บทที่ 439 คนใหญ่คนโตยุทธภพด่าฉินหลั่ง
“หมายความว่ายังไง?” เสี้ยงเฟยหลงหัวเราะ: “จ้าน อู่ห ยา”
หลี่เสี่ยนได้ฟัง ท่านเสี้ยงกำลังดูถูกฉินหลั่งอยู่งั้นเหรอ เธอรู้สึกอึดอัดใจมาก: “พูดแล้ว ท่านเลี้ยง ท่าน ปรมาจารย์ฉินก็มีใจอยากจะช่วยประเทศชาติ มาช่วย นักเรียนของตัวเอง….”
เธอก็รู้จักเสี้ยงเฟยหลงอยู่ รู้ว่าตำแหน่งวงการต่อสู้ ของเขา ตอนแรกที่เห็นเสี้ยงเฟยหลงก็ยังดีใจอยู่หรอก ใน ใจคิดว่าท่านเสี้ยงกับคุณฉินได้ร่วมมือกัน มีสิทธิชนะเกิน ครึ่งเลย แต่ท่านเสี้ยงกลับเป็นแบบนี้….
“ตลกแล้ว ฉันอยู่ในวงการนี้มานาน ไม่ต้องการตัวช่วย อะไร ยิ่งไปต้องการพวกที่ธรรมดาอยู่แล้ว แต่กลับชอบ ทำตัวอวดเก่ง” เลี้ยงเฟยหลงสายตาของเขาเต็มไปด้วย ความดูถูก เขาเป็นถึงปรมาจารย์รุ่นเก่า จะร่วมมือกับรุ่น ใหม่ได้ยังไง พวกโจรตรงข้ามตึกโรงงานร้างนั้น ในสายตา เขาก็แค่มดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น หรือเขาคนเดียวจะจัดการไม่ ได้หรือไง?
จางต้าไห่ก็รู้จักเลี้ยงเฟยหลง ไม่กล้าพูดแทรก แต่ ความโกรธในใจก็ปะทุขึ้นมา เขาเคยเห็นฝีมือการต่อสู้ ของฉินหลั่งรู้ว่าแม้จางต้าไห่สิบคนก็สู้ฉินหลั่งไม่ได้อยู่ดี ชื่อปรมาจารย์ไม่ใช่เรื่องหลอก แต่อธิบดีเฉินกับท่านเสี้ยง ในคำพูดนั้นกลับไม่มีการเคารพปรมาจารย์ฉินเลย
“ท่านเลี้ยง ฉันขออนุญาตพูดหน่อยนะคะ ท่านเป็น ปรมาจารย์รุ่นเก่า ในเมื่อคนเดียวก็สามารถจัดการวิกฤตนี้ ได้ นั่นก็ดีแล้ว แต่ว่า ท่านก็ไม่ต้องดูถูกคนอื่นแบบนี้ก็ได้ นะคะ” หลี่เสี่ยนรีบร้อน และรู้สึกไม่ดีมาก ปรมาจารย์ฉิน เป็นคนที่เธอเชิญมาเองเลยนะ
“ฮ่าๆๆ” เสี้ยงเฟยหลงเงยหน้าหัวเราะ ได้ยินเสียง หัวเราะเหมือนเสียงเพลง กิ่งก้องอยู่ทั่วท้องฟ้า พวกหน่วย รบพิเศษล่างตึกก็มองไปทั่ว เกรงว่าคงจะตกใจคิดว่าเสียง หัวเราะนี้มาจากไหน
คนบนตึกก็ก็ต้องตกใจ แค่เสียงนี้ ก็เห็นได้ชัดถึงความ สามารถของเสี้ยงเฟยหลง เสียงหัวเราะนั้นมีอำนาจ และ เต็มไปด้วยพลัง ทำให้คนรู้สึกขนลุกซู่
“ท่านเลี้ยง นับถือๆ” อธิบดีเฉินใบหน้าเต็มไปด้วยรอย ยิ้ม เขานับถือจริงๆ วรยุทธของท่านเสี้ยงถึงขั้นเซียนแล้ว จริงๆ เกรงว่าแค่เสียงหัวเราะนี้ ก็สามารถฆ่าคนได้แล้ว
“เขาคู่ควรต่อการร่วมมือกับฉันเหรอ? ดูถูกเขาก็ถือว่า ให้หน้าเขาแล้ว” เสืี้ยงเฟยหลงแสดงฝีมือออกมาเสร็จ ก็ พูดขึ้น
“นั่นสิ ผมเข้าใจ การที่ท่านเลี้ยงด่าเนี้ยเป็นบุญบารมี อย่างมากมาก! ท่านเลี้ยง ผมสนับสนุนท่านเข้าไปใน วงล้อมศัตรูเพียงคนเดียว และช่วยอึ้งย้งออกมา!” อธิบดีเฉิ นมองค้อนฉินหลั่งอย่างได้ใจ
ฉินหลั่งยืนข้างๆไม่พูดอะไรสักอย่าง เขาเพียงแค่มอง อย่างเย็นชาเท่านั้น
“ท่านเลี้ยง อธิบดีเฉิน พวกคุณว่าอะไรนะ? ตอนนี้ ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องรุ่นใหม่รุ่นเก่า และตำแหน่งนะ ตอนนี้ ศัตรูกำลังจับคนของพวกเราไป! พวกเราต้องทำตามเวลา ที่เบื้องบนกำหนดมา ให้คนตายน้อยที่สุดจัดการศัตรูและ ช่วยตัวประกันออกมา! เวลาสำคัญก็สามารถใช้คนเข้า โจมตีทันที พลังแห่งความสามัคคีเป็นสิ่งที่ทรงพลังมาก ที่สุด! พวกคุณไม่คิดว่าความคิดของพวกคุณแปลกเลยเห รอ แล้วยังน่าตลกอีก?”
ในที่สุดหลี่เสี่ยนก็ทนไม่ได้อีกต่อไปและตะโกนเสียง ออกมา เธอรู้สึกตลกกับความหยิ่งยโสของพวกเขาจริงๆ ทุกคนมาที่นี่ก็เพื่อช่วยคน และไม่ใช่มาคุยโม้โอ้อวดกัน มันใช่เวลามาบอกกันว่าจะขึ้นไปคนเดียวหรือสองคนเหรอ นี่มันเรื่องตลกชัดๆ? นี่เป็นสนามรบ! สนามรบก็คือการใช้ วิธีการใดก็ได้ ขอแค่ชนะกลับมา หรือว่ายังจะต้องคิด อย่างอื่นอีกเหรอ?!
เห็นได้ชัดว่า หลี่เสียนรู้สึกโกรธอย่างมาก และยังรู้สึก ไม่พอใจกับเสี้ยงเฟยหลงมาก
“เหอะๆ ผู้พันหลี่เสี่ยน นี่คุณกำลังสงสัยในความ สามารถของท่านเสี้ยงเหรอ มีท่านเสี้ยงแล้วก็ไม่ต้องใช้ คนอื่นแล้วล่ะ หรือภาษาของคุณคือครูพละสอนมาเหรอ?” อธิบดีเฉินพูดอย่างเย็นชา
“พวกเรามีแค่ท่านเสี้ยงก็แก้ไขปัญหาได้หมดแล้ว” อธิ บดีเฉินมองฉินหลั่งอย่างดูถูก
“อธิบดีเฉิน นายมันโง่คงจะไม่มีคนสั่งสอนมา นาย เอาแต่ดูถูกปรมาจารย์ฉินอยู่ได้ แล้วยังมาดูถูกพวกเราอีก! ปรมาจารย์ฉินคือคนที่พวกเราเชิญมา กระทรวงรักษา ความปลอดภัยไม่ต้องเข้ามายุ่งหรอกนะ เบื้องบนสั่งให้ พวกเราร่วมมือกับกระทรวงรักษาความปลอดภัยให้แก้ไข สถานการณ์ตรงหน้านี้ ทำไมนายอยากขัดคำสั่งเหรอ?” จางต้าไห่อดทนอดกลั้นมามาก สุดท้ายทนไม่ไหวก็ระเบิด ใส่อธิบดีเฉินทันที เขาไม่กล้าด่าเสี้ยงเฟยหลง ก็จึงระบาย ความโกรธที่อธิบดีเฉินแทน
“ถ้าไม่ใช่เพราะคำสั่งของเบื้องบน ฉันไม่อยากร่วมมือ กับนายเลยด้วยซ้ำ? ให้ตายสิ!” จางต้าไห่โกรธจัด ที่จริงก็ ด่าเลี้ยงเฟยหลงอยู่เหมือนกัน
อธิบดีเฉินเงียบไปทันที เวลานี้เขาก็ไม่กล้าทำตัวเกิน กว่าเหตุ เขาถูกจางต้าไห่ยั่วโมโหจนถึงขีดสุด แต่กลับได้ แต่มองจางต้าไห่อย่างเย็นชา สายตาเต็มไปด้วยไฟปะทุ
แต่สำหรับฉินหลั่งแล้ว เขากลับไม่สนใจอะไรเลย
ในมหาลัยเย็นจีน ฉินหลั่งตบเขาในที่สาธารณะ แค้นนี้ ก็เริ่มจากตรงนั้นมา อธิบดีเฉินไม่คิดเลยว่าคำพูดของตัว เองไร้มารยาทแค่ไหน ยังไงก็ต้องแก้แค้นให้ได้
“เหอะๆ พูดมาแล้วก็ยังไม่เชื่อในความสามารถของฉัน อยู่ดี งั้นก็ไม่มีอะไรต้องพูดกันแล้ว พวกนายจะส่งเขาไป ตาย งั้นฉันก็จะไม่ขัดขวาง” เลี้ยงเฟยหลงพูดด้วยรอยยิ้ม มองหลี่เสี่ยนกับจางต้าไห่ ทั้งสองที่เห็นสายตาแหลมคม นั้น ก็ต้องรู้สึกเย็นเฉียบที่หลัง
“ส่วนปรมาจารย์นั่น เหอะๆ เหอะๆ!” เสี้ยงเฟยหลงหัว เราะต่อๆกัน เขาร่อนเร่พวกยุทธภพก็ไม่กล้าเรียกตัวเองว่าปรมาจารย์หรอกนะ คนหนุ่มที่ปากยังไม่สิ้นไร้กลิ่นน้ำนมก็ กล้าเรียกตัวเองว่าปรมาจารย์งั้นเหรอ?
เขาคิดว่า คนพวกนี้ล้วนแต่เป็นพวกกระจอกทั้งนั้น เรื่องง่ายๆที่ช่วยได้ กลับทำให้เรื่องใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตลก จริงๆ!
“ได้ ท่านเลี้ยง ในเมื่อท่านดูถูกคนที่พวกเราเชิญมา ขนาดนี้ ในเมื่อท่านดูถูกสงครามในสมัยปัจจุบันและดูถูก วิทยาศาสตร์ในตอนนี้ อยากจะแยกกันช่วยคน งั้นพวกเรา ก็ไม่มีอะไรจะพูด เคารพในการตัดสินใจของท่าน พวกเรา ทำงานของตัวเองไป!” หลี่เสี่ยนแม้จะมีน้ำเสียงเสียดาย แต่ในความอ่อนโยนก็ยังมีความเด็ดขาดอยู่ เธอพูดอย่าง จริงจัง
“อืม!” เสี้ยงเฟยหลงตอบอย่างเรียบเฉย ในตอนนี้หลี่ เสี่ยนก็ใช้สายตาถามฉินหลั่ง เขาก็พยักหน้า ใบหน้าเขาดู เรียบเฉยมาก
“เวลาไม่มากแล้ว พวกเราไม่มีเวลามาเถียงกันแล้วนะ” หลี่เสี่ยนดูนาฬิกา ใจก็ร้อนรนมาก ก็เพราะเรื่องตลกพวกนี้ ทำให้เสียเวลาอันมีค่าไป ไม่รู้ตัว ก็เหลือเวลาแค่สี่สิบนาที แล้ว
“เอามา!” เสี้ยงเฟยหลงเงยหน้าขึ้น อธิบดีเฉินรีบเอา รูปของอึ้งยังยื่นให้เขาดู เขากวาดสายตามองจากนั้นก็ พยักหน้า จากนั้นพูดเสียงแข็งว่า: “วงการต่อสู้ต้องมีการ จัดแจงใหม่แล้ว พวกโอ้อวดพวกนั้นต้องจัดการออกไปให้ หมด!” พูดแล้วสายตาเขาเย็นชา กวาดมองฉินหลั่ง ต่อมา ก็กระโดดลงจากตึก!
เสี้ยงเฟยหลงแม้กำลังจะไปช่วยคนก็ยังมองฉินหลั่ง ด้วยสายตากล่าวเตือน เหมือนฉินหลั่งเป็นศัตรูและไม่ใช่ เพื่อนร่วมทีม แต่หลังจากที่เขากระโดดลงจากตึก ทุกคนก็ ต่างสูดหายใจเข้าลึกๆ เพราะชั้นนี้เป็นชั้นสิบเอ็ด อีกฝ่าย ไม่ใช้อะไรป้องกันเลยก็กระโดดลงไปแล้ว และยังไม่บาด เจ็บอีกด้วย กระโดดลงไปยืนอยู่บนพื้นนิ่งๆ
ต่อมาเลี้ยงเฟยหลงไม่หยุดพัก และพุ่งเข้าไปใน โรงงานร้างเหมือนสิงโตที่น่าเกรงขาม
“ปังๆๆๆ….”รอบด้านมีเสียงปืนดังขึ้น
โรงงานร้างก็เริ่มต่อสู้ขึ้นมาทันที ฟังจากเสียงเหมือน จะรวมตัวกันอยู่ คนด้านนอกได้แต่เงียบไว้ รอผลลัพธ์ สุดท้ายกัน
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ