รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 555 คู่เค่อเลื่อมใสอย่างที่สุด



บทที่ 555 คู่เค่อเลื่อมใสอย่างที่สุด

สื่อฟางเฟยสีหน้าเย็น ทันที คิดในใจว่าสวี่ซีเหวินทำไมถึงต้องพูด อะไรที่ไม่เป็นมงคลแบบนี้

แต่ฉินหลั่งกลับไม่สนใจใด ๆ เขาเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของยาคาย

เหมิงตัน ซึ่งตนเองก็เคยได้ทดลองใช้มาก่อนแล้ว

ยานี้เป็นสิ่งลับที่ไม่มีการสืบทอดให้กับผู้ใด ประสิทธิภาพของยามี ความพิเศษขนาดสามารถที่จะฟื้นฟูพลังชีวิตให้กลับคืน ซึ่งพิเศษเกิน กว่ายาธรรมดาทั่วไปที่มีอยู่ สวี่ซีเหวินคงไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้

“คุณผู้หญิง ตอนนี้สามารถที่จะตรวจสอบร่างกายของคุณเหลี่ยน ได้แล้ว ลองดูว่าดัชนีร่างกายในแต่ละด้านเป็นปกติดีแล้วเหรอยัง ถ้า หากว่าปกติแล้วก็แสดงว่าคุณเหลียนปลอดภัยจากอันตรายแล้ว สามารถลุกขึ้นจากเตียงได้แล้ว”

สื่อฟางเฟยพยักหน้า โบกมือให้สัญญาณ พวกคุณหมอก็น่ำเครื่อง มือการแพทย์ต่าง ๆ มา ตรวจสอบร่างกายของเหลี่ยนเทียนเหออย่าง เข้มงวด

ผ่านไปไม่นาน ผลการตรวจร่างกายก็ออกมาแล้ว คุณเหลียนทุก อย่างเป็นปกติ ไม่เพียงแค่ปกติเท่านั้น พูดได้ว่าทุกอย่างดีมากด้วย ดัชนีร่างกายมีความแข็งแกร่งเหมือนกับนักกีฬาเลยทีเดียว

สงบเงียบกันไปทั้งหมด

สวีซีเหวินกำหมัดอย่างแน่น ยังคงไม่เชื่อ: “มันเป็นไปได้อย่างไร เป็นไปได้อย่างไร….”

พวกคุณหมอฝีมือดีจำนวนมากทุ่มเทพยายามอย่างสุดความ สามารถก็ยังรักษาไม่ได้ เขาผู้นั้นนำเอายามาเพียงเม็ดเดียวก็แก้ไข ปัญหาทุกอย่างได้ทั้งหมด มันคือยาเทวดาจริง ๆ

“เหลียนเทียนเหอ เหลียนเทียนเหอ!”

เวลานี้ บริเวณด้านนอกประตูปรากฏคนจำนวนสิบกว่าคน ล้วนเป็น คนต่างชาติทั้งหมด คู่เค่อที่มีผมสีทองได้วิ่งตรงเข้ามาด้านในอย่างรีบ

เร่ง

“รีบหลบไป รีบหลบไป ฉันจะช่วยชีวิตเหลียนเทียนเหอ”

คู่เค่อเพิ่งเดินทางกลับมาอย่างเร่งด่วน จิตใจร้อนลุ่ม แสดงถึงความ วิตกกังวลต่ออาการของผู้ป่วยอย่างมาก

เห็นผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าจากต่างประเทศมาถึง สวี่ซีเหวินแวว ตาเป็นประกาย รีบไปจับตัวคู่เค่อพร้อมพูดว่า

“คุณคู่เค่อ คุณคู่เค่อ รีบตรวจสอบอาการของผู้ป่วย”

“เมื่อสักครู่มีหนุ่มน้อยคนหนึ่งฝังเข็มให้กับเหลียนเทียนเหอ เหลียน เทียนเหอก็มีสติรู้สึกตัวขึ้นมา ฉันกังวลว่าเป็นการรักษาแบบใช้พลัง ชีวิตทดแทนเกินขนาด”

“พวกเครื่องมือแพทย์ของจีนค่อนข้างล้าสมัยแล้ว ตรวจสอบไม่ได้ ผลอะไร คุณรีบนำเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยของพวกคุณตรวจสอบดู อีกครั้ง”

“ศีรษะของเหลียนเทียนเหอได้รับบาดเจ็บได้รับการกระทบ กระเทือนอย่างแน่นอน….”

เธอหวังว่าคู่เค่อสามารถทำให้ฉินหลั่งเสียหน้าได้

“ทานยาไปเพียงเม็ดเดียวก็รู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาแล้วเหรอ?”

คู่เค่อได้ยินก็โมโหอย่างหนัก: “เขาคิดว่าเขาคือพระเจ้าอย่างงั้นเห รอ?”

“ศีรษะที่ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงอาศัยการทานยาเพียงแค่เม็ด เดียวก็สามารถหายเป็นปกติเหรอ?”

“เครื่องมือการแพทย์ของจีนให้โทษทำร้ายคนไม่น้อยเลยจริง ๆ !”

สวีซีเหวินชี้ไปยังฉินหลั่ง: “เขาคือคนที่ป้อนยา!”

“ไร้สาระ!”

คู่เค่อสีหน้าเคร่งขรึม ไม่ยอมให้สื่อฟางเฟยพูดจาใด ๆ ทั้งสิ้น ตัดสิน ใจอย่างเด็ดเดี่ยวและพูดว่า: “เปิดเครื่องมือการแพทย์ แล้วรีบตรวจ ร่างกายของเหลียนเทียนเหอ จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ ว่าปัญหาเล็กน้อยอะไรก็ห้ามปล่อยให้พลาดโดยเด็ดขาด!”

“ตกลง คุณคู่เค่อ” เร็วเข้า เร็วเข้า!” คุณหมอต่างชาติที่อยู่ข้าง ๆ รีบ ดำเนินการทันที สมกับเป็นอุปกรณ์การแพทย์ของทีมงานระดับแนว หน้าของสากล เพียงแค่มองจากภายนอกของอุปกรณ์ก็รับรู้ได้ ดีกว่า อุปกรณ์เหล่านี้ของจีนหลายเท่าตัว

เวลาก็คือชีวิต คู่เค่อมีท่าทางที่กระฉับกระเฉงว่องไว ไม่พูดเพ้อเจ้ ออะไรที่ไม่ได้ความ ลงมือจัดการตรวจเหลียนเทียนเหอทันที

คู่เค่อเป็นหมอผู้ทรงคุณวุฒิชื่อดังจากอเมริกาตอนเหนือ ตระกูล เหลียนพยายามทำทุกวิถีทางกว่าจะเชิญให้คู่เค่อมารักษาถึงที่นี่ ชื่อ เสียงโด่งดังระดับคู่เค่อแล้ว เงินทองไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด แต่คือ ลักษณะอาการของผู้ป่วยต่างหากที่สามารถนำมาศึกษาวิจัยได้ เมื่อได้ รับฟังถึงอาการป่วยของเหลียนเทียนเหอ คู่เค่อก็นำทีมแพทย์ผู้ เซี่ยวชาญของตนรีบเดินทางมารักษาทันที ซึ่งหวังว่าผลการจากวิจัย อาการของโรคดังกล่าวคงจะช่วยให้การแพทย์ก้าวหน้าขึ้นไปสู่อีก ระดับหนึ่ง

คู่เค่อพำนักอยู่ในจีนมากว่าครึ่งเดือนแล้ว ยกเลิกคำเชิญอื่นใด ทั้งหมด เพื่อทำการวิจัยเฉพาะโรคของเหลียนเทียนเหอเท่านั้น ที่มาใน วันนี้ แท้ที่จริงเขายังไม่มีแผนการรักษาอะไรที่สุกงอมแน่ชัด แต่เพียง แค่ว่า อาการของเหลียนเทียนเหอปล่อยไปให้หนักหนากว่านี้ไม่ได้แล้ว

เวลาผ่านไปนานกว่ายี่สิบนาทีแล้ว คู่เค่อถือรายงานผลการตรวจ และตรวจสอบอย่างละเอียด ยิ่งดูก็ยิ่งแปลก ยิ่งดูก็ยิ่งตกใจ

ท้ายที่สุดตกตะลึงจนควบคุมตนเองไม่อยู่ ขนาดปากก็เกือบที่จะหุบ ไม่ได้แล้ว

หลายครั้งที่เคยประสบพบเจอโรคร้ายแรง คู่เค่อไม่มีครั้งไหนที่ยั้ง สติเอาไว้ไม่อยู่เหมือนเช่นครั้งนี้

“อะไรกัน? อะไรกัน? พระเจ้าช่วย….” คู่เค่ออุทานออกมาด้วยความ ตื่นตะลึง

“เป็นไป..เป็นไป.ได้อย่างไร? ร่างกายทุกอย่างปกติดีทั้งหมด? ดัชนีแสดงความแข็งแรงของสมองก็เป็นปกติ! ?”

คู่เค่อไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ริมฝีปากสั่น: “มหัศจรรย์ มหัศจรรย์ มหัศจรรย์จริง ๆ ฉันจะนำอาการป่วยของโรคนี้เป็นกรณีศึกษาสำคัญ รายงานไปยังองค์การอนามัยโลก เชิญให้พวกเขาติดตามต่อยอดผล การวิจัยที่เกิดขึ้นกับคุณเหลียน มันน่าเหลือเชื่อมาก”

คู่เค่อร้องรำทำเพลงอย่างกับเป็นเด็กน้อย ใบหน้าแสดงออกถึง อาการที่เหนือความคาดหมาย

คู่เค่อ “ใครเป็นผู้ที่รักษาอาการของคุณเหลียน เป็นใครกันเหรอ?” ตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก

“คุณคู่เค่อ คือหนุ่มน้อยที่หล่อเหลาของพวกเราคนนี้” สีอฟางเฟย

ยกมือและชี้ไปทางฉินหลั่ง

“ตุ๊บ-”

มองเห็นฉินหลั่งผู้ที่ไม่สะทกสะท้าน คู่เค่อคุกเข่าตัวตรงและตะโกน

ว่า:

“อาจารย์ ขออนุญาตรับข้าเป็นลูกศิษย์เถิดอาจารย์ ท่านคืออาจารย์ คนแรกในโลกใบนี้ที่ฉันยอมรับนับถือจากใจจริง ฉันเลื่อมใสจริง ๆ”

คู่เค่อคุกเข่าที่ด้านหน้าของฉินหลั่ง และยังก้มหัวเอาหน้าผากไป แตะที่พื้นบริเวณเท้าของเขาด้วย

“เกิดอะไรขึ้น? !”

เหตุการณ์นี้ ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตกตะลึงเป็นอันมาก ในสมอง สับสนกันไปหมด และมีอีกหลายคนที่สมองหลงเหลือแต่ความว่าง เปล่า

คู่เค่อคือใคร ผู้เชี่ยวชาญการแพทย์ระดับแนวหน้า แพทย์ประจำ บุคคลผู้มีอำนาจผู้สูงศักดิ์บนโลกนี้ และเป็นผู้ที่บุคคลากรทางการ แพทย์ให้ความเคารพนับถืออย่างที่สุด แต่ทว่าบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้ เมื่อพบเจอฉินหลั่งกลับคุกเข่าลง อย่างไม่ลังเล และยังไม่แคร์ความสนใจของผู้อื่นตะโกนเรียกฉินหลั่ง ว่าอาจารย์

ทุกคนรู้สึกว่าสมองของตนเองจะไม่ทำงาน

สื่อฟางเฟยก็ตะลึงเล็กน้อยเช่นกัน จากนั้นใบหน้าก็เปี่ยมไปด้วย ความชื่นชม

“คุณคู่เค่อ กรุณาใจเย็น ๆ ก่อน คุณตื่นเต้นมากเกินไปใช่หรือไม่?” สวีซีเหวินกลั้นความอดทนไว้ไม่ไหวตะโกนออกมาว่า: “เขามีชื่อว่า ฉินหลั่ง ไม่ได้เป็นหมอสักหน่อย”

“เขาไม่เคยได้ร่ำเรียนวิชาแพทย์กับหมอท่านใดมาก่อน และไม่เคย ศึกษาในสถาบันการแพทย์ระดับสากล ไม่มีพื้นเพและพื้นฐานอะไรทั้ง นั้น”

“ทำไมคุณถึงเรียกเขาว่าอาจารย์?”

สวีซีเหวินเดินเข้าไปประคองคู่เค่อ รับไม่ได้จริง ๆ กับสภาพของไอ ดอลของตน ที่คุกเข่าด้านหน้าของฉินหลั่งต่อหน้าสาธารณชนเช่นนี้

“ไม่ เชิญคุณออกไปเถอะ ฉันคือผู้เชี่ยวชาญการแพทย์ ฉันมีเหตุผล เพียงพอสำหรับการที่ฉันคุกเข่า หมอเทวดาท่านนี้สมควรอย่างยิ่งที่ฉัน จะเลื่อมใส พวกคุณคงไม่เข้าใจหรอก!”

คู่เค่อไม่เกรงใจที่จะผลักสวี่ซีเหวินออก: “ขอให้คุณพิจารณาคำขอ ร้องของฉัน รับฉันเข้าเป็นลูกศิษย์ของคุณ ฉันเข้าใจถึงประเพณีของ จีน ที่จะต้องไหว้นับถือคุณเป็นอาจารย์ คุณถึงจะยอมที่จะให้คำตอบ ฉันเกี่ยวกับคำถามและความสงสัยในทางการแพทย์”

“ฉันคิดว่า ที่คุณฉันไม่ได้ไปศึกษาที่สถาบันการแพทย์ เป็นเพราะว่า คุณไม่ต้องการที่จะศึกษาสิ่งเหล่านั้น วิชาการแพทย์ของคุณเหนือกว่า ใครในปฐพี ไปเรียนวิชาที่อ่อนหัดแบบนั้นเพื่ออะไร?”

“ฉันคิดว่า ที่คุณผู้หญิงคนนั้นพูดถึงผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย หากมา เห็นสภาพอาการป่วยของคุณเหลียนในตอนนี้ ก็คงจะเป็นเหมือนกับ ฉัน ต่างก็รีบร้อนที่จะเรียกฉินหลั่งว่าอาจารย์”

อะไรกัน?

คู่เค่อประเมินค่ามากเกินไปแล้วเหรอเปล่า? ยาเพียงเม็ดเดียว ทำไม ถึงต้องคุกเข่าคารวะอย่างจริงใจต่อฉินหลั่งขนาดนี้เชียวเหรอ?

แต่ว่า คิดคิดก็จริงอยู่นะ ยากลอนเพียงเม็ดเดียวก็สามารถชุบชีวิต

ให้กับผู้ป่วยนิทราที่ไม่มียาอะไรมารักษาให้หายได้ มันคือความ

มหัศจรรย์ทางการแพทย์อย่างแท้จริง! การแสดงความเคารพคารวะด้วยใจจริงของคู่เค่อทำให้สมองของ ทุกคนตกอยู่ในสภาพที่สับสนวุ่นวาย

สวีซีเหวินตะลึงอย่างมากกับเหตุการณ์ทั้งหมด ไม่สามารถอธิบาย ได้ว่าสภาพจิตใจของตนเองตอนนี้ตื่นตระหนกมากเพียงใด เธอจะทำใจยอมรับกับความจริงที่ว่าคูเค่อคุกเข่าให้กับฉิน

อย่างไร? หลั่งได้ เธอเองนั้นได้ใช้ช่องทางความสัมพันธ์มากมายเพื่อที่จะเข้าร่วม ศึกษากับทีมงานของคู่เค่อ ตั้งใจเรียนอย่างถึงที่สุดแล้วแต่ก็ยังเป็น

เพียงแค่ลูกศิษย์ในวงนอก

แต่เมื่อตอนที่เธอรับใบจบการศึกษา กลับทำให้เธอรู้สึกดีใจมากจน นอนไม่หลับตลอดคืน และยังมักนำเรื่องที่เธอได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ของทีมงานคู่เค่อมาโอ้อวดให้ทุกคนได้รับรู้อยู่เสมอ

ถ้าหากว่าคู่เค่อให้เธอคุกเข่าและคารวะไหว้นับถือคู่เค่อเป็นอาจารย์ เธอคงจะไม่ลังเลใจที่จะคุกเข่าในทันทีแม้ว่าจะให้คารวะสักพันครั้ง หรือหมื่นครั้งก็ตามที

บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ที่มีความสำคัญมากท่านนี้ ในตอนนี้กำลังคุกเข่าตัว ตรงอยู่ด้านหน้าของฉินหลั่ง โดยไม่สนใจถึงเกียรติของตนเองเลย แม้แต่น้อย

สำหรับฉินหลั่งคนนี้หล่ะ ตนเองคิดว่าประเมินค่าเขาต่ำเกินไปเหรอ เปล่า? ! เมื่อครู่ตอนที่อยู่ในห้องโถง เธอยังแสดงความภาคภูมิใจอย่างมาก ของตนต่อหน้าฉินหลั่ง

ในตอนนี้ สวีซีเหวินรู้สึกว่าตนเองก็คือคนโง่เขลาที่สุดในโลก! ไอ ดอลที่ตนเองนับถือและเลื่อมใสอย่างมากมาโดยตลอด กลับร้อง ตะโกนขอให้ฉินหลั่งรับเป็นลูกศิษย์

แต่ตัวเธอเองนั้นกลับดูถูกฉินหลั่ง คิดว่าฉินหลั่งนั้นต้อยต่ำ ไม่มี คุณสมบัติ เป็นเพียงแค่เด็กน้อยอันธพาลคนหนึ่งเท่านั้น! เธอมี คุณสมบัติดีพอที่จะดูถูกฉินหลั่งงั้นเหรอ?

สวีซีเหวินฟื้นคืนสติกลับมาอย่างถึงที่สุดแล้ว ใบหน้าร้อนรุ่มเหมือน กับโดนไฟเผาอย่างไรอย่างนั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ