บทที่ 421 ใครเป็นใหญ่
“ผมคิดว่า คุณก็มีความสามารถนะ แต่ในถิ่นของผม ไม่ว่าคุณจะใช้วิธีใด ซื้อ ข่มขู่ หรือสร้างอิทธิพล ก็ไม่มี ประโยชน์ใดๆ!” เฉินเหมิงเลี่ยงหัวเราะเยาะ
“ก็หมายความว่า ตราบใดที่ผมอยู่ห้อง 6 คุณก็อย่า หวังจะทำให้ห้องเรียนนี้ เป็นอย่างที่คุณต้องการ เพราะ คุณไม่ได้เป็นอะไรเลย แม้แต่ครูใหญ่ยังต้องไว้หน้าผม คุณคิดว่าคุณจะทำได้ไหม” เฉินเหมิงเลี่ยงกล่าวอย่างหยิ่ง ผยอง
“คุณมีพ่อเป็นผู้นำข้าราชการไม่ใช่เหรอ?” ฉินหลั่งยิ้ม
“ผมไม่ปิดบังนะ มันเป็นเรื่องจริง ผมเกิดมาโชคดี ตั้งแต่เด็กจนโตก็พาลแบบนี้มาตลอด” เฉินเหมิงเลี่ยงไม่ แคร์สักนิด
“คุณไม่เข้าใจที่ผมพูด ผมหมายถึง ถ้าหากพ่อของ คุณมา คุณจะพูดพาลแบบนี้ไหม” ฉินหลั่งถาม
สีหน้าของเฉินเหมิงเลี่ยงเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้น เขาก็สงบลง “ผมกลัวพ่อจริงๆ แต่คุณคิดว่าคุณจะพบเขา ได้ง่ายๆเหรอ ผมสามารถรับประกันได้ว่า ถ้าคุณโทรใน เวลานี้ โทรศัพท์ไม่ได้อยู่กับเขาแน่นอน ผู้อำนวยการ สำนักงาน แค่เจอเลขา คุณก็จบแล้ว ยังไงก็ยากมาก” เฉิน เหมิงเลี่ยงยิ้มอย่างมีชัยหลังจากพูดจบ
“คุณต้องการเรียกผู้ปกครอง มันเป็นไปไม่ได้ เลิกคิด เรื่องนี้เหอะ” เฉินเหมิงเลี่ยงพอใจกับการเดาที่ชาญฉลาดของเขา
“อย่าพูดถึงพ่อของผม ฟอแม่ของคนอื่นคุณก็เชิญมา ไม่ได้หรอก ครูคนก่อน ๆเคยลองแล้ว ดังนั้นการจะเคารพ หรือไม่เคารพคุณ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเรา”
“อันที่จริง พูดอย่างตรงไปตรงมา แม้คุณจะเป็นครู แต่ ในความเป็นจริงคุณเป็นแค่ลูกจ้างที่ดิ้นรนเพื่อการเลี้ยง ชีพ คนอย่างพวกเราจะระดมกำลังเพื่อลูกจ้างคนหนึ่ง ทำไม คุณฉิน คุณไม่ควรประเมินค่าตัวเองสูงเกินไป สังคมมันเป็นแบบนี้แหละ..”
สิ่งที่เฉินเหมิงเลี่ยงพูดนั้นลึกซึ้งมาก
ฉินหลั่งกอดอกและรอให้เขาวิจารณ์เสร็จ จากนั้นจ้อง
มองเขาประมาณสิบวินาที
“โอเค คุณรอก่อน ถ้าวันนี้พ่อของคุณจะไม่มาตบปาก ของคุณ วันนี้ผมไม่ได้โกหก” จากนั้นฉินหลั่งก็เดินออกไป
“เชอะ ผมจะรอ คุณรีบล่ะ” เฉินหมิงเลี่ยงยังคงหยิ่ง ยโสโอหัง
“หมิงเลี่ยง เธอไม่กลัวบังเอิญเลยเหรอ ถ้าเขาชวนพ่อ ของเธอมาได้ล่ะ” จ้าวซิงเข้ามาถามในเวลานี้
“เชอะ เขาเนี่ยนะ เฮ้ พวกเธอเห็นไอ้โง่ที่ประตูหรือ เปล่า” เฉินเหมิงเลี่ยงเริ่มเสพติดการคุยโวโอ้อวด
ประโยคนี้ทำให้จูจี้เหวินที่อยู่หน้าประตูได้ยินพอดี แม้ ในใจเขาจะโกรธมาก แต่ก็ไม่กล้าแม้แต่ตดออกมา
เดิมทีอยากเห็นฉินหลั่งกลายเป็นตัวตลก แต่ถ้าไม่เห็น ก็ไม่เป็นไร ตัวเองกลับถูกด่าทอ ช่วงนี้จูจี้เหวินแทบจะไม่ เหลือศักดิ์ศรีแล้ว
จูจี้เหวินมองไปที่สังคมเล็ก ๆนี้ด้วยความเกลียดชัง แต่ เขาก็สามารถทำได้แค่รีบจาก มิฉะนั้นคำพูดที่น่าเกลียด จะหลุดออกมาได้
“เขาเป็นอะไร?” จ้าวซิงถาม
กลุ่มนักเรียนก็มารวมตัวกันในเวลานี้
“ไอ้โง่นั่นพยายามตามหาคนแซ่ฉินซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ พวกเธอก็เห็นว่าไอ้แซ่ฉินก็จนปัญญาเหมือนกันไม่ใช่หรือ” เฉินเหมิงเลี่ยงกล่าวต่อ
“ใช่ มันอธิบายอะไรได้บ้าง” จ้าวซิงถาม
“ถึงนี่แม่งไม่ใช้สมอง นี่แสดงให้เห็นว่า ไอ้แซ่ฉินนี่ไม่มี ความสามารถตอบโต้จูจี้เหวินได้ แม้แต่ไอ้โง่จู ยังจัดการ ไม่ได้ แล้วจะมาทำอะไรฉันได้ คนระดับมันจะสามารถ เชิญพ่อฉันมาได้ ไร้สาระ!”
ความหมายของเฉินเหมิงเลี่ยงนั้นชัดเจนมาก ฉินหลั่ง ไม่มีคุณสมบัติที่จะพูดกับพ่อของเขา พ่อของเขากินอิ่ม ไม่มีอะไรทำจะมาที่ชั้นเรียนเพื่อรับการอบรมเหรอ? มันไม่ สอดคล้องกับความจริงนะ อีกอย่างเหลือเพียงสามเดือนก็ จะจบการศึกษาแล้ว ถ้าจะมาคงมานานแล้ว
มีหลักฐานที่สำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งที่เฉินเหมิงเลี่ยง ไม่ได้พูด นั่นคือจริง ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะได้พบ พ่อของเขา แต่มันก็น่าอายเล็กน้อยที่จะพูดออกมา
เขาก็แค่คำพูดอย่างมีแบบแผน แต่เขาลืมไปว่าคน คำนวณไม่สู้ลิขิตฟ้า ถ้าเขารู้ว่าฉินหลั่งเป็นปรมาจารย์ฉิน ของเขา เขาก็คงจะไม่หยิ่งยโสแบบนี้
“คราวนี้ครูฉินอยู่ในกำมือเธอแล้ว” คนกลุ่มหนึ่งคำราม จูจี้เหวินกลับมาที่สำนักงานด้วยความเจ็บปวด ฟุบลง
บนโต๊ะและไต่ตรองอย่างขมขื่น แน่นอนว่าเขาคิดว่าฉิน
หลั่งจะไม่สามารถเชิญผู้นำของเฟิงโจวได้ หลังจากความ
คิดนี้ ทันใดนั้นเขาก็คิดกลยุทธ์อื่นได้อย่างฉับพลัน
นั่นคือการรายงานต่อครูใหญ่ บังคับให้ห้อง6จัด ประชุมผู้ปกครอง เมื่อถึงวันนั้นหากผู้ปกครองจากห้อง6 ไม่มา นั่นไม่ได้หมายความว่าครูประจำชั้นไม่มีความ สามารถ สามารถกำจัดมาดโอหังของฉินหลั่งได้อย่าง สมบูรณ์?!
เมื่อฉินหลั่งกลับไปที่สำนักงาน เขาค้นหาหมายเลข โทรศัพท์ของผู้นำเขตเฟิงโจวในคอมพิวเตอร์ได้แล้ว ก็ โทรหาโดยไม่ลังเล
บารมีในจีนของเขาอาจไม่เป็นที่รู้จักของคนอื่น แต่ใน ระดับพ่อของเฉินเหมิงเลี่ยง เขาเชื่อว่าข้างบนต้องแจ้งให้ เขาทราบแล้ว อีกฝ่ายก็ควรจะรู้จักชื่อของเขาด้วย บางที เขาอาจเคยตรวจสอบข้อมูลของฉินหลั่งด้วยซ้ำ
เสียงชายหนุ่มในโทรศัพท์พูดว่า “สวัสดีครับ ผมเป็น เลขาของนายกเทศมนตรีเฉิน ตอนนี้ท่านอยู่ระหว่างการ ประชุม หากมีธุระผมจะทำการนัดหมายให้ครับ”
“อ่อ บอกเขาว่ามีคนชื่อฉินหลั่งโทรหาเขา และถ้าเขาไม่โทรกลับภายในหนึ่งนาที เขาจะต้องรับผิดชอบผลที่ ตามมาเอง!”
ฉินหลั่งวางสายโทรศัพท์ทันทีที่เขาพูดจบ มันไม่ใช่ เรื่องล้อเล่น แม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่างซ่งจงผิงยังต้อง ถอยให้ฉินหลั่ง 90 ลี้ ฟอของเฉินเหมิงเลี่ยงไม่ใช่ปัญหา สำหรับเขา ถ้าเขาอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา จะสั่งสอนบทเรียน ให้กับนายกเทศมนตรีเฉินได้อย่างง่ายดาย
ในความจริงการที่ฉินหลั่งโทรหานายกเทศมนตรีเพื่อ ลูกชายของนายกเทศมนตรีเป็นการให้เกียรติมากแล้ว แน่นอนว่าน้ำเสียงของเขาก็ไม่ค่อยดีนัก
ถ้าเขาทำให้ฉินหลั่งรำคาญจริงๆ เขาจะตบเฉินเหมิง เลี่ยงให้ตายไปเลย ก็เป็นไปได้ ช่วยประหยัดปัญหาได้ มาก!
เลขาที่ปลายสายวางสายโทรศัพท์ หงุดหงิดกับฟ้า ใครวะ?? ราชทูต? !
อย่างไรก็ตาม เขาคิดอยู่แปดวินาที แต่ก็ไม่กล้าที่จะ ละเลย เขารีบไปรายงานเรื่องนี้ เพราะเขาไม่เคยเจอคน เจ๋งแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน
เฉินเว่ยหมินกำลังดูเอกสาร
“นายกเทศมนตรี เมื่อกี้มีสายของคนชื่อฉินหลั่งโทรมา ครับ” เลขานุการกล่าว
เฉินเว่ยหมินไม่แม้แต่เงยหน้า เซ็นเอกสารไป พลาง พูดตอบ “ปล่อยให้เขารอไป! ค่อยคุยภายหลัง!”
เลขาไม่กล้าพูดในสิ่งที่ต้องการพูด
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงเฉินเว่ยหมินก็ปิดเอกสาร แล้วเงยหน้าขึ้นถามว่า “คุณบอกว่าใครโทรหาผมนะ”
“ฉินหลั่งครับ อีกอย่าง เขายังบอกว่าถ้าไม่โทรกลับ ภายในหนึ่งนาที รับผิดชอบผลที่ตามมาเอง!”
“อะไรนะ” เฉินเว่ยหมินสะตุ้ง ทันใดนั้นก็จำได้ว่าชื่อ ฉินหลั่งดูเหมือนจะเคยได้ยินที่ไหน!
“ฉินหลั่ง! ริมแม่น้ำหวง!”
เฉินเว่ยหมินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรกลับอย่าง
รวดเร็ว!
หลายสิ่งในเมืองเย็นจีนไม่สามารถหลุดลอดจาก เฉินเว่ยหมินได้ และฉินหลั่ง ก็ได้ยินมานานแล้ว มิฉะนั้น ลูกชายของเขาจะเผยแพร่การกระทำอันรุ่งโรจน์ของ ปรมาจารย์ทุกวันได้อย่างไร? !
“สวัสดีครับ คุณฉินใช่ไหมครับ”
เสียงของเฉินเว่ยหมินนุ่มนวลและกังวลมาก
“ผมต้องขอโทษจริงๆ ตอนนั้นผมกำลังเซ็นเอกสาร สำคัญอยู่ครับ” เฉินเว่ยหมินเสียใจที่เขาละเลย
“ไม่เป็นไร นายกเทศมนตรีเฉิน ลูกชายของคุณเฉินเห มิงเลี่ยงทำความผิดบางอย่างในโรงเรียนมัธยมหัวเจีย และตอนนี้ผมเป็นครูประจำชั้นของเขา คุณจัดการเอา เอง!” หลังจากพูดจบฉินหลั่งก็กดโทรศัพท์ทิ้ง
“เรียกรถ! เรียกรถเดี่ยวนี้!” เฉินเว่ยหมินกระวนกระวาย!
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ