รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 414 คนเลวทรามต่ำช้าที่ใครๆ ก็รังเกียจ



บทที่ 414 คนเลวทรามต่ำช้าที่ใครๆ ก็รังเกียจ

21ล้าน6แสน!

จูจี้เหวินไม่ได้ทำใจไว้ก่อนถึงเรื่องนี้ อาจจะเป็นเพราะ ว่าราคาหลายแสนสำหรับเขานั้นถือว่าเป็นเรื่องขึ้ปะติ๋ว ทว่ามันตั้งยี่สิบเอ็ดล้านกว่านั่นมันเป็นยอดเงินที่ก้อนใหญ่

เลยแหละ

ผู้ชายพูดอะไรออกมาก็ไม่สามารถกลับค่ำได้ใช่ไหม?

จูจี้เหวินรู้สึกเสียหน้า เงินตั้งยี่สิบกว่าล้านไม่ใช่เอามา ลงทุนอะไรเลย มันคือการเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ด้วย

ซ้ำ

ชา

“จ่ายเงินสิ” ฉินหลั่งเลิกคิ้วให้ พร้อมทั้งยิ้มให้อย่างเย็น

“ทำไมแล้วล่ะ? คุณชายจู? จะผิดคำพูดหรือไง?” เฉิน เหมิงเลี่ยงยิ้มให้อย่างเย็นชาเช่นกัน

จูจี้เหวินเอ๋อเหรอทันที ก่อนหน้านี้ที่เขายังไม่ได้คิดเงิน เขารู้สึกมั่นใจว่าฉินหลั่งไม่มีเงินอย่างแน่นอน ดังนั้นเลยอ้า ปากพูดมั่วซั่วไปเรื่อยๆ พอเรื่องเป็นไปตามนั้นจริง ผลลัพธ์ของเรื่องนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้

ยี่สิบเอ็ดล้านหกแสน เขาเอาเงินออกมาได้ตามนั้น ทว่านั่นมันเป็นเงินเกินครึ่งของการลงทุนของเขาเลยนะ

บรรดาทรัพย์สินส่วนหนึ่งมีทั้งอสังหาริมทรัพย์เงินทองและเครื่องประดับ เมื่อเอามาตีค่าเป็นเงินสดก็ประมาณ ยี่สิบล้านกว่าเอง งั้นก็หมายความว่าเขาไม่สามารถที่จะ เอาเงินออกมาได้ตั้งมากมายขนาดนี้ในเวลานี้ได้

“แม่ง!” จูจี้เหวินร้อนรน วิธีคิดที่อยู่ในใจเริ่มแสดงออก “แกคิดว่าฉันโง่ดักดานหรือไง เอาเงินตั้งยี่สิบล้านหก

แสนมาทิ้งไปฟรีให้เสียประโยชน์ไป?”

จูจี้เหวินเริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับ จนหน้าแดงแจ๋ ลงเรื่อยๆ

เมื่อคำพูดนี้หลุดปากไป จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วโรง อาหาร เหมือนระเบิดลง ทุกคนต่างมองอยู่

ฉินหลั่งยังไม่ได้พูดอะไรต่อไป

เฉินเหมิงเลี่ยง ลูกชายของเจ้าพ่ออันดับหนึ่งของเขต พัฒนาเฟิงโจวกระโดดขึ้นโต๊ะกินข้าวทันที พร้อมทั้งชี้หน้า ด่าจูจี้เหวินยกใหญ่ “ถุย! จูจี้เหวินก่อเรื่องไปครึ่งวันเล่น สนุกหรือเนี่ย! กูโคตรไม่เห็นหัวคนอย่างมึงที่ทำตัวไม่ได้ เรื่องห่าอะไรเลยแม้จะเช็ดขี้ยังไม่เป็น! มึงเรียกคนมาตั้ง แปดร้อยกว่าคนขึ้นมาก็เพื่อจะให้ทุกคนดูมึงทำตัวกร่าง เล่นไปวันๆ หรือไง?!”

คำพูดที่หลุดปากออกมาหยาบคายพอตัว สบถด่าจูจี้ เหวินจนได้เผ็ดแสบเลือดไหลซิบๆ จนหน้าดำหน้าแดง สลับไปเรื่อย เพราะยังไงตนเองก็เป็นวัยกลางคน แถมยัง ดำรงตำแหน่งเป็นถึงคณบดีฝ่ายวิชาการอีก ตอนนี้หน้าตา ของเขาหน้าด้านเหมือนหมู

“ก็ใช่นะ อาจารย์จู พ่อฉันเคยบอกว่า ผู้ชายอย่าพูดเสียอีกว่า พูดอะไรแล้วก็ต้องทำให้ได้ คุณเริ่มยั่วยุ อาจารย์ฉันต่อหน้าทุกคนก่อน ตอนนี้อาจารย์ฉินก็จ่ายเงิน ไปแล้ว แล้วคุณล่ะ? ยังเป็นผู้ชายอยู่ไหม?” จ้าวซิงเริ่ม เยาะเย้ยจูจี้เหวินอย่างไม่เกรงใจ ถึงแม้ว่าไม่ได้หลุดคำ หยาบคายออกมาสักคำ ทว่าความอาฆาตก็เต็มที่เช่นกัน

“ใช่สิ ไม่ได้จ่ายเงินสักแดงจะเสแสร้งเป็นคุณชาย อะไร!” นักเรียนห้องอื่นเริ่มไม่สบอารมณ์

“มีนหรือโง่ไปแล้วมั้ง? พูดก็เหมือนตดออกมา!” นักเรียนชายห้องหกที่ทางบ้านมีเงินลงทุนสองหมื่นล้าน เริ่มด่าทอด้วยความโมโห

“เป็นอาจารย์ แถมเป็นคณบดีฝ่ายวิชาการด้วย ถ้าเป็น นักเรียนทำพฤติกรรมเช่นนี้ ฉันอยากจะชกสักหมัดจริงๆ!” นักเรียนห้องหกเริ่มออกอาการตื่นเต้น

พูดกันตามตรง ไม่ใช่เรื่องที่จะมีข้าวกินหรือไม่ ประเด็นสำคัญก็คือทำสิ่งใดไว้ย่อมได้สิ่งนั้นตอบสนอง ท่ามกลางที่ทุกคนคิดว่าเขาจะจ่ายเงินตรงนั้นจริงๆ แต่พอ ถึงเวลากลับเปลี่ยนสีหน้าว่าไม่จ่ายเงิน จนเกิดการคับ ข้องใจขึ้นมาแทน

เสียงสบถด่า ทั้งชั้นสองก็คือคนออกันเหมือนมีการ ประชุมต่อสู้เช่นนั้น

เวลานี้เองหลิวซูเชิงที่แอบอยู่ที่ใดที่หนึ่งทนฟังไม่ได้ จนต้องวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาพูดแทนจูจี้เหวิน “เงียบ! เงียบ! พวกนายหยุดวุ่นวายสักที! มีแต่พวกนายไปพูดกับ อาจารย์แบบนี้ได้ยังไง?!”
“เอ่อ อาจารย์ จู ทางผู้อำนวยการโรงเรียนมีเรื่องด่วน รบกวนคุณไปกับฉันหน่อย..”

ฉินหลั่งยิ้มให้อย่างเย็นชา แต่ว่าไม่ได้ขัดขวางไว้

ใครจะล่วงรู้ว่าเวลานั้นเฉินเหมิงเลี่ยงพลันยกเก้าอี้ขึ้น จากนั้นก็คว้างเก้าอี้ไปทางคนสองคนที่กำลังจะเดินไป!

เสียงดังตึงดังลั่น เก้าอี้ฟาดลงตรงท้ายทอยของทั้ง สองคน อีกนิดก็จะก่อคดีฆ่าคนตายแล้ว

“โอ๊ย!” หลิวซูหมิงกุมท้ายทอยแล้วงอตัวนั่งลง ส่วนจูจี้ เหวินเจ็บปวดทรมานแต่ยังทนหันกลับมาตะโกนถามแทน “ใคร? ใครเป็นคนทำ? เสนอตัวออกมาเลย!”

สงครามเริ่มต้นขึ้นแล้ว จากนั้นก็มีจานอาหารต่างๆ พุ่ง มาที่ตัวของจูจี้เหวินอย่างถูกตัว จนน้ำแกงรดลงบนตัวจูจี้ เหวินทั้งตัว

หลังจากนั้นมีทั้งซาลาเปา บะหมี่โซบะ ผัดหมี่ ไข่ไก่ มะเขือเทศ แตงกวา ก็ถูกเทลงมาไม่ขาดสาย จูจี้เหวินกับ หลิวซูเซิงกุมศีรษะของตนเองเอาไว้แล้ววิ่งหนีไปเหมือน หมาทันที

“ถุย กวนตีน ไอ้ขี้โกหก เล่นสนุกอะไรเนี่ย” “ช่างให้หัวเจี๋ยเสียหน้าให้พวกมันจริงๆ ทำตัวแบบนี้ยัง เป็นถึงคณบดีอีก? ชั่วซ้าสารเลวจริงๆ”

“พวกเราเด็กม.ปลายคงพูดได้น่าเชื่อถือว่าเขาอีก ไอ้เหี้ย!”

คำสบถด่าในโรงอาหารมีทุกอย่าง อีกทั้งยังพูดซุบซิบนินทาไปเรื่อย จนดังทั่วทั้งโรงเรียนไปแล้ว

“อาจารย์ฉิน มันน่าขยะแขยงจริงๆ” เฉินเหมิงเลี่ยง แสดงท่าทีขยะแขยง จากนั้นพลันฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ เลยพูดอย่างกังวง “คุณจะเสียใจภายหลังไหมเนี่ย?” “ฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอ?” ฉินหลั่งยิ้มให้ จากนั้นก็

หยิบจานผลไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา แล้วก็เลือกผลไม้ที่ ตนเองชอบกินใส่ปากไปหลายคำ

“ต่อไปพวกนายก็มากินข้าวกันที่นี่ อาหารฟรีไปสาม เดือน แต่ก็ต้องประหยัดกันหน่อย!” พูดจบ ฉินหลั่งก็วางจานผลไม้ลงบนโต๊ะ แล้วก็เดิน

ออกไปจากโรงอาหาร

แถมด้านหลังยังมีกลุ่มนักเรียนชายหญิงเจ็ดถึงแปด คนเดินตามหลังอีก

เฉินเหมิงเลี่ยงตะลึงทันที เพราะว่านั่นเป็นเพื่อนในห้อง หกทั้งนั้น ดูแล้วเผลอแป๊บเดียวก็ถูกหักหลังอีกแล้ว

“หมิงเลี่ยง ทำไงดี?” จ้าวซิงมองเพื่อนในห้องที่เดิน ตามอาจารย์ไป จนตั้งถามเฉินเหมิงเลี่ยงด้วยความรู้สึก กังวล

“ไม่รู้สถานการณ์ดูไม่ดีแล้ว” เฉินเหมิงเลี่ยงถอน หายใจ

“ตามคิดของฉันนะ ไปเรียกพี่ใหญ่ของฉันมา จัดการ ต่อยสักยก ก็สามารถจัดการปัญหาได้ทุกเรื่องแล้ว” จ้าวซิ งกล่าว
“ได้ งั้นทำตามที่แกพูดเถอะ” เฉินเหมิงเลี่ยงในใจ สับสนมาก แต่ยังไม่ยอมแพ้

เยี่ยมไปเลย! จ้าวซิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา จากนั้นก็ โทรศัพท์ไปหาพี่ใหญ่ของเขา

ส่วนทางจูจี้เหวินนั้น หน้าดำคร่ำเครียด จนสามารถ พูดได้ว่าเกือบจะประสาทแดกอยู่แล้ว น่าอับอายขายขึ้ หน้ามากขึ้นเรื่องเป็นแบบนี้ต่อไปเขาก็ไม่สามารถอยู่ใน โรงเรียนมัธยมหัวเจี่ยได้อีกแล้ว

“ฉินหลั่ง ฉันกับแกเป็นศัตรูกัน!” จูจี้เหวินเข่นเขี้ยว เคี้ยวฟันโกรธแค้นเคือง หลิวซูเซิงที่อยู่ข้างถอนหายใจ อย่างทุกข์ใจ

ตลอดทางกลุ่มนักเรียนต่างชี้มาที่พวกเขา ถึงแม้ว่าจะ ฟังไม่ออกว่าเขาพูดอะไรกันอยู่ แต่ว่าสายตาที่ดูถูก ดูแคลนนั้นไม่สามารถปกปิดไว้ได้เลย

จนสามารถรับรู้ความรู้สึกคนเลวทรามต่ำช้าที่ใครๆ ก็ รังเกียจทั้งนั้น

“แม่งเอ๊ย! ความรู้นี้ก๊อกทนต่อไปไม่ไหวแล้ว!” จูจี้เหวิน เตะถังขยะที่อยู่ข้างทาง จนทำให้นักเรียนที่เดินผ่านไปมา ตกใจกันเป็นแถว

“ไอ้บ้า!” นักเรียนหลายคนนั้นใช้เสียงกระซิบกระซาบ พูดพร้อมทั้งใช้สายตาถถึงทึ่งใส่จูจี้เหวิน

ทว่าจี้เหวินก็ได้ยิน เขาโมโหจนอยากจะเอานักเรียน คนนั้นมาต่อยสักทีสองที ทว่าหลิวซูเชิงดึงเขาให้เดินหนีไปอีกทางแทน
สองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว จูจี้เหวินกับหลิวซูเชิง กลายมาเป็นเรื่องตลกขบขันของโรงเรียนมัธยมทุกอย่างมาจากฉินหลั่งทั้งนั้น!

“คณบดีจู ตอนนี้ฉินหลั่งกำลังรุ่งโรจน์มาก พวกเรา ปล่อยมันมาก่อน จากนั้นค่อยพูดแขวะรูปลักษณ์ภายนอก ของมัน เพื่อหาสมุนในห้องหก เท่ากับหาจุดของมัน ได้แล้ว!” หลิงเหมือนนายทหารตามติดจูจี้เหวิน

“พูดมาเร็ว!” จูจี้เหวินหน้าตาเคร่งเครียด

“ห้องหกมีคนชื่อว่าหม่าเซียวเซียว เป็นพี่ใหญ่ของฝ่าย นักเรียนผู้หญิง ทุกวันเธอจะไปที่หอพักเด็กผู้หญิงเพื่อไป เก็บค่าคุ้มครอง เราไปจัดการหม่าเซียวเซียวก่อน จากนั้น ค่อยมีหาเรื่องไอ้แซ่เฉินคนนั้น เด็กนักเรียนห้องหกต่าง เป็นเด็กที่มีปัญหาทั้งนั้น ถ้ามีเรื่องครูประจำชั้นต้องเป็น คนรับผิดชอบ แบบนี้ก็ทำให้ฉินหลั่งอับจนหนทางแล้ว?”

หลิวยิ้มอย่างอันตราย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ