่อไหร่จะมีโอกาสได้พบปรมาจารย์ฉินท่านนี้ ล่ะ?” ฉินหลั่งตั้งใจถาม

ศิษย์พวกนั้นก็เริ่มอยู่ไม่เป็นสุข อย่าว่าพวกเขาที่โอ้อวด จนเกินจริง ที่จริงหัวหน้าจะรู้จักพวกเขาหรือเปล่ายังพูดยาก เลย คนที่เสนอแนะพวกเขามายิ่งไม่ต้องพูดถึง

ในตอนนี้สมาชิกในจินหวู่หุ่นก็ตบหัวอย่างแรงกะทันหัน “วันพฤหัสบดี วันพฤหัสนี้ เมืองเย็นจีนจะจัดงานฉลอง สัมพันธมิตรวงการการต่อสู้ พวกเราจินหวูหุ่นก็ลงนามแล้ว ถึงตอนนั้นจะคิดวิธีหาบัตรเชิญมาให้ทุกคน ส่วนมากก็ได้ เห็นปรมาจารย์ฉินที่นั่น เขาเป็นถึงปรมาจารย์ขั้นหนึ่ง เชิญ ท่านไม่ได้ก็ไม่นับว่าเป็นงานเลี้ยงเทศกาลการต่อสู้?”

“ไอหยา เรื่องดีขนาดนี้ ฉันไปๆ!” ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น อย่างดีใจ

“ดีจังเลย น่าจะมีโอกาสได้เจอปรมาจารย์ฉินแล้วใช่

ใหม?” ตอนนี้หวงเกอรู้สึกตัวเองมีหน้ามาก เพราะยังไงโอกาสนี้ ก็ได้ที่บ้านตัวเอง: “คือว่า ฉินหลั่ง พวกเราไปกันใหม? พวก เรานานๆที่จะไม่รวมตัวกัน ไปดูกันเถอะ”

หยินห้าวกับยินถึงดีใจกันอย่างมาก นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้ เข้าถึงวงการการต่อสู้ระดับโลกและยังอยู่ในระดับสูงอีกนะ ถ้าได้ถ่ายรูปร่วมกันจะเป็นเรื่องที่ดีมาก

“หลัวเสี่ยวหู่ งั้นก็ขอร้องนายด้วยแล้วกัน พวกเราจะรอ บัตรเชิญจากนายนะ” หวงเกอพูดอย่างจริงจัง

“เอามาหลายๆ ใบเลยนะ พวกเราจะได้ไปด้วยกัน” ประธานหลี่รู้ว่างานเลี้ยงครั้งนี้มีความสำคัญแค่ไหน ถ้าได้ รู้จักคนใหญ่คนโตในวงการการต่อสู้ ก็จะเป็นประโยชน์แก่ บริษัทของตัวเอง

“คือ….” หลัวเสี่ยวหู่เห็นทุกคนอยากได้ขนาดนี้ ลังเลสัก พักก็พูดว่า: “พูดตามตรงนะ ถ้ามีคนอยากไปเยอะ…ฉันไม่ แน่ใจว่าจะเอาบัตรมาให้ทุกคนได้ไหม”

ในตอนนี้หวงฮ่านโจวก็เดินเข้ามา ถามอย่างสนใจว่า “เสี่ยวหู่ มีความมั่นใจเท่าไหร่?”

หลัวเสี่ยวหูสีหน้ายิ่งดูลำบากใจมากขึ้นไปอีก : “คือว่า.. เรื่องนี้ไม่ง่ายเลยนะ..

และฉินหลั่งรู้สึกประทับใจกับหวงฮ่านโจวมาก เห็น สายตาหวงย่านโจวผิดหวัง ดังนั้นก็พูดว่า: “อาซ่านโจว อยากจะร่วมงานเลี้ยงวงการการต่อสู้อะไรนี่หรือครับ?”

“ซิ ฟังน้ำเสียงสิ เหมือนนายเอาบัตรเชิญมาได้งั้นแหละ” “เกรงว่ายังไม่ได้เข้าประตูก็คงถูกไล่ออกมาก่อนแล้ว”

พวกศิษย์จินหวู่หุ่ยประชด

หวงฮ่านโจวยังไม่ได้ตอบฉินหลั่ง ในตอนนี้หลัวเสี่ยวหู เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจกับคำพูดของฉินหลั่ง ก็ปัดมือพูดว่า “ช่างเถอะ! ถึงตอนนั้นฉันบอกกับอาฉันแล้วกัน จะพาทุกคน เข้าไปให้ได้”

“ว้าว! สุดยอดเลย!”

“เสี่ยวหูนายเก่งจังเลย!”

พวกชายๆ หญิงๆต่างดีใจจนกระโดดขึ้นมา

หวงฮ่านโจวตอนนี้ก็พูดด้วยรอยยิ้มกับฉินหลั่งว่า: “ถ้า อยากไปละก็ ถึงตอนนั้นฉันเป็นสะพานเชื่อมให้นาย ดูสิว่าจะ ได้บัตรเชิญมาไหม”

ฉินหลั่งหัวเราะ : “ได้ครับ ขอบคุณอาฮ่านโจวมาก”

ฉินหลั่งเป็นแค่ยาม จะมีความสามารถเอาบัตรเชิญมาได้ ยังไง เมื่อกี้น่าจะพูดเล่นๆ พวกหวงเกอก็คิดแบบนี้ สุดท้าย ทุกคนก็ยังต้องพึ่งความสัมพันธ์ของพ่อเข้าไปในงานเลี้ยง ทุกคนรวมตัวกันอย่างสนุกสนาน ไม่นานงานเลี้ยงวันเกิด ก็จบลงแล้ว ทุกคนต่างมีความสุขกันแยกย้าย

ไม่นานทุกคนก็แยกย้ายกันเกินครึ่งแล้ว เหลือเพียงเฉิน เมิ่งสู่กับลู่เสี่ยวม่านคนอื่นๆสิบกว่าคน

ฉินหลั่งในตอนนี้ก็เตรียมตัวจะกลับบ้าน

“ฉินหลั่งตอนนี้นายจะกลับไปไหนเหรอ?” หวงฮ่านโจวตะ

โกน

“ผมเหรอ? จะกลับโรงเรียนมัธยมหัวเจี๋ย”

“โรงเรียนมัธยมหัวเจี้ย?” หวงฮ่านโจวตกใจ โรงเรียนนี้ มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในเขตเฟิังโจว มีแต่ คนดังที่จบที่นั่น

“นายทำงานที่นั่นเหรอ?” หวงฮ่านโจวถาม ต่อมาก็เดา อะไรได้ พยักหน้าพูดว่า: “อ้อๆ ฉันเข้าใจแล้ว” เขาคิดว่าฉิน หลั่งก็คงทำงานยามที่นั่น

“พูดให้ชัดเจน ไปทำอะไรที่โรงเรียนมัธยมหัวเจี้ย? ชิ คน ที่ไม่รู้ยังคิดว่านายเป็นครูใหญ่ที่โรงเรียนนั่นเสียอีก” ลู่เสี่ยว ม่านพูดแทงใจดำ พูดเหยียดหยามฉินหลั่ง

“ก็เหมือนกับครูใหญ่เลย” ฉินหลั่งตอบกลับไป

“ช่าๆๆ” เฉินเมิ่งสู่หัวเราะจนกรามแทบค้าง: “อย่าโม้ไป หน่อยเลย เดี๋ยวความแตกแล้วไม่มีหน้าเอานะ เสี่ยวม่านเห็น นายใส่ชุดยามหลายครั้งแล้ว เป็นคนอาชีพต้อยต่ำไม่ใช่ เรื่องที่น่าอาย ไม่ไปทั่วเพื่อเติมเต็มความต้องการของตัวเอง นั่นแหละน่าสมเพชที่สุด”

“ฉันไม่ได้โม้” ฉินหลั่งทำหน้าน้อยใจ การเป็นครูเป็นงาน อดิเรกของเขาก็เท่านั้น แต่คนพวกนี้ก็หาว่าเขาโม้อีก

“ฉันจะบอกทุกคนให้นะโรงเรียนหัวเจี้ยมีชื่อเสียงแค่ ไหน?” เฉินเมิ่งลู่ทำท่าเหมือนรู้ทุกอย่าง: “ปีนี้เดือนเก้าลูก หัวหน้าของพวกเราก็อยากเข้าเรียนโรงเรียนหัวเจี้ย สุดท้าย สอบตกไปแค่คะแนนเดียว และก็ถูกปัดตกทันที หน้าของ หัวหน้าไม่รู้เอาไปไว้ไหนเลยล่ะ!”

“สุดท้ายหัวหน้าไปหาทางโรงเรียนโดยตรง เดาสิว่าเขา พูดยังไง? บอกว่าลูกของคณะกรรมการเทศบาลก็พึ่งถูกปัด ลงเหมือนกัน ทำหัวหน้าพวกเราตกใจแทบหงายหลัง สุดท้ายก็ไม่ได้ไปเรียน”

เฉินเมิ่งลู่พูดแบบนี้ สีหน้าของหวงฮ่านโจวก็ดูลำบากใจ มากขึ้น และยังมีความผิดหวังด้วย: “ฉินหลั่ง พวกเราเป็นคน ที่เจอเรื่องราวมาเยอะแล้ว ฉันจะบอกให้นายรู้ไว้นะว่า การ เป็นคนต้องซื่อสัตย์”

“คุณน้าฮ่านโจว ผมทำงานที่โรงเรียนมัธยมหัวเจี้ยจริงๆ ที่ จริงก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจอะไรมาก ผมยังไม่อยากทำแล้ว เลย” ฉินหลั่งยกมือสองข้างขึ้น พูดอย่างช่วยไม่ได้ “ๆ ปากแข็งจริงๆนะ นายคิดว่าการเป็นครูในโรงเรียน มัธยมหัวเงี่ยง่ายมากเหรอ? นายเทียบกับครูใหญ่แล้วยัง ห่างกันมาก นายอย่ามาพูดตลกตรงนี้เลย” เฉินเมิ่งลู่อยาก จะหัวเราะจนฟันหลุดออกมา

และพวกแขกคนอื่นก็ต่างทำสีหน้าดูถูกกันใหญ่ เห็นใด้ชัด ว่าเป็นคำโกหกชัดๆ เขาเป็นแค่เด็กอายุยี่สิบกว่า เป็นไปได้ อย่างไรที่จะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับครูใหญ่ในโรงเรียน มัธยมชื่อดังอย่างโรงเรียนมัธยมหัวเจี้ย? เขาคิดว่าทุกคนโง่ กันหรือไง?

“พอแล้ว เสี่ยวหลั่ง ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว อาว่าจะขับรถ กลับพอดี เขตวิลล่าไม่ค่อยมีแท็กซี่ อาส่งนายออกไปแล้วกัน ส่งนายไปโรงเรียนมัธยมหัวเจี้ย นายว่ายังไง?” หวงฮ่านโจว ตอนนี้เห็นท่าทีฉินหลั่งที่พูดจาไม่อายฟ้าอายดิน ก็เริ่มไม่ พอใจกับฉินหลั่งแล้ว รีบพูดแทรกฉินหลั่งขึ้น ที่จริงแล้วไม่ อยากให้ฉินหลั่งกลายเป็นตัวตลกของทุกคนมากกว่า

“คุณอาฮานโจว ขอบคุณในน้ำใจของอาครับ เฟิงโจวห่าง จากวิลล่าจื่อจวิ้นมาก ผมว่าให้รถของผมมารับผมดีกว่า” ฉิน หลั่งพูดอย่างเรียบเฉย ที่จริงเขาวิ่งกระโดดไปโรงเรียนหัว เจี้ยเลยก็ได้ แต่แบบนี้ละก็ คนโง่พวกนี้จะว่าตัวเอง โกหกอีก

“จ้ๆ แสดงไม่หยุดจริงๆนะ นายบอกว่านายมีรถมารับ งั้นฉันจะถามสิ รถอะไร? หรือว่าเป็นรถเฉพาะครูใหญ่ของ นาย?” เฉินเมิ่งสู่พูดจี้ฉินหลั่งอย่าไม่ไว้หน้า คิดว่าวันนี้จะต้อง ทำให้เขาหน้าแตกให้ได้ ต่อไปจะดูสิว่านายจะทำยังไงต่อ หน้าเด็กๆ?!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ